คดีสิทธิบัตรโทรศัพท์มือถือเริ่มยุ่งเหยิงขึ้นเรื่องๆ โดยล่าสุดบริษัทที่เข้าร่วมวงคือ Intellectual Ventures ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ด้วยการทำธุรกิจกับสิทธิบัตรอย่างเดียว ได้ฟ้อง Motorola Mobility ว่าละเมิดสิทธิบัตรของบริษัท
สิทธิบัตรของ Intellectual Ventures นั้นมีมากกว่า 35,000 ใบ โดยบริษัทใช้เงินไปกว่า 400 ล้านดอลลาร์ในการกว้านซื้อสิทธิบัตรเหล่านี้มาและทำรายได้มาแล้วกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้เคยมีการเจรจากันระหว่าง Intellectual Ventures กับ Motorola Mobility มาก่อนหน้านี้ที่จะทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนสิทธิบัตรระหว่างกัน แต่การเจรจาไม่ประสบผล ทำให้เกิดคดีนี้ขึ้นในที่สุด โดยสิทธิบัตรที่ Intellectual Ventures นำมาฟ้องนั้นมีทั้งหมด 6 ใบ ครอบคลุ่มถึงการส่งไฟล์ระหว่างคอมพิวเตอร์, การแสดงภาพหน้าจอ, การส่งข้อมูลไปยังหลายจุด, การแสดงรายชื่อซอฟต์แวร์ที่สามารถติดตั้งได้ เป็นต้น
เนื่องจาก Intellectual Ventures ไม่ได้ผลิตสินค้าใดๆ ด้วยตัวเอง จึงทำให้การฟ้องกลับเป็นไปได้ยากมาก
นี่อาจจะเป็นตัวอย่างของปัญหาระบบสิทธิบัตรสหรัฐฯ ที่ชัดเจนอีกตัวอย่างหนึ่ง จากบริษัทที่ไม่ได้ทำสินค้าหรือวิจัยพัฒนาอะไรจริงแต่มุ่งหากำไรจากระบบสิทธิบัตรได้อย่างเป็นระบบ
ที่มา - All Things D, C|Net
Comments
อีกหน่อยจะมีกฏหมายผูกขาดสิทธิบัติไหมครับนี่
เรื่องๆ => เรื่อย ๆ
ครอบคลุ่ม=>ครอบคลุม
เล่นแบบนี้เลยเหรอเนื่ย
นี้ถ้าออกกฏหมายที่จัดการ สิทธิบัตรที่ดีกว่านี้ บริษัทนี้อาจจะเจ้งไปเลยมั้ง
もういい
แต่กว่าจะเปลี่ยนกฎหมาย พี่แกก็ฟันกำไรเละเทะแล้วล่ะครับ
patent troll ก็มีแล้ว แต่ผมว่าบริษัทนี้มันเป็นอะไรที่มากกว่านั้น แต่ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี
ประเทศแห่งเสรีภาพจริงๆ
real evil
จดทะเบียนดวงอาทิตย์มันก็ทำมาแล้วนะ 555
ทำนาเป็นหลังคนของแท้เลย
จะบอกยังไงดี
ขนาดวงการอสังหา ก็จะมีพวกระเป๋าหนัก ไปกวาดซื้อหาคอนโด ใหม่ๆ แล้วเอามาเก็งกำไร หรือขายต่อ
ประเทศที่ทุนนิยมเสรี คนบางกลุ่มก็หาช่องทางทำกิน ทำให้กระทบกับอีกบางกลุ่ม
จะดีหรือไม่ก็ขึ้นกับว่า เราอยูเช็กเตอร์ใหนของระบบ นั่นแล
เหอๆ
อันนี้จริงๆ มันต่างกันนิดหน่อยครับ
กรณีคอนโด ถ้าเรามองว่าที่ดินมีค่อนข้าง "เหลือเฟือ" การกว้านซื้อคอนโดของกลุ่มทุนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เพราะมันสะท้อนว่าราคาที่คนสร้างนั้นไม่สะท้อนราคาตลาด คนกลุ่มนี้อาจจะทำกำไรได้แต่ก็ไม่นานนักเพราะรอบต่อๆ มาคนขายก็จะปรับราคาขึ้น
กรณีสิทธิบัตรโดยแนวคิดของสิทธิบัตรเองมันคือการให้สิทธิ "ผูกขาด" ในช่วงเวลาหนึ่ง การแข่งขันจะไม่เกิดขึ้นเลยในช่วงเวลาที่สิทธิบัตรได้รับการคุ้มครอง กรณีที่มีการออกสิทธิบัตรบางประเภทที่ถกเถียงกันว่าควรออกได้หรือไม่ เช่น สิทธิบัตรออกแบบ หรือสิทธิบัตรซอฟต์แวร์ การแข่งขันมันจะล็อกไปเลย
lewcpe.com, @wasonliw
จริงๆผมว่าประเด็นมันอยู่แค่ระยะเวลามากกว่าตัวระบบ
คือผมมองว่าระบบมันสนับสนุนวัตถุประสงค์ของมันได้ดีแล้วในระดับหนึ่งคือผู้สร้างสามารถผูกขาดสิ่งที่ตนคิดมาได้ในระดับหนึ่ง หลังจากนั้นจึงปล่อยฟรีให้เกิดการต่อยอดทีหลัง แต่ปัญหาคือเทคโนโลยีเดี๋ยวนี้พัฒนาไปไวมาก ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าการผูดขาดแบบนี้ในระยะเวลาเท่านี้มันทำให้สิ่งใหม่ๆเกิดขึ้นหรือพัฒนาช้ากว่าที่ควรจะเป็น แต่จริงๆเป็นเพราะว่าผู้บริโภคได้รับการป้อนสิ่งใหม่ๆเข้าไปอย่างต่อเนื่องเกินไปหรือเปล่าทำให้เคยชินไป แต่ก็อย่าลืมว่าคนที่สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆนั้นไม่ได้คิดได้เร็วตามไปด้วย กลับจะช้าลงเสียอีกนะผมว่า
และควรจะต้องมองอีกมุมว่าความมั่นใจว่าจะได้ผูดขาดนี้เองที่เป็นแรงขับดันที่ทำให้คนเราพัฒนาสิ่งใหม่ๆมาแข่งขันกับคนอื่นเช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่ควรจะทำคือหาความพอดีให้ได้ แต่ก็มีปัญหาอีกว่าความพอดีในอุดมคตินั้นจะสามารถทำได้จริงหรือไม่เพราะแม้แต่ในวงการเดียวกัน ระยะเวลาในการเปลี่ยนแปลงของแต่ละเรื่องที่เมื่อลงรายละเอียดมันก็ต่างกันไปอีกตามแต่ละเรื่องนั้นๆ และแม้การแข่งขันจะทำให้เกิดการพัฒนา แต่การหาประโยชน์จากสิ่งที่ตัวเองพัฒนาก็ย่อมเป็นแรงขับดันที่ขาดไม่ได้อีกส่วนหนึ่งเหมือนกัน
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
เวลาก็เรื่องหนึ่งครับ
แต่ยังมีเรื่องอื่นๆ อีกมาก เช่นว่า สิทธิบัตรซอฟต์แวร์ทั้งหมดเลยควรยอมรับให้จดสิทธิบัตรได้หรือไม่ เพราะความรู้บางประเภทเช่นสูตร/สมการคณิตศาสตร์นั้นจดสิทธิบัตรไม่ได้ คำถามในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจึงเป็นคำถามว่าทำไมซอฟต์แวร หรืออัลกอลิธึ่มซึ่งใกล้กับคณิตศาสตร์จึงจดสิทธิบัตรได้
อีกเรื่องหนึ่งคือความสร้างสรรค์ของสิทธิบัตร การจดสิทธิบัตรนั้นตอนสหรัฐฯ นี้อนุญาตให้จดหัวข้อยิบย่อยมาก เช่นข้อบ่งใช้ ซึ่งเป็นปัญหาในวงการแพทย์ เช่นการทำวิจัยว่ายาตัวนี้ใช้กับโรคนั้น ผสมยาให้ให้มีปริมาณยาเพิ่มขึ้นแล้วคนไข้จะลืมกินน้อยลง ได้ผลการรักษาดีขึ้น อย่างนี้ก็จดสิทธิบัตรได้ทั้งๆ ที่ไม่มีตัวยาใหม่ วงการคอมพิวเตอร์ก็มีเช่นกัน มัลติทัช -> มัลติทัชบนคอมพิวเตอร์ -> มัลติทัชบนบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ -> มัลติทัชบนซอฟต์แวร์บางประเภทในอุปกรณ์เคลื่อนที่ พวกนี้สิทธิบัตรที่จดตามๆ กันมาหัวข้อแคบมาก แต่ตอนฟ้องกันจริง ก็ฟ้องกันกว้างเพราะแบ่งยากว่าข้อบ่งใช้ไหนจะไม่ทับกับใคร
ระบบการรีวิวสิทธิบัตรก็มีปัญหา กระบวนการยกเลิกสิทธิบัตรนั้นกินเวลายาวนานนับปี การรีวิวหลายครั้งที่ไม่มีการตรวจสอบที่ดีพอ บางหัวข้อผู้รีวิวไม่ได้รับอนุญาตให้ค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตมาเปรียบเทียบในการรีวิวด้วยซ้ำ พอสิทธิบัตรออกมาก็นำไปฟ้องได้ เกิดคดีได้รับความคุ้มครองกันไป บริษัทเล็กๆ มันทนผลการฟ้องไม่ได้ยอมจ่ายมากกว่าจะยอมสู้กับสิทธิบัตร หรือฟ้องยกเลิกสิทธิบัตร
ทั้งหมดเป็นปัญหาของ "ตัวระบบ" สิทธิบัตรครับ
lewcpe.com, @wasonliw
บ๊ะ การส่งไฟล์ระหว่างคอมพิวเตอร์ -*-
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
เล่นการเมืองโดยไม่มีหลักการ
หาความสุขสำราญโดยไม่ยั้งคิด
ร่ำรวยเป็นอกนิษฐ์โดยไม่ต้องทำงาน
มีความรู้มหาศาลแต่ความประพฤติไม่ดี
"ค้าขายโดยไม่มีหลักศีลธรรม"
วิทยาศาสตร์เลิศล้ำแต่ไม่มีธรรมแห่งมนุษย์
บูชาสูงสุดแต่ไม่มีความเสียสละ
เคิ้วววว!!!
^
^
that's just my two cents.
ร้องไม่เป้นภาษาคนเลยทีเดียว
เคิ้ววว เป็นคำอุทานทางเหนือครับ
ไม่ใช้ "โคะ" เหรอครับ?
มีให้เลือกใช้ได้ทั้งคู่ครับ แล้วแต่สถานการณ์
ขอบคุณครับ ผมศึกษาภาษาเหนืออยู่จริงๆ นะเนี่ย!! โชคดีตอนนี้ได้เพื่อนเป้นคนเหนือ ได้รู้จักคำแปลกๆ เยอะดีครับ
ฮานี่บ่าเฮ้ย!!
เอาไปอีกคำครับ กั๊บโจ๊ะโล๊ะ
^
^
that's just my two cents.
เอาไปอีก มันตึง...
อะหยังปะล้ำปะเหลือนิ?
โค๊ะ นี่ประมาณ "อะไรว่ะ" ส่วน "เคิ้วววว" นี่ อธิบายเป็นคำพูดยาก เพราะเป็นคำอุทานที่เกี่ยวข้องกับอารมภ์อยู่มาก
Patent troll อายม้วนตัวเลย เจอบริษัทอย่างนี้เข้าไป
เจ้าพ่อตัวจริงมาเองเลยสินะ
กระดาษ 35,500 แผ่น
สามารถหยุดความเจริญของโลกได้ในพริบตา
ว่า apple ร้ายแล้วนะ เจอไอ้นี่ apple เด็กๆไปเลย
Destination host unreachable!!!
+1 รายนี้สุดๆเลย
เลวมาก ไม่ได้ใช้สิทธิบัตรให้เกิดประโยชน์ใดๆ ใช้ฟ้องคนเพื่อหาเงิน เลวจริงๆ
บางทีอาจเลวไม่มาก แต่เลวบริสุทธิ์เลยอย่างนี้หนะ
การแสดงภาพหน้าจอนี่หมายถึงอะไร - -
อะไรกันเนี่ยยยย - -
กว้านซื้อสิทธิบัตรมาเพื่อทำการฟ้องอย่างเดียว โดยที่บริษัทตัวเองไม่ได้ทำสินค้าอะไรเลย
เฮ้ย นี่มันอะไรกันเนี่ย ฟ้องได้ทุกคน แต่ไม่มีใครฟ้องกลับได้ เพราะไม่รู้จะฟ้องอะไร
หาเงินกันด้วยวิธีนี้ มันถูกต้องแล้วเหรอครับเนี่ย
ผมว่าน่าจะมีการฟ้องให้ปิดบริษัทนี้ไปเลยนะ
ไล่ซื้อมา > เอามาเจรจาแล้วไม่จบ > ฟ้อง
ผมว่ามันก็สมเหตุสมผลนะ ไม่ใช่ว่าซื้อมาแล้วเอามาฟ้องเลยโดยไม่ได้เจรจาก่อน
ทำนองที่ว่า เสียน้อยเสียยาก เสียมากเลยทีเดียว
เรื่องการปฏิรูปกฏหมายสิทธิ์บัตรผมว่าไม่น่าจะเกี่ยวกัน มันก็เหมือนการซื้อลิขสิทธิ์มาถือครอง (หรือเอาไว้ขายทำกำไรนั่นแหละครับ) นอกซะจากว่าเป็นสิทธิ์บัตรที่จดไว้ลอย ๆ ยังไม่สามารถทำได้จริง หรือจด concept ไว้อย่างเดียวก็ว่ากันไปอีกเรื่อง
Patent Troll King
Other Patent Troll Creature get +10/+10 and have patentwalk. (They're unblockable as long as defending player controls a Patent.)
การส่งไฟล์ระหว่างคอมพิวเตอร์, การแสดงภาพหน้าจอ, การส่งข้อมูลไปยังหลายจุด, การแสดงรายชื่อซอฟต์แวร์ที่สามารถติดตั้ง
ถ้าเอาตามนี้จริงไม่รอดสักราย คงต้องดูรายละเอียดเพิ่ม
ดราม่า
สุดยอด โอกาสฟ้องกลับก็แทบไม่มีด้วย (O_o)
เดี๋ยวเจ้าพ่อกว้านซื้ออย่าง Google ซื้อไป Microsoft & Apple คงนั่งร้องไห้
ซื้อบริษัทนี้เลย ?
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ขอคำเดียวสั้นๆง่ายๆ
"ทุเรศ"
แต่รวยส์
แถมถูกกฏหมายด้วย :D
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)