งานวิจัยร่วมระหว่างหน่วยงานวิจัยของญี่ปุ่นห้าสถาบันที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร British Journal of Cancer ในหัวข้อ Mobile phone use, exposure to radiofrequency electromagnetic field, and brain tumour: a case-control study ได้มีการแสดงผลว่า ความเชื่อที่ว่าคลื่นวิทยุจากโทรศัพท์มือถือมีความเกี่ยวเนื่องกับมะเร็งนั้นไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดแต่อย่างใด
ทีมงานอาศัยการตรวจสอบประวัติการใช้โทรศัพท์มือืถอของสองกลุ่มบุคคล คือกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งสมอง 322 คน และผู้มีสุขภาพดี 683 คนในกรุงโตเกียว และจัดกลุ่มความแรงสัญญาณจากโทรศัพท์ที่แต่ละคนใช้งานออกเป็นสี่หมวดตามลำดับความแรงของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ปล่อยออกมา แต่ไม่พบความเกี่ยวเนื่องใดๆ ระหว่างการใช้โทรศัพท์และการเกิดโรคมะเร็ง
ก่อนหน้านี้เคยมีการทำวิจัยในแนวทางเดียวกันนี้ โดยมีการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างนับแสนคน ก็ไม่พบความเกี่ยวเนื่องใดๆ เช่นกัน
อย่างนี้ข้อจำกัดในการเมาน์นานๆ คงเป็นเรื่องของโปรถูกๆ ที่หายไปจากบ้านเราแล้วสินะ
ที่มา - PhysOrg
Comments
ถ้าผมคุยแบบไม่ใช้ Small Talk หรือ Speaker Phone ซักสิบกว่านาทีจะเริ่มร้อนแล้วมึนๆหัว ไม่รู้คนอื่นเป็นบ้างไหม ถึงมันอาจไม่เกี่ยวกับมะเร็ง แต่ด้วยความรู้สึกผมว่ามันก็ไม่ดีนักหรอกครับ
มายืนยันว่าเป็นเหมือนกันครับ
--
--
เป็นเหมือนกัน
———————
คิดๆ ขีดๆ เขียนๆ
LinkedIn
ผมว่าผมคุยนานไม่ได้เพราะมันร้อน มันทำให้ผมใช้สมาธิสูง และยังมีความกลัวในการใช้อยู่เลยทำให้เครียดและปวดหัว
PoomK
เคยแต่ช่วงนึงเอามือถือใส่ไว้ในกระเป๋าที่อกเสื้อด้านซ้าย
ทำแบบนั้นหลายวันอยู่ อยู่ๆก็เริ่มเจ็บแปล๊บๆที่หัวใจบ้าง - -"
ชักเอะใจเลยย้ายโทรศัพท์ไปไว้ที่อื่น ตอนหลังอาการเจ็บนั้นก็หายไป เกือบม่องไปแย้ว -*-
อย่างนี้เอาไว้ในกระเป๋ากางเกง อวัยวะระดับเอวจะเดี้ยงด้วยหรือเปล่า?
+1 funny
--
--
ผมคุยนานๆเกิน 30 นาที เนี่ยเป็นละ ถ้าใช้มือถือ ปวดหัวเลย
ยิ่งตื่นมาหลังจากนั้นยิ่งปวดหัว ถ้าเป็นโ?รศัพท์บ้าน จะไม่เป็นไร
หรือแม้แต่ไร้สายของโทรบ้านก็ร้อน แต่ก็ไมไ่ด้ปวดหัว
ในข่าวบอกว่า ไม่มีผล ทำให้เกิด "มะเร็ง" แต่ก็ ไม่ได้หมายความว่า
จะไม่ได้มีผล ต่อ อาการ อย่างอื่นหนิครับ คือความรู้สึกมันบอกว่าผิดปกตินะ
เวลาใช้นานๆ ผมว่าดีสุดก็อย่าไปใช้มันเลยใช้โทรบ้าน
ส่วนใครจะวิทยาศษสตร์จ๋า ก็ทำไปเถอะครับ แต่ผมว่า บางครั้ง การวิจัย
พวกนี้ก็ไม่ได้ถูกเสมอไป
"วิทยาศาสตร์ไม่ได้ถูกเสมอไป" นี่เป็นแนวคิดพื้นฐานของวิทยาศาสตร์เลยล่ะครับ ว่าถ้าคิดว่าไม่ถูกก็ต้องหาหลักฐานมาหักล้างกันไปตามหลักเหตุและผล
ส่วนเรื่องที่ว่าไม่เกี่ยวกับมะเร็งแต่เกี่ยวกับปวดหัวนี่ก็เห็นด้วยครับ งานวิจัยไม่ได้อ้าง (เพราะนักวิจัยไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้อยู่) จริงๆ ก็คงเป็นเรื่องปรกติของการทำวิจัยที่ต้องจำกัดกรอบการทำงาน คงไม่มีใครกล้าทำวิจัยหัวข้อ "โทรศัพท์มือถือไม่มีผลเสียต่อสุขภาพ" แน่ๆ ล่ะครับ
ส่วนเรื่องความเชื่อส่วนตัวนี่คงไม่มีใครไปบังคับใครหรอกครับ
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
Fact คงไม่เป็นต้องเชื่อหรอกครับ... เชื่อยังไงมันก็เป็นอย่างนั้นอยู่ดี แต่จะรู้ได้ไงว่าเป็น Fact คงอีกเรื่อง
ปัจจัยการเป็นมะเร็งอาจจะมีมากกว่าหนึ่งอย่างก็ได้ งานวิจัยอาจจะไม่ถูกเสมอก็ได้
ใช่ครับ แต่ถ้าไม่เชื่อ เราก็ควรที่จะพิสูจน์ได้ ว่าไม่เชื่อเพราะอะไร บางอย่างมันก็เป็นเรื่องของความรู้สักล้วนๆ ที่ทำงานผมทดสอบ outdoor ap มีสายอากาศอยาว 2 ฟุต เปิดที่ไรชอบมีคนบนว่าปวดหัว แล้วโดนแอบปิดทุกที แต่พอผมย้ายมัน ไปใต้โต๊ะให้ไม่มีใครเห็น กลับไม่มีคนบ่นอะไรเลย แปลกดีไหม ถ้าผมใช้ความรู้สึกตัดสิน แสดงว่าการไม่เห็นสายอากาศ ลดโอกาสการเป็นมะเร็งได้เหรอ...สำหรับผมคงไม่ด่วนสรุปแบบนั้นแน่ๆ
ผมคุยวันละไม่ต่ำกว่าชั่วโมงมาเปนปีแล้ว เฉยๆ
คนไกลบ้าน