ไมโครซอฟท์เข้าซื้อบริษัท Global Care Solutions จำกัด หรือ GCS ด้วยวงเงินที่ไม่เปิดเผยแล้ว โดยบริษัทนี้เป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับโรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ โดยตัวซอฟต์แวร์ช่วยลดเวลาในการรอพบแพทย์เหลือเพียงประมาณ 17 นาทีเท่านั้น
ไมโครซอฟท์ให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับโรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ต่อไป และทีมพัฒนายังคงทำงานต่อไปในกรุงเทพเช่นเดิม โดยการเข้าซื้อครั้งนี้อาจจะทำให้ไมโครซอฟท์ใช้ซอฟต์แวร์จาก GCS บุกตลาดด้านสุขภาพในโรงพยาบาลทั่วโลก
ที่มา - PhysOrg
Comments
ดีครับ โปรแกรมจากไทย จะได้รับการยอมรับบ้างซะที
เป็นไปได้ว่าซื้อได้ในราคาถูกกว่าซื้อบริษัทต่างชาติ แถมมีคุณภาพดีทำเงินได้อีกมาก เลยจัดการซะ
แปลว่ามันเขียนด้วย C#
จะว่าดีก็ดี แต่ผมกำลังคิดว่า ระบบ Health Informatics ควรจะเป็นระบบที่เป็น Open source น่ะครับ ที่แน่ๆ คือระบบๆ หนึ่งที่ใช้ในที่ๆ หนึ่ง ไม่สามารถนำไปใช้แบบ one fits to all ได้ มันต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับอีกที่หนึ่ง ซึ่งคิดว่า ตรงนี้ Open source มีความได้เปรียบ
อย่างที่สองคือ ระบบสุขภาพ มันควรเป็นระบบที่เอื้อสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ดังนั้น การที่ระบบนี้กลายเป็น proprietary หรือดันติด patent (แค่ patent ยาก็แย่เกินไปแล้ว) มันจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นะ
Henshin
We need to learn to forgive but not forget...
DrRider ได้ตามดู HospitalOS ไหมครับว่าไปถึงไหนแล้ว
ไม่ได้ตามดูเลยครับ จากมานาน ตอนจะ implement ให้โรงพยาบาลที่เคยอยู่แต่ยังไม่เสร็จ ก็ต้องมาออสซะก่อน T3T
Henshin
We need to learn to forgive but not forget...
เท่าที่เข้าไปดูแลเครื่องมือใน รพ.นี้ น่าจะเป็น Hospital 2000 รันบน windows 2000
รู้สึกว่ามันจะสามารถดูแลเรื่องระบบภายใน รพ.ได้เกือบทั้งหมดที่เ็ห็นเขาใช้กันหลัก ๆ จะเป็นเรื่องของตารางนัดหมายการตรวจ การส่งต่อผู้ป่วยประมาณนี้นะครับ
ถือว่าเป็นข่าวดีนะครับ
ผมใช้ระบบ hosxp (http://www.hosxp.net) พัฒนาด้วย Delphi แถมเป็น open source ด้วย ถ้าโรงพยาบาลวาง flow คนไข้ดี ๆ คนไข้แทบไม่ต้องรอหมอตรวจ
หรือคนไข้เดินออกจากห้องหมอ ยังไม่ทันถึงห้องยา เภสัชเรียกรับยาทันที .. คนไข้ถึงกับงง ...
เนื่องจากมีการวาง flow ดีนั้นเอง ยกตัวอย่างหมอสั่งยาจากเครื่องหมอ ทันที่ที่สั่ง order ทั้งหมดจะไปโชว์ที่ห้องยา พร้อมพิมพ์ใบสั่งยา(เก็บเป็นหลักฐานทาง HA)และ สติ๊กเกอร์ยาทันที
ยังงัยช่วยสนับสนุน Software ไทยด้วยนะครับ
นึกว่าใช้แค่ Windows แต่พัฒนาระบบทั้งหมดบน .NET Platform นี่เอง
ezybzy.info blog
กรณีนี้ไม่น่าใช่ .net (หรือ C#) เพราะเป็น case ที่เกิดก่อน .net และ Microsoft มักเอา case ของ รพ.บำรุงราษฏร์เป็นตัวโฆษณาอยู่เรื่อยๆ(ช่วงนั้นยังมีเรื่องซุบซิบกันเสมอๆว่าเอกสารต้องออกมาเป็น A4 เพราะใช้ laser printer เป็นหลัก [เมื่อก่อนยังนิยม dot matrix]) hospital2000
ดูหน้าตา CEO เลยไม่ค่อยดีใจเท่าไร(ที่น่าจะเป็นของคนไทยเต็มๆ)
Patrick Downing, CEO Global Care Solutions
http://www.ThaiBuddy.com
ฟรี T<->E dictionary แค่ชี้ mouse
ขอโทษ ถ้าเอา software ของโรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ มาใช้ในโรงพยาบาลรัฐ
มันจะรอ 17 นาทีอยู่ไม๊
แล้วระดับโรงพยาบาลบำรุงราษฏร์น่ะ ถ้าไม่ใช้ software เนี่ย ระยะเวลารอหมอเป็นเท่าไหร่
มันก็ถูกอยู่ครับ แต่จากประสบการณ์ถ้างาง flow ดี ๆ ก็จะประหยัดเวลาคนไข้มากขึ้น แล้วยิ่งถ้ามี ระบบ IT เข้ามาเสริม รองรับงานที่ส่วนที่เสียเวลาเกินจำเป็น อย่างเช่น คนไข้ต้องหอบแฟ้มเวชระเบียน ตัวเองจากห้องบัตรมานั้งรอที่ ห้องหมอ ? หรือ หมอต้องเขียนใบสั่งยาแล้วใหคนไข้ถือไปวางที่ห้องยา
ผมว่า พฤติกรรมนี้ควรโล๊ะทิ้งได้แล้ว ....
แต่อย่างว่าครับ ข้าราชการไทย ไม่มียุคไหนที่ไม่พากันเข้าคลอง ... อย่างทุกวันนี้มี สปสช. ที่จะเก็บสิทธิคนทุกคนว่าแต่ละคนจะได้รับสิทธิ์ในการรักษา ฟรีแค่ไหน ? ระบบโปรแกรม ที่คนไทยพัฒนาพยายามลดช่องว่างการรอเช็คสิทธิ์ของคนไข้ด้วยการขอต่อตรงผ่าน Webservice ผอ. สปสช. กลับบอกว่า กิน ฟราฟฟิก Server เยอะเกินขอปิดระบบ .... พยายามให้ใช้ระบบเดิม คือรับแผ่น Disket จาก สสจ. มารัน ผ่านแอกเสส ??
สำหรับโรงพยาบาลรัฐ ถึงไม่ต้องรอเวชระเบียน ก็ต้องมาติดคอขวดที่หน้าห้องตรวจแพทย์อยู่ดี เพราะจำนวนแพทย์ไม่มากเท่าโรงพยาบาลเอกชน ไม่ต้องรอเขียนใบสั่งยา แต่ก็ต้องรอจัดยา จ่ายยาอยู่ดี เพราะบุคลากรไม่เป็นอัตราส่วนที่เหมาะสมกับจำนวนคนไข้
สรุปแล้วแก้การเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องได้ แต่ต้องมาเสียเวลาตรงขั้นตอนที่ติดขัดตรงจำนวนบุคลากรอยู่ดี
ส่วนเรื่องสปสช. เห็นด้วยว่าน่าจะปรับปรุง Server แทนที่จะใช้วิธีปิดระบบ เพราะทุกวันนี้เห็นห้องบัตรเช็คสิทธิ์ผ่านหน้าเว็บสปสช. ยังบอกว่าเว็บล่มเช็คสิทธิ์ไม่ได้เป็นระยะๆ ครับ
Little RX
My Twitter
Blue screen of death - คราวนี้คงได้ตายกันจิง ๆ ซะที
คนไข้ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะมีระบบ manual อยู่ แต่คนทำงานจะแย่เอาเพราะต้องเขียนกันมือหงิก
Little RX
My Twitter
Linux ก็ kernel panic ครับ ฮา ......
Ford AntiTrust’s Blog
มีอีกตัวที่น่าสนใจ hospitalos ของไทยเหมือนกันใช้จาวากับ postgresql เป็น database server รันได้ทั้งสอง os คือ windows กับ linux น่าสนใจมากครับตัวนี้ opensource ด้วย
http://www.hospital-os.com
hospitalos รองรับการทำงานในโรงพยาบาลขนาดไม่เกิน 100 เตียงเท่านั้นเอง
ไม่เหมือน hosxp ที่ใช้ได้ตั้งแต่โรงพยาบาลขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ครับ
Little RX
My Twitter
ได้ข่าวว่าพนักงานไม่รู้เรื่องเลย
ข่าวปิดเงียบดีจริงๆ
มารู้กันตอนเช้า เมื่อมีคนโดนให้ออก
จะว่าบริษัทไทย ก็ว่าได้
แต่ตัวหลักๆ ก็เป็นฝรั่งครับ
คนไทยเพื่อนผมก็เป็นได้แค่ Senior Programmer
Oakyman.com
ฝรั่งเค้าก็ต้องทำธุรกิจกับฝรั่งอยู่แล้วครับ
ไม่ใช้ java บ้างเหรอ ?
---
Khajochi
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน ผมพาคุณแม่ไปตรวจสุขภาพเฉยๆ
ไปตั้งแต่ 8 โมงครึ่ง เสร็จ 11 โมงครึ่ง
รอเอกสารส่งตัวตอนแรก 15 นาที
เจาะเลือด วัดความดัน x-ray วัดคลื่นหัวใจ รวมรอคิว 45 นาที
รอหมออยู่เกือบชั่วโมง เข้าไปคุยไม่ถึง 3 นาที
คนก็ไม่ถือว่าเยอะเท่าไหร่
ก่อนหน้านั้นผมไปตรวจมาก่อน ก็ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ
เพราะไม่รอหมอนานขนาดนั้นครับ
ผมก็งงนะครับว่าตึกใหม่ ทำไมถึงช้ากว่าเดิมอีก
จะดีใจทำไมครับ
ไม่ใช่บริษัทคนไทย100%
จะบอกว่าเป็นบ.ของคนไทยก็พูดได้ไม่
ฺ็CEO ก็เป็นผรั่ง
BHก็ถือหุ้นอยู่บ.นี้30%
โดยsoftwareของบ.นี้ก็ถูกimplementให้กับทุกโรงบาลใครเครือBHทั่วasia
พูดง่ายๆบ.นี้ก็เป็นบ.ของBHนั้นเอง
เห็นข่าวนี้ตอนแรกโคตรดีใจเลยที่เห็นบ.softwareไทยไปไกลได้ขนาดนี้แต่พอมารู้โครงสร้างผู้ถือหุ้นก็
ต้องถอยกลับทันที
Advance Healthcare Infomation Systems
ติดต่อ แอ็ดวานซ์ เฮลท์แคร์ อินฟอร์เมชั่น ได้ครับ
023056695
0895976099
deaw@ahis.info