Tags:
Topics: 

หลังจากอุตสาหกรรมบันเทิงพยายามป้องกันการทำสำเนาสื่อของตนอีกครั้งกับมาตรฐาน AACS ที่จะถูกใช้งานในแผ่นระดับ HD ทั้ง HD-DVD และ Bluray ฝั่งแฮกเกอร์ทั้งหลายก็พยายามกันอย่างเต็มแรงที่จะเจาะมาตรฐานนี้ให้ได้เช่นเดียวกับที่เคยทำสำเร็จมาแล้วใน DVD

เมื่อวานนี้ในฟอรั่ม Doom9 ผู้ใช้ที่ชื่อว่า muslix64 ก็ได้ประกาศความสำเร็จในการถอดรหัสข้อมูลในแผ่น HD-DVD ได้เป็นครั้งแรก โดยเขาระบุว่าการเจาะมาตรฐาน AACS ครั้งนี้ทำได้ด้วยการดึงเอาคีย์ที่ใช้ในการถอดรหัสแผ่นมาจากโปรแกรม PowerDVD ที่ระหว่างการทำงานจะมีการเก็บคีย์ถอดรหัสไว้ในหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ เปิดโอกาสให้เขาสามารถดึงเอาคีย์ดังกล่าวมาถอดรหัสแผ่น HD-DVD ได้ในที่สุด

ขณะที่ยังไม่มีการพิสูจน์ความสำเร็จนี้อย่างเป็นทางการ muslix64 ได้เขียนโปรแกรมเพื่อถอดรหัสแผ่น HD-DVD เพื่อแจกจ่ายในเว็บบอร์ด และอัพโหลดวีดีโอขึ้น YouTube เพื่อแสดงผลสำเร็จของการทำงานของเขา ในไม่ช้านี้คงมีรายงานการยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือหลอก

ผมเกลียด DRM และสนับสนุนสิทธิในการทำสำเนาของสื่อต่างๆ เพื่อการใช้เป็นการส่วนตัว แต่ขณะเดียวเดียวกันก็ไม่สนับสนุนของละเมิดลิขสิทธิ ดังนั้นข่าวนี้ขอให้ระวังการแสดงความเห็นนะครับ

ที่มา - ArsTechnica, Doom9

Get latest news from Blognone

Comments

By: house
WriterWindows PhoneWindows
on 29 December 2006 - 08:02 #14959

โมเดลที่คีย์มัน static ความเสี่ยงในการโดนแกะ มันก็สูงอยู่แล้ว -*-

ขายแบบ video streaming อาจจะได้ผลในการควบคุมมากกว่าในอนาคต

By: mega7 on 29 December 2006 - 08:58 #14960

ถ้าไม่ให้ทำสำเนา ผมพอยอมรับได้นะ แต่ขอให้รับประกันสื่อนั้น ๆ ในเวลาที่รับได้หน่อยก็แล้วกัน

By: pt on 29 December 2006 - 09:44 #14961

streaming ก็โดนแกะได้นะ เห็นมีบริษัทรับทำ ต่อเนตไปด้วยขณะดู UBC คงไว้ถอดรหัสตอนเปลี่ยนช่อง

By: wichanan on 29 December 2006 - 10:15 #14962

บริษัทเพื่อนผมเห็นเขาทำ Key ของ UBC Distribute ผ่าน Internet โดยใช้ SIM ของแท้ 1 อันแจกรหัส ให้กับ Client เป็น ARMs Linux embeded

เห็นเขานั่งอ่าน HEX CODE เหมือนอ่าน Matrix เลย บรรทัดไหนรหัส บรรทัดไหน คือคำสั่ง

By: ipats
ContributorNOOBIn Love
on 29 December 2006 - 11:00 #14966

ผมมองว่า - ถ้าซื้อขายแบบเป็นสินค้าชิ้นๆ (DVD, CD, etc.) อะไรแบบนี้ มันไม่ควรจะใช้ DRM เลย - DRM ควรจะใช้กับเฉพาะในกรณีการเช่าสิทธิ เช่นซื้อสิทธิดูได้ไม่จำกัดหนึ่งเดือน

แต่ก็นั่นแหละครับ.. ผมว่าทั้งผู้บริโภคและผู้ผลืต ก็คงไม่มีใครอยากจะใช้มันทั้งคู่แหละ ต้นทุนก็สูงขึ้น แถมลูกค้าก็พาลจะไม่ชอบขี้หน้าอีก ดีไม่ดีโดนฟ้องแบบกรณี rootkit อีก (ของไทยที่เคยเกิด ที่ทำให้กิน CPU 100% จำไม่ได้ว่ามีการฟ้องกันไหม) อย่างนี้มันก็ต้องโทษคนส่วนน้อยที่ไม่รับผิดชอบ ทำให้คนส่วนใหญ่เสียหาย

---------- iPAtS


iPAtS

By: tvchampion on 29 December 2006 - 12:45 #14970

ipats : เป็นไปได้ยาก ที่จะให้คนส่วนใหญ่ซื้อของแท้ครับ ในเมื่อของเถื่อนมันถูกกว่าเป็น "ร้อยเท่า " แถมไม่เกิดราคาแฝงทางจิตวิทยาและสังคม เกิดขึ้นเพิ่มสักเท่าไหร่เลย ตัวอย่างของราคาพวกนี้คือ

-ซื้อแล้วจะโดนจับมั้ย (ไม่จับเพราะคนขายเขาจ่ายตำรวจแล้ว ) - ซื้อแล้วแม่จะด่ามั้ย (ไม่ด่าแถมชมว่าลูกเป็นคนฉลาดรู้จักใช้เงิน) - ซื้อแล้วแฟน กับเพื่อนจะว่ามั้ย (ไม่ว่า แถมจะขอบคุณอีก ถ้าไรท์ไปแจก) ฯลฯ

หนทางแก้ ปัญหาเทปผีซีดีเืถื่อนเมืองไทย นอกจากรอให้คนไทยทุกคนรวยมากๆแล้ว ที่ผมคิดออกตอนนี้คือ "จับคนซื้อ" ครับ แต่นั่นต้องหลังจากเราสามารถพัฒนา "ตำรวจไทย" ให้มี "จริยธรรมคุณธรรม" และความรู้ทางเทคโนโลยี ได้แล้วนะครับ ซึ่งผมว่ายากกว่า แก้ปัญหาเทปผีซีดีเถื่อนอีก :P

By: rebotko on 29 December 2006 - 13:16 #14973

ของเถื่อนมันต้องถูกกว่าเป็น 100 เท่าอยู่แล้วคับ ในเมื่อเค้าไม่ได้เสียสมองมานั่งคิดอะไรใหม่ๆ ไม่ได้เสียค่าโฆษณา ไม่ได้เสียค่าเสี่ยงต่างๆ

โอเคว่าบางครั้งเราก็ซื้อของลิขสิทธิ์ไม่ได้ทุกอย่าง เพราะเป็นของนำเข้า ราคาสินค้านั้นๆไม่ได้ เข้ากับรายได้ของเรา รวมถึงข้อจำกัดทางสังคมต่างๆ ทำให้เราต้องละเมิดลิขสิทธิ์ไปบ้าง

แต่อย่างน้่อยผมก็อยากให้คนไทยมีจิตสำนึกในคุณค่าของทรัพย์สินทางปัญญาบ้าง อย่างน้อยก็ของคนไทยด้วยกันเอง ไม่ใช่แม้แต่ของคนไทย ราคาก็ตั้งมาด้วยฐานของ เงินบาท แต่ก็ยังซื้อของเถื่อนกันอยู่เพียงเพราะมันถูกกว่า ถือว่าเราหาเงินมาเอง มีสิทธิ์ ในการซื้อของถูกเพื่อ save เงินในกระเป๋า

แต่แล้วคนที่เค้าทำของมาให้เราละเมิดล่ะ เค้าต้องใช้เงินซื้อข้าวกินเหมือนพวกคุณหรือเปล่า?

ดังนั้นที่ท่านบอกว่าให้พัฒนา "จริยธรรม"ของตำรวจ ผมมองว่าคนที่ควรพัฒนาคือ "คนซื้อ" ต่างหาก

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 29 December 2006 - 13:44 #14974
lew's picture

tvchampion - จับคนซื้อนี่แก้ปัญหานี้แน่ๆ ครับ แต่สร้างปัญหาอื่นได้เยอะจนจินตนาการกันไม่ออก

ผมมองข้อเท็จจริงข้อหนึ่งว่าในระยะยาวแล้วแนวโน้มของผู้ใช้ของถูกลิขสิทธิจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่ามันช้าไปสักหน่อยแต่ก็เป้นแนวโน้มที่ค่อนข้างชัดเจน ตรงนี้มันเร่งได้จากการแทรกแซงบางอย่าง เช่นซีดีที่ราคาจากสี่ห้าร้อยบาทลงมาเหลือร้อยกว่าบาท ผมเองสมัยเรียนไม่มีเงินซื้อซีดีฟังก็ฟังเอ็มพีสาม แต่พอถึงจุดหนึ่งที่มีรายได้มากพอซื้อซีดีมา "เก็บ" ได้เรื่อยๆ (ตอนฟังก็เอ็มพีสามอยู่ดี rip ตั้งแต่วันแรกที่ซื้อแผ่น)

ที่สำคัญคือเรื่องของจิตสำนึกที่ต้องสร้าง ว่าการซื้อของแท้มันจะเป็นการสร้างความภูมิใจในตัว ส่วนการซื้อของปลอมมันเป็นเรื่องน่าละอาย แต่ทุกวันนี้การล้างแค้นด้วย DRM ทำลายความคิดพวกนี้ออกไปหมด คนซื้อของแท้ในวันนี้กลายเป็นคนโง่ไปจริงๆ แล้วส่วนหนึ่ง เพราะเขาจ่ายเงินไปเพื่อซื้อ "ความด้อย" กว่าของปลอม ------ LewCPE


lewcpe.com, @wasonliw

By: deans4j on 29 December 2006 - 15:58 #14983
By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 29 December 2006 - 16:10 #14985
put4558350's picture

ไช้ drm แล้วต้องใส่โปรแกรมแปลกๆลงในเครื่อง ถึงจะดูหนังพังเพลงที่ซื้อมาอย่างถูกต้องใด้ ... ไปชื้อแผ่นผีที่แก้มาหมดแล้วดีกว่าอีก ปลอดภัยกว่าด้วย ^^


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: pit
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 29 December 2006 - 17:02 #14988

ไม่ชอบ DRM แล้วก็ไม่ชอบของก๊อปด้วยครับ

By: toandthen
WriterMEconomics
on 29 December 2006 - 17:20 #14991
toandthen's picture

จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดควรให้หน่วยงานรัฐบาลไทยทุกหน่วยใช้ Microsoft Windows ให้ถูกกฏหมายซะก่อนครับ :D (ไม่ได้พูดเล่นนะ ถูกซะกี่ %)


@TonsTweetings

By: ABZee on 30 December 2006 - 03:18 #15008

infernohellion: หน่วยงานราชการเล็กๆแห่งหน่ึงในถนนแจ้งวัฒนะนั้นยังใช้ win98 กันทั้งหมดอยู่เนื่องจากไม่มีงบประมาณซื้อ winXP

ผมว่าการใช้ DRM ใน CD, DVD ลิขสิทธิ์นั้นเป็นการแก้ปัญหาที่ผิดวิธีของผู้บริหาร แต่การใช้มันเป็นข้ออ้างในการซื้อของปลอมก็ใช่ว่าจะถูกต้องนัก

สมัยก่อนนั้นมีการอัดเทปเพลงจากรายการวิทยุที่ตัวเองฟัง มีการทำสำเนาเทปและส่งให้เพื่อนๆ ปัจจุบันการทำสำเนานั้นง่ายขึ้น การส่งข้อมูลนั้นก็ง่ายขึ้นเช่นกัน ผู้ผลิตมีมาตรฐานใดมาบอกว่าการกระทำไหนเป็นการละเมิด (ทั้งคู่?)

หากมองในมุมมองผู้บริโภค ผมคิดว่าตัวผู้บริโภคเองก็ไม่ได้ต้องการละเมิดลิขสิทธิ์นั้นอยู่แล้ว เพียงแต่มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผู้บริโภคนั้นคิดว่าการทำสำเนาและการแจกจ่ายเพลง นั้นไม่ได้เป็นการละเมิด ผู้ร้องก็ยังคงได้รับเครดิตอยู่ สังกัดก็ยังได้ชื่อว่าเป็นต้นสังกัดของนักร้องคนนั้นอยู่

มีไม่บ่อยนักที่จะเกิดกรณีที่นำเพลงคนอื่นไปเป็นของตัวเอง (หรือบ่อย?) หรือการแอบอ้างผลงานของคนอื่น นั่นก็น่าจะบ่งบอกได้ว่า ตัวผุ้บริโภคเองก็มีความเคารพลิขสิทธิ์ของผู้อื่นอยุ่ในระดับนึง

อาจแต่ผู้บริโภคนั้นไม่เชื่อว่าผู้ขายมีสิทธิ์แจกจ่ายเพลงแต่เพียงผู้เดียว เนื่องจากในสังคมในอดีตและปัจจุบันนั้นการทำสำเนาและการแจกจ่ายนั้น เป็นธรรมดาของสังคมไปแล้ว?

อยากให้เรามี Open Source Music เพื่อเป็นทางเลือกแฮะ