หมายเหตุ: วันอาทิตย์ไม่ค่อยมีข่าว ก็ขอเขียนบทความย้อนอดีตประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของวงการไอทีละกันนะครับ
ผมคิดว่า บุคคลในวงการไอทีที่สตีฟ จ็อบส์ ควรจะรู้สึก "ขอบคุณ" ที่สุดในชีวิต อาจเป็น ฌอง หลุยส์ กัสซี (Jean-Louis Gassée) อดีตพนักงานชาวฝรั่งเศสของแอปเปิล และผู้บริหารแอปเปิลสาขาฝรั่งเศส ซึ่งพิจารณาจากผลงานต่างๆ แล้ว เราอาจถือว่าเขาเป็น "ร่างขนาน" ของสตีฟ จ็อบส์ก็ว่าได้
แต่สิ่งที่กัสซีสร้างบุญุคุณให้กับจ็อบส์มากที่สุด ไม่ได้เกิดขึ้นตอนที่ทั้งคู่กำลังทำงานกับแอปเปิล (โดนระเห็จออกมาทั้งคู่) และก็ไม่ใช่สิ่งที่ตัวของกัสซีเองตั้งใจให้มันเกิดขึ้นด้วยซ้ำ
ฌอง หลุยส์ กัสซี
หลังจากจ็อบส์โดนจอห์น สกัลลี สั่งปลดจากตำแหน่งบริหารในปี 1985 คนที่มานั่งคุมทีมแมคอินทอชแทนก็คือกัสซี (ซึ่งสร้างผลงานมาจากการคุมแอปเปิลในฝรั่งเศส) ซึ่งเขาก็ได้รับการยกย่องและยอมรับจากพนักงานระดับปฏิบัติงานสายวิศวกรรมเยอะมาก
แต่หลังจากนั้น กัสซีแพ้การประลองกำลังภายในบริษัทกับฝ่ายบริหารสายอื่น และต้องออกจากบริษัทไปในปี 1990 สิ่งที่เขาทำหลังจากนั้นคือตั้งบริษัท Be Inc. ทำคอมพิวเตอร์ BeBox และระบบปฏิบัติการ BeOS
สิ่งที่กัสซีทำนั้นขนานไปกับ NeXT ของจ็อบส์ ทั้งคอมพิวเตอร์ NeXT และระบบปฏิบัติการ NeXTSTEP นั่นคือเป็นระบบคอมพิวเตอร์สำหรับอนาคตในยุคนั้น ที่ก้าวหน้ากว่าทั้งแมคอินทอชและวินโดวส์ของไมโครซอฟท์
ช่วงกลางทศวรรษที่ 90s ตอนที่แอปเปิลเริ่มแย่มากๆ ไมโครซอฟท์กำลังรุ่งเรืองจาก Windows 95 แอปเปิลก็ตัดสินใจยอมถอยจากการทำ System (ชื่อในตอนนั้นของ Mac OS) ด้วยตัวเอง (เพราะโครงการใหญ่ล่มมาสองสามรอบ ส่วน Mac OS 8/9 เป็นแค่ตัวขัดตาทัพเท่านั้น) และหันมามองการซื้อกิจการบริษัทภายนอกเพื่อนำเทคโนโลยีมาทำ Mac OS รุ่นหน้าแทน
สิ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้คือ บริษัทแรกที่แอปเปิลตั้งใจจะซื้อไม่ใช่ NeXT แต่เป็น Be
การเจรจาทุกอย่างเกือบลงตัวหมดแล้ว แต่วินาทีสุดท้าย กัสซีต่อรองขอเงินเพิ่ม แอปเปิลไม่ยอมเจรจาต่อ แต่หันไปซื้อ NeXT แทน (ในราคาที่แพงกว่า Be ด้วย) ทั้งที่ตอนนั้น NeXT เองก็แทบจะไปไม่รอดอยู่เหมือนกัน
จากนั้นที่เหลือก็เป็นไปตามประวัติศาสตร์ที่เรารู้กัน จ็อบส์กลับมาเป็น iCEO อยู่พักหนึ่ง, NeXTSTEP กลายเป็น Mac OS X, บิล เกตส์ ส่งวิดีโอคอนเฟอเรนซ์มาร่วมเวทีกับสตีฟ จ็อบส์ ในฐานะที่ไมโครซอฟท์ช่วยเข้ามาถือหุ้นแอปเปิลอยู่พักหนึ่ง...
ส่วน Be ก็ล้มหายตายจากไปกับกาลเวลา และตอนนี้ก็เหลือเพียงโครงการ Haiku OS ที่พยายามจะพัฒนามันต่อในฐานะโคลนแบบโอเพนซอร์ส ตัวกัสซีย้ายไปทำงานกับ Palm และทรัพย์สินบางอย่างของ Be ก็ถูก Palm ซื้อไปทำระบบปฏิบัติการ Palm Cobalt ต่อ (ซึ่งสุดท้ายก็ล้มเหลวทั้งหมด)
ตอนนี้กัสซีเหมือนจะไม่ได้ทำงานอะไรจริงจังแล้ว เป็นนักลงทุนอย่างเดียว เขาเปิดบล็อก Monday Note และทวิตเตอร์ @gassee ใครสนใจก็ตามไปอ่านกันได้ บางทีเขาก็เล่าเรื่องเก่าๆ สมัยอยู่แอปเปิลผ่านบล็อกบ้างเหมือนกัน
ถ้าหากวันนั้น กัสซีไม่ละโมบเกินควร และสุดท้ายแอปเปิลซื้อ Be ได้สำเร็จ โลกไอทีจะเป็นอย่างไร และสตีฟ จ็อบส์ จะได้กลับมาที่แอปเปิลอีกหรือไม่ นั่นเป็นสิ่งที่เกิดในโลกคู่ขนานที่เราไม่มีทางคาดเดาได้เลยว่าโลกจะหมุนไปอย่างไร
ในเวทีรวมศิษย์เก่าแอปเปิลช่วงต้นเดือนนี้ (ข่าวที่ 9to5mac) เขาพูดถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่าเขาดีใจที่สุดท้ายแอปเปิลตัดสินใจซื้อ NeXT แทน Be เหตุเพราะเขาคงไม่สามารถทำงานร่วมกับฝ่ายบริหารของแอปเปิลได้ และสิ่งสำคัญที่สุดที่แอปเปิลได้มาจาก NeXT ไม่ใช่ระบบปฏิบัติการ NeXTSTEP แต่เป็นตัวสตีฟ จ็อบส์ต่างหาก
เขายังบอกด้วยว่า จริงๆ แล้ว ความหมายของการซื้อกิจการครั้งนั้นคือจ็อบส์ซื้อแอปเปิลกลับด้วยซ้ำ (โดยที่แอปเปิลเป็นฝ่ายให้เงิน)
ถ้าผมเป็นสตีฟ จ็อบส์ ถึงแม้จะไม่ได้ขอบคุณกัสซีตรงๆ ก็คงคิดถึงเพลงไทยเพลงหนึ่งที่ร้องว่า "หากไม่มีเธอวันนั้น ฉันก็คงไม่มีวันนี้"
Comments
เหอะๆ ย่อหน้าสุดท้าย
คงเป็นหนึ่งในคำขอบคุณไม่กี่ครั้งของโลกไอที ที่ผู้ฟังไม่ใคร่อยากรับ เหอะๆ ^^'
my blog
ตอนนั้น apple จะซื้อ beos แหละ แต่ขายแพง ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้น beOS ดังมากในเรื่องของการตัดต่อ video กับเรื่อง GUI
โอ้ววว... นึกถึงโลกคุ่ขนาน
อนาคตอีกสายหนึ่ง...
สมัยก่อนเคยพยายามหา BeOS มาลงเล่น แต่ Pantip ไม่มีขาย เว็บ bit ยังไม่เกิด
หาโหลดได้ตาม Internet นะครับ ตั้งแต่มีรุ่น X86 เขาก็เริ่มขายทางเน็ตแล้ว
ผมก็ซื้อมาจาก pantip นะ แผ่นยังอยู่เลย
ชอบมากตอนนนั้น แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่มี app -_-'
เคยแต่ได้ยินชื่อ BeOS เมื่อสมัย 10 ปีก่อน ตอนนี้เพิ่งมาทราบประวัติ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
จำได้ว่าตอนนั้นชอบ interface ของ BeOS มาก
ตอนจบสวยมากฮะ... ผมถึงขั้นไปหาเพลงมาฟังเลยอ่ะ :)
D2B
เคยใช่ BeOS อยู่ รู้สึกทึ่งมาก ที่มันลงไปในเครื่องแล้วอุปกรณ์ทุกอย่างทำงานได้ราบรื่นโดยไม่ต้องไปหาไดรเวอร์มาลง(ซึ่งถ้าหากต้องลง ก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหนเหมือนกัน) แถมยังหมุนโมเด็ม external แบบ serial ของผมได้ด้วย
ที่สำคัญคือเปิดเครื่องมาก็เป็น GUI ของ BeOS เลย แทบไม่ต้องไปตั้งค่าใดๆ ผิดกลับ Linux ในยุคนั้นที่ต้องปลุกปล้ำกับ X windows -*-
นอกจากนั้นแล้วอิทธิพล GUI แบบ BeOS ก็ส่งผลให้ Linux หลายๆค่ายออกแบบวินโดวส์ให้มีหน้าตา title bar ยาวตามชื่อ จนผ่านมาหลายปี ถ้าเข้าไปดูเวป theme ของ linux ก็ยังจะพบอิทธิพลการออกแบบ แบบนี้อยู่ ซึ่งดูดีทีเดียวครับ
BeOS ตอนนั้นก้าวหน้ามาก (ในสมัยนั้น) มันสามารถเปิดเพลง/หนังพร้อมกันหลายได้แทร็คพร้อมกันด้วยนะครับ
น่าจะบอกว่า จ็อบส์ซื้อแอปเปิลกลับด้วย NeXTSTEP มากกว่า XD
ลิงค์ไป Wikipedia ผิดนะครับ
โอ้โห D2B เลยทีเดียว เหมาะมาก สุดสัปดาห์นี้วันเกิดพี่บิ๊กครบ 29 ปีพอดีครับ
Gassee พูดแบบนี้ดูน่ารักดี แม้จะมองว่าเป็นการให้เกียรติคนตาย แต่ก็แปลว่าจ็อบส์เองได้รับการยอมรับจากคนทำงานอย่างแท้จริง
เพลงอัลบั้มที่สองด้วย นานเป็นสิบปีทีเดียว อิอิ
ถ้าสองคนนี้ได้ร่วมงานกันจะเป็นยังไงน๊อออ
รายละเอียดทำความเข้าใจง่ายดีครับ ชอบครับและขอบคุณสำหรับบทความ
จุดตัดของเวลาสินะ...ถ้าในตอนนั้น แอปเปิลซื้อ Be ได้สำเร็จตอนนี้แอปเปิลจะเป็นอย่างไรน้อ
ผมก็เคยไปอ่านประวัติ Apple เคยได้ยินชื่อ BeOS ในนั้นเหมือนกัน
แต่ผมก็ไม่ทราบประวัติว่า BeOS คืออะไร ทำไม Apple สนใจซื้อ
ผมก็ได้ทราบจากบทความนี้ล่ะครับ ขอบคุณครับ
ย้อนไปสมัยนั้น ผมคิดว่าคนที่ควรมีบุญคุณกับ Steve Jobs มากที่สุดคือ Gil Amelio, Apple CEO และคณะกรรมการบริหาร ที่ตัดสินใจซื้อ Nextsept แทน BeOS คงไม่ใช่เรื่องเงินอย่างเดียว น่าจะมีเรื่องของเทคโนโลยีและความแพร่หลายของ Nextstep มากกกว่า BeOS ที่ยังด้อยกว่าในบางประเด็น การกลับเข้ามาทำให้ Apple เข้ารูปเข้ารอย และ Jobs รู้ว่าจะทำให้บริษัทที่ใกล้ล้มละลายกลับมามีกำไรได้อย่างไร
Apple ขอให้ Gassée ลดราคา แต่ทาง Gassée คิดว่า Apple จนตรอกแล้ว ไม่มีทางเลือกอื่น เลยไม่ยอมลดให้มากเท่าที่ขอ
จบลงที่ Jobs บอกให้ Amelio ซื้อ NeXT ในราคาที่แพงกว่า BeOS อีก แถมยังเล่นการเมืองทำให้ Amelio โดนเด้งออกจาก Apple อีกต่างหาก Amelio นี่โดน Jobs seduced ไปเต็ม ๆ
ครับคุณ Ishmael
งั้นเดี๋ยวผมส่ง D-Mail กลับไปหาคุณกัสซี บอกว่าอย่าโลภ โลกนี้จะเข้าสู่ World line Alpha ไหม
เอล ไซ คองกรู
เคยเล่น Warp และ Be อยู่พัก ทึ่งๆจริงๆเลยครับ
ผมว่า OS/2 เจ๋งมากเลยนะ เป็น OS แรกที่ยอมจ่ายเงินซื้อเลย ตอนนั้น CD-ROM ไม่มีไดเวอร์โทรไปถาม IBM เขาให้พนักงานขับรถเอาไดเวอร์ใส่แผ่น 3.5 นิ้วมาส่งให้เลยประทับใจบริการมาก (แล้วเราก็พอทีหลังว่าไดเวอร์มันโหลดจาก BBS เอาก็ได้)
ปล. ตอนนั้นอยู่ประมาน ม.ต้น นะครับ ไม่บอกเดี๋ยวโดนหาว่าแก่แล้วตามพี่ ๆ หลายคนที่นี่
ผมมี image ของ BeOS อยู่.....
ของดี แต่ไม่มีเวทีให้ลงแข่งก็จบ น่าเสียดายโอกาสครับ
ตายห่า -*- ที่ mk เขียนเล่ามา รู้อยู่แล้วหมดเลย ตรูแก่แล้วสินะ ~>.<~
เด็กรุ่นใหม่หลายคนโตมาก็เจอ Snow Leopard แล้ว เลยให้ความรู้ในอดีตกันหน่อยครับ ถ้ามีเรื่องเล่าก็ส่งเข้ามาได้
เล่น BeOS สุดยอดมากครับ ตอนนั้น Intel PII 350MHz, RAM 128MB, Matrox G200 RAM 8GB
และระหว่างที่ทำอยู่ แทบไม่กระตุกให้เห็นสักแอะ...
นึกถึงวันเวลานั้นสิครับ Windows 95/98, Mac OS 7.x,8.6 (?) ทำอะไรแบบนี้กับเขาได้ไหม
ทึ่งครับ... แต่ผลงานดีเยี่ยมด้านวิศวกรรม ไม่ได้ทำให้ประสบความสำเร็จได้เสมอไป
ความรู้ทั้งนั้น ^^
Many Thanks!!