จากข่าวเดิม Android มาแล้ว (ในที่สุด) ตอนนี้ยังไม่มีคนธรรมดาคนไหนได้ใช้ T-Mobile G1 รายละเอียดทุกอย่างต้องหาอ่านจากเว็บ ผมพยายามสรุปข้อมูลเท่าที่จะหาได้ แต่มีอะไรขาดไปหรืออยากรู้ ก็เข้ามาช่วยกันโพสต์เพื่อหาคำตอบนะครับ

ข้อมูลทั่วไป ราคาและวันวางจำหน่าย

• เป็นมือถือ 3G ตัวแรกของ T-Mobile
• ชื่อที่ใช้ทำตลาดคือ T-Mobile G1 with Google
• ตัวเครื่องราคา 179 ดอลลาร์มาพร้อมกับสัญญา 2 ปี มีให้เลือก 2 แบบ
  • 25 ดอลลาร์ต่อเดือน ไม่จำกัดปริมาณข้อมูล จำกัด SMS
  • 35 ดอลลาร์ต่อเดือน ไม่จำกัดปริมาณข้อมูล ไม่จำกัด SMS
  • (คำว่า ไม่จำกัดปริมาณข้อมูล มีเงื่อนไขประกอบ ดูในหมวด "เครือข่าย")
  • 90 วันแรกหลังซื้อ ดาวน์โหลดโปรแกรมจาก Marketplace ฟรี
• ส่งมอบเครื่องได้วันที่ 22 ตุลาคม 2008
• เตรียมเปิดตัวในสหราชอาณาจักรต้นเดือนพฤศจิกายน และเยอรมนี ออสเตรีย สาธารณรัฐเช็ก เนเธอร์แลนด์ ไตรมาสแรกของปี 2009
• ตารางเปรียบเทียบสเปกและราคา กับมือถือรุ่นใกล้เคียงกัน (เช่น iPhone, BlackBerry Bold, HTC Touch Pro) จาก Gizmodo

ฮาร์ดแวร์

• สเปกแบบละเอียดจาก Gizmodo หรือ TalkAndroid
• หน้าจอ 3.17" ความละเอียด 480×320 รองรับ 65,000 สี
• คีย์บอร์ดแบบสไลด์ QWERTY - Walt Mossberg บอกว่า "typing on this keyboard to be OK, but not great."
• หน้าจอสัมผัส แต่ไม่เป็นมัลติทัช (กูเกิลบอกว่าจะออกรุ่นมัลติทัชตามมาทีหลัง)
• คุยต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง เปิดเครื่องรอรับสาย 130 ชั่วโมง (ประมาณ 5 วัน)
• แบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนได้
• กล้อง 3.1MP ถ่ายวิดีโอไม่ได้
• รองรับคลื่น 850/900/1700/1800/1900/2100Mhz (ของ T-Mobile เป็น 1700)
• หน่วยความจำเป็น MicroSD 1GB มาพร้อมกับเครื่อง ซื้อมาใส่เองได้สูงสุด 8GB
• แถมเพลงมาให้ 11 เพลง
• ไม่มีหน่วยความจำภายในสำหรับเก็บหนัง-เพลง ต้องเก็บลงใน SD เท่านั้น
• มี GPS ในตัว
• มี Bluetooth แต่ไม่ใช่ Stereo Bluetooth (เหมือนกับ iPhone)
• มีแทร็คบอลสำหรับใช้งานมือถือด้วยมือข้างเดียว
• Voice recognition, voice dialing และ speakerphone
• ไม่มีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. ต้องซื้อตัวแปลงหรือหูฟังเฉพาะเพิ่มเอง
• ไม่สามารถใช้เป็นโมเด็มต่อกับโน้ตบุ๊กได้ (คาดว่า T-Mobile กันเอาไว้ - GigaOm)
• 3 สี ขาว ดำ น้ำตาล
• ขนาด 4.60” x 2.16” x 0.62” หนัก 5.6 ออนซ์ (159 กรัม)
• ล็อกซิมให้ใช้ได้กับ T-Mobile เท่านั้น

ซอฟต์แวร์และบริการ

• รันโปรแกรมหลายตัวพร้อมกันได้
• โปรแกรมอีเมล 2 ตัว ตัวแรกสำหรับ Gmail โดยเฉพาะ อีกตัวสำหรับอีเมลอื่นๆ ที่เป็น POP3/IMAP ตามปกติ
• IM สนับสนุน GTalk, AIM, Yahoo, MSN
• Google Maps พร้อม Street View
• YouTube
• ซื้อเพลงผ่าน Amazon MP3 ได้ (เพลงไม่มี DRM และนำไปใช้ที่อื่นได้) ราคาเพลงทั่วไปเพลงละ 89 เซนต์ การดาวน์โหลดเพลงต้องทำผ่าน Wi-Fi เท่านั้น แต่ตอนหาเพลงหรือลองฟังเพลงตัวอย่าง ทำผ่าน 3G ได้ ถือเป็นมือถือรุ่นแรกที่ซื้อเพลงจาก Amazon MP3 ได้ ตอนนี้บน Amazon MP3 มีให้เลือกซื้อ 6 ล้านเพลง
• ฟอร์แมตเพลงที่สนับสนุนคือ MP3, M4A (iTunes AAC แบบไม่มี DRM), AMR, WMA, MIDI, WAV, OGG Vorbis
• มี copy & paste
• มี pushmail
• มี MMS
• เบราว์เซอร์ยังจำกัดกว่า Safari ของ iPhone เช่น ไม่มีการคลิกตรงตำแหน่งที่ต้องการเพื่อซูม ต้องกดปุ่มแว่นขยายเอา
• มีโปรแกรมฟังเพลงแบบพื้นฐานมาให้ แต่ไม่มีโปรแกรมดูหนัง
• อ่านไฟล์ Word/Excel ได้ แต่ไม่สนับสนุน Microsoft Exchange
• ยังไม่มีโปรแกรมสำหรับ sync กับคอมพิวเตอร์ (รวมถึง Outlook) ตอนนี้สามารถ sync ข้อมูลกับบริการของกูเกิล (เช่น Gmail, Google Calendar) ได้ผ่านเครือข่ายมือถือหรือ Wi-Fi โดยตรงเท่านั้น
• Android Marketplace รุ่นเบต้า โปรแกรมที่เปิดตัวพร้อมเครื่องได้แก่
  • ShopSavvy เปรียบเทียบราคาสินค้า
  • Ecorio วัดค่า carbon footprint ในแต่ละวัน
  • BreadCrumbz สร้างเส้นทางการเดินทางด้วยรูปภาพจากกล้องมือถือ แล้วแชร์ให้โลกรู้
  • Gizmodo มีรายชื่อ 10 โปรแกรม Android ที่น่าสนใจ

เครือข่าย

• เครือข่าย 3G ของ T-Mobile ในสหรัฐนั้นยังไม่ครอบคลุมมากนัก ถ้าพื้นที่ไม่มี 3G สามารถปรับมาใช้ EDGE แทนได้
• ได้สิทธิ์ใช้ T-Mobile Wi-Fi Hotspot รอบโลกฟรี
• ถึงแม้จะบอกว่าดาวน์โหลดข้อมูลได้ไม่จำกัด แต่ T-Mobile มีเงื่อนไขว่าถ้ารอบบิลหนึ่งๆ ดาวน์โหลดเกิน 1GB จะถูกลดความเร็วลงเหลือ 50 kbps จนกว่าจะขึ้นรอบบิลใหม่ - DSL Reports
• ไม่อนุญาตให้ใช้โปรแกรม VoIP ที่ใช้เครือข่ายมือถือ (เหมือน iPhone)

อื่นๆ

• Android SDK 1.0 ออกแล้ว (แต่ซอร์สโค้ดยังไม่ออก) - Ars Technica
• Andy Rubin หัวหน้าทีม Android เคยอยู่ในทีมสร้าง T-Mobile Sidekick มือถือแบบสไลด์มีคีย์บอร์ด ก่อนหน้านี้เขาเคยทำงานมาแล้วกับทั้งแอปเปิลและไมโครซอฟท์
• Sergey Brin และ Larry Page ใส่รองเท้าสเก็ตเข้ามาในงานแถลงข่าวด้วย (ดูภาพจาก TechCrunch) Brin บอกว่าเขาได้ลองเขียนโปรแกรมสำหรับ Android ซึ่งเป็นโปรแกรมคำนวณระยะเวลาตกถึงพื้นเมื่อโยนมือถือขึ้นในอากาศ (ใช้ accelerometer)
• ค่ายที่มีข่าวว่าจะออกมือถือ Android คือ Motorola, LG และ Samsung
• วิดีโอโฆษณาอันแรกของ G1
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

Hands on จากนักข่าวที่ไปจับของจริงมาแล้ว

• Walt Mossberg
• Gizmodo
• Engadget
• BoyGeniusReport

มุมมองและบทวิเคราะห์

พวกนี้เป็นความเห็นของหลายๆ เจ้ารวมกัน

• เครื่องไม่สวยเท่า iPhone แถมหนากว่า แข่งด้านแบรนด์กับแอปเปิลยาก
• จุดอ่อนสำคัญของ G1 คือเครือข่ายและฐานผู้ใช้ของ T-Mobile เอง ซึ่งเป็นอันดับ 4 ในสหรัฐ มีสมาชิก 31.5 ล้านคน เทียบกับ AT&T อันดับหนึ่งมีสมาชิก 72.9 ล้านคน
• ระบบแผนที่เจ๋งมาก เป็นจุดขายสำคัญ
• ตัว OS ทำได้ดี ตอบสนองเร็วทันใจ
• ซอฟต์แวร์ประกอบหลายๆ ส่วนยังไม่ค่อยเรียบร้อย แต่การที่เปิดให้นักพัฒนาเข้าถึงได้มาก ทำให้จุดด้อยนี้จะถูกแก้ไขได้เร็ว (รอ VLC/MPlayer และ Skype ได้เลยครับ มาแน่)
• เทียบราคาต่อพื้นที่เก็บข้อมูลแล้ว ยังด้อยกว่า iPhone (1GB $179 กับ 8GB $199)
• ระบบ Marketplace จะเปิดกว้างมาก และใช้วิธีให้คะแนนเหมือนกับวิดีโอบน YouTube ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ต่างกับแอปเปิลแบบคนละขั้ว
• G1 อาจไม่มาเป็นคู่แข่งกับ iPhone โดยตรง แต่จะไปชนกับตลาด Windows Mobile หรือ BlackBerry เสียมากกว่า

ส่วนความเห็นของผมคือ กูเกิลรีบออก G1 ที่พอใช้งานได้ (good enough) เพื่อชิงความสนใจจากตลาด และเป็นการออกผลิตภัณฑ์จริงให้นักพัฒนาสนใจก่อน ส่วนของซอฟต์แวร์และเครือข่ายนั้นจะค่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ (ซึ่งเป็นกลยุทธ์เดียวกับเฟิร์มแวร์ของ iPhone) การเปิดกว้างให้นักพัฒนาอย่างเต็มที่ น่าจะช่วยเรื่องซอฟต์แวร์ได้มาก

แต่สำหรับฮาร์ดแวร์ คนที่ซื้อ G1 ไปแล้วก็คงจะอัพเกรดลำบาก ถ้าเอาตามคำแถลงคือเปิดตัวในยุโรปต้นปี 2009 ช่วงหลังจากนั้นไม่นานนัก (ไม่เกิน Q2 ของปี 2009) เราคงเริ่มเห็นมือถือ Android ตัวที่สองจากผู้ผลิตรายอื่นๆ ลงสู่ตลาด โดยมีฟีเจอร์มากขึ้น และช่วงกลางปีเป็นต้นไป มือถือ Android รุ่นที่สองจาก HTC ที่ครบครันมากขึ้น (เหมือน iPhone 3G) น่าจะตามมา และจุดที่ Android เริ่มสู้กับ iPhone ได้จริงๆ คงเป็นช่วงนั้น ไหนๆ มันยังไม่มีขายในเมืองไทย ก็ยังไม่ต้องรีบซื้อครับ เดี๋ยวมาอีกเป็นกองทัพแน่

ตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงสิ้นปี ความสนใจของกูเกิลและ T-Mobile จะอยู่ที่

• แก้ไขปัญหาเครือข่ายให้ครอบคลุมและเสถียรโดยเร็ว
• ผลักดันให้มีโปรแกรมจากนักพัฒนาภายนอกบน Marketplace ให้มากที่สุด เน้นปริมาณไว้ก่อน คุณภาพเดี๋ยวตามมาเอง
• อุดขัดระบบปฏิบัติการให้เสถียรมากขึ้น แก้บั๊กเฉพาะกิจต่างๆ ที่เกิดแล้วทำให้ใช้มือถือลำบาก

ส่วนหลังจากนั้น

• เปิดซอร์ส Android และเริ่มพัฒนาตัวระบบปฏิบัติการในระยะยาวอย่างจริงจัง เช่น ออกหนังสือตำราการพัฒนา Android หรือ สนับสนุนกิจกรรมพวกอบรมสัมมนาตามประเทศต่างๆ
• สร้างโปรแกรมคุณภาพสูงบน Android ที่เป็นไปได้คือ
  • โปรแกรมที่ผูกกับบริการอื่นๆ ของกูเกิล เช่น Google Earth, Picasa, Google News/Finance
  • โปรแกรมจากพาร์ทเนอร์รายสำคัญๆ เช่น Skype, AIR, Silverlight
  • โปรแกรมโอเพนซอร์สที่พอร์ตมา เช่น Mplayer, Gnash รวมถึง emulator สำหรับรันโปรแกรมจากแพลตฟอร์มอื่น (Palm?)
  • โปรแกรมใหม่หมดที่พัฒนาขึ้นมาแทนส่วนประกอบขัดตาทัพเดิม เช่น โปรแกรมจัดการเพลงอิง library หรือโปรแกรมดูภาพ-แต่งภาพ
  • โปรแกรมฝั่งเดสก์ท็อปที่ใช้งานร่วมกับ Android เช่น ปลั๊กอินสำหรับ Outlook หรือ Thunderbird/Evolution
• การทำตลาดของ Android น่าจะออกไปทาง social network (คือเอา Android ไปสร้างเนื้อหา แล้วแชร์ไปยังเพื่อนฝูงหรือกลุ่มคนใช้ Android) จะอิงกับอินเทอร์เน็ตมากกว่า iPhone ที่ออกไปทางมัลติมีเดีย
• Android Developer Challenge ภาคสอง ยังมีเงินรางวัลเหลืออยู่ ถ้าอยากรวยก็โหลด SDK 1.0 มาเล่นรอกันเลย