นักพัฒนาเว็บคนหนึ่งชื่อ Michael Lee Johnson ได้ลงโฆษณา (แบบเสียเงิน) ใน Facebook ซึ่งมีเนื้อหาชวนให้ผู้ชมโฆษณาเพิ่มเขาเป็นเพื่อนใน Google+
ข้อความในโฆษณาคือ
If you're lucky enough to have a Google+ account, add Michael Lee Johnson, Internet Geek, App Developer, Technological Virtuoso.
ผลก็ตามคาดคือ Facebook เอาโฆษณาชิ้นนี้ลงทันที รวมถึงแบนโฆษณาอื่นๆ ของ Michael Lee Johnson ด้วย ซึ่งเหตุผลของทาง Facebook คือโฆษณาเหล่านี้ละเมิดเงื่อนไขการใช้งาน (Term of Use) โดยไม่ระบุชัดว่าผิดกฎข้อใดบ้าง
ที่มา - TechCrunch, CNET
Comments
เกรียน ฮ่า
May the Force Close be with you. || @nuttyi
สรุปคือ อีตา Mark เกลียด Google เข้าไส้เลยใช่มั้ย
Facebook คือฐานการกระจาย invite Google+ ของผมเลย
+1
+1 invite ไปหลายคนแล้วด้วย
+1
+1
มาร์คบอกว่า "พี่เป็นอินดี้ น้องไม่เข้าใจพี่หรอก"
บางทีโฆษณาอาจไม่เข้าข่าย แต่ fan page สามารถทำได้มั้ง เพราะใน facebook มันก็มี fan page ของ google+ อยู่ (แถมขอ invite กันให้พรึ่บ)
เข้ามาดู ...
เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้
mark เกรียน 5555
สร้าง page ก็โดนเหมือนกันครับ ฮ่าๆ เห็นเข้ามาบ่นอยู่ใน g+
เกรียนได้ใจ
แล้วงี้ เสริจว่า facebook ใน gg จะโดน gg ถอดคำค้นนี้ไหมครับ
คิดเอาฮา
ถ้าเปรียบกับสงครามเย็น ตอนนี้ตำรวจลับเริ่มแสดงบทบาทตรวจสอบ และจับกุมคนในเมืองของตัวเองแล้วสินะครับ เหอๆ
ผมว่าเค้าทำถูกแล้วนะ ตามหลักแล้ว
ถ้ามีบริษัท แล้วถูกบริษัทอีกบริษัทลอกเลียนแบบสินค้า แล้วมีคนเอาสินค้าที่ลอกเลียนแบบมาขายในบริษัท
มีใครรับได้มั้ง ในฐานะเจ้าของบริษัท = =!!
ซ้ำ ครับ
มันลอกเรียนยังไงไม่ทราบครับ ?
ผมว่ามันเป็นแนวทางเดียวกัน แต่ไม่ได้เป็นการเลียนแบบเลยหนิครับ ?
ผมว่า จะมีกฎแบบนี้อยู่ก็ไม่แปลกนะครับ.. เหมือนบริษัทที่ผมทำอยู่ตอนนี้ ก็มีสัญญาเขียนว่า ถ้าออกไปแล้ว ห้ามไปทำธุรกิจแบบเดียวกับบริษัท เป็นเวลากี่ปีๆ
ผมว่า facebook ไม่ใช่ mark คนเดียวแล้วนะครับ :)
ทำไมคนว่า ต้องว่า mark กันจัง
(ผมไม่ใช่ fanclub mark zuckerberg นะครับ)
+1
ก็คงเหมือน Apple กับท่าน St.Jobs แหละครับ
แล้วเวลาจะด่ารัฐบาลก็มักจะนึกถึงนายกก่อนเลย
ก็จริงครับ แต่มันก็เป็นธรรมดา เวลาองค์กรอะไรที่ผู้ยิ่งใหญ่ในองค์กรเป็นที่รู้จักมักคุ้น เวลาที่องค์กรเกิดมีการทำอะไรแปลกๆ ขึ้นมา ผู้ยิ่งใหญ่นั้นก็มักจะถูกอ้างขึ้นมาก่อนเสมอว่าเป็นผู้ตัดสินใจ ทั้งๆ ที่มันอาจจะใช่ หรือไม่ใช่ ก็ตาม
SPICYDOG's Blog
ใจจริงก็ไม่อยากด่วนสรุปอย่างนั้นหรอกครับ
แต่วีรกรรมมันมีให้เห็นกันอยู่
ไม่แปลก ถ้าโฆษณาได้ผมว่า Facebook ก็คงเสียศูนย์แล้วล่ะ
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ใจเค้าใจเรานะครับ บริดารที่เป็นคู่แข่งกันโดยตรงแบบนี้ การให้โอกาสศัตรูอาจทำให้ตัวเองเจ๊งได้ ก่อนหน้านี้ก็บล็อคแอพเอ็กพอร์ตรายชื่อเพื่อนไป 2-3 รอบ ก็เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ตามรอย My Space
ข้อนี้มั๊ง ฮ่าๆๆ https://www.facebook.com/ad_guidelines.php
6 Refusal of Ads
We may refuse ads at any time for any reason, including our determination that they promote competing products or services or negatively affect our business or relationship with our users.
iPAtS
แปลไทยก็ประมาณนี้
พวกเราอาจปฏิเสธโฆษณาในเวลาใดก็ได้ด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตามที่มาจากการตัดสินใจของเราว่าการโฆษณานั้นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เป็นการแข่งขันกับเราหรือทำให้เกิดด้านลบต่อธุรกิจของเราหรือความสัมพันธ์ต่อผู้ใช้บริการของเรา
ชัดเจนดีครับ
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ไม่แปลกถ้า fb จะทำ ถ้า GG ใจบุญจริงคงยอมให้ยืมผลการค้นหาแล้วว่าไหม 555
ของรกขอหวง ทำไม google จึงไม่ให้ bing ใช้ผลการค้นหานอกสหรัฐอเมริกา?
ผมอ่านข่าวแล้ว แอดไมค์ทันที หมอนี่เพี้ยนดี เรียกตัวเองว่า เวอทูโอโส้ทางเทคโนโลยี่ ซะด้วย เกร๋..เชียว
facebook จะเอาโฆษณา google+ ออก สามารถทำได้ครับ แต่ต้องชัดเจนว่า โฆษณานั้นละเมิดเงื่อนไขการใช้งานอะไร ควรระบุว่าผิดกฎข้อใดบ้าง ไม่ใช่เลือกปฏิบัติ ถ้าอยู่เมืองไทยโดนข้อหาสองมาตรฐานแน่
twitter.com/djnoly
ที่แน่ๆคือแสดงความ "กลัว" ออกมาโดยชัดแจ้ง
รอดูต่อไปว่าความกลัวทำให้เสื่อมหรือไม่
ผมกลับไม่เห็นถึงความกลัวขนาดที่คุณบอกนะครับ(ในเรื่องนี้นะครับ)
ถ้าเป็นผมไม่ว่าคู่แข่งโดยตรงรายไหนออกมา ถ้าเขามีศักยภาพในการแข่งขันมาพอ ผมก็ตัดทิ้งหมดแหละครับ นี่ไม่ใช่ความกลัว แต่เราจะแนะนำลูกค้าเราให้ไปรู้จักคู่แข่งทำไมหล่ะครับมีแต่เสียกับเท่าทุน
เห็นด้วยครับ
ผมกลับมองว่าฝ่ายที่กลัวคือ Google กลัว Facebook มากกว่ารึเปล่า
ด้วยศักยภาพ เงินทุน โมเดลทางธุรกิจ มันเกิดมาเพื่อฆ่า Google ชัดๆ
Facebook น่ะเค้าหากินกับ Search Engine มาก่อนครับ และเพิ่งโดดเข้าวงการ Social Network หลัง FB
ฉะนั้นแล้วมันคนละเรื่องเลยครับ
กะแล้วเชียว
จะบอกว่า ถ้าผมไปซื้อ AdWords แล้วมีคำว่า Facebook ใน ads ก็จะไม่ผ่านเหมือนกันนะครับ เค้าไม่อนุญาตให้ใช้ trademark คนอื่นใน ads creative
แต่กรณี Facebook ผมไม่รู้ว่า TOS เค้าว่าไง แต่ผมเคยซื้อ ads ที่มีคำว่า android iOS iPhone ไรพวกนี้ได้หมดเลย แต่ AdWords จะซื้อไม่ได้
อันนี้เป็น trademark เฉยๆ ครับ
แต่สามารถลง adwords ชี้ไปที่ facebook ได้อยู่ดี
เรื่อง trademark ใน ads นี่คนละประเด็นกันครับ กรณีของ AdWords โดนฟ้องอยู่เรื่อยๆ (เนื่องจากอยู่มานานกว่า) ลองไปตามอ่านดูได้ครับ
การจะมาหากินในถื่นคนอื่นปกติคนทั่วไปเค้าก็ไม่ทำอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า Internet มันทำให้ Common sense ของคนบางส่วนเปลี่ยนไปในบางเรื่อง
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
คงคล้ายกับดูช่อง 7 แต่ไม่มีรายการจากช่อง 3 มาโฆษณาแหล่ะครับ
การไม่ยอมของ facebook ไม่ได้สื่อว่ากลัว แต่ผมมองว่าการที่ Google+ ไปโฆษณาใน facebook เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมมากกว่า
ถ้าgg+ มีbusiness pageบ้าง จะตัด facebook ลงแบบนี้ไหมหนอ
แล้วมีโฆษณา Facebook ใน Adword, Adsense บ้างไหมนี่
เมืองไทยก็มีครับ
Pantip แบน Multiply เพราะคนไม่ใช้ Bloggang ของตัวเองหนีไป Multiply กันหมด
เคสนั้นเหมือนจะได้ยินมาจาก WM ว่าการลง Link ไปยัง multiply ส่วนใหญ่จะเปิดเข้าไปเจอแต่ช่างภาพที่ลงโฆษณารับถ่ายภาพต่างๆ ทาง Pantip จึงเห็นว่า Link ที่มาแปะ ล้วนแต่มีโฆษณาแอบแฝง คริคริ
ผมว่าการโฆษณามันก็ปกตินะ ทำไมคนชอบเอาเรื่อง "อาณาเขต" มาเป็นประเด็นจัง แบบนี้สิ่งที่เกี่ยวกับ Facebook โดนลบออกจาก Search Engine ของ Google หมดเลยก็เป็นเรื่องถูกล่ะสิ
แยกประเด็นเรื่องอาณาเขตแบบโลกแห่งความจริงออกไปดีกว่าครับ
เล่าให้ฟัง ผมเคยพิมพ์ว่า Mozilla Firefox ใน Google แล้ว AdWord โชว์หราว่า "Microsoft Internet Explorer 9"
ลับลวงพรางโคตรๆ
ผมว่ามันอาจจะคนละจุดประสงค์ การค้นหาข้อมูลมันเพื่อให้ได้ข้อมูล ถ้าหากลบคำว่า facebook ออกไป คนคงหนีไปใช้อย่างอื่นเพราะมันให้ข้อมูลที่ไม่ครบ ต่างจากโฆษณาซึ่งถูก push ขึ้นมา ผู้ใช้ไม่ได้อยากดูเท่าไรแถมอยากบล็อกอีกต่างหาก
เคสคลา่สสิคมากมาย สมัยก่อนเว็บบอร์ดชาวสีรุ้ง 2 ที่ก็ทะเลาะกันเพราะแบบนี้
แต่ลองคิดทางธุรกิจ ก็สมเหตุผลแล้วนะคะ ใครบ้างจะยอมให้สินค้าของคู่แข่ง เข้ามาขายในร้านตัวเอง?
หากดิฉันเป็นเจ้าของเบียร์สิงห์ ดิฉันจะยอมให้เบียร์ช้างเข้ามาตั้งร้านขายในบ้านตัวเองเหรอคะ แอร๊ยยยส์