ข่าวนี้เป็นความเคลื่อนไหวทางยุทธศาสตร์ของ RIM ที่น่าสนใจมากครับ
จุดแข็งของแพลตฟอร์ม BlackBerry ที่ผ่านมาโดยตลอดคือการใช้งานในองค์กร ซึ่งมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย การเข้ารหัสข้อมูล การดูแลจากระยะไกล ฯลฯ (ต้องทำงานร่วมกันระหว่างตัวมือถือ BlackBerry และเซิร์ฟเวอร์ BES) แต่ตอนหลังเราก็เห็นข่าวว่ามือถือแพลตฟอร์มอื่นๆ โดยเฉพาะ iOS/Android เริ่มเจาะตลาดเดิมของ RIM มากขึ้นเรื่อยๆ (ถึงแม้ว่าจะมีฟีเจอร์ด้านองค์กรเยอะไม่เท่า BlackBerry ก็ตาม)
นี่คือวิกฤตหรือโอกาส? อันนี้ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน แต่ท่าทีของ RIM รอบนี้ บริษัทมองว่ามันคือ "โอกาส"
BlackBerry Mobile Fusion คือซอฟต์แวร์สำหรับองค์กรของ RIM ที่จะช่วยให้แอดมินขององค์กรบริหารจัดการสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่เป็น iOS หรือ Android ได้เช่นเดียวกับ BlackBerry ในปัจจุบัน
Mobile Fusion จะต้องใช้ร่วมกับเซิร์ฟเวอร์ BES ที่มีอยู่แล้วในองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งมันจะช่วยให้แอดมินบริหารจัดการสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าอุปกรณ์ชิ้นนั้นจะเป็น iOS, Android, BlackBerry หรือ PlayBook ก็ตาม ฟีเจอร์ของมันก็ตามมาตรฐาน รองรับการลบข้อมูลทางไกล, ติดตั้งซอฟต์แวร์, รูปแบบการเชื่อมต่อเน็ตในองค์กร, การจัดกลุ่มผู้ใช้ เป็นต้น
ตอนนี้ Mobile Fusion ยังอยู่ในขั้นทดสอบแบบปิดกับองค์กรพันธมิตรบางรายของ RIM และจะเปิดขายทั่วไปเมื่อซอฟต์แวร์สมบูรณ์
ที่มา - RIM
หลายคนอาจมองว่า Mobile Fusion จะทำลายจุดเด่นของ BlackBerry/BES ในฐานะโซลูชันด้านมือถือสำหรับองค์กร เพราะต่อจากนี้ไป องค์กรก็ไม่จำเป็นต้องซื้อมือถือ BlackBerry มาใช้ ซึ่งอาจทำให้ยอดขายของ RIM ลดลงตามมา
แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราสันนิษฐานว่ายังไงก็หนี iOS/Android ไม่พ้น ความเคลื่อนไหวของ RIM ในรอบนี้อาจเป็นการฉวยโอกาสที่องค์กรขนาดใหญ่ส่วนมากยังใช้ BlackBerry/BES ขยายฐานลูกค้าเดิมให้ซื้อ Mobile Fusion เพิ่มอีกต่อหนึ่ง
มุมมองไหนจะถูกต้องและตรงกับสภาพความเป็นจริง ตัวเลขผลประกอบการของ RIM ในปีหน้าน่าจะเป็นสิ่งยืนยันได้ดีที่สุดครับ
Comments
ในสองสามปีที่ผ่านมาบริษัทและตัวผู้ใช้งาน มีนโยบายเปิดกว้างกับมือถือสารพัดรุ่นมากไม่ว่าจะบน iOS, Android, Windows Phone ทำให้เกิดตลาดซอฟท์แวร์กลุ่ม Mobile Device Management ขึ้นมา เพราะในการใช้งานในองค์กร ต้องการหน้าที่พื้นฐานอย่างที่ว่าไปข้างต้น เช่น ควบคุมการลงซอฟท์แวร์ ติดตั้งซอฟท์แวร์ทางไกล ควบคุมและล็อคสิทธิ์บางอย่างบนเครื่อง การหาตำแหน่งเครื่อง การลบข้อมูลทางไกล รวมไปถึงทำ inventory อีกด้วย
ซึ่งแต่เดิม RIM ยังจัดว่าเยี่ยมในด้านการจัดการ เมื่อเทียบกับค่ายอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตามมันก็แค่ทำได้แค่ของ RIM ดังนั้นนี่นับว่าเป็นโอกาศอันดีในการควบคุมให้ได้ หรือยังครอบครองพื้นที่ในองค์กรในฐานะผู้ดูแลความปลอดภัยของระบบ mobile ในองค์กร
ถ้ามันสามารถออกมาเป็น BlackBerry Messenger บน iOS/Android สำหรับผู้ใช้ทั่วไปได้จะดีมากเลยครับ
SOON
จริงอ่ะ
ผมว่าน่าจะมาถูกทาง เพราะถึงไม่ทำ คนอื่นก็จะเริ่มทำ แล้วเมื่อถึงตอนนั้นก็เหมือนตกขบวนรถไฟ ตามเค้าไม่ทันง่ายๆ
BBM ก็คล้ายๆกัน ตอนนี้ยังมีคนใช้งาน ต้องรีบเรียกลูกค้าเพิ่ม ก่อนที่คนถือ BB จะน้อยจนไม่มีคนจะคุยด้วย แล้วก็จะไม่มีคนใช้ไปเลย กู่ไม่กลับนะนั่น
ไม่รู้ว่า Apple จะมี API ด้านความปลอดภัยเปิดออกมาเป็น Public หรือเปล่า แล้วจะเข้าถึงได้ระดับไหน
ส่วน Android ถ้าอะไรไม่มีก็ทำเพิ่มเองได้ไม่น่ายากมั้ง