บริษัทวิจัยตลาดฮาร์ดแวร์ IHS iSuppli เผยข้อมูลยอดขายส่งแท็บเล็ตในไตรมาสสุดท้ายของปี 2011 และรวมข้อมูลตลอดปี 2011 พบสถิติดังนี้
ไตรมาส 4 ปี 2011
- Apple ยอดส่ง 15.4 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 57% (ยอดส่งเยอะกว่าไตรมาส 3 แต่ส่วนแบ่งตลาดลดลง)
- Amazon ยอดส่ง 3.8 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 14% (เข้าตลาดเป็นไตรมาสแรก)
- Samsung ยอดส่ง 2.1 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 8%
- B&N ยอดส่ง 1.9 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 7%
- ASUS ยอดส่ง 612,000 แสนเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 2%
- รายอื่นๆ ยอดส่ง 3.1 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 12%
พระเอกของไตรมาสนี้คือ Amazon ที่ใช้เวลาเพียง 6 สัปดาห์ช่วงปลายปี แซงหน้าทุกคนขึ้นมาเป็นเบอร์สองได้อย่างสวยงาม
ตลอดปี 2011
- Apple ยอดส่ง 40.5 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 62%
- Samsung ยอดส่ง 6.1 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 9%
- Amazon ยอดส่ง 3.8 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 6%
- B&N ยอดส่ง 3.2 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 5%
- ASUS ยอดส่ง 2 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 3%
- รายอื่นๆ ยอดส่ง 9.3 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 14%
ยอดขายรวมของแอปเปิลเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าจากปี 2010 (ยอดส่ง 15.1 ล้านเครื่อง) แต่ส่วนแบ่งตลาดลดลงจากเดิมที่เคยครอง 87% ในปี 2010
ตลาดรวมปี 2011 โลกเรามีแท็บเล็ตวางขายเป็นจำนวนทั้งสิ้น 65 ล้านเครื่อง ส่วนตลาดปีนี้ยังมีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้อีกมาก โดย iSuppli ให้จับตาตัวแปรดังนี้
- แท็บเล็ตราคาถูกที่ Kindle Fire และ Nook สร้างมาตรฐานเอาไว้
- กูเกิลซื้อโมโตโรลา
- แท็บเล็ต Windows 8 บน ARM
ข้อมูลยอดขายส่งอย่างละเอียด ดูกันเองตามลิงก์ครับ
ที่มา - IHS iSuppli
Comments
ถ้า Kindle Fire ขายทั่วโลกนะ ไม่อยากจะนึกภาพเลย ผมว่า Amazon เป็นอีกบริษัทในวงการนี้ที่ห้ามมองข้ามเลยนะ สินค้าแต่ละอย่างผมว่า มีความเจ๋งในตัวของมันเองทุกตัวเลย อย่าง kindle touch เนี่ยก็แค่จอขาวดำธรรมดาทำอะไรไม่ค่อยจะได้ แต่ทำไมเห็นแล้วอยากได้ขึ้นมาหว่า
ASUS ส่งของน้อยกว่าที่คิดแฮะ, น้อยกว่า Barnes & Noble นี่ยิ่งผิดคาดเข้าไปใหญ่ -0-
นั่นสิ ทรานสฟอร์เมอร์ ไพร์ม ออกจะเปิดตัวแรงแท้ๆ ผมเห็นแล้วยังอยากได้เลย
ส่งสัยโดยขาใหญ่ตัดแข่งตัดขา ไม่เหลือของให้ผลิตมั้งฮะเนี้ย 55
ลองจับ Kindle Fire มาแล้ว ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ หากใครมีงบพอก็คงเลือก iPad อยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ต้องประหยัดจริงๆ ก็ถือว่า Fire คุ้มค่าพอรับได้ครับ
คือ Kindle Fire ราคามันถูกมากและมันก็ดีที่สุดในแท็บเบล็ตย่านราคาเดียวกัน (เอาแบบไม่ตัดราคาล้างสต็อคนะ อย่าง PlayBook นั้นไม่นับ) แถมมันมาพร้อมกับ Amazon ecosystems ตลาดขายหนังสือ หนังสือ, วีดีโอ, เพลง, เกมส์ โดยเฉพาะที่อเมริกา ผู้ใช้สามารถสั่งซื้อหนังหรือซีรีส์มาดูได้ผ่านคินเดิลไฟร์
แต่สำหรับผู้ใช้งานนอกอเมริกา ตอนนี้ยังไม่สามารถซื้อเกมส์,วีดีโอ,เพลงได้ ครับ
และก็แน่นอนฟีเจอร์ของสินค้าราคา 199 เหรียญจะไปเทียบคุณภาพกับสินค้าราคา 499 เหรียญมันก็คงไม่ไหว ซึ่งถ้าคุณมีงบประมาณพอ iPad ก็น่าจะเหมาะกับคุณ
ชอบ HTC Flyer มาก ๆ
ติดใจความบางของ Transformer Prime
แถมอยากได้ Kindle Fire มาเป็นของตน
สรุป เราจะเอาอะไรดีเนี้ย
Coder | Designer | Thinker | Blogger