ไมโครซอฟท์ประกาศข่าวแอพดังๆ หลายตัวเริ่มรองรับ Windows on Arm นอกเหนือจาก แอพของ Adobe และแอพคอนซูเมอร์อื่นๆ ที่ประกาศบนเวทีหลัก ยังมีแอพฝั่งนักพัฒนา-โอเพนซอร์สอีกชุดใหญ่ดังนี้
GIMP ออกเวอร์ชัน 2.10.22 ซึ่งเป็นรุ่นอัพเดตย่อยต่อจาก 2.10.20 ที่เพิ่งออกไม่นานนี้
ของใหม่ในเวอร์ชันนี้ได้แก่
GIMP ออกเวอร์ชันย่อย 2.10.20 (ช่วงหลังออกเวอร์ชันย่อยทุกประมาณ 4-5 เดือน โดยมีฟีเจอร์ใหม่ทุกเวอร์ชัน) มีของใหม่ดังนี้
กลายเป็นเทรนด์ใหม่ของโลกโอเพนซอร์สในรอบเดือนที่ผ่านมา เมื่อโครงการดังๆ หลายตัวย้ายระบบจัดการซอร์สโค้ดของตัวเองมาใช้ GitLab
โครงการสำคัญที่สุดคือ GNOME ที่ประกาศย้ายโครงการย่อยทั้งหมดกว่า 400 โครงการขึ้น GitLab เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2018
ที่ผ่านมา GNOME มีแผนจะย้ายระบบโครงสร้างพื้นฐานของตัวเองอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้เลือกใช้ cgit จัดการซอร์สโค้ดและ Bugzilla จัดการบั๊ก แต่ระบบเริ่มเก่าและจัดการยาก แถมไม่เป็นมิตรกับนักพัฒนาหน้าใหม่ ทำให้ GNOME มองหาตัวเลือกอื่นมาแทน และสุดท้ายตัดเหลือ 2 ตัวเลือกคือ GitLab กับ Phabricator (รายละเอียด)
GIMP ซอฟต์แวร์ตกแต่งภาพโอเพนซอร์ส ออกเวอร์ชันใหญ่ 2.10.0 ถือเป็นการออกเวอร์ชันใหญ่ครั้งแรกในรอบ 6 ปี นับจาก GIMP 2.8 ในปี 2012
ของใหม่ใน GIMP 2.10 ประกอบด้วยฟีเจอร์ใหญ่ๆ 2 อย่าง ได้แก่การเปลี่ยนธีมมาใช้โทนสีดำ และเอนจินภาพตัวใหม่ GEGL ที่พัฒนากันมายาวนานหลายปี (ตั้งแต่ปี 2000)
GIMP ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สตกแต่งภาพชื่อดัง ได้ออกเวอร์ชันใหม่ 2.9.6 โดยมีฟีเจอร์ที่สำคัญคือ เอนจินแก้ไขภาพ GEGL สามารถทำงานได้แบบมัลติเทรด
นักพัฒนาของ GIMP กล่าวว่า ตัวโปรแกรมสามารถแตกตัวเองได้เมื่อต้องการใช้งานหน่วยประมวลผลหลายคอร์ โดยจะใช้คอร์ให้มากที่สุดที่กำหนดให้ฟีเจอร์นี้ยังคงเป็นการทดลองใช้ จึงยังไม่สามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ และผู้พัฒนาโปรแกรมจะรับรายงานปัญหาของระบบมาพัฒนาอยู่เรื่อย ๆ โดยคาดว่าระบบการประมวลผลแบบขนานที่ใช้งานได้จริงจะเปิดให้ใช้ใน GIMP 2.10
ส่วนการแปลี่ยนแปลงอื่น ๆ มีดังนี้
GIMP โครงการซอฟต์แวร์สำหรับแต่งภาพแบบโอเพ่นซอร์ส ได้ประกาศเชิญชวนให้ผู้ใช้ได้เข้าไปสนับสนุน Øyvind Kolås ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโครงการ Generic Graphics Library หรือ GEGL โดย Kolås เป็นเจ้าของโค้ดกว่า 42% ของ commit ทั้งหมดใน GEGL และ 50% ใน babl ซึ่งเป็นไลบรารีสำหรับการแปลงข้อมูลพิกเซล
ด้วยผลงานของ Kolås ทำให้ GIMP 2.10 มีฟีเจอร์ที่สำคัญมากมายที่นำมาจากเอนจินทั้งสองคือ babl และ GEGL เช่น 16/32-bit ต่อ color channel precision, linear pixel data workflow และ ฟิลเตอร์ที่มีพรีวิวแบบ on-canvas แต่ทาง GIMP ยังคงต้องการฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น, ใช้งาน GPU ได้ดีขึ้น, รองรับ CMYK และ spot color ฯลฯ
โครงการ GIMP โพส Google+ ระบุว่า SourceForge ผู้ให้บริการโฮสต์ฟรีสำหรับโครงการโอเพนซอร์สล็อกบัญชีของ Jernej Simončič นักพัฒนาที่คอมไพล์ GIMP for Windows มาแล้วหลายปี แล้วใส่ตัวติดตั้งรุ่นของ SourceForge เองที่มีโฆษณาติดมาด้วยแทน
ทาง GIMP ขอคำอธิบายจาก SourceForge แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ ตอนนี้ทางโครงการขอให้ผู้สนใจดาวน์โหลดจากหน้าเว็บโดยตรง
GIMP ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สด้านการตกแต่งภาพชื่อดัง ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ Adobe Photoshop ออกเวอร์ชัน native สำหรับ Mac แล้ว
ที่ผ่านมา GIMP เวอร์ชันบน Mac จะต้องทำงานบน X11 Environment เท่านั้น ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีความยุ่งยากในการติดตั้ง และ เวลาใช้งานอาจรู้สึกไม่สะดวกรวดเร็วเท่าที่ควร
โปรแกรมแต่งภาพยอดนิยมของโลกโอเพนซอร์ส GIMP ออกรุ่น 2.8 ตัวจริงเรียบร้อยแล้ว
ฟีเจอร์ที่หลายคนรอคอย (กันมานานมากๆ) คืออินเทอร์เฟซแบบหน้าต่างเดียวหรือ single window ที่ช่วยลดความสับสนของการใช้งานลงได้มาก (อินเทอร์เฟซแบบใหม่ไม่ได้เปิดใช้มาตั้งแต่แรก ต้องไปกดเปลี่ยนเองในเมนู Windows) ใช้แล้วชอบไม่ชอบก็ต้องมาวิจารณ์กันอีกที
ฟีเจอร์ใหม่อื่นๆ ได้แก่
ถ้าไม่นับประเด็นเรื่อง UI ที่เป็นปัญหาอันโดดเด่นของ GIMP มานาน (มันจะถูกแก้ใน GIMP 2.8 ที่จะออกในเร็วๆ นี้) ข้อจำกัดที่สำคัญของ GIMP คือเอนจินการแก้ไขรูปภาพรุ่นแรกมีความสามารถน้อย รองรับภาพที่มีจำนวนสีไม่เยอะนัก
ซอฟต์แวร์แต่งภาพยอดนิยมของโลกโอเพนซอร์สอย่าง GIMP ใกล้ออกรุ่นใหม่ 2.8 แล้ว โดยล่าสุดออกรุ่น RC1 มาให้ทดสอบกันแล้ว
GIMP เป็นโปรแกรมตกแต่งภาพที่มีความสามารถสูงเทียบชั้นซอฟต์แวร์เพื่อการค้าหลายๆ ตัว แม้แต่ผู้ก่อตั้งกูเกิลเองก็ใช้ GIMP วาดโลโก้เว็บครั้งแรก แต่เรื่องที่ถูกบ่นที่สุดของ GIMP คือมันทำงานในวินโดวส์แยกจากกัน (multiple document interface - MDI) ซึ่งเป็นแนวทางการออกแบบหน้าจอ UI ของยูนิกซ์รุ่นเก่าๆ ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปใช้งานได้ลำบาก
แต่หลังจากรุ่น 2.7.3 เป็นต้นไปความลำบากนี้จะหายไปเมื่อหน้าจอ UI ใหม่ที่ปรับเป็นแบบวินโดวส์เดียวจะเปิดใช้งานเป็นมาตรฐานแล้ว แต่หากใครชินกับหน้าจอแบบ MDI ก็ยังใช้งานได้
ผมเชื่อว่าผู้อ่าน Blognone หลายคนเคยใช้ GIMP และไม่ชอบอินเทอร์เฟซแบบหน้าต่างลอยหลายหน้าต่างเท่าไรนัก (ผมด้วยคนหนึ่งแต่ก็ต้องทนใช้ไปเพราะไม่มีเงินซื้อ Photoshop) หลังจากชุมชน GIMP ถกเถียงกันอย่างหนักมาหลายปี สุดท้าย GIMP 2.8 จะมีอินเทอร์เฟซแบบหน้าต่างเดียว (single windows mode) เสียที
อินเทอร์เฟซหน้าต่างเดียวของ GIMP สามารถถอดแยกแถบเครื่องมือและหน้าต่างตัวเลือก เพื่อกลับไปเป็นหลายหน้าต่างแบบเดิมได้ Peter Sikking หนึ่งในทีม GIMP อ้างตัวเลขการสำรวจว่าความเห็นในชุมชน GIMP เรื่องหน้าต่างเดียว vs หลายหน้าต่าง มีจำนวนเท่าๆ กันพอดี ดังนั้นทางออกคือทำอินเทอร์เฟซมันทั้งสองแบบให้ผู้ใช้เลือก
คู่มือการใช้งานซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส GIMP และ Blender จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ซัคเซส มีเดีย สนับสนุนโดยฝ่ายโอเพนซอร์ส สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) เป็น PDF แจกให้ดาวน์โหลดไปอ่านกันฟรีๆ กระจายกันต่อเยอะๆ จะได้ลดคำครหาว่า "โอเพนซอร์สไม่มีคู่มือภาษาไทย"
ที่มา - Ubuntuclub
ซอฟต์แวร์แต่งภาพโอเพนซอร์สยอดนิยม ออกรุ่น 2.6 แล้ว โดยทิ้งระยะห่างจาก 2.4 ไม่นานนัก (ต่างจากตอน 2.2 มา 2.4 ใช้เวลาหลายปี)
ฟีเจอร์ใหม่
intelligent image resizing "ซอฟแวร์ลดขนาดภาพอัจฉริยะ" แปลตรงตัวเลย ไม่รู้แปลถูกเปล่านะ rsizr คือซอฟแวร์ที่ทำให้ไฟล์ภาพนั้นสามารถถูกย่อและขยายได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ โดยการลบภาพส่วนที่มีความสำคัญทางบริบทน้อยที่สุด ดูหัวข้อเก่าว่ามันคืออะไรได้ที่คุณ ABZee's http://www.blognone.com/node/5741 ซอฟแวร์ตัวนี้สามารถใช้ได้แล้ว เป็น Web Aplication แบบ Flash เข้าไปใช้งานกันได้แบบฟรี ฟรี ที่ http://rsizr.com/ ครับ
ลองดูภาพหลังจากที่ใช้โปรแกรมนี้กันดูที่ http://rsizr.com/about/gallery/ ฮาดี
GIMP 2.4 ออกมาแล้ว ในครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เพื่อเข้าใกล้ photoshop ไปอีกขั้น
หลายๆ คนติดใจกับข่าวเมื่อการย่อและขยายภาพไม่จำเป็นต้องคงอัตราส่วนเสมอไป และเรียกร้องให้ Adobe ซื้อฟีเจอร์นี้ไปใช้ แต่ที่ไหนได้ GIMP มาแรงแซงทางโค้ง พัฒนาฟีเจอร์นี้เสร็จไปเรียบร้อย ที่ไม่ธรรมดาคือมีคนทำถึง 2 ทีมเสียด้วย
ของทีมแรกพัฒนาด้วย Python และผู้เขียนบอกว่าอัลกอริทึมที่ทีมนักวิจัยเขียนอธิบายนั้นเข้าใจได้ง่ายมาก เผอิญว่าตอนที่ผมเขียนนี้เว็บพังเลยไม่รู้รายละเอียดเพิ่มเติม
ปัญหาที่ผมเจอบ่อยๆ เวลาไปแนะนำ GIMP ให้ชาวบ้านใช้ คือชาวบ้านมักจะบ่นว่ามันใช้ยาก แต่พอถามต่อว่ายากตรงไหน ก็ไม่ได้รับคำตอบที่เป็นวิทยาศาสตร์มากนัก ส่วนมากจะมาแนวๆ "มันไม่เหมือน Photoshop" ซึ่งไร้ค่ามากสำหรับคนเอาไปปรับปรุงแก้ไข
เชื่อว่าฝรั่งคงเจอเหมือนกัน เลยมีคนหาวิธีเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งาน GIMP อย่างเป็นเรื่องเป็นราว โดยพัฒนาโปรแกรมเสริมเข้าไปในตัว GIMP ซึ่งจะเก็บ log ของการกระทำต่างๆ ของเราบน GIMP (เช่น เปิดกี่หน้าต่าง ใช้คำสั่งอะไรบ้าง) แล้วส่งกลับไปเซิร์ฟเวอร์เพื่อวิเคราะห์