ช่วงนี้ก็เป็นช่วงของ Ubuntu Developer Summit กำหนดแนวทางสำหรับ Ubuntu เวอร์ชั่นถัดไป 12.04 Precise Pangolin ก็เริ่มมีรายงานเกี่ยวกับข้อสรุปหรือประเด็นอภิปรายสำคัญๆ ออกมา และ OMG Ubuntu ก็มีรายงานไว้
หลักๆ อย่างแรกคือ ขนาดของ Ubuntu 12.04 LTS จะเพิ่มจาก 700MB เป็น 750MB ซึ่งเท่ากับว่า Ubuntu จะยอมทิ้งข้อจำกัดสำคัญอันเดิมคือขนาดของแผ่น CD-R ไป และผู้ใช้ก็จะต้องใช้ DVD หรือ USB Drive ขนาดมากกว่า 1GB แทน
เหตุผลหลักๆ ของการตัดสินใจนี้ก็คือ ทำให้มันมีเนื้อที่มากขึ้น ไม่ต้องมากังวลกับการพยายามยัดลงไปใน 700MB มากเกินไป แต่ก็ไม่กำหนดไว้สูงเกินไปจนทำให้นักพัฒนาใส่ไปมากเกินจำเป็น (ที่มา)
อีกประเด็นหนึ่งที่เป็นประเด็นเรียกการโต้เถียงกันได้อยู่เรื่อยๆ คือ มีความเป็นไปได้ที่ Ubuntu อาจจะกลับมาใช้ Rhythmbox เป็นโปรแกรมหลักแทน Banshee อีกครั้ง จากเดิมที่ก่อนหน้านี้เปลี่ยนมาใช้ Banshee ในรุ่น 11.04 โดยคราวนี้มีเหตุผลสำคัญคือ การอัปเกรดจากรุ่น LTS ก่อนหน้า (10.04) ที่ใช้ Rhythmbox และการที่โปรแกรมนี้พร้อมสำหรับ GTK3 (ที่มา)
นอกจากนี้ แนวทางสำหรับเวอร์ชั่นของ GNOME ใน Ubuntu รุ่นนี้ น่าจะอยู่ในรูปแบบที่ว่า น่าจะไปใช้ GTK 3.4 ซึ่งถ้าเป็นไปตามนั้น ก็จะมีแอพลิเคชันบางส่วนที่เป็น GNOME 3.4 ในขณะที่ส่วนที่เหลือจะยังคงเป็น GNOME 3.2 ต่อไป (ที่มา)
Update: ในช่วงท้ายของ UDS ก็ได้มีการสรุปกันแล้วว่า Rhythmbox จะกลับมาใน 12.04 แทนที่ Banshee นอกจากนี้ แอพลิเคชันสำหรับจดโน้ต Tomboy ก็จะถูกถอดออกจาก 12.04 ด้วยเช่นกัน ทำให้ Precise Pangolin ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมี Mono framework มาตั้งแต่ต้นอีกต่อไป ผู้ที่ต้องการจะใช้ยังคงลงจาก Software Centre ได้ตามปรกติ (ที่มา)
Comments
เพราะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เลยไม่ค่อยอยากใช้เท่าไร ถ้าอยากใช้ก็ต้องติดตั้งเอง ไอ้เราก็ไม่ค่อยรู้ command line ซะด้วยสิ
แบบนี้แสดงว่าไม่เคยใช้จริง
ผมเคยใช้เมื่อปีที่แล้ว ตอนจะลงโปรแกรมยังต้องใช้อยู่เลย มันไม่ต้องใช้แล้วหรอครับ - -
May the Force Close be with you. || @nuttyi
เขาคงหมายถึง โปรแกรมที่ pre-installed มาด้วยหลายตัวไม่ถูกใจ พอจะลงตัวที่ถูกใจก็ต้องใช้ command line ซึ่งไม่เหมือนกับของ Windows มั้งครับ
ของผมก็เป็นแบบนี้ แต่ที่สำคัญกว่าคือฮาร์ดแวร์นี่แหละ
Terminal นี่ผมใช้แค่ตอนแข่งลินุกซ์นะ
ตอนลงมันมี GUI มาครอบไว้หมดแล้ว คลิกคลิกคลิก เผลอๆง่ายกว่าลงโปรแกรมบน Windows บางตัวซะอีก
แม้แต่ลงโปรแกรมก็มี Ubuntu Software Center สะดวกออกนะผมว่า
Blog | Twitter
เดี๋ยวนี้ไม่มี synaptic preinstall มาด้วย ต้องมาลงเอง -.-
ตอนจะลงก็ดันติด permission เลยต้องใช้ terminal อยู่ดี - -"
ไปๆมาๆ ก็ยังต้องใช้ apt-get ควบคู่กันไป >.< เพราะเร็วดี
แต่ถ้ามองในแง่ของ user ก็คงแทบไม่ต้องใช้ terminal เลย จริงๆนั่นแหละ
หมดยุค Ubuntu เพราะเซ็ง Unity (ฮา)
ได้ที่เพิ่มแค่ 50MB แต่เสียความสามารถในการยัดลง CD ได้นี่ไม่คุ้มเลยนะครับ ตัด Package ไปให้ลงเองทีหลังยังดีกว่า
+1
Blog | Twitter
เค้าเผื่อคนที่ยังใช้ dial modem 56k อยู่ไงครับ
humanity to all :)
ถ้าผมใช้ 56k ผมไม่คิดจะดาวน์โหลดไฟล์ขนาดเกิน 100MB แน่ๆ - -''
ทุกวันนี้ถ้าผมอยากได้ Ubuntu เวอร์ชันใหม่ก็ต่อเน็ตผ่าน GPRS แล้วรอ 3 วัน (ไม่มี Edge)
ไหนๆก็เกินแล้ว.. ยัด package มาให้เยอะๆไปเลยดีกว่า...
ถ้าไม่ติดตั้ง Synaptic และไม่ใช้ apt-get เวลาที่เพิ่ม repo เข้าไปใหม่ มีวิธีที่สะดวกกว่านี้ไหม ถึงจะติดตั้งแอพได้? (ไม่นับคลิกลิงก์ apt://)
Jusci - Google Plus - Twitter
แอพลิเคชันสำหรับจบโน้ต <- จดโน๊ต หรือเปล่าครับ
แก้แล้ว ขอบคุณครับ
รออีก 5 วันจะลอง fedora อยากลอง gnome shell เพราะบางที Unity ก็ err๋ๆๆ
ปัญหาอย่างเดียวของผมตอนนี้คือ ฟอนต์ไทย มันไม่ค่อยเรียบร้อยและสบายตาเหมือน windows เท่านั้นครับ อย่างอื่นโอเคหมดแล้ว ใช้ง่ายกว่าแต่ก่อนเยอะ
WE ARE THE 99%