ข่าวนี้จะรวมความเคลื่อนไหวทั้งหมดของรักสามเส้าที่สุดท้ายไมโครซอฟท์อกหัก แต่นางเอกอย่างยาฮูก็ยังอาการไม่ค่อยดีเท่าไรอยู่ดี
เรื่องเริ่มจากการกลับมาเจรจากันอีกครั้งของไมโครซอฟท์กับยาฮู (ไมโครซอฟท์-ยาฮู ภาค 2: ซื้อเฉพาะ Yahoo! Search?) ซึ่งเรื่องก็เงียบหายไป จนกระทั่งเมื่อวันก่อนจู่ๆ ก็มีข่าวออกมาว่า ไมโครซอฟต์ถอนตัวจากยาฮู, กูเกิลทำข้อตกลง 800 ล้านดอลลาร์สำเร็จ แทน สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างนั้นอยู่ในอีเมลของ Kevin Johnson ประธานฝ่ายแพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์ ซึ่งเขียนบอกพนักงานไมโครซอฟท์ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร และอีเมลหลุดออกมาสู่สาธารณะ (จาก TechCrunch)
ตามอีเมลของ Johnson ข้อเสนอของไมโครซอฟท์ชุดสุดท้าย มีดังนี้
สรุปสั้นๆ ว่าไมโครซอฟท์จะจ่ายเงินให้ยาฮู 9 พันล้านเหรียญ แลกกับยาฮูไม่มีสิทธิ์ในธุรกิจ search ของตัวเองไปอีกตลอดกาล
เรารู้กันแล้วว่ายาฮูปฏิเสธข้อเสนอ 9 พันล้านนี้ และหันไปรับ 800 ล้านจากกูเกิลแทน ข้อเสนอของกูเกิลคือยาฮูนำโฆษณาของกูเกิลไปลงนาน 4 ปี โดยไม่ผูกขาดว่าต้องเป็นโฆษณาของกูเกิลเท่านั้น
สิ่งที่ยาฮูต้องการอย่างเร่งด่วนในตอนนี้คือเงินสดเพื่อให้บริษัทมีฐานะทางการเงินมั่นคง แต่ไม่ว่าเลือกทางไหน อนาคตของยาฮูก็มืดมนอยู่ดี
ถ้ารับข้อเสนอของไมโครซอฟท์ ยาฮูจะเสียธุรกิจ search ของตัวเองไป แต่ได้เงินสดกลับเข้ามาจำนวนมาก ความสามารถในการแข่งขันระยะยาวของยาฮูจะหายไป ในมุมของยาฮูดูแย่ แต่ในมุมมองของผู้บริโภคอย่างเราๆ ข้อเสนอนี้ดีกว่าเพราะไมโครซอฟท์+แผนก search ของยาฮูน่าจะต่อสู้กับกูเกิลได้สูสีขึ้น
ข้อเสนอของกูเกิลฟังดูไม่แรงเท่าของไมโครซอฟท์ แต่เอาจริงแล้วมันเป็นการฆ่าตัวตายในอนาคตเช่นกัน ถึงแม้ว่าสัญญาจะไม่ผูกขาดเฉพาะโฆษณาของกูเกิล แต่ผู้เล่นในตลาดโฆษณาที่มีอัตราจ่ายดีเท่ากูเกิลก็ไม่มีอีกเช่นกัน นั่นแปลว่าสุดท้ายแล้วคนจะหนีไปลงโฆษณากับกูเกิลกันหมด ยาฮูไม่ได้อะไรในระยะยาว
ข่าวการรับข้อเสนอของกูเกิลทำหุ้นยาฮูตกไป 3 ดอลลาร์ คิดเป็นมูลค่าหายไป 3.6 พันล้านเหรียญ (TechCrunch) ที่แย่พอกันคือขวัญกำลังใจของบริษัทหดหาย พนักงานระดับสูง (VP และ EVP) ทยอยลาออกกันไป 3 คนแล้ว (TechCrunch)
ไมโครซอฟท์เลือกลุยกับกูเกิลด้วยตัวเอง ซึ่งเราเริ่มเห็นแคมเปญใหม่ๆ ของ Live Search อย่างเช่น ไมโครซอฟท์จะจ่ายเงินคืนให้กับผู้ใช้ Live Search และ คอมพิวเตอร์ HP ที่ขายปีหน้า จะมาพร้อมกับ Live Search และ Silverlight ซึ่งเราได้แต่รอดูว่าจะประสบความสำเร็จแค่ไหน
ส่วนข้อตกลงของยาฮูและกูเกิลนั้นกำลังถูกจับตาดูจากหน่วยงานด้านต่อต้านการผูกขาดของสหรัฐ และเราคงได้เห็นข่าวการสั่งระงับข้อเสนอเป็นการชั่วคราวจากฝั่งรัฐบาลในเร็วๆ นี้
สุดท้ายแล้วไม่ว่าข้อตกลงของยาฮูกับกูเกิลจะผ่านหรือเปล่า กูเกิลไม่มีปัญหาอะไร แต่ยาฮูนี่ดูยังไงก็ไม่รอด ขึ้นกับว่าตายเร็วหรือตายช้าเท่านั้นเอง
ที่มา - TechCrunch
Comments
ขายให้ไมโครซซอฟต์แต่แรกก็จบ วงการจะได้มีสีสัน
มองจาก yahoo เงิน 800 ล้านจากกูเกิลเป็นทางออกที่ดีแล้วครับ
เพราะเทียบกันแล้ว ปีละ 800 ล้าน * 4 ปี = 3.2 พันล้านเหรียณ จากกูเกิล มีกำหนดระยะ 4 ปี หมายความว่าหมด 4 ปีแล้วไม่คุ้มก็ยังเอา google ออกจากบริการของ yahoo ใด้ แต่ถ้าคุ้ม ก็ต่ออายุเป็น 10 ปี 8 พันล้านเหรียณ และหุ้นก็ไม่กระเด็นออกจากตัวสักนิด
ad ไม่ผูกขาดว่าต้องเป็นโฆษณาของกูเกิลเท่านั้น yahoo search ก็ยังทำกำไรจากการดับอันดับในผลการ serch และ ad ที่ไม่ไช่ของ google
กลัีบกัน ถ้ารับข้อเสนอของ ms ใด้เงิน 9 พันล้านเหรียญ ทันทีก็จริง แต่ 8 พันล้านเป็นการชื้อหุ้น ms เข้ามาเป็นผู้บริหาร หมดปีก็ต้องปันส่วนกำไร ถ้าน้อย ms ก็ขายหุ้นทิ้งกับรายย่อยเอาเงินคืน เงินที่ใด้มาจริงๆคือ 1 พันล้านเหรียญชื้อ search ไปทั้งเครื่องและคน
สัญญา ad ก็บอกแค่จะใด้มากกว่าหาเอง ผูกพันนาน 3 ปี (น้อยกว่า google 1 ปี) ad น่าจะผูกขาดด้วย และถ้าบังเอิญกำไรดีก็ดันต่อสัญญาไม่ใด้อีก search ก็ต้องปิดตัวกำไรข้างบนก็หายไป
^^
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมมองต่างกันนะครับ
ถ้าทำธุรกิจแล้วล่ะก็ สิ่งที่ต้องคำนึงคือศักยภาพในการแข่งขันครับ รายได้ไม่สำคัญเท่าบริษัทคุณมีอนาคตหรือปล่าว การยอมรับข้อเสนอของ Google แบบนี้ มันเหมือนยอมรับแล้วว่าตัวเองไม่สามารถหารายได้จากการโฆษณาเองได้แล้ว แล้วการเอาโฆษณาจาก google มาลง ผมว่ามันยิ่งแสดงออกว่าตัวเองบ้อท่าขนาดไหน อย่างนี้ถ้าผมจะลงโฆษณาใน Yahoo ผมไปลงใน Google ไม่ดีกว่าเหรอ
Yahoo ไม่ได้อะไรในดีลนี้เท่าไหร่เลย แถมเป็นการบอกคนทั่วไปเลยว่า ตัวเองไม่มีปัญญาทำอะไรแล้ว แถมยังยิ่งศักดิ์ศรีอะไรก็ไม่รู้ ควรแล้วครับที่บอร์ดชุดนี้จะโดนผู้ถือหุ้นรวมหัวกันให้ออก
แต่ดีลหลังขอ MS ก็ไร้น้ำใจพอสมควรเลยนะนั่น
อันนี้ใช่เลยครับ ในข่าวต้นฉบับของ TechCrunch เค้าเปรียบเทียบดังนี้
ผมว่ามันโหดไปหน่อยเลยไม่แปลลงข่าวรอบแรก
ผมเชื่อว่าการตัดแขนขายเป็นการลดศักยภาพในการแข่งขันระยะยาวครับ การรับตังจาก google อาจเป็นทางออกที่ดีเพราะ yahoo seach เป็นหนึ่งในศักยภาพที่ทำให้มีคนเข้าเวปของ yahoo
yahoo ยอมรับความจริงที่ว่าไม่มีใครหา ad ใด้ดีเท่า google เลยหันไปหาวิธีทำเงิน โดยรับเงิน google แล้วเปลี่ยนไปให้บริการอย่างเดียวแทน
ในดีลนี้นอกจาก yahoo ใด้เงินแล้ว ยังทำให้ ความตั้งใจจะชื้อ yahoo search ลดลงเพราะ ...
ผู้บริหารที่กดดันให้ขายหุ้นให้ ms ใด้เห็นตังบ้าง ทำให้ความกดดันภายในลดลง (เชื่อว่าที่หลายคนลาออกไปเพราะโดนกดดันตรงนี้)
มีสัญญากับ google หมายความว่า ms ชื้อไปก็ต้องมี ad ของ google อยู่บน yahoo search ชื้อไปก็มีปัญหา แถมยืดเยื้อใด้นาน 10 ปี เอาเงินไปทำอย่างอื่นคุ้มกว่า
ศักยภาพของ yahoo ไม่ไช้การหาเงิน แต่เป็นการดึงคนเข้าเวป yahoo มีบริการหลายอย่างที่ ms และ google ไม่มี การแก้จุดอ่อนที่หาเงินไม่เก่ง โดยเดินเข้าหาคนที่หาเงินเก่งๆ น่าอาย แต่มันไม่ไช่การตัดแขนขาย (ขายหุ้น และ yahoo search) แต่เป็นการทำงานหาเงิน (โดยให้ผู้บริการหา ad อย่าง google เข้ามา ad ใน yahoo)
อีกทาง google ก็คงไม่ใด้อยากให้ตังมากขนาดนั้น 800 ล้านต่อ 1 ปี เกือบเท่าราคา yahoo search ตามที่ ms จะชื้อ (1 พันล้าน) ถ้า ms + yahoo ไม่มีอันตราย google ไม่จ่ายแน่นอน พลิกปัญหาเป็นกำไรเรียกตัง google ใด้มากขึ้น
พร้อมกันก็เปิดตัวเลือกให้ ms แบบที่ไม่สามารถหุบใด้ ... คือเช็นสัญญาแบบเดียวกับที่ yahoo ทำกับ google เพราะไม่มีการผูกขาด จะเอา ad ใครเข้าเวปก็ใด้
yahoo ใด้ตัง (มากกว่าที่ควรจะใด้) และ ms ฮุบ yahoo search ลำบากขึ้น นั้นคือหมาก 1 เม็ดที่ให้ผล 2 ทาง
^^
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ในข้อ 2 จริงๆ แล้วเค้ามีข้อตกลงกันอยู่ครับว่าถ้า Yahoo ถูกซื้อหุ้นไปคิดเป็นอัตราส่วนเท่าไร (ประมาณไม่เกิน 30%) จะต้องเสียค่าปรับเลิกสัญญาให้กูเกิลด้วย
ครับ หมายความว่าตอนที่ชื้อไปยังมีสัญญาอยู่ ผมไม่รู้รายละเอียด แต่เดาใด้ว่า มันจะทำให้เวลาขายต้องแพงขึ้น เลยบอกว่ายืดเยื้อใด้ 10 ปี แทนที่จะบอกว่า 4 ปี (เพราะถ้า ms ขื้อไปแล้ว คงไม่ต่อสัญญาแน่)
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
สองแสนเก้าหมื่นเจ้าพันล้านบาท!!
TechCrunch วิจารณ์แรงจริงๆ แต่มันก็จริงตามนั้น ไมโครซอฟท์จะได้ไปแบบเต็มๆ ส่วนยาฮูก็รอวันตาย เหมือนเอาแต่ลูกในท้อง(search system)พอได้ลูกมาก็ทิ้งแม่(Yahoo!) สุดท้ายไม่ว่ายังไงยาฮูก็กลายเป็นแค่อดีตอยู่ดี
Yahoo! ใกล้ตายแล้วเหรอเนี่ย? เศร้า
Jusci - Google Plus - Twitter
yahoo จับฉายน่ะ ทำทุกอย่างเลย รายต่อไปก็คงเป็นไมโครซอฟท์ หรือปล่าว ทำธุรกิจหลายอย่างจัดไม่เอาจริงเอาจังซักอย่างเลย
ความจริงก็เหมือนผมเลยน่ะ ทำงานเป็นทุกอย่าง แต่เอาจริงๆ ก็ไม่ได้เรื่องอะไรซักอย่าง เฮ้อ! กลุ้มใจไปด้วยเลย ----- ดาวนับล้านลอยอยู่บนท้องฟ้า จะมีไม่น่าที่ลอยอยู่เองเฉยๆ อย่าท้อแท้ที่จะเรียนรู้ และจงเป็นครูสอนผู้อื่นต่อ
ใครบอกไม่เอาจริงเอาจังซักอย่างครับ? ผมมองว่าที่ถูกคือ MS ทำธุรกิจหลายอย่างและจริงจังกับหลายอย่างนั้นนะครับ (แต่ก็ไม่ทุกอย่าง?) ตัวอย่างผลิตภัณฑ์หลักในการทำธุรกิจที่มีก็เช่น ็ 1. Windows สำหรับตลาด OS ซึ่งแยกออกเป็นอีกหลายๆพันธุ์อีก ไม่ว่าจะเป็น server หรือจะเป็น home 2. Office สำหรับตลาดการใช้งานใน business ซึ่งครอบคลุมมากตั้งแต่ระดับ basic ถึง advanced 3. Visual Studio สำหรับตลาด programming 4. SQL Server สำหรับตลาด database 5. Sharepoint สำหรับ enterprise 6. ...
ซึ่งแต่ละอย่างนี่ไม่ใช่เล็กนะครับโดยเฉพาะ Windows และ Office สิ่งถือเสาหลักและเป็นแหล่งเงินสดๆของ MS เลย ถ้าสองอย่างนี้พังไปก็ไม่แน่ว่ายักษ์คงได้มีสั่นคลอนกันบ้างครับ
ผมว่าทั้ง Yahoo! ทั้ง MS ก็พยายามลองเชิงหลายๆอย่างล่ะครับ อะไรรุ่งขึ้นมาก็ลุยต่อซะเลย
แต่ปัญหาของ Yahoo! ก็คือ Core Competency ของบริษัทคือระบบค้นหามันเก่าและไม่สามารถนำมาสู้กับ Google ได้เลย และโมเดลธุรกิจก็ไม่ได้สร้างรายได้ให้มากมายอีกด้วย
ต่างกับของ MS ที่มีแกนหลักคือการขาย Windows ซึ่งยังไม่มีใครมาเบียดบัลลังก์ได้เลย ทำให้มั่นคงกว่ามาก
อีกอย่างที่สำคัญมากๆเลยคือ MS มีเงินสดอยู่ในมือมหาศาล ยิ่งผ่านปีไปยิ่งรวยขึ้นๆ ต่างกับ Yahoo! และ Google ที่รวยเพราะมูลค่าหุ้นหรือเงินเสมือน ดังนั้นถ้าวัดกันจริงๆ MS นี่แข็งแกร่งมากๆเลย วันใดมีคนคิดระบบ search ที่ดีกว่า Google ขึ้นมา Google ก็จะเป็น Yahoo! รายต่อไปเหมือนกัน
ผมคิดว่าผมมี Brand Royalty ต่อ MS อยู่เหมือนกันนะ แต่กับ Google หรือ Yahoo! ผมไม่มีเลย ถ้ามีบริการใหม่ๆที่ดีกว่าผมก็พร้อมย้ายค่ายทันทีล่ะ -3-