จากข่าวเก่า Facebook แบน Google Friend Connect และ กูเกิลเปิด Friend Connect ให้ใช้แล้ว ผมคิดว่านี่เป็นสัญญาณที่ค่อนข้างชัดเจนว่า social network ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าจะมุ่งไปในทิศทางไหน เลยชวนผู้อ่าน Blognone มาลองเล่นกันสักหน่อยว่ามันจะเวิร์คหรือไม่เวิร์คอย่างไร
ในข่าวตามลิงก์อันแรกผมเขียนไปแล้วว่าทั้ง Google Friend Connect และ Facebook Connect เป็นการนำเอา:
* ระบบสมาชิกของ social network นั้นๆ กับ
* "ความเป็นเพื่อน" (social graph) ใน social network อันเดียวกัน
ออกไปใช้ในเว็บภายนอกอื่นๆ
ในตัวอย่างที่เคยเอามาให้ดู (เว็บของ Ingrid Michaelson) นั้นมองจากมุมมองของผู้ใช้ทั่วไปว่า จะเข้าไปใช้งานแอพพลิเคชันที่ใช้ Google Friend Connect บนเว็บไซต์สักแห่งได้อย่างไร (นั่นคือ ล็อกอินด้วย ID สักอันที่กูเกิลสนับสนุน เช่น Google Talk) จากนั้นก็ทำ "กิจกรรม" ร่วมกับเพื่อนเซ็ตเดิมของเราได้บนเว็บไซต์อื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในเครือ Google หรือ OpenSocial
มาวันนี้ กูเกิลเปิดให้เว็บไซต์ทั่วไปสามารถทำแบบเดียวกันกับเว็บของ Ingrid Michaelson ได้แล้ว ผมเลยเอา Blognone มาเป็นตัวอย่างให้ดูว่า ถ้าเว็บทั่วๆ ไปเอา Google Friend Connect มาแปะแล้ว มันจะเป็นอย่างไรบ้าง
ขั้นตอนไม่มีอะไรยากครับ เข้าไปที่เว็บไซต์ Google Friend Connect แล้วทำตามที่บอกได้เลย (ต้องมี Google Account ก่อนแต่คาดว่ามีกันทุกคน)
1. เลือก Set up a new site
2. ใส่ชื่อเว็บและ URL
3. ก็อปปี้ไฟล์ HTML ซึ่ง Google Friend Connect จะเรียกใช้ 2 ไฟล์ ไปไว้ใน DocumentRoot ของเว็บเราเอง
4. สั่งให้ Google Friend Connect ตรวจสอบว่าเราอัพโหลดไฟล์เรียบร้อยแล้ว
5. ก็อปปี้โค้ด embed ของแอพพลิเคชันตัวอย่าง มาแปะไว้บนเว็บไซต์ของเราตามต้องการ
ตอนนี้แอพพลิเคชันตัวอย่างยังมีแค่นิดเดียว ที่พอคุ้มค่าแก่การทดสอบได้แก่
* Members gadget - บอกว่าใครเป็นสมาชิก (แบบ OpenSocial) ของเว็บนี้บ้าง คล้ายๆ กับ MyBlogLog
* Wall gadget - ให้สมาชิกสามารถเขียนคอมเมนต์อะไรก็ได้ ลงบน gadget ของเว็บไซต์ได้ มันคือ shoutbox นั่นเอง
* Review/Rate gadget - สมาชิกสามารถให้ดาว-รีวิวเนื้อหาหรือผลิตภัณฑ์บนเว็บไซต์เราได้ เหมือนกับหน้ารีวิวบน Amazon
เขียนไปยาวคงนึกภาพกันลำบาก ลองของจริงกันเลยดีกว่า อันนี้คือ Members gadget
อันนี้เป็น Review/Rating
แอพพลิเคชันตัวอย่างที่ใช้ Google Friend Connect ยังไม่มีอะไรเจ๋งๆ ให้พอเห็นภาพว่า เราจะเอามันไปใช้ทำอะไรเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่านี้ได้ (และการเปิดตัวของกูเกิลในรอบนี้ ก็เพื่อหวังว่าจะมีคนเขียนแอพพลิเคชันเจ๋งๆ ขึ้นมา)
กล่าวโดยสรุป Google Friend Connect คือการยกเอาระบบสมาชิก และระบบเพื่อนของ social network ที่มีฐานผู้ใช้จำนวนมากอยู่แล้ว มาใช้ต่อบนเว็บไซต์ทั่วๆ ไป เพื่อ "ตัดตอน" กระบวนการและระยะเวลาในการปั้นเว็บไซต์ใดๆ ให้มีจำนวนสมาชิกเยอะพอ (เหมือนกับการใช้ OpenID เพื่อลดความจำเป็นในการลงทะเบียนสมาชิก แต่อันนี้รวมฟีเจอร์ด้าน social มาให้ด้วย)
ตัวอย่างเปรียบเทียบง่ายๆ Blognone เปิดมาเป็นเวลา 4 ปีนิดๆ มียอดสมาชิกที่ลงทะเบียน (ดูได้จากหน้า [Hall of Fame](http://www.blognone.com/hof)) ประมาณ 8 พันคน กระบวนการเข้าร่วมเป็นสมาชิกนั้นมีขั้นตอนพอสมควร ต้องใส่ CAPTCHA ต้องยืนยันอีเมล สมาชิกหน้าใหม่ที่เข้ามาร่วมต้องใช้เวลาพอสมควร ในการเรียนรู้ว่าสมาชิกคนอื่นๆ มีใครบ้าง รสนิยมของใครเป็นอย่างไร (เช่น ใครรักแอปเปิล ใครเกลียดแอปเปิล) คอยสังเกตว่าเพื่อนของเราคนไหนเป็นสมาชิก Blognone อยู่บ้าง
ถ้าผมเปิดเว็บใหม่วันนี้ และเอา Google Friend Connect มาใช้ สิ่งที่ผมจะได้คือ สมาชิกของ Blognone ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ เอา user ID ของ Google, Yahoo, AIM หรือ OpenID ที่ทุกคนน่าจะมีสักอันมาใช้ได้เลย และสมาชิกที่มาลงทะเบียนก็จะเห็นเพื่อนเก่าของตัวเองบน Google/Yahoo/AIM ที่มาใช้เว็บใหม่ได้ทันที โดยไม่ต้องเรียนรู้อะไรเพิ่ม
สิ่งที่ผมต้องทำในฐานะเจ้าของเว็บคือ แก้ระบบของเว็บใหม่ให้ดึงพลังของ Google Friend Connect มาใช้ได้อย่างเต็มที่ (เช่น ตอบคอมเมนต์ในข่าวได้ ตอบโพลได้) ซึ่งเป็นสิ่งที่กูเกิลหวังจะให้เป็น
แต่มองในอีกมุม Blognone เปิดมานานแล้ว และมีฐานสมาชิกอยู่พอสมควร ผมคงไม่มีความจำเป็นอะไรอีกที่จะต้องมาพัฒนาเว็บให้ใช้ Google Friend Connect ได้ (เพื่อหวังข้อดีตามที่กล่าวมาแล้ว) เปลืองแรงเปล่าๆ
ดังนั้นจะเห็นว่า กลุ่มเป้าหมายของ Google Friend Connect คือเว็บหน้าใหม่ที่ต้องการโตอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้นนั่นเองครับ ตัวอย่างที่ผมนึกออกคือเว็บแคมเปญต่างๆ เช่น เว็บโปรโมทศิลปินนักร้องหน้าใหม่ ที่ไม่ต้องการคนเข้าเว็บสม่ำเสมอในระยะยาว แต่ต้องการคนเข้ามากๆ ในช่วงโปรโมท ก็สามารถเขียนแอพพลิเคชันกิจกรรมสะสมแต้มชิงรางวัล แล้วใช้ประโยชน์จาก Google Friend Connect ได้
ลักษณะร่วมของเว็บไซต์ทำนองนี้คือต้องการสมาชิกที่ลงทะเบียนมาทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งถ้าเป็นเว็บบล็อกทั่วไป (ที่ตอบคอมเมนต์โดยไม่ต้องลงทะเบียน) อาจดูไม่จำเป็นเท่าไรนัก
สรุปสุดท้าย Google Friend Connect ไม่เหมาะสำหรับเว็บมาสเตอร์ทุกคน ส่วนจะเหมาะสำหรับคุณหรือเปล่า อันนี้ต้องพิจารณากันเอง
หมายเหตุ:
1. เท่าที่ผมลองหาดู ยังไม่มีโมดูลสำหรับ CMS หรือ Drupal ที่ใช้ประโยชน์จากระบบสมาชิกของ Google Friend Connect กับตัว CMS เอง ถ้ามีเว็บหรือบล็อกส่วนตัว ตอนนี้ที่ทำได้เลยทันที ก็คือแปะโค้ดของ Friend Connect (อย่างที่ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง) หรือไม่ก็ต้องแกะโค้ด CMS เอาเองครับ
2. จริงๆ อยากลอง Facebook Connect ด้วย แต่ว่ามันไม่มีแอพพลิเคชันตัวอย่างที่พร้อมแปะแบบเดียวกับของกูเกิล ถ้าใครมีบัญชีผู้ใช้ Facebook และอยากทดสอบ ก็เชิญได้ที่ The Run Around
Comments
ข้อสังเกต
ทีนี้ ผมใช้ s9y(serendipity) ติดตั้งดังนี้ครับ
เติมไปก่อนหน้า
ลองเข้าชมได้ที่ https://whsgroup.ath.cx/~whs/blog/ ครับ
ได้ดิ
ข้อสังเกต
ทีนี้ ผมใช้ s9y(serendipity) ติดตั้งดังนี้ครับ
แก้ .htaccess (เพราะผมใช้ rewrite) มองหา
เติมไปก่อนหน้า
(ไม่เข้าใจ Markdown ตรงที่ผมใส่ 3 กลับเริ่มที่ 1, ol ปรับได้รึเปล่าครับ) ใส่ HTML Nugget ลง sidebar
ลองเข้าชมได้ที่ https://whsgroup.ath.cx/~whs/blog/ ครับ
อนาคต Blognone จะใช้อะไร?
@TonsTweetings
พยายามยัดเยียดเอาลง wordpress แต่ไม่สำเร็จ - -
โค้ดเปรี้ยว
เห็นข้อดีของ drupal หรือยัง
ทำเป็น page template ดิ
ของผมได้นะ ไม่ทราบว่าถูกต้องหรือเปล่า
www.idea-idream.com ลองดูน่ะครับ
Ton-Or
Ton-Or
มีคนเล่นพอสมควรแล้ว เอาหน้า admin มาให้ดูกัน มีฟีเจอร์พื้นฐาน รายงานยอดสมาชิก
ลบข้อความใน Wall เหมือนว่าจะแก้ไม่ได้
อันสุดท้ายคือลบ-บล็อคสมาชิก
หมดละ
wordpress เอาลง ใน sidebar ได้ไม่มีปัญหาครับ (แต่อาจต้องแก้ width หรือ height เล็กน้อย)
โค้ดเปรี้ยว
มีบทวิเคราะห์เรื่อง Facebook Connect vs Google Friend Connect ที่ผมว่าเขียนได้น่าสนใจ
น่าเล่นมากเลยอ่ะ
เดี๋ยวลองเอาไปใส่เว็บเราบ้าง