By: mk 
on 23 January 2012 - 23:49
Tags:
Topics:
Larry Page ตอบคำถามนักลงทุนใน งานแถลงข่าวผลประกอบการไตรมาสล่าสุด
เขาบอกว่ากูเกิลเพิ่งเริ่มหาวิธีสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่ง Android เป็นหนึ่งในนั้น เขาบอกว่า Android มีศักยภาพสูงในธุรกิจโฆษณา และยอดดาวน์โหลดแอพก็สูงถึง 11 พันล้านครั้ง ถึงแม้ว่าส่วนมากจะเป็นแอพฟรีก็ตาม
ตอนนี้กูเกิลมองเห็นศักยภาพในการทำเงินจาก Android อีกมาก ถึงแม้จะยังไม่เปิดเผยรายละเอียดในตอนนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป นักลงทุนจะเห็นบริษัทเอาจริงเอาจังในด้านนี้มากขึ้นเอง
Jan Dawson นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัย Ovum ให้ความเห็นว่า กูเกิลต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปีถึงจะทำรายได้จาก Android ได้เท่ากับที่แอปเปิลหรือบริษัทอื่นๆ ขายฮาร์ดแวร์มือถือ
ที่มา - New York Times
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Cloudnone
- AWS มาไทย ย้ายเลยดีไหม อะไรยังมาไม่ครบบ้าง? | Cloudnone Ep. 23
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
Comments
ระหว่างนั้นก็ถูกไมโครซอฟต์หารายได้จาก Android รวยไปก่อน เหอๆๆ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
Microsoft บอก "เรายังทำเงินจาก Android ได้ไม่เยอะเท่าที่ควร"
...
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ฮา
Coder | Designer | Thinker | Blogger
Microsoft รวยไปก่อนละ - -" เหมือนหุ่นกระป๋องติดไวรัสตัวดูด
ผมไม่แน่ใจว่าสิทธิบัตรที่ไมโครซอฟท์ใช้นั้นมีอะไรบ้าง แต่ดูท่าทีของผู้ผลิตที่ต่างจากเจ้าอื่นๆ มาก (ยอมจ่ายกันโดยง่าย) ก็เชื่อว่ามีสิทธิบัตรบางส่วนที่มีน้ำหนักพอให้จ่าย และเป็นหลักการทั่วไปว่าของพวกนี้เวลาซื้อก็ซือเหมาใบเล็กใบน้อยไปด้วย จะได้ไม่ต้องมีคดีกันอีก
ในแง่ของการได้ค่าสิทธิบัตร นั้นถ้าสิทธิบัตรมีเหตุผล ผมก็ยินดีกับบริษัทเหล่านั้นด้วยที่ลงทุนวิจัยกันมาก่อนหลายปี ก็ควรได้ผลการลงทุนคืนไป อันนี้ต้องบอกว่าหลักเกณฑ์สิทธิบัตรแต่ละประเทศก็ต่างกันไปด้วย
แต่ไมโครซอฟท์ในฐานะผู้ผลิตซอฟต์แวร์รายใหญ่ ไม่สามารถคง "สถานะเดิม" อันยิ่งใหญ่ด้วยค่าสิทธิบัตรแบบนี้แน่นอนครับ การที่ไมโครซอฟท์ไม่สามารถสร้าง stack ได้อย่างครบถ้วน กำลังแสดงถึงความสั่นคลอนของอาณาจักรไมโครซอฟท์อย่างชัดเจน
Android อาจจะทำให้ไมโครซอฟท์ได้เงินเครื่องละ 5-10 ดอลลาร์ แต่ไปลดเหตุผลที่จะใช้ windows, visual studio, .NET ในแง่ของเสถียรภาพแล้วนี่เป็นหายนะอย่างชัดเจน
สิทธิบัตรเองก็มีอายุจำกัด ทุกวันนี้ไม่น่าเกิน 20 ปีในประเทศส่วนใหญ่ สิทธิบัตรจำนวนมากก็จดมาก่อนนี้หลายปี (อาจจะเกิน 10) การอยู่กับสิ่งที่ทำไว้ก่อนหน้าแบบนี้ไม่เป็นผลดีในระยะยาวกับไมโครซอฟท์แน่ๆ
lewcpe.com, @wasonliw
รายละเอียดสิทธิบัตรที่ไมโครซอฟท์ใช้มีอยู่ในข่าวนี้ครับ Microsoft’s anti-Android, cross-licensing strategy exposed by Barnes & Noble ซึ่งเป็นที่มาของข่าว "ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!! Microsoft เล่นงาน Android หนักยิ่งกว่า Apple"
อยู่ก็นึกสงสัยทำไมผู้ผลิตที่ใช้ Android ต้องจ่ายให้ไมโครซอฟท์แทนที่จะเป็นกูเกิลและเป็นค่าอะไรที่ต้องจ่าย นั่งค้นหาเจอลิ้งค์ข่าวนี้พอดี ตอนนี้สงสัยต่อไปอีกครับว่าแอปเปิลฟ้องซัมซุงและอีกสองรายด้วยเหตุผลเดียวกันหรือต่างกันหรือไม่และทำไมผู้ผลิตอื่นๆ ที่ใช้ Android (ที่จ่ายส่วยให้ไมโครซฟอท์ไปหมดแล้วนั้น) ไม่โดนแอปเปิลฟ้องด้วย
ต้องโน้ตไว้ว่าสิทธิบัตรตามข่าวนี้ เป็นสิทธิบัตรที่ B&N อ้างว่าเจรจากับไมโครซอฟท์น่ะครับ ซึ่งก็มีโอกาสที่ไมโครซอฟท์จะใช้สิทธิบัตรชุดอื่น (หรือชุดนี้แต่มีใบอื่นผสมอยู่) ในการเจรจากับบริษัทอื่นๆ ได้เหมือนกัน
คือสรุปว่าพอจะให้เห็นเค้าว่ามีอะไรบ้าง แต่คงไม่ยืนยันว่าเป็นอย่างนี้ทั้งหมด
App ฟรีเยอะ จะได้สวนแบ่งตรงไหน แล้ว Google ก็ไม่ได้เก็บค่าต่อเครื่องแพง
@fb.me/frozenology@
แอปฟรีมีโฆษณา ซึ่งเป็นโปรดักส์ของกูเกิลไง
โฆษณา
จาก Search Engine Land
Ovum ให้ความเห็ฯว่า > ความเห็น
;)
my blog
กูเกิลเป็นโมเดลธุรกิจที่น่ากลัว ครับ เข้าคู่กับ opensource ได้เป็นอย่างดี ในระยะยาวยังไงก็สบาย
ใช่ครับ model ธุรกิจแบบนี้ถ้าไม่รุ่งก็ร่วงเลยเสียด้วย
ผมว่าเป็นโมเดลธุรกิจในฝันของบริษัทส่วนใหญ่มากกว่า
ได้เงินจากผู้ที่ยินดีจ่าย
ซึ่งไม่ใช่ทุกธุึรกิจจะทำได้อย่างนี้
ก่อนจะอยากทำเงินทำให้มันดีสำหรับคนที่มีเงินในกระเป๋าก่อนสิครับ