Achim Berg หัวหน้าฝ่ายการตลาด Windows Phone ของไมโครซอฟท์ไปพูดที่งาน IFA ที่เบอร์ลิน เนื่องในโอกาสเปิดตัว HTC Titan/Radar เขาบอกว่า Windows Phone อาจจะชิงส่วนแบ่งตลาดได้มากกว่า 20% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ถ้าได้รับแรงหนุนจากผู้ผลิตฮาร์ดแวร์และทำการตลาดดีพอ
เขาบอกว่าต้องให้เวลาแพลตฟอร์มในการสร้างโมเมนตัมสักระยะหนึ่ง ซึ่ง iOS และ Android ก็ต้องใช้เวลาลักษณะนี้เหมือนกัน
ถ้ายังจำกันได้ นักวิเคราะห์ของ Gartner และ IDC เคยประเมิน ส่วนแบ่งตลาดมือถือในปี 2015 ว่า Windows Phone จะมีส่วนแบ่งประมาณ 20% เป็นอันดับสองรองจาก Android เพียงรายเดียว และดัน iOS ตกไปอยู่อันดับสาม
ด้าน Florian Seiche ประธานโซนยุโรปและแอฟริกาของ HTC ให้สัมภาษณ์ถึง Windows Phone ว่าได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก และปีนี้เราจะเห็นโมเมนตัมของมันขยายไปยังลูกค้าหน้าใหม่ๆ มากขึ้น
ที่มา - Bloomberg
Comments
อีก 2-3 ปี คือ Windows 8, Windows Phone 8
ถ้าจะมั่นใจขนาดนี้...
ผมเชื่อนะ ตราบใดที่ Windows ยังครองตลาด PC อยู่ ความเป็นไปได้ที่ Windows Phone จะกลายเป็นที่นิยมก็ยังมีอยู่
ผมคนหนึ่งที่มั่นใจว่า Windows Phone จะประสบความสำเร็จ และผมก็คิดว่ามันจะเป็นที่หนึ่งได้ด้วย ถ้า Apple และ Google ยังเป็นแบบนี้อยู่
Apple ปิดเกินไป ส่วน Android ก็ยัง Support ภาษาทั่วโลกได้ไม่เต็มที่ และทั้งสองอัน IDE สำหรับพัฒนา Software ก็ติดปัญหาทั้งคู่ นั่นก็คือ การพัฒนา Software สำหรับ iOS ต้องทำบน Mac เท่านั้น (ซึ่งรู้ๆกันอยู่ว่า Windows ครองโลกในตลาด PC) แถมภาษาหลักดันเป็น Objective C อีก (ความนิยมสู้ Java กับ C/C++ ไม่ได้เลย เพราะผมเห็นมีแต่ Apple เจ้าเดียวที่ใช้) ส่วนของ Android ก็รู้ๆกันอยู่ว่า Eclipse มันโครตช้าเลย และอย่างที่หลายๆคนรู้ ว่า Visual Studio ของ Microsoft นี่ละ ที่น่าจะเรียกได้ว่า สุดยอด IDE แล้ว แถมด้วย C# ที่เรียกได้ว่าเป็นภาษาที่เกิดทีหลังแต่ความนิยมพุ่งเร็วมาก
เมื่อนักพัฒนา Software ทำงานได้ง่าย โปรแกรมก็จะกำเนิดได้เร็ว และ OS ที่ทำมาเพื่อความพอใจของ User (ผมคิดว่า Microsoft จะทำได้ดีเหมือน Windows) โอกาสชนะจะมีสูงมาก ขอแค่เวลาอีกสักหน่อยเท่านั้น
ผมคิดแบบนี้ละ
ผมคิดแบบคุณนะ แต่สงสัยอย่างนึงว่า
มันหมายถึงยังไงเหรอครับ?
น่าจะหายถึงเรื่องที่ค้นหาภาษาไทยได้ไม่ดีมังครับในแอปสโตร์นะของหุ่นเขียวนะ
ผมว่ามันดีมากนะครับ ค้นหาแบบตัดคำได้ด้วยซ้ำ คือใส่หลายๆคำลงไป มันเอาไป mix ประโยคได้ เหมือน google.co.th
ปัญหาตอนนี้คือ มันยังไม่ซัพพอร์ทตัวอักษรแบบ Non-spacing mark คับ วิธีสังเกตง่ายๆคือ สระบนล่างของภาษาไทย เวลาเลื่อนเคอร์เซอร์ไปยังตัวอักษรที่มีสระบนล่าง เคอร์เซอร์จะกระโดดทันที กับถ้าเลื่อนเคอร์เซอร์โดยการจิ้มหน้าจอ บางทีเคอร์เซอร์จริงๆมันจะไปอยู่ระหว่างตัวอักษรกับสระ (แต่การแสดงผลมันจะแสดงปรกติ) หากกด backspace ปุ๊บ ตัวอักษรใต้สระจะโดนลบ และสระจะไม่แสดงผล แต่มันยังอยู่
อีกจุดก็ใน Web Browser คับ ลองพิมพ์ภาษาไทยยาวๆในช่องพิมพ์ Text แบบ Multi-line ดู (ลองใช้ไปสักพักคับ แต่ผมว่าใช้แปปเดียวก็เห็นละว่ามันบั๊กยังไง) ง่ายๆก็อย่างโพสต์ตอบใน blognone นี่ละ
โอเคเห็นภาพละครับ พอดีตอนแรกผมแค่สงสัยนิดหน่อยที่เอาไปเทียบกับ OS ที่ยังไม่มีคีย์บอร์ดไทย
โดยส่วนตัวผมก็หวังว่ากูเกิลจะแก้บั๊กงี่เง่าๆนี่ก่อนที่ WP จะยอมปล่อยคีย์บอร์ดไทยก็พอแล้วครับ
ขอแย้งนิดนึง
จาวาเร็วส์นะครับ สาวกเขาบอกมา
นี่มุกใช่มั้ยคับ - -' ผมว่าตัวภาษามันดีนะ แต่ JVM ของซันน่าจะห่วยเอง เพราะขนาดใน Android ยังรันได้ในความเร็วที่ดีเลย
มุกตรงไหน
เขาพูดถึง IDE นะ ไม่ได้พูดถึง language architecture - -"
Eclipse เป็น IDE ที่เร็วที่สุดในพวก java แล้วครับ
ส่วนที่ช้าน่าจะเป็น android emulator มากกว่านะ
ผมยิ่งรู้สึกสิ้นหวังมากขึ้นกับคำว่า "เร็วที่สุดในพวก java" เลยครับ
มันทำได้แค่นี้จริงๆสินะ
อันนี้มุกเฉพาะทางนิดนึงครับ ถ้าอ่าน Blognone มานานๆ จะเก็ต
เป็นมุกที่เอาไว้แซวสาวก Java ครับ ออกแนวแดกดัน
เป็นมุกที่เอาไว้ใช้ เมื่อเกิดความรู้สึกไม่พอใจความภาคภูมิใจของผู้อื่น
ปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะดึงนักพัฒนา คือตลาดครับ เครื่องมือและภาษาเป็นเพียงปัจจัยรอง (สำหรับมืออาชีพ)
ถ้าตลาดมีกำลังซื้อมาก นักพัฒนาก็จะแห่กันไปแล้วครับ เข้าก่อนโกยได้ก่อน
เห็นด้วยกับส่วนนี้จริงๆ ตลาดครับสำคัญมาก
IDE ดีๆช่วยให้มือสมัครเล่นทำงานได้ง่ายขึ้นมาก Eclipse มันเห่ยจริงๆ VS มันก็เทพดี
ซื้อ Mac มาเขียนโปรแกรมก็ไม่ได้แพงเท่าไร ถ้าทำเป็นอาชีพ
ผมพูดถึงสิ่งที่จะทำให้ Windows Phone มันประสบความสำเร็จคับ ความหมายของผมก็คือ Developer ทั่วๆไปนี่ละ จะเป็นตัวดึง Windows Phone ขึ้นไป ผมเชื่อว่า ยังมี Developer ทั่วๆไปอยู่อีกมาก ทั้งมือสมัครเล่น มือระดับกลาง และอาจจะมืออาชีพ ที่เป็นพวกอาร์ทตัวพ่อ (คือเงินเป็นรอง ความชอบต้องมาก่อน) ที่อยากจะลองใช้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีของ Microsoft มาทำอะไรเล่นๆบน Windows Phone ดู
เหมือนอย่าง Android ที่แรกๆ มีแต่โปรแกรมฟรี พอโปรแกรมฟรีเริ่มเยอะ ก็จะเริ่มเป็นแรงดันให้ตัว Android นิยม พอเริ่มนิยม พวกมืออาชีพก็เริ่มแห่ลงมาทำเงินกัน
แต่สำหรับ Windows Phone ผมว่าปรากฏการณ์นี้จะเกิดเร็วกว่า Android สาเหตุก็เพราะ Visual Studio + C#/VB.NET นี่ละ
เห็นด้วยในส่วนนี้นะครับ แต่ปัญหาคงอยู่ที่เวลาแล้ว ยิ่ง WP ออกตัวช้าความได้เปรียบเรื่่อง dev มันก็จะลดลงเรื่อย ๆ แน่นอน visual studio ดีกว่า eclipse แต่ถ้าปล่อยไว้นาน นักพัฒนาก็จะคุ้นเคย และความได้เปรียบนี้ก็จะหมดไป และยังมีอีกเรื่องคือ ความเป็น java ของ android ทำให้มันทำงานข้าม CPU ได้ และแนวโน้ม android กำลังจะ กลืนตลาดย้อนกลับ จาก โทรศัพท์->แทปเล็ต->โน๊ตบุ๊ก->PC การเขียน code ครั้งเดียว ทำงานได้ในหลาย platform ก็เป็นสิ่งดึงดูดนักพัฒนา (ถึงแม้จะมีปัญหา flagment ของฮาร์ดแวร์อยู่ดี)
Windows Phone มี .NET Framework นะคับ - -' ซึ่งใช้ระบบเดียวกันกับ Java คือ Compile ออกมาเป็น Bytecode ซึ่งตรงจุดนี้จะทำให้หมดปัญหาเรื่อง CPU Architecture และผมเดาว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ โปรแกรมทั่วๆไปสำหรับ Windows Phone จะสามารถรันใน Windows 8 ในโหมด Metro ได้ทันทีโดยไม่ต้องแก้ใขอะไร
ผมเข้าใจประเด็นนี้ครับ แต่กำลังมองว่า app ทั่วไปของ windows ไม่ได้อยู่บน .net framework ครับ พวก office หรือ เกม หรือ app ดัง ๆ ต่าง ๆ (ไม่รู้เข้าใจถูกหรือเปล่า) กลับกัน app android ถูกบังคับเป็น java ทั้งหมดแต่ต้น ต้องดูกันนานครับประเด็นนี้ ว่าสุดท้าย app ใครจะมากกว่ากัน อีกประเด็นคือ ผมว่า จำนวน app จริง ๆ น่าจะขึ้นอยู่กับยอดขายเครื่องนะครับ dev ง่ายมีส่วนแต่ยอดขายต้องถึงก่อน ยังไงคงต้องเชียร์ให้ออกมาเร็ว ๆ ละครับ
ผมสงสัยนิดเดียวครับ Visual Studio สำหรับเอามาพัฒนาแอพบน Windows Phone มันฟรีหมดทุกอย่างไม๊ครับ คือเครื่องมือของไมโครซอฟท์มันมีทั้งฟรีและไม่มี ผมเลยสงสัยครับ
ฟรีทุกอย่างครับทั้ง Visual studio for windows phone และ expression blend for windows phone(มาในชุดติดตั้งเดียวกัน) ครับ
ผมเห็นด้วยนิดนึง
แต่สำหรับผมเครื่องมีอพัฒนามันมีผลแค่ตอนเริ่มต้นเท่านั้นแหละครับ
ใช้ไปสักพักมันก็คล่องเหมือนกันหมดแหละครับ ทั้ง VS ,Eclipse,xcode,Qt
สำคัญที่ตลาดมากกว่า เพราะว่าตอนนี้ visual studio ก็สามารถพัฒนา app สำหรับ
window mobile platform ได้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้มีนักพัฒนามากมายอะไร เพราะตลาดไม่มี
สิ่งสำคัญมันไม่ใช่จะใช้อะไรเขียน มันสำคัญที่จะเขียนอะไรต่างหาก
แต่ผมก็เชียร์อยู่สำหรับ WP
"สิ่งสำคัญมันไม่ใช่จะใช้อะไรเขียน มันสำคัญที่จะเขียนอะไรต่างหาก"
ถูกต้องเลยครับ
มันมีผลกับความสะดวก ความคล่องตัวในการทำงาน ซึ่งจะสร้างหรือลดความหงุดหงิด และประสิทธิภาพการทำงาน ด้วยครับ
ถ้าใช้ IDE อะไรก็ไม่ต่างกัน ก็คงไม่ต้องใช้ เขียน Notepad เอาก็ได้
มันก็ใช่นะครับ แต่ถ้าการตลาดดี จนลูกค้าใช้เยอะจริง ๆ (ไม่รู้ทำยังไงล่ะ อาจจะปล่อยแอพเอง ทำพื้นดีจนคนเยอะ) แม้ว่าจะใช้ notepad พัฒนาได้ตัวเดียว dev ก็ต้องดิ้นรนกระเสือกกระสนไปทำจนได้หล่ะครับ
แต่ผม (และอาจจะ dev ส่วนมาก) ภาวนาให้ตัวที่รุ่งเป็นตัวที่ IDE ใช้สะดวกและคล่องตัว จะได้ไม่ต้องหงุดหงิดและมีประสิทธิภาพในการทำงานอย่างที่คุณ Thaina ว่าแล้วกันครับ (T_T)
เห็นด้วยเหมือนกันครับ ผมว่ามองที่ตลาดดีกว่ามองในมุมมองนักพัฒนา ถ้าตลาดมันเยอะคนใช้กันเยอะ ถึง app สำหรับพัฒนาโปรแกรมมันจะช้า ก็ต้องยอมทนใช้
ถ้าคนใช้ iPhone กันเยอะ ก็ต้องโดดมาศึกษา Obj C อยู่ดีเพื่อที่จะทำ app ขาย
ใช่เลยครับ บรรดาเสือซุ่มยังมีอีกเยอะ
รอ nokia ปั้น wp มาขายในราคาถูกให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาพูดกัน ตอนนี้เหม็นแมงโม้
@fb.me/frozenology@
ถูกใจจอร์จ
พูดเยอะๆนะ MS จะรอดู
ผมเข้าใจว่าที่ผ่านมา WM มีคนใช้เยอะส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากรอมโมที่มีออกมาแก้ปัญหาของ WM ที่มาพร้อมเครื่อง สังเกตได้จากหลายเครื่องออกมาใหม่ ๆ มีปัญหาเยอะ พอได้รอมโมเข้าไปก็กลายเป็นเครื่องยอดฮิตได้ สถานการณ์นี้ไม่ต่างอะไรกับเจ้าหุ่นเขียวที่ติดลมบนทุกวันนี้ได้ก็เพราะรอมโมและเรื่องราคาที่ทำออกมาได้ต่ำ(ส่วน IOS คนใช้ส่วนใหญ่ก็คงพอใจกับมันแล้ว เปลี่ยนอะไรมากไม่ได้แต่ใช้ได้ง่ายแค่นี้ก็พอ) และ Windows Phone จะโจมตีจุดแข็งของเจ้าอื่นได้นี่คงยากมากหรืออาจจะใช้เวลามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ได้
ในยุคช่วงหลัง Apple-II มี MS-Dos ในขณะที่ Apple เริ่มมี Mac มีคนชอบและอยากได้กันมาก เพราะมันมี Mouse และเป็น Graphic User Interface ภาษาไทยก็สมบูรณ์ แต่ Apple ตั้งราคาแพงไป ทำให้คนทั่วไปซื้อไม่ได้ พวกที่ซื้อก็เลยเป็นบริษัททำหนังสือ เรียงพิมพ์ หนังสือพิมพ์ แต่ตอนนี้ราคามันไม่แพงอย่างเดิมแล้ว นึกถึงตอนนั้นได้มีโอกาสเล่น Smalltalk-80 กับ ภาษา C บน Mac โบราณ ซึ่งเป็นต้นแบบของ IDE ในยุคนี้แล้วอดยิ้มไม่ได้ว่า ภาพมันมาปรากฎเป็น XCode ได้อย่างสมบูรณ์ในยุคนี้
ปล่อยมะม่วงสักทีเถอะ
จับมือกับ Nokia แล้วทำราคาออกมาสัก 4000 - 6000 บาท รับรองเกิน 20% แน่
oxygen2.me, panithi's blog
Device: HP Zbook, iPad Pro, iPhone 15PM, iPhone 16+, Nothing Phone 1
Like+
รบกวนช่วยวางขายมะม่วง(WP7 Mango)ให้เร็วๆ หน่อยเดี๋ยวจะกลายเป็นผลไม้นอกฤดู(Holiday Season) ขายไม่ออกกันพอดี
ปล. ตัว HTC ยังไม่ค่อยประทับใจเท่าไรเพราะราคาแรงเกิน ตั้งราคาแบบเอาไว้ขายปีก่อนหรือไงไม่ทราบ หรือคิดว่าตัวเองเป็น Apple ก็ไม่รู้ ส่วน Nokia เห็นว่ากว่าจะปล่อยก็ Q1 2012 สรุป จะได้ใช้ไหมนี่ Nokia N8 dual-core ในคราบ Windows Phone
มันมาพร้อม monster beat by dr.dre นะครับ พ่วง beat by dr.dre มาอีก
ถ้าได้ลองใช้ซักครั้ง คุณอาจไม่สามารถ ทนใช้ หูฟังอันอื่นได้เลย
ส่วนตัวผม ไม่มีเงิน แม้จะขัดใจ ก็คงต้องทนใช้ Creative ไปก่อน
หูฟังอย่างเดียวก็ 8000+ ไปแล้ว
ผมเชื่อว่า มันต้องมีรุ่นที่ขายพร้อมหูฟังธรรมดา ราคา 15900 อีกรุ่นนึง
ผมเข้าใจเรื่องหูฟังนะครับ แต่ผมถามหน่อยว่ามันวางขายแล้วหรือครับคุณถึงกล้าพูดว่ามันแพงเพราะหูฟัง
ที่อยากบอกคือ hTC แพงทุกตัวครับ ไม่เกี่ยวกับ Monster beat หรอก
+1 HTC แพงทุกตัว เลย
ดู HD7 , Mozart เปิดตัว ราคาแรงมากๆ ตัวอื่นๆ ด้วยโหดมากๆ
Mozartเปิดตัวไม่แรงเท่าไรน่ะแต่มันแรงตอนดัมพ์ ที่แรงผมว่าHD7สเปคโดยรวมมันค่อนข้างด้อยกว่าMozartน่ะไมขายแพงกว่าโคตรเยอะเลยอย่างงง ส่วนแพงทุกตัวเนี้ยผมว่าตอนนี้ไม่ได้แพงแบบเวอร์แบบเมื่อก่อนแล้วตั้งแต่SSมาลงตลาดด้วยน่ะ
มันประกาศราคา TITAN มา ประมาณ 24000+
ในขณะที่ Windows Phone 1st generation ตอนเปิดตัวราคา ประมาณ 18000+(อิงตามดอลล่าห์ และราคาเปิดตัวที่ usa)
จาก spec มัน ผมนึกไม่ออกว่ามันจะแพงตรงไหน
นอกจากมันแถม หูฟัง monster beat by dr.dre ราคาอันละ 8000+
ราคาแพงเป็นปกติของยุโรปน่ะครับ
จำตอน galaxy tab ออกใหม่ได้ไหม ล่อไปเกือบ 30k ได้ ที่อื่นเค้า 20-21k กัน
อืม มีเหตุผลครับ
แต่อาจจะเอา TAB มาเทียบไม่ได้อ่ะครับ เข้าใจว่าบางประเทศใน EU มอง tablet เป็น notebook แบบไม่มี DRIVE DVD ซึ่งจะโดนภาษี อีกราคานึง
เดี๋ยวผมขอค้นข่าวหาราคา Galaxy S ใน EU ก่อน
update
ราคาเปิดตัวgalaxy sอยู่ที่ 650 euro และ 500 euro สำหรับ 8 gb
แพงจริงๆด้วย
hTC HD7 เปิดตัวที่ 22,900 บาทครับ
คุณบอกว่าแพงเพราะหูฟังไม่ใช่หรือครับ?
หลังจากไปค้นข่าวเก่าอยู่นาน ตอนนี้ผมยอมรับแล้วว่า มันแพงเป็นปกติของ HTC จริงๆ
เพราะ
HTC HD7 ราคาเปิดตัวกับ O2 599 euros
HTC TITAN ก็เปิดตัวด้วยราคาเดิม 599 euros
เปิดราคาเก่าไม่เท่าไรครับ แต่ชาวบ้านเค้าใช้ Dual Core กันหมดแล้วแต่นี้เอา Single Core มาขายเป็นตัว Top ไม่เข้าใจจริงๆ ว่า WP7 มันไม่รองรับ Dual Core หรือ HTC ประหยัดงบเลยไม่เอามาใส่? แถมไม่รู้ว่าจอใหญ่ขนาดนี้มันจะอยู่ได้กี่ชั่วโมง
ปล. ข้อแตกต่างของ Single Core กับ Dual Core ที่เห็นได้ชัดจริงๆ ก็จะเป็นพวก Web Browser ครับ ความเร็วต่างกันอย่างชัดเจน ถึงแม้ Microsoft จะชอบโม้ว่า IE9 บน WP7.5 สามารถรีดพลัง GPU ออกมาได้เต็มที่กว่าเจ้าอื่นๆ แต่ประเด็นคือปัจจุบัน เว็บส่วนใหญ่เค้าก็ใช้ tag ธรรมดาซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับ GPU เหมือนพวก tag Canvas หรือ SVG เลย ทำให้ WP7.5 ดูจะด้อยในเรื่องความเร็ว Web Browser เมื่อเทียบกับ OS อื่นอย่างชัดเจน
หูฟังมันจะดีหรือไม่ดีมันขึ้นกับแนวเพลงที่ฟังครับ ถ้าคุณชอบ Pop Ballad แล้วดันไปใช้ Sennheiser ที่ออก Dark และ Bass หนัก มันก็เท่านั้นละครับ อีกอย่างผมชอบแบบ On ear เหมือนตัว AKG K-450 ที่ใช้อยู่มากกว่า ถ้าแถม In ear มาผมก็ไม่ซื้ออยู่ดี เพราะทำให้สินค้าแพงขึ้นเกินความจำเป็น และซื้อมาก็ไม่ได้ใช้
+1
ขายพ่วงมาให้แพงขึ้นทำไม ถ้าลูกค้าชอบแนวคลาสสิกก็ไม่ใช้อยู่ดี
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
ผมว่า wp สามารถไปถึง 20% ได้ไม่ยาก เพราะสภาพแวดล้อมสำหรับนักพัฒนา พร้องที่จะเดินหน้าเต็มที่ แต่ที่มีปัญหา คือ นักพัฒนาจะพัฒนาแอพให้ใครใช้ คนใช้มีน้อยเพราะ เครื่องมีราคาแพง และมีตัวเลือกน้อยเมือเทียบกับ android
ถ้ามี wp หลากหลายรุ่น และหลากหลายราคา ผมว่า 20% ไม่ยาก
ประเด็นเรื่องตัวเครื่องเนี่ย ช่วงนี้พี่ แซมซัง เป็นไรไม่รู้ ออกโทรศัพท์มาเกือบ 10 รุ่น tablet อีก 3 เล่นทุกขนาดทุกราคา ยังไม่นับ โน๊ตตัวใหม่มีปากกา ผมว่าทุกค่ายเนี่ยหนาวไปตาม ๆ กัน อะไรจะละโมบขนาดนั้น กะไม่ให้คนอื่นขายเลย แล้ว wp จะไปแทรกตัวตรงไหนก็ไม่รู้ ผมว่าถ้าสิ้นปีมะม่วงยังไม่ออกมา คงเน่าแล้วละครับ
แซมซัง ก็ออก Windows Phone ครับ
แล้วไม่จำเป็นต้องราคาถูกกว่า Android ถึงจะขายได้นะครับ
ตอนนี้ ยอด wp อยู่ที่ 5% ถ้าไม่ทำถูกกว่า จะขายได้แน่หรือครับ -*- ถ้าผมเป็นผู้ผลิตนะ hw เท่ากัน os อันไหนราคาดีกว่า คงจะขายอันนั้นครับ หรือไม่ถ้ากลัว google ครองโลกก็ทำ dual boot เลยหมดเรื่อง
ยอดผู้ใช้ต่ำ แสดงว่า ยังมีพื้นที่ในตลาดให้แย่งชิง อีก 95% ครับ
ขึ้นอยู่กับการทำตลาด
ส่วนที่ไทย ผมมองว่าเป็นเพราะมันไม่ support ภาษาไทยนั่นแหล่ะครับ
และที่ Windows Phone รุ่นแรก ไม่ประสบความสำเร็จ มาจากสาเหตุเดียว กับตอน windows vista คือ มันยังทำไม่เสร็จดี แต่ต้องรีบเปิดตัว เพราะไม่สามารถ ช้ากว่านี้ได้แล้ว เปรียบได้กับ HTC G1 (Android 1.5 Donut)
ขอให้มันจริงเหอะ และอย่าขายแพง ...ไม่ซื้อ
ตราบใดที่ไมโครซอฟท์ยังครองโลกด้วย PC ได้ ทุกอย่างมันก็ง่ายกว่าคนอื่นอยู่แล้วแหละครับ
อยู่ที่ว่าจะจับจุดถูกไหม ถ้าถูกเอาแอ๊ปเปิ้ลกับหุ่นกระป๋องรวมกันก็สู้ลำบากครับ
ผมว่าบางทีเค้าก็ลืมนึกกันไปว่า apple ก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ
iOS ตัวใหม่ๆที่ออกมา feature มันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เหมือน iPhone Killer ทั้งหลายที่ชอบตั้งเป้าแข่งกับ iPhone ตัวปัจจุบัน พอ iPhone ใหม่มา ก็โดน iPhone ทิ้งช่วงไปอีกปีนึง เป็นแบบนี้เป็นวัฐจักร
โต้กันได้กว้างดีครับ