ปัญหาที่ผมเจอบ่อยๆ เวลาไปแนะนำ GIMP ให้ชาวบ้านใช้ คือชาวบ้านมักจะบ่นว่ามันใช้ยาก แต่พอถามต่อว่ายากตรงไหน ก็ไม่ได้รับคำตอบที่เป็นวิทยาศาสตร์มากนัก ส่วนมากจะมาแนวๆ "มันไม่เหมือน Photoshop" ซึ่งไร้ค่ามากสำหรับคนเอาไปปรับปรุงแก้ไข
เชื่อว่าฝรั่งคงเจอเหมือนกัน เลยมีคนหาวิธีเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งาน GIMP อย่างเป็นเรื่องเป็นราว โดยพัฒนาโปรแกรมเสริมเข้าไปในตัว GIMP ซึ่งจะเก็บ log ของการกระทำต่างๆ ของเราบน GIMP (เช่น เปิดกี่หน้าต่าง ใช้คำสั่งอะไรบ้าง) แล้วส่งกลับไปเซิร์ฟเวอร์เพื่อวิเคราะห์
โครงการนี้มีชื่อว่า ingimp (Instrumented GIMP) พัฒนาโดยศูนย์วิจัย human-computer interaction (HCI) ที่มหาวิทยาลัย Waterloo ถ้าสนใจลองอ่านสไดล์-ดูวิดีโอการบรรยายของทีมงานประกอบได้
ถ้าใครใช้ GIMP อยู่แล้ว และอยากทำตัวมีประโยชน์เผื่อว่าจะช่วยให้ GIMP ใช้ง่ายขึ้น ดาวน์โหลด ingimp มาลองเล่นกันได้ มีทั้งเวอร์ชันวินโดวส์และ Debian Etch/Ubuntu Feisty เค้าบอกว่าเวอร์ชันแมคจะตามมาเร็วๆ นี้
ที่มา - Slashdot
Comments
"มันไม่เหมือน Photoshop" ซึ่งไร้ค่ามากสำหรับคนเอาไปปรับปรุงแก้ไข แต่ผมว่ามีค่ามากนะครับ เช่น มันไม่เป็น MDI สัญลักษณ์เครื่องมือไม่เหมือนกัน
ถ้ามีคนทำ plugin เพื่อเปลี่ยนแปลงหน้าตาหรือ shortcut ให้เหมือน photoshop ก็จะช่วยได้มาก โดยเฉพาะ MDI ผมอยากได้มาก เพราะใช้ไม่ถัดเลย หน้าต่างบังแถบเครื่องมือหมด
ถ้าใครทราบวิธีการ ช่วยแนะนำผมหน่อยครับ
ใน Windows เห็นว่าใช้ Deweirdifyer ช่วยตรงนี้ (MDI) ได้ครับ หรือไม่ก็ใช้ GIMPshop ที่พยายามทำให้เหมือนกับ Photoshop
ในความหมายของผม ความเห็นแบบนี้ "มีค่า" มากครับ แต่พวก "ไม่เหมือน Photoshop (จบ)" อันนั้นไร้ค่า
อันนี้อาจจะเป็นเรื่องความสามารถในการตีความภาษาของ user ทั่วไปให้ออกมาเป็นภาษาที่ programmer/ฝ่ายคอม เข้าใจ ถ้าเป็นฝ่ายเก็บ requirement ก็คงต้องถามซักกันต่อ แล้วก็ใช้หลักจิตวิทยาดึงออกมาให้ได้ว่า user ต้องการอะไรกันแน่ล่ะมั้ง หรือไม่ก็ใช้ไอ้เครื่องนี่
ส่วนตัวรู้สึกว่าเรื่อง HCI นี่มันต้องใช้หลักจิตวิทยาเยอะจริงๆนะ ต้องแปลเรื่องจิตๆที่ไม่ชัดเจน ให้ออกมาเป็นข้อๆที่เห็นได้ชัดเจนนี่มันยากจัง
สำหรับโลกโอเพนซอร์สที่ไม่มีเงื่อนไขทางการเงิน (ชั้นจ่าย เธอซัพพอร์ต) ฝั่ง user ต้องขวนขวายเองให้มากเข้าไว้กว่าปกติเยอะ
แนวคิด "อยากได้ ต้องลงแรง" เป็นอะไรที่ต้องพร่ำสอนกันต่อไปอีกมาก
ก็เป็น "ข้อมูล" ที่บอกคนพัฒนาได้ว่า "ก็ทำให้มันเหมือน Photoshop ซะ" ?
-- อานนท์
ถ้่าอยู่บน Mac หรือ GNUstep ไม่เป็น MDI ก็คงไม่เป็นไร เพราะมันจัดการ กลุ่ม App หลาย Windows ง่ายมั้ง
แต่นี่บน Windows กับ GNOME มันหายากเหลือเกินว่า Windows ของ Gimp หายไปไหน
แต่ก็ไม่ได้รู้สึกยากอะ เพราะผมก็ทำอะไรไม่ค่อยเป็นด้วย :-P
ข้อเสียของ GIMP คงจะเป็นเรื่องหน้าต่างมันเยอะเกินไปนี่แหละ เปิดโปรแกรมเดียวเล่นเอาซะทาสค์บาร์เต็ม
สองความเห็นบนนั่นอ่ะใช่เลย ออกมาจนเวอรชั่น 2.x ไม่ทำเป็น MDI ซะทีเวลาใช้ไม่สะดวกเอามากๆ -------------------------------------------- AnnoMundi's Weblog
Gimpshop ก็พอช่วยได้บ้างนะ
คือผมก็เคยลองเอา GIMP มาเล่นบน Windows อยู่สักครู่หนึ่ง สุดท้ายไปไม่รอด ไปใช้ Paint.Net
ผมแชร์ประสบการณ์ของผมละกัน คือพูดตรงๆคือผมเคยใช้ Photoshop มาก่อนหรือ PaintShop มาก่อน (แบบมือสมัครเล่น) คือจะเอามาตัดรูปเพื่อไปทำเอกสารรายงานบั๊ก, หรือคู่มือการใช้งานซอฟท์แวร์ แต่ปัญหาเลยคือ อยากจะทำอะไรสักอย่าง เมนูมันไม่คุ้นเลย แล้วหน้าต่างอะไรต่อมิอะไรก็เต็มไปหมด เรียกว่าเต็มบาร์แหล่ะครับ Toolbox ก็ไม่คุ้น แล้วงานก็เร่ง ก็เลยไม่อยากจะอุทิศเวลาให้คุ้นกับ UI ครับ (แก้ตัวน้ำขุ่นๆ) เลยสุดท้ายไปใช้ Paint.Net ซะอย่างงั้น เพราะว่ามันเริ่มต้นใช้งานได้ง่ายกว่ามาก
ไม่ค่อยใช้อะไรเท่าไหร่นอกจาก Crop ภาพ พบว่าเส้นที่ตีให้เราลาก เพื่อกำหนดขอบเขตรูปที่ต้องการ Crop มันมองยาก ไม่เหมือน Photoshop ที่ชัดเจนมากๆ ไม่ต้องเล็ง
จากปัญหาดังกล่าว Crop ผิดทุกที ชอบเหลือขอบเกินๆ หรือไม่ก็เหลื่อมๆ ตลอด
ปัญหาแบบนี้น่าจะมีคนรายงานใน Bugzilla แล้ว ลอง search ดูครับ ถ้าไม่เจอก็ report ได้เลย
ได้ยินมาว่าชุด MS Office ก็ทำแบบนี้เหมือนกันนะ จนผลสุดท้ายเอามาวิเคราะห์แล้วก็เลยได้ interface แบบ ribbon ออกมานี่แหละ
---------- Don't think, Just read
pittaya.com
จริงอ้ะ :P
ถ้าสังเกตก็พวกหัวคนที่ขึ้นมาตอนใช้ SQl Server Studio กะ Visual Studio ก็มีไว้เพื่อการนี้แหละครับ
onedd.net
ปัญหาจริงๆ ก็คือ "ชิน" หรือ "ไม่ชิน" นั่นแหละ ถ้าชินแล้วอะไรๆ มันก็ดู OK
สำหรับคนที่ไม่ประทับใจกับ GIMP ในครั้งแรก ลองสละเวลามาทำความคุ้นเคยอีกหน่อย (ก็เยอะเหมือนกัน) แล้วคุณจะใช้งานมันได้สบายๆ แต่แนะนำให้จำแป้นลัดจะดีกว่า จะทำงานเร็วขึ้นอีกหลายเท่า :D
แต่เรื่องหน้าต่างเยอะนี่มันน่ารำคาญจริงๆ นะ
We need to learn to forgive but not forget...
ผมว่าระยะเวลาในการเรียนรู้ gimp สำหรับคนทั่วไป มันเยอะกว่า photoshop มากกว่า มากจนกว่าจะ "ชิน" นี่คงเลิกใช้ไปก่อน
แถม interface มันใช้งานได้ยุ่งยากมากๆ
ผมเคยสอนหลานซึ่งไม่เคยใช้โปรแกรมทั้งสองตัวมาก่อน สอนให้ใช้ gimp ก่อน หลานก็บ่นว่ายาก พอไปสอนให้ใช้ photoshop แค่แป๊บเดียวก็เป็น เทียบกับโปรแกรมใกล้เคียง ทั้ง firework, paintshop pro หรือ paint.net ยังไงผมก็ว่า gimp ใช้ยากสุด
ผมว่าเรื่องชิน ไม่ชินกว่าส่วนหนึ่ง แต่ Software ที่ดีนั้น มันไม่ควรให่ User ต้องมานั่งมาเรียนรู้อะไรใหม่ทั้งหมด เรียนแค่ส่วนเล็กๆน้อยๆหรือบางอย่างที่จำเป็นก็พอ
ระหว่าง Photoshop (Pirate) กับ GIMP ผมคงเลือก Photoshop (Pirate) ฮ่าๆๆ
Easy to Use คือหัวใจของ Application ครับ
นี่ก็พยายามอยู่หลายครั้งเหมือนกัน สุดท้ายก็ Paint.NET และบางงานก็กลับไปลงที่ Photoshop ต่อไป -_-' ------------------------------------ Ford AntiTrust’s Blog; Blog DeveloperOnTheRoad = new SoloGeek.ThaiCyberPoint(’Ford AntiTrust’s Blog’);
เทียบกับ Paint.NET แล้ว Gimp ยากกว่าจริงๆ ครับ Gimpshop ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก
รำคาญเหมือนกันที่พวก Windows ของ Tools ต่างๆ ก็มาอยู่ใน Taskbar หมด -- my blog
ผมก็พยายามไปใช้ Gimpshop ครับถ้าทำอะไรไม่ยากมากนัก
เคยเจอ ArtWeaver อะครับ ที่แทบจะเอา Photoshop มาเลย แต่ยังไม่เสถียรเท่าไหร่ http://www.artweaver.de
มันใช้ยาก ลองใช้เวอร์ชั่นวินโดว์ดูแล้ว อินเตอร์เฟสมันกระตุกๆ เมนูเปิดปิดไม่นุ่มนวล ถ้าเลื่อนเมาส์พลาดเมนูมันหายไปเร็วมาก แล้วพอจะเรียกมาใหม่เมนูก็ซ้อนกันหลายชั้นเหลือเกิน สรุปใช้ยาก แต่เป็นโปรแกรมที่ทำงานได้ดีเหมือนกัน
โดยส่วนตัวผมว่านอกจาการใช้คำที่ต่างกันในระหว่างหลาย ๆ โปรแกรม (ก็เข้าใจว่ามันเป็นโปรแกรมกราฟิค ไม่ใช่ภาษาเขียนโปรแกรม :P) โดยรวมผมก็ยังโอเคกับ GIMP นะครับ (แต่บางอย่างก็งงไปนิดนึง)
คนใช้คงต้องหัดนิดนึงอ่าครับ (แต่ใช้ยากกว่านี้ก็มีอีกเยอะ ไม่พูดถึงละกัน) ส่วนเรื่อง MDI นี่เห็นด้วยครับ แต่ไม่รู้ว่าเป็น Limitation ของ GTK หรือเปล่า (ท่านใดมีความรู้ก็ลองตรวจสอบหน่อยครับ)
เคยเผลอสั่ง Close All (บนทาสก์บาร์) ไปครั้งนึง กลับมาอีกทีทุกอย่างหายไปหมดเลย T_T