จากการรวบรวมงานวิจัยใน สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ฟินแลนด์ สวีเดน ญี่ปุ่น ที่มีการตีพิมพ์ในช่วงปีค.ศ. 2003-2007 ครอบคลุมกลุ่มประชากร 37,000 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 40-80 ปี พบว่า โรคอ้วน (obesity) เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะสมองเสื่อม (dementia) ขึ้น 42% เทียบกับกลุ่มประชากรที่มีน้ำหนักปกติ ในขณะที่การที่มีน้ำหนักตัวน้อยเกินไป (underweight) ก็เพิ่มความเสี่ยงขึ้น 36%
ภาวะสมองเสื่อมในการศึกษานี้หมายความถึง โรคอัลไซเมอร์ และโรคสมองเสื่อมที่เกิดจากหลอดเลือดสมองเสียหาย (vascular dementia)
เมื่อสาวย้อนกลับไปจะพบว่า 12% ของผู้ที่มีภาวะสมองเสื่อม มีโรคอ้วนเป็นตัวการร่วม และถ้าเจาะจงเฉพาะโรคอัลไซเมอร์ ตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 21%
ผู้วิจัยก็เลยสรุปความสัมพันธ์ระหว่างน้ำหนักตัว กับภาวะสมองเสื่อมเป็นแบบ U-shape ซึ่งส่วนของท้อง U (ความเสี่ยงในการเกิดโรคสมองเสื่อมต่ำที่สุด) ก็คือผู้ที่มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกตินั่นเอง
ที่มา Physorg
Comments
โอว...ขอบคุณมากมายคับสำหรับ
"่ยุทธการกำจัดเมีย"
ถ้าลองมองมุมอื่น..
อาจเพราะสมองเสื่อมทำให้อ้วนหรือผอมลง? อาจเพราะสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ทั้งอ้วนขึ้นหรือผอมลงพร้อมๆ กับสมองเสื่อม? อาจมีตัวแปรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ได้พูดถึงหรือถูกมองข้ามอีกหลายตัว? อาจเป็นไปได้ว่าตัวเลขนี้ เป็นตัวเลขเฉพาะกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว?
ดูจากการวัดค่า BMI น่าจะบ่งบอกได้มากทีุ่สุดว่าเราอยู่ในระดับไหน แต่เท่าที่ผมดู คนไทยหุ่นพอดี หากไปนำตัวเลขไปวัดดูแล้ว ก็จะบอกว่าผอม,ผอมเกินไป เราจำลองตัวเราเองดีกว่า และการรับประทานอาหารที่ถูกหลักไม่กินมากเกินไปและไม่น้อยเกินไป และควรทานอาหารเสริมอย่างต่อเนื่อง แต่กลุ่มเราๆควรจะเน้น อาหารกลุ่มลูทีน ให้มากขึ้นไปด้วยเพราะเราใช้คอมพิวเตอร์กับสายตาที่เพ่งหน้าจอ ผมลองทานดูแล้ว ปรากฏว่าได้ผลจริงๆครับ.. ไม่ค่อยแสบตาเหมือนเมื่อก่อนและสายตาก็ดีขึ้นด้วย...
macXide กล้าคิดเพื่อโลกของความเป็นจริง