เร็ว ๆ นี้ผู้ให้บริการเคเบิลทีวีในสหรัฐอเมริกาอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทั้งทางด้านธุรกิจและทางด้านระบบครั้งใหญ่ เมื่อสายเคเบิลเพียงเส้นเดียวนั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ที่ต้องการใช้ทั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง, ดูรายการ HD, เล่มเกมออนไลน์และสั่งซื้อรายการทีวีตามสั่ง (Video on Demand) พร้อม ๆ กัน
ขณะนี้ผู้ให้บริการได้ใช้ความถี่รวม 750MHz ในการรับส่งข้อมูลในสายเคเบิล โดย 676MHz นั้นถูกนำไปใช้เพื่อการดาวน์โหลดที่รวมการใช้งานอินเทอร์เน็ต Downstream, เคเบิลทีวี, รายการ HD, รายการทีวีตามสั่งและบริการ VoIP ส่วนที่เหลือเพียงแค่ 54 MHz นั้นถูกใช้งานสำหรับการอัพโหลด
สำหรับปัจจุบันคลื่นความถี่ในเคเบิลเพียง 750MHz นั้นอาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการในอนาคตอันใกล้นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรายการหลาย ๆ รายการเปลี่ยนมาเป็น HDTV
ปัญหาหลัก ๆ ก็คือบริษัทเคเบิลหลายรายได้ทำการปรับปรุงโครงสร้างระบบเคเบิลทั้งหมดโดยใช้เงินไปกว่าแสนล้านดอลลาร์ไปแล้ว ไม่มีใครคาดว่าการลงทุนมากมายขนาดนี้จะมีอายุใช้งานได้น้อยกว่าที่คิดไว้มากเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความต้องการของลูกค้า การวางเครือข่ายไฟเบอร์ออฟติกก็ยังมีราคาที่แพงเกินไปมาก
Stan Schatt รองผู้บริการของ ABI Research บอกว่าวิธีอยู่รอดของผู้ให้บริการคือการเปลี่ยนการให้บริการเคเบิลทีวีให้เป็น IPTV ให้หมด วิธีนี้จะลดความต้องการใช้งานของคลื่นความถี่ในเคเบิลได้ โปรแกรมรายการต่าง ๆ ก็จะถือว่าเป็นข้อมูลในรูปแบบของอินเทอร์เน็ตหมดแล้วจะมีการนำแบนด์วิธมาใช้ก็ต่อเมื่อผู้ใช้งานเรียกมันมาใช้เท่านั้น ไม่เหมือนกับการยัดช่องรายการทุกช่่องผ่านคลื่นความถี่มาในสายพร้อม ๆ กันเหมือนปัจจุบัน
ที่มา - Ars Technica
Comments
แล้วมันจะช้าลงหรือเปล่า
ผมว่ามันก็มีข้อเสียเหมือนกันนะ ถ้าใช้งานแบบ iptv ก็จะมีปัญหาในบางช่วงารใช้งานเยอะ แล้วมันจะกระตุกหรือเปล่า
Maximum Capacity หรือ Capacity Utilization อะไรสำคัญกว่ากัน
ระบบของ WinTV (tv wifi) ในไทย จะใช้ bandwidth ของตัวเองไปกับ TV และ on demand เท่านั้น การท่องเนตไม่เกี่ยว แต่จะท่องเนตได้ผ่านวงจร isp แยกต่างหาก ตามแต่เราจะเลือกใช้ โดยต้องจ่ายเพิ่ม ส่วนระบบกระจายสัญญาณมีลักษณะเดียวกับ bit ดังนั้นยิ่งคนดูเยอะยิ่งลื่น
จึงน่าจะไม่มีปัญหาการกระตุกกระตาก