mk ฝากมาให้ลงข่าว เพราะตัวเองอ่านแล้วหมดแรง
ก่อนอื่นขอตัดตอนส่วนที่บอกวิสัยทัศน์เรื่องนี้มาให้อ่านก่อนละกันครับ
ส่วนโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมไอที รมว.ไอซีที กล่าวว่า เอ็มเบดเด็ด ซอฟต์แวร์เป็นโครงการที่สำคัญ โดยสำนักงานส่ง เสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ หรือ ซิป้า จะตั้งศูนย์พัฒนาเอ็มเบดเด็ด ซอฟต์แวร์ร่วมกับรัฐบาลญี่ปุ่นเร็วๆ นี้ ส่วนด้านแอนิเมชันซิป้าทำอยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่า ไม่รู้จะทำได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ขณะที่ซอฟต์แวร์เฮ้าได้สั่งให้ซิป้าส่งเสริมต่อไป สำหรับโอเพนซอร์สมองไม่เห็นประโยชน์เท่าไร
เนื้อหาสาระอยู่ที่ประโยคสุดท้ายนั้นเอง ...
(ต่อไปเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผม) ก่อนหน้านี้เรื่อง OLPC ก็ทำงามหน้าไปทีแล้ว มาทีนี้เรื่อง Opensource อีก ไม่รู้จะบรรยายความไร้วิสัยทัศน์ว่ายังไงดี -_-'
แต่ช่างเถอะครับ ตอนนี้ผมคิดว่า แนวทางการพัฒนา open source ในประเทศไทยเปลี่ยนไปแล้ว คนที่ทำโครงการเองหลายๆ คนคงเลิกเพราะมันไม่รุ่ง เงินก็ไม่มี รัฐก็ไม่สนับสนุน แต่หันไปพัฒนางานให้กับโปรแกรมที่ผ่านการคัดเลือกทางธรรมชาติมาแล้วทางต้น น้ำแทน (เช่น Debian) ซึ่งอาจจะดีกว่าก็ได้ เพราะไม่ต้องรอรัฐหรือรอทุน อยากทำอะไรก็ทำ นอกจากนี้ทำกับทางต้นน้ำแล้วเค้ามาตรฐานสูงมาก ก็ยิ่งเป็นการพัฒนาฝีมือตัวเองมากขึ้นไปอีก คิดว่าคงเลิกหวังอะไรลมๆ แล้งๆ กับกระทรวงบล็อคเว็บได้แล้ว
ที่มา - ไทยรัฐ
mk ขอเสริม
ผมแนะนำให้ทุกคนออกไปซื้อหรือหา Bangkok Post ฉบับวันนี้ (พุธ 15 พ.ย.) อ่านโดยด่วนครับ (อยู่ใน Database หน้าแรกเลย คนเขียนคือคุณ Don นั่นเอง) พิมพ์ประโยคเด็ดมาให้ละกัน
"With open source, there is no intellectual property. Anyone can use it and all your ideas become public domain. If nobody can make money from it, there will be no development and open source software quickly become outdated," He (Minister) said.
Apart from Linux, he claimed that most open source software is often abandoned and not developed, and leads to a lot of low-quality software with lots of bugs.
"As a programmer, If I can write a good code, why should I give it away? Thailand could do good source code without open source," he said.
นอกจากนี้ยังมีเรื่อง censorship อีก รบกวนไปอ่านกันเองนะครับ
อัพเดต - แวะมาบอกเฉยๆ ว่าเรื่องนี้ถูก dugg ไปแล้ว ถ้าสนใจก็ไปช่วยกัน digg ได้
อัพเดต 2 - เรื่องนี้ขึ้น Slashdot ไปแล้วครับ
Comments
คิดซะว่ายังดีที่เค้า "น่าจะ" อยู่ในตำแหน่งได้แค่ปีเดียว ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
มีประโยคเด็ดอีกอัน: "ร ศ.ดร.สิทธิชัย กล่าวถึงนโยบายในการควบคุมสื่ออินเทอร์เน็ตว่า กระทรวงไอซีทีเคยสั่งปิดเว็บไซต์ครั้งเดียว เป็นเวลาครึ่งวัน ตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองในระบบประชาธิปไตย อันมีประมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หลังจากนั้น ไม่เคยสั่งปิดเว็บไซต์ใดๆ อีกเลย นอกจากการดำเนินการฟ้องเว็บไซต์ที่มีเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่ในระยหลั งๆ มีมากและน่าเกลียด แต่ไม่เชื่อว่า จะมีคนไทย หรือ แม้กระทั่งอดีตรัฐบาลเป็นคนทำ"
แปลว่าเคยสั่งปิด... ซึ่งจริง ๆ แล้วกระทรวงไม่มีอำนาจ
จริง ๆ แล้วรัฐบาลชุดนี้ "ไม่ควร" ทำอะไรมากมายเลย ชื่อก็บอกว่าเป็นรัฐบาลรักษาการ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จริง ๆ ควรทำทุกอย่างให้ น้อยที่สุด ทำอะไรเท่าที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น
เหมือนว่าทุกคนจะลืมกันไปหมด
พี่ลิ่ว, อ.มะนาว: เห็นด้วยที่ว่าควรจะทำอะไรให้น้อยที่สุด.. แต่.. สภาพความเป็นจริง มันเหมือนว่าเค้าพยายามจำทำอะไรต่อมิอะไรให้ได้มากที่สุด ภายในระยะเวลาที่เค้ายืดมาได้
และทุกครั้ง ก็จะพูดปิดท้ายว่า.. ..เราคงทำอะไรมากไม่ได้ เพราะเรามีเวลาอยู่แค่ปีเดียว..
นี่ขนาดไม่ได้ทำอะไรมากนะเนี่ย.. ปีเดียวก็เกินพอแล้ว
iPAtS
หมายความว่า จันทรากับสุริยันจะมอดแสงแล้ว??? จะมีใครรู้บ้างไหมว่า เริ่มเห็นอนาคตของ SIPA ไม่ค่อยรุ่งมาซักพักแล้ว ตั้งแต่ที่ศูนย์ที่ต่างจังหวัดจ่ายเงินเดือนให้พนักงานช้าเป็นอาทิตย์ร่วมทั้งทั้งเงินที่สนับสนุน SW house ด้วย จนทำให้บางที่สายป่านแทบขาด เมื่อก่อนเคยเสียดายที่จะมีข่าวยุบ ICT แต่ตอนนี้คงดีใจแทนแล้วแหละ
อย่าหวังอะไรกับภาครัฐเลย ต้องช่วยกันทำ open source ภาคประชาชน กันต่อไป
jittat - สั่งปิดนี่ก็ไม่มีอำนาจ ไอ้ favicon.ico not found นี่ก็ไม่มีอำนาจเหมือนกันครับ
กระทรวงนี้เค้าตั้งขึ้นมาเพื่อไม่ให้มีอำนาจ (แต่ทำทุกอย่างที่ไม่มีอำนาจนั่นแหละ...) ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
กระทรวงบล็อกเว็บ
ตรงตามหน้าที่ดี
บอกตามตรงว่านับถือท่าน ศ.ดร.สิทธิชัย มาก เพราะท่านเคยเป็นอธิการที่ลาดกระบังมาก่อน เป็นคนดีนะ เก่ง และก็เป็นที่รักของอ. และ นศ. แต่รู้สึกพอท่านมารับตำแหน่งนี้แล้วจะมีหลายๆคำพูดให้รู้สึกขัดใจเหลือเกิน
จริงๆทำตามที่ท่านบอกว่าจะทำแค่ 2 เรื่องใหญ่ๆให้จบก็พอมั้งครับ 1. สะสาง Smart Card 2. ปัดกวาดกระทรวงของท่านเอง
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ผมคิดว่าใน thesis ที่แกทำ ดร. คงไม่มี citation หรือ bibliography เพราะในมุมมองของแก ความรู้ทุกอย่างไม่จำเป็นต้องต่อยอดมาละมั้ง
(ขอโทษด้วยถ้าแรงไป แต่ถ้าเปลี่ยนคำว่า source code ในคำสัมภาษณ์เป็น paper ผมก็แปลได้ประมาณนี้)
ประโยคนี้เป็นจริง "ตั้งครึ่งนึง" โครงการโอเพนซอร์สส่วนใหญ่ถูสร้างขึ้นมาเล่นๆ โดยนักศึกษาคนเดียว แล้วก้เลิกทำไปเมื่อถึงเวลาหนึ่ง ถ้านับตามจำนวนโครงการ
แต่คงต้องให้ใครช่วยหาหนังสือไปให้ท่าน รมต. (ซึ่งมีตำแหน่งทางวิชาการถึง รศ.ดร.) ไปอ่านทีว่าโลกนี้ยังมี MySQL, Firefox, OpenOffice, Joomla (ซึ่งใช้ในวงการซอฟต์แวร์บ้านเราเยอะมาก), PHP และซอฟต์แวร์อีก "นับไม่ถ้วน" ที่เป็นเพียง "ส่วนน้อย" ของโครงการโอเพนซอร์สทั้งโลก
ในฐานะนักเขียน Blognone ทำไมเราไม่เก็บเงินกันนะ????
เข้าใจว่าท่าน รมต. ไม่ใช่คน "ทำซอฟต์แวร์" โดยตรง มันคงไม่ต่างอะไรจากการที่ผมไม่รู้ว่า เสาไฟฟ้าแรงสูงเค้าทำกันยังไง อุตสาหกรรมดาวเทียมมีคุณค่าต่อประเทศแค่ไหน
แต่ก็นะ..... ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
บทสรุปที่ได้จากวิสัยทัศน์ของ รมต. ท่านนี้คือท่านไม่ควรเข้าไปยุ่งกับโครงการคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะร้อยเหรียญหรือพันเหรียญทั้งนั้น เพราะความไม่เข้าใจ และความไม่เชี่ยวชาญของท่านเอง หรือทีมงานที่ปรึกษาของท่าน (ถ้ามี) ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
โล่งอกไปที่ NECTEC ยังอยู่กับกระทรวงวิทย์ ไม่งั้นอนาคตคงหวาดเสียวน่าดู
Kerberos --- โล่งอกไปที่ NECTEC ยังอยู่กับกระทรวงวิทย์ ไม่งั้นอนาคตคงหวาดเสียวน่าดู
---------------------------------------------------------- ตอนนี้เนคเทคเองก้อมีอะไรภายในเปลี่ยนกันเยอะแยะเลย อย่าเพิ่งโล่งอกเลยค่ะ เราเองยังปวดหัวเลย
ขออีกอัน เด็ดจริงๆ ท่านรัฐมนตรี
ของแสดงความยินดีกับประเทศไทย ที่แผนการพัฒนาประเทศจะขึ้นกับความไม่ชอบส่วนบุคคล
ไชโยกันหน่อย.... ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
อายชาวบ้าน
lew - ไชโย!!!
มองอีกแง่นึง ถ้าเทียบ Opensource กับ Embed Software ... ผมว่า Embed ควรได้รับการสนับสนุนมากกว่านะครับ เพราะเครื่องจักรในไทยสั่งจากต่างประเทศเยอะมาก แล้วคนที่มีความรู้นี่ ... ขาดแคลนเลยครับ (บ้านผมเป็นโรงงาน)
ก็ไม่ได้บอกว่า Opensource ไม่สำคัญ แต่ถ้าสมมุติมีเวลา 1 ปี แล้วต้องเลือกสิ่งที่จะเน้นให้ความสำคัญ ... ผมเลือก Embed
... แต่มาพูดว่า Opensource ไม่สำคัญเลยนี่ก็เกินไปนะ ...
ปล. lew ไอ้ favicon.ico นี่หมายถึงอะไร? เกี่ยวอะไรกับ drupal รึเปล่า?
----------------------- http://www.seasandsong.com/
รมต.กบในกะลา (ผมอาจจะว่าแรงไป แต่ก็ไม่รู้จะใช้คำไหนดี คำนี้ล่ะตรงที่สุด)
panuta - ผมเข้าใจนะ ในฐานะเด็กทำฮาร์ดแวร์เป็นโปรเจคจบมาก่อน Embedded บ้านเรายังขาดแคลน และการพัฒนาจะได้ประโยชน์โดยตรงต่อประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
แต่คนระดับรัฐมนตรีอยู่ดีๆ ออกมาพูดว่าโอเพนซอร์สไม่สำคัญ ท่านหมายถึงว่าท่านสามารถหาเงินมาซื้อ MS Windows/MS Office มาแจกโรงเรียนแบบถูกลิชสิทธิ์ไปได้ตลอด? ท่านแน่ใจว่าภาคเอกชนจ่ายเงินซื้อซอฟต์แวร์ถูกลิขสิทธิ์กันทั้งประเทศเมื่อใหร่ ประเทศชาติก็ไม่เป้นไรเพราะเรารวยพอ?
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ดีนะ ใครอยากให้โลกไอทีบ้านเราเจริญก็ไปสมัครงานกับไมโครซอฟท์เอา ได้เงินด้วย ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
"คลื่นใต้น้ำ" ถูกก่อขึ้นอีกแห่งแล้ว ด้วยคำพูดของ รมว. เองแท้ๆ
ปล. เพิ่มเติมลิงก์เรื่อง OLPC ครับ
รมต.คนใหม่มีอีเมลล์รึเปล่า? ถ้าใครรู้อีเมลล์เค้ารบกวนเอามาเผยแพร่ด้วยครับ
droid - "โดยส่วนตัว" แล้วท่านรัฐมนตรีอาจจะคิดว่าอีเมลไม่มีประโยชน์ :P ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
mk -
ประโยคนี้ได้ใจมาก
lew - ไชโย ! ด้วย
paunta - เรื่อง favicon.ico not found เป็นเรื่องของการพยายามกลบเรื่องบล็อคเว็บให้ดูเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค เพราะจริงๆ ถ้าหาไอ้นี่ไม่เจอมันก็ยังแสดงหน้าเว็บต่อได้ (ไม่รู้จักเปลี่ยนเป็น error 404)
We need to learn to forgive but not forget...
กระทรวงนี้อาถรรพ์จริงๆ ได้ รมต มาแต่ล่ะคน - -" ------------------------------------------------- My WebBlog
แล้วชาว blognone คิดว่าใครควรจะเป็น รมต. ICT ครับ ทำ poll เลยดีกว่า พี่ mk บอกก่อนว่าผมไม่รู้จักเลยซักคนก็เลยอยากได้ความรู้ไว้บ้างว่าใครเหมาะสมกับ รมต. ICT ในปัจจุบันนี้
ชอบ ๆ การเมืองเป็นเรื่องของทุกคนจริง ๆ
Halogenmaster - คุณเจมส์ใน SIPA ดีมะ? (แกออกไปรึยังหว่า)
We need to learn to forgive but not forget...
กำลังจะ quote เรื่อง ebook เหมือนพี่ลิ่วพอดีเลย
ส่วนเรื่อง embedded หรือเรื่อง hw อื่นๆ ผมเห็นว่า opensource ในด้านนี้ก็มีไม่น้อยเหมือนกันนะทั้ง hw และ sw
รมต. คงยังไม่รู้ว่าเค้าทำ opensource บน hw กันด้วย
iPAtS
DrRider -- ถ้ากระทรวงเปลี่ยนเป็น index.html not found จะดูสมจริงกว่านี้มั๊ยเนี่ย หึหึ
เรื่องคัดค้ายเซนเซอร์.. พูดตามตรง ถึงคนที่ผมรู้จักจะโดนตัดต่อไปลงอย่างนั้น ผมก็เฉยๆ อ่ะ ไม่ใช่เห็นแกตัวหรอกนะ.. แต่มันเหมือนว่าผมโดนรถชน แล้วไปประท้วงห้ามรถวิ่งเนี่ย มันไม่ make sense เลยซักนิดเดียว
iPAtS
opencores.org ให้ รมว. ดูหน่อยเป็นไรว่า hw ก็เป็น opensource ได้
เอ...เรื่องชื่อตำแหน่ง ควรจะเป็น รมว..ไม่ใช่เหรอ
คุณเจมส์ผมว่าแกดีนะ เห็นออกสื่อต่างๆประชาสัมพันธ์บ่อยๆ เดี๋ยวต้องรอความเห็นคนในซิป้าเพิ่มเติ่มครับ
อ่านข่าวแล้วแทบตกเก้าอี้ เฮ้ออ ถ้าเงียบไว้ก็คง ไม่มีใครว่าไรมั๊ง ขอสนับสนุนฉายา "รมต. กบในกะลา" ไม่เหมือนคนแถวๆ ฮ่องกง (หรืออยู่บาหลีแล้วหว่า) รายนั้น ยังไม่มีอะไรหลุดมาซักอย่าง
Kerberos - ขออภัยครับ แก้แล้ว (คือรู้สึกว่ารัฐมนตรี กับรัฐมนตรีว่าการมันไม่ต่างกันน่ะ ก็เลยเขียน รมต. :P)
We need to learn to forgive but not forget...
Halogenmaster: อันนี้ผมก็คงตอบไม่ได้ครับ
แต่ได้ข้อสรุปมาอย่างนึงว่าจะดีไม่ดีแทบไม่ขึ้นกับพื้นหลังวิชาชีพเลย อย่างคนนี้ตอนตั้งใหม่ๆ ผมก็ดีใจคิดว่าได้นักวิชาการในแวดวงมาเป็น แต่ดูอย่างหมอเลี๊ยบ ขนาดแกเป็นหมอก็ยังมีผลงานเยอะแยะ ขยัน คือถึงไม่รู้เรื่องก็ยังตั้งใจหาความรู้เพิ่มเติม ทำนองเนี้ย
drrider: ในเชิงบริหาร ออกไปแล้วครับ แต่ก็ยังมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาอยู่
กร๊ากกก ผมกลับชอบ รมว คนนี้จริงๆ
อ่านแล้วหมดแรง จริง ๆ
ไม่รู้จะพูดยังไงดี พูดไม่ออก...
เพิ่งมีเวลาเข้าเว็บอ่านข่าว จะ quote เรื่อง e-book เหมือนกัน ^^"
แบบนี้ไม่ไหวแฮะ ไม่สนับสนุนก็ไม่ว่า เพราะที่ผ่านมาก็ไม่ได้สนับสนุนอะไรเป็นเรื่องเป็นราวอยู่แล้ว แต่มาพูดแบบเข้าใจผิด ๆ อย่างนี้มันออกจะเกินไป
ไม่ใช่เรื่องบ้าอำนาจ หรือล้างบางอำนาจเก่า แต่กลายเป็นเรื่องของวิสัยทัศน์ซะงั้นแหละ
LinkedIn
ลองทำเป็นจดหมายเปิดผนึกแล้วส่งให้แกไหมละ อย่างน้อยถ้าแกไม่ทำ แต่แกก็ได้รู้ข้อมูลและความสำคัญไปแล้วทีหลังจะได้ด่าได้เต็มปากเต็มคำ
ยัดเรื่อง OLPC ไปด้วยเผื่อแกจะได้เข้าใจมันบ้าง แต่บอกตรงๆ ว่าโคตรอายเลยว่ะมี รมต.ยังงี้
กลายเป็น talk of the town อย่างรวดเร็ว
onedd.net
ว่าง ๆ เชิญแกมาดูงานที่โรงงานผมหน่อย จะได้ตาสว่างซะทีว่าไอ้เงินลงทุนผ่าน BOI ติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศเมื่อปีที่แล้วเนี่ยใช้แต่โอเพนซอร์สล้วน ๆ แล้วมูลค่าสินค้าที่ผลิตก็ติดอันดับ 1 ในสิบของประเทศ นำเงินเข้าประเทศ และได้ภาษีทั้งทางตรงและทางอ้อมมหาศาล
แบบนี้ยังจะบอกว่า มองไม่เห็นประโยชน์อีกหรือเปล่า
ผมเห็นด้วยกับแนวทางการยื่นหนังสือ ครับ ตามที่ dean4j เสนอครับ โดยส่วนตัวผมเลิกหวังกับนโยบาย Opensource ของรัฐมานานแล้ว จะพูดออกมาหรือไม่พูด ผมก็ไม่เห็นว่ารัฐบาลจะสนใน เข้าใจ opensource อย่างดีก็เอาไปขู่ให้ MS ลดราคาก็เท่านั้นเอง ประโยชน์ที่รัฐมองเห็นมีเท่านั้นจริงๆ ประเทศนี้ชอบอะไรที่มันง่ายๆ ยากหน่อยไม่เอา ประเทศนี้ชอบให้ทุกคนเหมือนกัน คิดเหมือนกัน เรียนเหมือนกัน ใช้โปรแกรมเหมือนกัน กินเหมือนกัน เป็นพ่อค้าทั้งประเทศเหมือนกัน ประเทศนี้ไม่นิยมความแตกต่าง คิดว่าความแตกต่างคือความแตกแยก ใครที่ทำตัวไม่หมือนคนอื่นคือคนโง่ แล้ววันนึงก็มาโอดครวญว่า เราไม่มีนวัตกรรมกันเลยนะ ทำไมเด็กไทยไม่ทำอะไรที่เก่งๆ ดังๆได้เหมือน google , youtube นะ ก็มันที่มันได้รางวัลการใช้ word ยอดเยี่ยม การใช้ excel เก่งสุดในโลกนั่นไง เอา cert ไปแช่น้ำมาแจกกันดื่มสิครับ เด็กจะได้เก่งๆ
อ่านเรื่อง opensource แล้วเหนื่อยใจ
อ่านเรื่อง e-book แล้วแทบจะสำลักน้ำตาย
อ่านแล้วก็งงดีครับ รมต. (กระทรวงนี้ไม่มี รมช. นี่เลยขอใช้คำกลางๆ แล้วกัน)
จริงๆ แล้วกระทรวงนี้มีก็เหมือนไม่มีแหละ เพราะดูแล้วไม่ค่อยเห็นหน้าที่ภาระกิจเท่าไร นอกจากไปตัดเอา (อดีต) รัฐวิสาหกิจมาจากกระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร (ชื่อเดิม) ไปดึงองค์การมหาชนบางแห่งมาควบคุม นอกนั้นดูไปดูมา มันกระทรวงวัฒนธรรมหรือเปล่านี่ มาสั่งห้ามเล่นเกมส์ดึก สั่งดูดรูปอย่างว่าจากร้านมือถือ ฯลฯ
สรุปคือ หา Function ของกระทรวงไม่เจอเลย ว่าตกลงคุณเอาไว้ใช้ทำอะไรกันแน่
opensource สำหรับคนธรรมดามัน "ล้ำ" เกินไปจริงๆครับ เอาง่ายๆ user ทั่วๆไป ที่ใช้คอมพิวเตอร์ได้ดี ยังสงสัยเลยว่า จะมีคนมาช่วยกันเขียนโปรแกรมกันโดยไม่ได้อะไรตอบแทนไปทำไม
loptar: ไม่ช่วยอะไรเลย ก็ยังดีกว่าสาดโคลนใส่นะ
ezy: "สรุปคือ หา Function ของกระทรวงไม่เจอเลย ว่าตกลงคุณเอาไว้ใช้ทำอะไรกันแน่"
- เอาไว้บล็อคเว็บครับ
We need to learn to forgive but not forget...
thornz - ที่มันล้ำเพราะเราซื้อ M$ ได้ทั้งชุดในราคา 150
ไว้วันหนึ่งมันกลายเป้นชุดละ 15000 ล่ะถึงตอนนั้นคงไม่ล้ำเท่าใหร่ ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ผมว่า การสนับสนุน opensource ในรัฐบาลยุคใหนๆ ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกครับ ก่อนโน้น บอกว่าสนับสนุน แต่ก็ไม่ได้มีอะไรออกมา เป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่ มาตอนนี้ ประกาศชัดเจน ว่าไม่สนับสนุนแน่ๆ ผมว่าก็ดีนะ จะได้เลิกหวังลมๆแล้งๆกันซะที ถ้าประชาชน หรือนักพัฒนา อยากจะทำอะไรเป็น opensource หรือสนับสนุน opensource ตัวไหน ก็ทำกันเองไปเลย หรือรวมกลุ่มกันทำก็ได้ ไม่ต้องไปคอยภาครัฐหรอก เสียเวลาครับ วัยรุ่นเซ็งปล่าวๆ
ผมว่าลองถามไปที่ มหาวิทยาลัยมหานคร ดีไหมครับ เขาเป็นอธิการที่นั่น แต่ผมเข้าใจว่า คนผู้นั่นไม่ค่อยจะเข้าใจอะไรเท่าไหร่ ในงานและสังคม opensource หรือว่าเราจะนัดกันไปส่งจดหมายเปิดผนึกกันดีไหมครับ เอาจริงๆนะ แล้วถ้ามองไม่เห็นประโยนช์ จะได้พ่วงแว่นตาอันใหม่ไปให้ด้วย
เสริมอีกนิด webmail https://owa.mict.go.th/exchange/ พอจะเดาได้ว่าเขาเป็นคนมี อัตตา กับ หน้าต่าง สายตรง http://w3.mict.go.th/hyro/Ictphone.aspx ยังเป็นชื่อเก่าอยู่เลย
น่าจะถามท่านเรื่อง Java
อ้าวเด็กมหานคร ว่าไง จะเดินขบวนขับไล่เมื่อไหร่บอก
นี่จะเป็นหน้าประวัติศาสตร์เลยนะครับเนี่ย วันแรกก็สี่สิบกว่าความเห็นไปแล้ว
ขำความเห็นพี่ลิ่วโครตๆ แต่ที่ว่ามันใช้ยาก ก็ถูกครับ แต่ที่พี่ลิ่วบอกว่า เพราะไอ้แผ่นละร้อยห้าสิบนี่ก็ยิ่งถูก
ถ้ามีการสนับสนุนมากกว่านี้ มันก็คงใช้ง่ายขึ้นเยอะ กว่าจะเห็นค่า ก็คงต้องรอให้M$ชุดละหมื่นห้าก่อน...
ถ้าบอกว่าทำตรงนี้ไม่ได้เงิน ทำไมรัฐไม่สนับสนุนเงินแทนล่ะ เอาเงินที่ซื้อ M$ ที่ใช้ในราชการทั่วประเทศ ไปให้ทีมที่จะพัฒนาโอเพ่นซอฟต์ได้ น่าจะดูแล้ว ยืนยาวกว่ากันเยอะ
ป.ล.คุณ dome สุดยอด ป.ล.2 พี่mk เจอข่าวแบบว่า.....สองเรื่องในวันติดๆ กันเลยเหอๆ
ผมลอง check ข่าวมา ได้ข่าวมาว่า รมต คนนี้ไม่กินเส้นกับ nectec โดยเฉพาะคนที่มาพูดให้ในงาน btd2.0 อ่ะครับ
ส่วนอาจารย์ผมเองบอกว่าอย่าไปยื่นจดหมายอะไรเลย เขาเป็นคนหัว(บาง)แข็งมากๆๆ
เรื่องยื่นจดหมายผมว่าถ้าทำได้ก็น่าจะดีนะครับ ถึงเขาจะหัวแข็งไม่ยอมรับ แต่อย่างน้อยก็ประกาศให้คนอื่นได้รู้บ้างว่าอะไรเป็นอะไร
pittaya.com
และแล้วก็ไปอยู่ในห้องราชดำเนินจนได้ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4879400/P4879400.html
เจริญล่ะ ประเทศไทย คิดได้ไง เจ็บใจ . . . . .
ตอนแรกๆผมก็ชอบรัฐบาลชุดนี้นะ แต่พอให้คนแบบนี้มาบริหารงานนี้แทบอยากเปลี่ยนคำพูดเลย
อีกอย่าง บอกตรงๆความรู้ที่ผมมีอยู่ได้ทุกวันนี้อ่ะ ก็มาจาก E-Book+Internet เกือบ 70 % เลยที่เหลือก็หนังสือตามท้องตลาด
ผมก็งง ว่าทำไมเข้าเว็บบอร์ดของภาคคอมไม่ได้อยู่ตั้งนาน ขึ้นแต่ favicon.ico not found ก็งงอยู่ว่า favicon บ้าอะไรมีผลกับการเปิดเว็บด้วย พึ่งมารู้วันนี้ว่าเป็นผลงานของกระทรวงบล๊อคเว็บนี่เอง
ถ้าเค้าถามว่า มีโอเพ่นซอร์สโปรเจ็คสัญชาติไทยตัวไหนบ้างที่มัน work เราจะตอบเค้าว่าอะไร?
ผมได้ยินมาว่า กระทรวงนี้ตั้งมาเพื่ออนุมัติงบบางโครงการให้มีช่องทำบางอย่างได้สะดวกขึ้น พอได้ผลประโยชน์กันแล้วก็เผ่น ฟังตอนแรกก็คิดว่า ไม่ใช่มั๊ง
แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังหาคำตอบแบบตรงไปตรงมาไม่ได้ว่า มันตั้งมาทำไม มีแต่คำตอบแบบอ้อมไปอ้อมมา
แล้วมหานครจะเลิกสอน Java หรือเปล่าเนี่ย
deans4j: ตอบไปว่าควรเปลี่ยนคำถามใหม่เป็น การที่คนไทยร่วมทำซอฟต์แวร์เสรี ที่ผ่านมีประโยชน์อะไรกับคนไทย แค่ไหน
เพราะในแง่ของเศรษฐกิจพอเพียง เน้นให้ประชาชนผาสุก ไม่ใช่เพิ่มความลุ่มหลงในชาติของตน และปิดกั้นความร่วมมือจากสังคมโลก
เหตุใด เขาจึงคิดเช่นนี้ แต่อย่างว่า คนทัศนะวิศัยต่ำย่อมทำอะไรแบบทัศนะวิสัยต่ำ คนที่มองแต่ผลประโยชน์ก็จะทำอะไรที่เห็นแต่ผลประโยชน์
ชอบครับความคิดแบบนี้ ถ้าให้ดีนะครับ ควรเน้นนักศึกษาไปพัฒนาการกินหญ้าแทนการอ่าน e-book แล้วอะไรดีใน opensource ก็เอาไว้ใช้ภายในคนในวงการก็พอ รวยก็อย่าไปบอกใคร หุหุ
-- JavaDevil -- ปีศาจน้อย --
deans4j - ทำไมต้องสัญชาติไทย? ทำไมเราต้องไปทำเองตั้งแต่แรก? เพื่อความภูมิใจในความเป็นไทย?
ถ้าตอบคำถามนี้ในายตาของผม ผมจะตอบว่าไม่มี แต่มันมีซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สจำนวน "มหาศาล" ที่เรานำมาใช้งาน ดัดแปลง กับการใช้งานพื้นฐาน (หรือเกินพื้นฐาน) ได้ ซอฟต์แวร์เหล่านี้มันสามารถนำมาใช้ช่วย "ประกัน" ความสามารถในการเข้าถึงทรัพยากรไอซีทีของประชาชนชาวไทยได้
จะเป็นอย่างไรถ้าเราไม่มีโอเพนซอร์สเลย ถ้าผมเป็นบริษัทขนาดกลาง และต้องการทำเว็บ มีระบบเมลของตัวเอง สร้างระบบสื่อสารภายใน นอกจากค่าเครื่องประมาณค่อนแสนแล้ว ผมต้องจ่ายค่า Win2003 ประมาณ 3-50000 บาท ต้องมี Portal เช่น BEA ฐานข้อมูลเป็น Oracle/MS Sql ต้องจ้างบริษัทมา Customize ปริมาณเงินที่ผมจ่ายออกไปจะไหลออกสู่ต่างประเทศในอัตราเกิน 80%
แต่ในวันนี้เครื่องจำนวนมากใช้ Linux/FreeBSD ร่วมกับ Joomla ฐานข้อมูลเป็น MySQL เงินที่เพิ่มมาเป้นค่า Customize เงินทั้งหมดที่จะรั่วไหลออกไปต่างประเทศเป็นค่า HW เป็นหลัก
วันนี้เราถูกกดดันเรื่องลิขสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง อีกนานแค่ไหนเราถึงจะเริ่มได้ยินข่าว ร้านทำนามบัตรตามมุมถนนโดน BSA ฟ้องร้อง เมื่อนั้นธุรกิจทุกส่วนต้องจ่ายเงินซื้อซอฟต์แวร์กันมากแค่ไหน เราต้องจ่ายค่าบำรุงรักษาไปชั่วกัปชั่วกัลป์อย่างนั้นหรือ? เราจะปล่อยให้เงินส่วนนี้รั่วออกนอกประเทศได้กันอีกซักกี่ปี? ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
lew: ต้องเป็นสัญชาติไทย(ล้วนๆ)ไว้เพื่อแก้ปมด้อย ปลุกอีโก้ และสร้างภาพไงครับ
เรื่องสัญชาติไทย ผมก็ว่าไม่จำเป็น สมมุตติว่าผมอยากกินข้าวผัด ผมต้องทำนาเอง เลี้ยงหมูเอง ปลูกหอม ปลูกกระเีทียมเอง เลี้ยงไก่เพื่อเอาไข่ หรือเปล่า (กว่าจะได้กินสงสัยเป็นปี) มันไม่จำเป็นที่เราจะต้องไปทำอะไรตั้งแต่เริ่มแรกทั้งหมด เราก็แค่เอาของที่คนอื่นเค้าทำ ๆ กันอยู่แล้วมาผสมผสาน ปรับนู่นนิด ปรับนี่หน่อย ให้มันตรงกับสิ่งที่เราต้องการก็พอแล้ว นอกเสียจากว่ามันไม่มีจริง ๆ หรือมันไม่เป็นที่น่าพอใจจริง ๆ ก็ค่อยไปทำเอาเอง
และอีกอย่างมันดูเหมือนแบ่งแยก จะมาแยกทำไม แยกไทย ลาว ฝรั่ง เขมร แขก เพราะยังไงเราก็ืเป็นคนเหมือนกันอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นชาติไหนถ้าทำดีผมก็ชื่นชมและนับถือ แต่ถ้าเป็นคนไทยด้วยกันแล้วทำเลว ๆ เนี่ยผมก็ไม่ชอบอยู่ดี ยกตัวอย่างเวลามีแข่งขันกีฬาที่ประเทศไทย ถ้าต่อยมวยเนี่ยมันโกงกันชัด ๆ ถึงแม้บางคนจะบอกว่าทีใครทีมัน อย่าไปต่อยที่ประเทศเค้าบ้างก็แล้วกัน มันก็ทุเรศอยู่ดี จะเอามาทำไมเจ้าเหรียญทองแบบโกงเค้ามาเนี่ย
พอดีกว่า ไปกันใหญ่แล้ว สรุปก็คือมันไม่จำเป็นต้องเป็นสัญชาติไทย
ป.ล. มิสเตอร์ดีนเริ่มพาออกทะเลอีกแล้ว
OHM: ออกนอกทะเลหน่อยก็ดี บางทีอาจจะมีคนอยากถามแบบนั้นจริงๆ
มีอะไรผิดพลาดรึเปล่าครับเนี่ย
อะไรเป็นสาเหตุให้การมองเห็นสั้นและแคบขนาดนั้น
คำพูดห่วย ๆ จากคนสายตาสั้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ................แหม ทำไปได้
โมโหเรื่อง e-Book อยากรู้จังว่ามีผลประโยชน์อะไรกับสำนึกพิมพ์อะไรหรือเปล่า ส่วนตัวผมคิดว่า e-Book จะทำให้คนไทยสามารถที่จะเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้มากขึ้นอีกเยอะ ขนาดเรื่องย่อสี่แผ่นดินในอินเตอร์เน็ทยังหาแทบไม่ได้ อนาคตสงสัยอาจจะต้องหนีไปเรียนแต่วรรณกรรมฝรั่ง
@TonsTweetings
"อีเมลล์มันเรื่องของศัตวรรษที่แล้ว!" "เดี๋ยวนี้เขาใช้ MSN กัน"
ผมว่าท่านน่าจะเล่น Camfrog แล้วนะ... (เห็นหน้าเห็นตากันไปเลย)
lew, veer - ผมชูประเด็นนี้เพราะว่า ผมพยายามคิดว่าเค้าคิดอะไรอยู่ ถ้าเค้าคิดง่ายๆ ว่าที่ผ่านมาลงทุนกับ ทะเล จันทรา บลาๆๆ กลับไม่ได้รับการตอบรับจากคนไทยเท่าไหร่ ก็ไม่รู้จะสนับสนุนไปทำไม
ใครจะไปรู้คนประเภทคิดได้อย่างนี้อาจจะคิดได้แค่นี้จริงๆ ก็ได้
ปล. ไม่ได้พาออกทะเลซะหน่อย แหมแค่เค้าบอกว่า ถ้าอยากรู้ว่าคนปัญญาอ่อนคิดอะไร ทำไมต้องพูด ทำอะไรแปลกๆ ก็ต้องลองมาปัญญาอ่อนด้วยกันถึงจะเข้าใจ
ผมว่าเค้าคงมองว่าหนึ่งปีนี้คงทำอะไรไ่ม่ได้มาก และโปรเจค open source ของคนไทยที่ใช้ประโยชน์ได้จริงๆ ก็ยังไม่ค่อยมีนัก (เท่าที่รู้ ไ่ม่มีเลย) เค้าเลยไปทำอย่างอื่นแทน
เราใช้แต่ open source จากเมืองนอก
แต่อย่างไรก็แล้วแต่ผมก็ไม่เห็นด้วยที่ท่านพูดเช่นนี้ อย่างน้อยท่านควรจะสนับสนุนให้รู้จักใช้ open source เสียก่อน แล้วค่อยสนับสนุนการพัฒนาอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่ตัดทิ้งแบบนี้เลย
-------------------------------------------------------- เวบของเค้า...และเพินที่เค้ารัก www.mooling.com
deans4j - เห็นด้วย คงต้องถามแบบนี้แหงๆ กร๊าก
We need to learn to forgive but not forget...
เขาเป็นระดับรัฐมนตรีครับ ถ้าเขาไม่แน่จริงคงเป็นรัฐมนตรีไม่ได้ ผมเชื่อว่าเขาย่อมคิดอะไรได้ลึกซึ้งและสลับซับซ้อนกว่าคนธรรมดาอย่างเราอยู่แล้ว
ระดับรัฐมนตรี ดีดลูกคิดรางแก้ว คุยกันเรื่องเงิน เก่งกว่าพวกเราอีก เขาคงคิดแล้วว่าการล้มทิ้ง กับการทำต่อ อันไหนมันจะคุ้มค่ากว่ากัน
แต่ในฐานะนักพัฒนาซอฟต์แวร์เช่นทุกคนใน blognone นี้ ผมเห็นว่าหากเรารู้สึกว่าทัศนคติของเราไม่ตรงกันกับผู้ยึดกุมอำนาจรัฐ เราก็สามารถเคลื่อนไหวได้ในกรอบแห่งกฎหมายที่มีอยู่ โดยอาจจะให้คุณ LewCPE และคุณ MK ซึ่งเป็นผู้ที่มีเครดิตที่สุดใน blognone นี้ ออกหน้าล่ารายชื่อพวกเราส่งให้กับทาง ICT เพื่อขอให้ทาง ICT พิจารณาในหลาย ๆ ประเด็นที่เอื้อประโยชน์ต่อสังคม opensource ของพวกเรา
ผมถือว่าการส่งเสริม opensource ไม่ใช่ภัยคุกคามหรือบั่นทอนความมั่นคงของชาติ หากมีการล่ารายชื่อจริง ผมยินดีลงลายมือชื่อด้วยหนึ่งเสียงครับ
คนอย่างพวกเราบางครั้งก็คงต้องเคลื่อนไหวในระดับนึง เพื่อให้ผู้มีอำนาจรัฐรู้ถึงการมีตัวตนของพวกเราเหมือนกันครับ โดยอยู่ในขอบเขตแห่งกฎหมายที่มี
----- http://www.peetai.com | เว๊ปบล็อกที่โม้แต่เรื่อง Software as a Service.
ก็แค่ไม่ชอบวิสัยทัศน์เขานี่ครับ ทำบุญกรวดน้ำไปให้เขาเยอะๆ
เราควรทำอะไร ก็ทำของเราต่อไป ดันให้ Opensource เป็นที่รู้จัก และยอมรับของคนทั่วไปดีกว่า...
Open Source ไม่ควรมีสัญชาติ (หรือเปล่า?)
สมัยทำร้านเน็ตด้วย Linux ยุคแรกๆ ผมใช้ Mandrake ... ได้พบลูกค้าชาวฝรั่งเศสที่เขารู้จัก Linux ผมบอกว่า Mandrake เป็น Linux ของฝรั่งเศส คิดว่าเขาจะภูมิใจ แต่เขากลับตอบผมว่า
"Linux ไม่ใช่ของประเทศใดๆ แต่เป็นของโลก"
ประเด็นที่ว่า เขาเป็นถึง "ผู้บริหาร" ระดับนั้น เขาคงมีความคิดขนาดโน้นนี้ ผมไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ เพราะการได้รับตำแหน่งครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากกระบวนการคัดสรรโดยกลุ่มผู้ชำนาญการเฉพาะด้าน
เปรียบเทียบง่ายๆ บางคนที่ได้ตำแหน่งใหญ่โตในบางบริษัท ไม่ใช่เพราะเขาเก่งหรือชำนาญในเรื่องใดเป็นพิเศษ แต่อาจเป็นเพราะเขามี "สิ่งอื่น" ต่างหาก (เช่น backup, connection, ลิ้น ฯลฯ)
ถ้าหากท่านผู้บริหารที่เรากำลังกล่าวถึงนี้ เคยได้คลุกคลีกับสิ่งที่ท่านกล่าวถึงจริงๆ อาจจะทำให้ผมรู้สึกได้ว่า "พอจะฟังขึ้น"
"คนอย่างพวกเราบางครั้งก็คงต้องเคลื่อนไหวในระดับนึง เพื่อให้ผู้มีอำนาจรัฐรู้ถึงการมีตัวตนของพวกเราเหมือนกันครับ โดยอยู่ในขอบเขตแห่งกฎหมายที่มี" << ตรงนี้เห็นด้วยสุดๆ ไปเลยครับ :)
......
พี่ไท้: บางทีคนเก่งคนดี ก็ไม่ได้เก่งทุกอย่าง (ทำผิดงาน) หรือแม้แต่อาจจะพลาดได้ (สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง)
รมว.ส่วนมากอาจจะมีอะไรพิเศษ (โกงเก่งพิเศษก็อาจจะมี) แต่ผมก็ไม่มั่นใจนักว่าจะเป็นอย่างนั้นเสมอไป
deans4j: ตอบเพราะคิดว่า ก็อาจจะมีคนถามแบบนั้นจริงๆ
หน่อย SNC:
การเคลื่อนไหวจะเป็นรูปแบบไหนดี
1. ฟ้องร้อง
- ถ้าหากเรื่องที่ลงใน Bangkok Post เป็นจริง ซอฟต์แวร์เสรีดีๆ ก็ไม่ได้มีแต่ linux การพูดว่าซอฟต์แวร์เสรีดีๆ มีแต่ linux ก็อาจจะเข้าข่ายอะไรบางอย่างที่พอจะฟ้องได้
2. เรียกร้องให้ออกมาขอโทษ
- อาจจะใช้เหตุผลเดียวกันกับข้อ 1
ส่วนตัวผมแล้วไม่หมดแรงนะ (กะแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 กันยา)
อันนี้อาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องมีประชาธิปไตย ต้องมีการตรวจสอบ ต้องมีการเลือกตั้งก็ได้ ถึงเลือกตั้งอาจจะไม่ได้คนดีออกมา แม้จะเลือกได้นิดๆหน่อยๆ ก็ดีกว่าเลือกอะไรไม่ได้เลย ก็ได้แต่หวังอีก 11 เดือนข้างหน้า รัฐบาลก็อาจจะไม่สนับสนุน open source software อยู่ดี แต่ว่าก็อาจจะให้เหตุผลที่ดีกว่านี้
ส่วนตัวแล้วก็เห็นด้วยกับคุณ pok ที่เราจะทำแบบภาคประชาชนไป ผมคิดว่าถูกต้องที่สุด แต่ว่าภาคประชาชนก็อาจจะมีการตอบโต้ หรือชี้แจง การให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนหนะ
ผมขอสนับสนุนการเขียนจดหมายเปิดผนึกอีกคนครับ เมื่อสักครู่ได้หันไปถามนักกฏหมายคนข้าง ๆ ซึ่งเคยเขียนจดหมายเปิดผนึกมาแล้วหลายฉบับ ว่าจะร่วมด้วยช่วยกันหรือไม่ เขาบอกว่าเต็มที่เลยครับ ซึ่งเป็นเรื่องดี และ ผมคิดว่าเรื่องนี้มีผลพลอยได้หลายอย่างครับ
จากที่เข้าไปอ่านข่าวจาวาในผู้จัดการ ทำให้ผมพอประเมินได้ว่า คนไทยเข้าใจ OpenSource กันน้อยมาก ๆ หรือแทบไม่เข้าใจเลย ดังนั้น หากเราทำเรื่องนี้ให้เป็น talk of the town ได้จริง ๆ ด้วยการส่ง จม. เปิดผนึกให้สำนักข่าวต่าง ๆ รวมถึงตัว รมว. เองด้วย จะทำให้คนหันมาสนใจ และเข้าใจ OpenSource มากขึ้นครับ
แต่การเขียน จม. เปิดผนึกแบบให้ได้ผลนั้น ต้องส่งแบบ Just in time ครับ คือ มันยังมีประเด็นในหัวข้อข่าวอยู่ คนก็จะให้ความสนใจ หากช้าไป ความสนใจของคนก็จะลดตามลงไปด้วย แล้วมันก็จะไม่ได้ผลครับ
ดังนั้นตอนนี้ผมคิดว่า เราคงไม่ต้องถามแล้วครับว่าจะส่งหรือไม่ เพราะดูเหมือนกับว่าทุกคนจะเห็นด้วย แต่สิ่งที่เราต้องเริ่มทำกันคือ รวบรวมประเด็นที่คิดว่าควรเขียนในจดหมาย และเตรียมยุทธวิธีในการส่ง ว่าควรส่งให้ใครบ้าง ใครเป็นคนเอาไปส่ง ฯลฯ
ผมอาจจะช่วยกระจายข่าวให้กับนักเรียนในเยอรมันอีกแรงหนึ่ง และ/หรือ เขียนโปรแกรมลงชื่อคนที่เห็นด้วยให้ (จริง ๆ มีอยู่แล้วเพราะ ...)
ไม่ทราบว่าคนอื่น ๆ คิดเห็นเป็นประการใดครับ (โดยเฉพาะความคิดเห็นคุณ lew กับ mk จะมีน้ำหนักเป็นพิเศษ เพราะเป็นเจ้าของเวที)
OpenSource สัญชาติไทย ที่เห็นดังๆ และเป็นประโยชน์กับชาวโลก และชาวไทยจริงๆก็มีนะครับ เช่น http://pingpong-abc.sourceforge.net http://hosxp.net
เห็นด้วยที่จะทำจดหมายเปิดผนึกครับ
ส่วนตัวแล้ว คิดว่าการที่รัฐจะไม่สนับสนุน ก็แย่พออยู่แล้ว แต่นี่ยังมาบอกว่าไม่มีประโยชน์อีก ยิ่งทำให้คนเข้าใจคาดเคลื่อนกันไปอีก อย่างนี้พวกเราก็ต้องช่วยกันปรับความเข้าใจกันหล่ะครับ
iPAtS
ถ้าเค้าถามว่า มีโอเพ่นซอร์สโปรเจ็คสัญชาติไทยตัวไหนบ้างที่มัน work เราจะตอบเค้าว่าอะไร?
//
ตอบเค้าว่า LinuxTLE ครับ
ถ้าเค้าบอกว่า "มันไม่เห็น workเลย" เราก็บอกเค้าว่า "ก็เพราะรัฐบาลไม่เคยสนับสนุนมันเลยหนะสิครับ!"
article สำหรับ รศ.ดร.สิทธิชัย โภไคยอุดม
ผมคิดว่าน่าจะเป็นการนี้หากเราทราบข้อมูลของรมวฯ ท่านนี้มากขึ้น ถ้าใครมีข้อมูล (จำเป็นต้องมีแหล่งอ้างอิงที่ ตรวจสอบและเชื่อถือได้) ก็ช่วยกันเข้าไปปรับปรุงหน้าวิกิของรศ.ดร.สิทธิชัย โภไคยอุดมหน่อยนะครับ
เผื่อว่าเราจะได้รู้ปูมหลัง หรือคนสนิทที่อาจจะเป็นคนให้ข้อมูลมา อยากรู้ว่าใครเป็นกุนซือ บริษัทที่เคยทำมาค้าขายด้วย งานวิจัยที่เคยทำ ก็อาจจะเอามาช่วยวิเคราะห์ได้ ว่าทำไมเหตุการณ์ถึงออกมาแบบนี้
ต้องยกตัวอย่างจากชาติอื่นๆมาประกอบ ... ต้องพูดถึงทั้งประเด็นเรื่องการศึกษา การพัฒนาชาติ และธุรกิจ ... อย่าไปพูดประโยชน์แบบลอยๆ เหมือนที่ใส่ๆไปให้มันดูเยอะๆ เอาแค่ 2-3 อย่างที่เข้าจุดอย่างจัง ...
เรื่องให้เค้าออกมาขอโทษ ผมว่าไม่ต้องหรอก ไม่จำเป็น ... ขอโทษยังไงก็ไม่หาย ขอให้ทำดีกว่า ...
จะมีกลุ่มอื่นๆ นอกจากพวกทางสายคอมพิวเตอร์อย่างเราๆ ออกมาช่วยไหมครับ เพราะผมมองว่า แค่กลุ่มเราอย่างเดียวมันไม่ดึงดูดพอ (แล้วในสายตาคนทั่วไปบางคน ก็ชอบมองว่าเป็นคนที่เข้าใจยาก มีโลกส่วนตัว และชอบพูดอะไรไม่รู้เรื่อง)
ถ้าจับประเด็นเรื่องโอกาสทางการศึกษาของเด็กไทย หรือเรื่องความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ SMEs ผมว่าก็จะมีน้ำหนักพอสมควร
... ต้องเข้าใจง่าย เพราะเรามุ่งประโยชน์ที่อยากจะให้คนทั่วๆไปได้รู้จัก OpenSource ไปด้วย ... แก้ความเข้าใจผิดเรื่องของฟรีซะ หาคนที่เก่งในเรื่องการใช้คำพูดมาเป็นคนเขียน ก็น่าจะดี
(เป็นคำแนะนำเล็กๆ ที่คิดว่าอาจจะมีประโยชน์)
----------------------- http://www.seasandsong.com/
อย่างไรก็ตามท่านรมว. ก็คงพูดอย่างระมัดระวังเหมือนกัน เพราะอ่านแล้วก็พอทราบว่าเป็นการพูดถึงในแง่ไม่ดี อย่างเช่น open source software ส่วนมากอาจจะมีค่อยดีเท่าไหร่ มีดีๆไม่กี่ตัว ( แต่ก็ไม่ได้บอกว่าถึงไม่ใช่ open source software ก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน ) แล้วก็พูดในเชิงคำถาม แต่เหมือนไม่ได้ถาม เช่น ถ้าเขียน code ดีๆได้จะแจกทำไม
ก็คงต้องดูดีๆเหมือนกัน
จริงๆ ท่านเป็นคนที่ผมนับถือเหมือนกัน แต่พอเจอข่าวนี้...........
เซ็ง
ขออีกนิด ผมคิดว่าท่านคงไม่เข้าใจในเรื่องของ OpenSource กระมัง จึงออกมาแนวนี้
แต่ถ้ารู้แล้ว แสดงว่าวิสัยทัศน์.........สั้นนนนนน
เบื่อโว้ย ขนาดหมดยุคผูกขาดไปแล้วดันมาเจอคนแบบนี้อีก
เท่าที่ทราบๆ อ.ท่านนี้ก็เป็นที่รู้จักดีมากในแวดวงโทรคมนะ โดยเฉพาะที่มาจากลาดกระบัง ไม่มีใครไม่รู้จักแน่ๆ เพราะเป็นระดับ อ.ของ อ. ไม่แปลกใจเลยว่าทำเห็นเน้น 3G กับ embed จัง งานวิจัยที่ทำก็มีแต่ด้านไฟฟ้าทั้งนั้น เรื่องความรู้ด้านฮาร์ดแวร์ไม่ต้องห่วงเลย แต่ไหงท่านไม่สนใจเรียนรู้ด้านซอร์ฟแวร์ เล่นโยนระเบิดลูกใหญ่เลย
อึ้ง! พูดไม่ออก แค่นี้ละกัน
-- lucky 7
--
ไม่ค่อยประหลาดใจสักเท่าไร กับความเห็นของผู้มีอำนาจในประเทศที่ยังคิดว่า เปาบุ้นจิ้น เป็นภัยกับผู้ชม มากกว่า ดาวพระศุกร์ ;)
เท่าที่อ่านจากเนื้อข่าว การที่ท่าน รมว. พูดถึงซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สเช่นนี้ เราอาจคาดเดาความคิดอ่านของท่านได้เป็นสองแบบ
แบบแรก ท่านไม่รู้จริง ๆ ว่าซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สคืออะไร ท่านเลยพูดไปเรี่อยเปื่อยตามที่ท่านเคยได้ยินได้ฟังมา อีกแบบคือ ท่านรู้อยู่แก่ใจ แต่ท่านทำไขสือเสีย เนื่องจากท่านชังน้ำหน้าคนทำซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส หรือเพราะสาเหตุอื่นใดก็ตาม
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบใดก็ตามย่อมไม่เป็นคุณแก่ท่าน (ในฐานะนักวิชาการ) แน่ แต่สำหรับผมแล้ว มีเหตุให้เชื่อได้น้อยเต็มทีว่าความคิดอ่านของท่านจะเป็นไปตามแบบแรก (แม้ว่าผมจะพบด้วยตัวเองว่าแม้แต่ในวงวิชาการบ้านเราเอง ก็มีนักวิชาการที่เข้าใจถูกต้องเกี่ยวกับซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สน้อยเต็มที) เพราะความคิดอ่านแบบแรกไม่เป็นคุณแก่ท่านในฐานะรัฐมนตรี แต่ความคิดแบบที่สองอาจเป็นคุณแก่ท่านได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
อยากตั้งข้อสังเกตอีกข้อว่า คำแถลงเช่นนี้ ในปัจจุบัน (วันที่ไมโครซอฟท์จูบปากโนเวลล์, ออราเคิลออกแพตช์ลินุกซ์แข่งกับเรดแฮท ฯลฯ) แม้แต่ผู้บริหารบริษัทซอฟต์แวร์เอกสิทธิ์เฉพาะ (proprietary software) ทั้งหลาย ซึ่งถือกันว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงของโอเพนซอร์ส ก็ยังไม่อยู่ในฐานะที่จะพูดโจมตีซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สในลักษณะเช่นนี้ (Fear, uncertainly and doubt) ได้ ผมเลยออกจะสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าท่านไปได้ยาดีอะไรมาจึงพูดได้ถึงขนาดนั้น แถมท่านยังมีแรงเหลือไปดันร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ... เข้าสภานิติบัญญัติฯ (เป็นกฎหมายฉบับแรกของสภาฯ) จนผ่านวาระแรกไปแล้วเมื่อวานนี้ (๑๕ พ.ย.) อีกต่างหาก (ท่านชี้แจงสาเหตุที่ต้องเร่งว่า "อาจเป็นเพราะ[ท่าน]เป็นคนใจร้อน")
สำหรับการแก้ข้อกล่าวหาของท่าน รมว. แต่ละข้อที่มีต่อซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สอย่างหมดจด แนะนำให้อ่านบล็อกพี่เทพ และ หน้า FAQ ของ opensource.org ส่วนเรื่องร่าง พ.ร.บ.ฯ แนะนำให้อ่านรายละเอียดที่ www.prachathai.com ครับ
----- phi.site
ผมออฟไลน์ไป 5-6 ชม. ความเห็นเยอะมากจนอ่านไม่ทันเลยเนี่ย ขอตอบเรื่องเดียวคือจดหมายเปิดผนึกหรือการยื่นหนังสือ
ผม, mk, จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการยื่นจดหมายตามที่มีคนเสนอมาในความเห็นบนๆ
เหตุผลก็คือ คำให้สัมภาษณ์ของ รมต. นั้นสามารถแปลได้ว่า "open source ที่ SIPA สนับสนุน" (NECTEC ไม่เกี่ยวเพราะคนละกระทรวง) ในฐานะที่ผมเคยทำงาน SIPA ดูแลเรื่องนี้โดยตรง (ถึงตอนนี้จะออกมาแล้วก็ตาม) ผมมีอีกบทบาทหนึ่งนอกจาก Blognone reader/writer ที่คนอื่นไม่มี และบทบาทนี้พิเศษกว่า เพราะเป็นคนทำงานตามสายการบังคับบัญชาโดยตรง (SIPA อยู่ใต้รมต. ICT ไม่ต้องผ่านปลัด) สรุปง่ายๆ ว่าผมจะเคลื่อนไหวของผมเองในนาม SIPA/ex-SIPA ซึ่งคิดว่ามีประโยชน์กว่า ส่วนจะทำอะไรนั้นขอปรึกษากับผู้ใหญ่ใน SIPA ก่อนครับ
แต่ไม่ได้แปลว่าผมจะไม่เห็นด้วยกับการยื่นจดหมายครั้งนี้นะ เพียงแต่ชุมชนผู้ใช้โอเพนซอร์สชาวไทย (ไม่อยากให้จำกัดอยู่แค่ Blognone) จะต้องรวมตัวกันและดำเนินการกันเองให้ได้ ถ้าจะทำกันจริงๆ หาผู้นำ ร่างจดหมาย ล่ารายชื่อ (หรืออะไรก็ตาม) Blognone ก็ยินดีจะเป็นสื่อกลางประชาสัมพันธ์ให้อยู่แล้วครับ
ฺย่อหน้าสุดท้ายของ Bangkok Post Database 15 พ.ย. 2549
บางทีด้วยวิสัยทัศน์ที่มีแค่ปีเดียว อาจจะทำได้แค่นั้นก็ได้
:-P
ย้ำ ด้วยวิสัยทัศน์ที่มีแค่ปีเดียว
veer : การเคลื่อนไหวจะเป็นรูปแบบไหนก็เอา แต่ผูกระเบิดกับหมาไม่เอานะ เพราะไม่ถูกกฎหมาย และสงสารหมา (ถึงแม้ว่าผมจะชอบแมวมากกว่าก็เหอะ) :D
open mind ครับงานนี้ เรื่องมันอยู่ที่ "วิสัยทัศน์" ของคนคนเดียว
ที่แปลกคือคนระดับนี้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยสร้าง แต่ชอบทำลาย~
phisite: ผมมองแบบแรกไว้ก่อนครับ ผมมันคนมองโลกในแง่ดี :P
veer - อืม ใช่ครับ ไม่ใช่ศุนย์ แต่ทำให้เป็นลบไปเสียอีก ยิ่งกว่าแย่อีกนะ
ผมเดาเอาว่า ท่านเป็นคนที่วิสัยทัศน์สั้น เห็นแต่เรื่องที่ตัวเองรู้และเข้าใจได้ เรื่องอื่นๆนอกเหนือจาก แวดวงความรู้ของตัวเองแล้ว ไม่เคยใส่ใจ นั่นก็คงพอจะเป็นคำตอบได้ว่า ทำไมออกมาพูดแบบนี้
ทางแก้ก็คงต้องอย่างที่ช่วยกันเสนอมาแหละครับ ทำหนังสือออกไป หาทางให้ถึงหูท่านให้ได้ หาทางให้มันเป็นเรื่องของสังคม การพัฒนาเด็กไทย ด้วยวิถีเศรษฐกิจพอเพียง แต่รัฐมนตรีคนนี้ กำลังทำพัง บางที ท่านอาจจะหันมาฟังบ้าง
เริ่มกันเลยครับ
ท่าน รมต ท่าน...แปลกๆนะ เป็นพ่อค้านานไปหรือเปล่า...
ถ้าจะให้ร่วมลงชื่อ รบกวนขึ้น Sticky บล๊อกใหม่ด้วยนะครับ บล๊อกนี้ยาวเหยียดแล้ว ตามอ่านไม่ไหว :)
ยาวจริงๆ อ่านหมดแล้วเนี่ย
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ลงชื่อตามเว็บไม่มีผลไม่ใช่หรอ มันตรวจสอบไม่ได้
ไปยื่นหนังสือเค้าก็ให้ตัวแทนมารับแล้วก็... จินตนาการเองตามความชอบ
godzilla - ก็ทำจดหมายเปิดผนึกสิ แค่ชี้แจง ไม่ได้โวยวาย ;)
keng จะเปิดหรือปิดผลก็เหมือนกัน รัฐบาลทหารไงก็ทหาร
เสริมอีกนิด ถึง รมว. ไม่ใช่ทหาร แต่นายกฯ ก็ทหารเก่า นายกสั่ง รมว.ก็ต้องทำ ไม่ทำอย่างมากก็ลาออก (กล้าหรือเปล่าไม่รู้) สุดท้าย ก็พายเรือในอ่าง คิดหาทางอื่นในภาคประชาชน น่าจะได้อะไรมากกว่าพึ่งรัฐ
สรุปคือ เราจะแสดงความคิดเห็นกันอย่างเดียว คุยกันเอง โดยที่ไม่ทำอะไรเลย ใช่หรือเปล่าครับ อย่างนี้คนที่ไม่รู้ว่า OpenSource คืออะไร (รวมถึง รมว.ด้วย) ก้ไม่รู้กันต่อไป ใช่หรือเปล่าครับ
หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ผมมองว่า ความเคลื่อนไหวของพวกเราในครั้งนี็ ก็ไม่ต่างจากการคุยกันในเวบบอร์ดธรรมดา คือ คุยกันเอง รู้กันเอง จบแล้วก็จบไป ซึ่งมันก็มีประโยชน์ครับ แต่จริง ๆ เราทำอะไรได้มากกว่านั้นเยอะครับ
ผมว่าหลายคนที่มาแสดงความเห็น ก็น่าจะพร้อมที่จะทำอะไรซักอย่างแหละครับ แต่ขาดทิศทาง และผู้นำ ว่าเราควรจะดำเนินการอะไร อย่างไรดี อ่ะครับ
iPAtS
เห็นด้วยกับ bow_der_kleine ค่ะ
น่าจะมีคน IT อย่างเราๆเข้าไปมีอำนาจในการเมืองมั่งนะ ... ความคิดเห็นมากมาย ของคนที่รู้เรื่องนี้ .. มันจะไปสู้อะไรได้ กับ คำพูดคำเดียวของคนที่มีอำนาจ ? (ถึงจะไม่ได้ยาวนานก็เถอะ)
แล้วอีกอย่างนัทคิดว่า คนอีกกลุ่มหนึ่งที่เค้าไม่รู้เรื่องนี้ ก็ยังไม่รู้เรื่องนี้อ่ะนะ (เค้าก็จะคิดว่าเรื่องเล็ก ..)
ดังนั้นเราต้องรวมพลังกัน ^^//
------ Nath
Xfig was originally written by Supoj Sutanthavibul
เคยใช้ป่าว xfig อ่ะ
เห็นด้วยกับที่คุณ bow_der_kleine ว่ามานะครับ อยากให้ทำอะไรซักอย่าง แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเริ่มที่ไหน ใครมีไอเดียช่วยเสนอหน่อยครับ
pittaya.com
ประเด็นจิงๆมันไม่ใช่ว่า open source ใน(ประเทศไทย)มันจะรุ่งไม่รุ่ง แต่ วัตถุประสงค์ของ open source ทำไปเพื่ออะไร มีประโยชน์กับใครบ้าง ในแง่ไหน
จริงอยู่การหว่านพืชต้องหวังผล แต่ถ้าเราหว่านไปแบบมีความสุขและพอใจแล้ว จะต้องหวังผลอะไรอีก พืชที่หว่านไป เป็นวัชพืช ทำความเดือดร้อนแก่คนอื่น หรือไม่ ถ้าไม่จะถอนมันทิ้งเพื่อ?
Dean "ถ้าเค้าถามว่า มีโอเพ่นซอร์สโปรเจ็คสัญชาติไทยตัวไหนบ้างที่มัน work เราจะตอบเค้าว่าอะไร?"
ไม่รู้ดิ น่าจะมองว่า ที่ผ่านมาคนไทยได้ประโยชน์จาก open source อย่างไรบ้าง ดีกว่านะ จริงๆ ถ้าไม่สนับสนุน ก็อย่าขัดขวาง น่าจะเป็ฯพอ เพราะถ้าของมันดีจริง เดี๋ยวคนที่เห็นคุณค่า ก็กระเสือกกระสน ทำมันอยู่ดี อะค่ะ
รอดูว่า คนที่ฆ่าตัวตายทางสังคม จะฝังกันยังไง...
ภาษาเราต่างจากชาวบ้านเขา เราไม่ทำไอ้บ้าที่ไหนจะทำให้เรา ถ้าเราเป็นเมืองขึ้นอังกฤษใช้ภาษาอังกฤษ เนี่ยคงไม่ต้องรอรัฐบาลสนับสนุนหรอก อ่านเองได้ใช้ที่เค้าเขียนให้ได้ จำได้หรือเปล่าว่ากว่าเราจะใช้ภาษไทยใน linux ได้นานแค่ไหน
ไม่คิดทำ HW กันมั่งรึ จะได้เขียน SW สำหรับ HW ของเราของคนไทยที่ประเทศอื่นต้องมาศึกษา
สงสัยเป็นแค่ความฝันของผม แหะๆๆ
ง่าย ๆ
opensource = M$,Macromedia, IBM e-book = มติชน เนชั่น ผจก.
เค้าเรียกว่า ผลประโยชน์ทับซ้อน
http://iteau.wordpress.com/2006/11/15/noopensourceebookReply with quote Actually all ICT ministers in the past are very bad persons. But this one is the worst of all.
I am very SAS that Sondhi allow this bad person to be ICT minister.
His WRONG and BAD vision on OLPC and Linux cannot be forgiven.
huh, zxc555 http://supat.eu.org/php/
อ่านข่าวแล้ว หัวใจสลายเลย!
เคารพท่านมากนะครับ ตอนก่อนท่านเป็น รมต. เมื่อท่านได้เป็น รมต. ยิ่งดีใจใหญ่ ที่ ICT ของเรา มีคนมีความรู้ด้านนี้ มาเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด สามารถผลักดันสิ่งที่เคยดำมืด น่ารังเกียจ ออกไปจากวงการ ICT ได้ ไม่มากก็น้อย
แต่ตอนนี้ พอเห็นคำสัมภาษณ์ ... หัวใจสลาย อย่างที่ว่า
ผมไปถาม software house ใหญ่ๆ มาทุกที่ว่า
ถ้าผมหาเงินมาจ้างซัก **4-500 ล้านบาท** เพื่อให้ทำ OS + office applications 4-5 ตัว **ที่สามารถใช้ภาษาไทยได้ 100%** ที่จำเป็นๆ ในเวลา 1 ปี + M/A เฉพาะ software อีก 5 ปี .. ไหวไหม
เขาตอบกันว่า ขอเงินเพิ่มซัก 10 เท่า :-)
แต่เมื่อเปลี่ยนโจทย์เป็น ... linux + open office พวกที่เป็น Open Source มาหละ เขาบอกว่า ถ้าไม่ต้องจ่ายใต้โต๊ะ แค่สองสามร้อยล้่าน ก็อิ่มพุงปลิ้นแล้ว! ... ถ้าได้ห้าร้อยล้านเนี่ย ตามไป M/A และเปิดอบรมให้ปีนึงเต็มๆเลย
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้???
**รัฐบาล** ต้องจัดซื้อจัดหา Mad$uckler $oftware$ ในสายงานราชการ การศึกษา ฯลฯ ปีนึงๆ **กี่พันล้าน** ????
ในอดีตที่ผ่านมา ถ้าใครใน ICT อยากได้เงินฟรีๆ ก็ตีปี๊บเรื่อง OSS ซักทีนึง เพื่อให้ บ.ยักษ์ใหญ่ที่กำไรมหาศาลจากการบีบคอขาย software มา"คุย"กัน เพื่อให้ดองเรื่อง OSS ไว้ต่อ
สุริยัน/จันทรา/ขุนศึก/ทะเล/ไกวัลล์ ฯลฯ มันถึงร่อแร่ๆ อยู่ก็ไม่ได้ ตายก็ไม่ได้ อย่างทุกวันนี้
เลี้ยงไข้ไว้ เพื่อกันถูกด่าว่า โดน บริษัทซอฟท์แวร์ข้ามชาติ เล่นตุกติก เลี้ยงไข้ไว้ เพื่อให้เป็นข้ออ้างว่า รัฐบาล ยังสนับสนุน OSS
เสียใจแทนสมาคม OSS เสียใจแทนคนไทยทั้งหมด
เสียใจมากๆๆ
ผมเป็นเด็กมหานครครับ ต้องขอโทษแทนทุกท่านในที่นี้ด้วยเป็นอย่างมาก เพราะผมก็เป็นคนหนึ่งที่ใช้ opensource อยู่รู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก ที่ท่านรัฐมนตรี มีวิสัยทัศน์ที่แคบมากจริง ๆ เพราะตัวท่านเองนั้นไม่ได้ลงมาใช้ opensource จริงจังเหมือนกับท่านทั้งหลายหรือนักศึกษาและบุคคลากรหลายคนได้พยายามศึกษาอยู่ โปรดอย่าได้เข้าใจผิดว่าเราทั้งหมดในมหาวิทยาลัยนั้นไม่ชอบหรือว่าไม่สนับสนุน opensource อันที่จริงนั้นตามที่ผมสังเกตุเห็นว่าเรามี linux อยู่ในห้อง lab เหมือนกันซึ่งสามารถ boot ได้ทั้งสอง OS และมีโปรแกรมหลายตัวที่เป็น opensource ซึ่งท่านรัฐมนตรีอาจจะไม่ได้ลงมาดูด้วยตัวเองจึงไม่ได้เห็นหรือว่าสัมผัสกับ opensource จริง ๆ ต้องกราบขอประทานโทษทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วย
ส่วนในเรื่องทำเสาไฟนั้นต้องถามท่านดูเพราะว่าท่านจบวิศวกรรมไฟฟ้า อีกเรื่องคือดาวเทียมนั้นมหาวิทยาลัยได้ืทำการส่งไปแล้ว และวิจัยอย่างต่อเนื่อง
ขอแสดงความนับถือ ประเสริฐ ปรึกษาดี
ถ้าเป็นแบบนี้จริง รัฐมนตรีคนนี้ก็ไม่มีประโยชน์เหมื่อนกันแหละครับ
หากท่านไม่เชี่ยวชาญหรือ มีความเชี่ยวชาญไม่เพียงพอ... ไม่ควรแสดงความคิดเห็นที่ชัดเจนอย่างนี้ออกมา รมต. มีที่ปรึกษา เยอะแยะ ควรมีที่ปรึกษาที่ฉลาดสักนิด เพื่อติติง ปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่อง ไม่ใช่ออกมาพูดเรื่องเดียว ..กี่เรื่องแล้วครับ.... หรือที่ปรึกษาเอาแต่เชลียร์
สำหรับ คนทั่วไป ความรู้เชิง IT ไม่ได้แน่นคงไม่ค่อยเข้าใจ แต่สำหรับคนในแวดวง อย่างเราท่านที่ใช้ opensource ดำรงชีวิต กิ้งก่าได้พลอยคงไม่รู้ คุณค่า... อวดภูมิให้อายสุนัขไหมนั่น!!!
ผมว่าทานคงแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่า Software ที่ใช้อยู่อันไหนเป็น opensource