ร้านสะดวกซื้อที่มีสาขามากที่สุดของไทย 7-Eleven เตรียมนำเทคโนโลยี AI อย่าง facial recognition และ gesture recognition เข้ามาใช้ภายในร้าน โดยจะร่วมมือกับบริษัท Remark Holdings ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยี AI ที่จดทะเบียนในตลาด Nasdaq และดำเนินการในประเทศจีนและสหรัฐฯ
Remark จะนำเทคโนโลยี Kankan ซึ่งรู้จำท่าทางและใบหน้าเข้ามาใช้เก็บข้อมูลอาทิ การสัญจรในร้าน (traffic) การดำเนินงานของพนักงาน เวลาที่ลูกค้าหยุดยืนดูสินค้าในชั้นต่างๆ หรือแม้แต่อารมณ์ของลูกค้าขณะอยู่ภายในร้าน นอกจากนี้ระบบยังสามารถตรวจจับใบหน้าลูกค้าที่เป็นสมาชิกและนำเสนอโปรโมชั่นที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละคนได้
บริษัทกล่าวเพิ่มเติมว่าจะไม่มีภาพใบหน้าถูกจัดเก็บในเซิฟเวอร์หรือหน่วยความจำถาวร เทคโนโลยีของเราใช้เพียงแต่ข้อมูล feature บนใบหน้าและจัดเก็บแบบเข้ารหัส สำหรับ ID ที่เกิดจากข้อมูลใบหน้าเหล่านี้จะไม่ถูกเชื่อมไปยังข้อมูลอื่นๆ อย่างชื่อ เบอร์โทรหรือที่อยู่
ประธานกรรมการเครือ CP สุภกิต เจียรวนนท์ กล่าวว่า ทีม 7-Eleven ประเมินหลายเทคโนโลยี AI ก่อนที่จะเลือก Kankan เพราะ Kankan สามารถที่จะตอบโจทย์ธุรกิจสำคัญอันได้แก่ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และเพิ่มอัตรากำไร หากประสบความสำเร็จใน 7-Eleven ผมมีแผนที่จะนำ Kankan เข้าสู่ผิงอัน บริษัทประกันที่ซีพีเป็นผู้ถือหุ้นอยู่
ก่อนหน้านี้ Remark ได้ประกาศว่าเครือซีพีได้เข้าลงทุนในบริษัท Remark เป็นจำนวนเงิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา - Financial Times (paywall), Press Release ของ Remark Holdings (1),(2)
วิดีโอสาธิตระบบ Face Recognition ของ Remark
$MARK #KanKan Changing how #Retail is done #ArtificialIntelligence #consumerism #smarteyes pic.twitter.com/IRuJYu1AnR
— Remark Holdings (@RemarkHoldings) March 2, 2018
Launching our #AI #Retail center @7eleven #kankan #ArtificialIntelligence $MARK pic.twitter.com/stgCMHrSfL
— Remark Holdings (@RemarkHoldings) March 9, 2018
Comments
ผมอ่านข่าวนี้แล้วรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรเลย :(
อาจจะเรียกว่าละเมิดความเป็นส่วนตัว
สำหรับคนที่ไม่ชอบให้พนักงานเดินตามก็คงรู้สึกแย่แหละครับ
แต่พวกคุณนายที่ชอบให้มีพนักงานคอยพูดจาไพเราะแนะนำสินค้าอาจจะชอบก็ได้
Chinese Model ชัดๆ
ทำ 7-11 Go ต่อ
แบบนี้ถ้าผมไม่อยากให้เก็บหน้าผมไว้ ผมมีสิทธิ์ฟ้องได้มั้ย?
ประเทศไทยมีกฎหมายควบคุมความปลอดภัยกับเรื่องพวกนี้บ้างไหมเนี่ย ?
สมมติผมไม่ยอมให้ CP นำข้อมูลไปใช้ จะทำได้หรือไม่ ?
That is the way things are.
เฮอๆๆๆ คงต้องให้ CP โดนฟ้องค่าปรับเรื่อง GDPR ถึงจะได้เข้าใจและเคารพคำว่า "privacy" สักที
ถึงบอกว่า "เทคโนโลยีของเราใช้เพียงแต่ข้อมูล feature บนใบหน้าและจัดเก็บแบบเข้ารหัส สำหรับ ID ที่เกิดจากข้อมูลใบหน้าเหล่านี้จะไม่ถูกเชื่อมไปยังข้อมูลอื่นๆ อย่างชื่อ เบอร์โทรหรือที่อยู่"
แต่ข้อมูลใช้จ่าย (ถ้าไม่ได้ใช้เงินสด) ร่วมกับเวลาของ transaction และตำแหน่งของคนในร้าน ก็ยังสามารถ link กลับหาตัวระดับตัวบุคคลได้อยู่ดี โดยเฉพาะยิ่งถ้าจะพยายาม "ตรวจจับใบหน้าลูกค้าที่เป็นสมาชิกและนำเสนอโปรโมชั่นที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละคนได้"
ผมไม่สนับสนุนครับ ก้าวล้ำสิทธิและความเป็นส่วนตัวส่วนบุคคลชัดๆ ดันครับ
ไม่อยากให้เก็บหน้าก็ไม่ต้องเข้า
อืมม กฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลป้องกันเคสนี้ได้มั้ยครับ ไม่อยากถูกตรวจใบหน้า
เอามาใช้ช่วงจ่ายตังค์แทน QRCode ก็พอแล้ว
เล่นดูทุกฝีก้าวตลอดตอนอยู่ในร้านนี่เกินไป
ถ้าทำจริงผมจะใส่หมวกกันน๊อตกับแว่นตาดำไปซื้อของแน่
ขอให้ทำจริงนะ
ทุกวันนี้ขี่มอเตอร์ไซค์ไปซื้อของที่เซเว่นผมก็ไม่ถอดหมวกกันน๊อคอยู่แล้ว
ก็ทำต่อไป
จีบกันน่ารักเชียว
Amazon Go ทำแบบเดียวกัน กล้องเต็มร้าน ดูทุกฝีก้าว รู้ทุกอย่าง เพิ่มฟีเจอร์ตัดเงินอัตโนมัติอีก คนเห็นดีเห็นงาม ดูเป็นข่าวดี เป็นความก้าวหน้า
แต่พอ 7-11 ไทยแลนด์จะทำคล้ายๆกันบ้าง โดนด่าเละ…
@mamuang
ข่าวไหนหรือครับที่คนเห็นดีเห็นงามด้วย
แล้วคนเห็นดีเห็นงามในข่าวนั้น กับคนไม่ชอบในข่าวนี้เป็นคนคนเดียวกันหรือเปล่า
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เมนท์นี้เรียกว่า Whataboutism หรือเปล่า 555
คุยกันตั้งแต่ข่าวแรกของ Amazon Go ครับ มีอะไรจะเพิ่มเติม ก็แสดงความเห็นได้
lewcpe.com, @wasonliw
อันนั้นเป็นร้านแยกต่างหาก ใครไม่เข้าก็ไปเข้าร้านธรรมดาได้
AI ชื่อแคนแคน ออกมาบอกว่าแอบมองเธออยู่นะจ๊ะ
看看(คั่นคั่น) = ดูๆ
แอบมองเธออยู่ เธอไม่รู้บ้างเลย?
งั้นเพื่อความโปร่งใส ต้องแปะหน้าร้านว่า 7-11 สาขานี้มีการเก็บข้อมูล
คนก็เลือกได้ว่าจะเข้าหรือไม่เข้า เพราะยังไงร้านก็เป็นสิทธิ์ของ cp เราต่างหากที่ไปใช้บริการเขา เราต้องเลือกที่จะไม่เข้าเองป่ะครับ
ว่าแต่การทำแบบนี้มันต่างยังไงกับกล้องวงจรปิดที่อยู่ในร้านหรอครับ
หรือเพียงแค่ว่าข้อมูลจางกล้องวงจรปิดไม่ได้ถูกเอาไปใช้งานต่อ
COBOL !!
eyes in the sky
ผมไม่มีอะไรต้องปกปิด
แต่ถ้าเอาไปหาผลประโยชน์ ต้องมีค่าตอบแทนกันบ้าง
ก็นี่ไงเสนอโปรโมชั่นให้ เราไม่ได้ขอดูฟรีนะ
ผมว่าหลายคนก็ไม่มีอะไรต้องปกปิด แต่ก็ไม่อยากถูกละเมิดความเป็นส่วนตัวนะครับ
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผมถามคุณว่าไปมีอะไรกับใครล่าสุดที่ไหนเมื่อไร แม้ว่าคุณจะบรรลุนิติภาวะแล้ว คนที่คุณไปอยู่ด้วยก็บรรลุนิติภาวะแล้ว ทั้งสองคนคบหาดูใจกัน ไม่ได้ผิดลูกผิดเมียใคร แต่คุณก็คงไม่อยากจะบอกผมอยู่ดี เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณ แล้วคุณก็อาจจะรู้สึกว่าผมมีสิทธิ์อะไรที่จะมายุ่งมารู้เรื่องนี้
ขออภัยที่ยกตัวอย่างแรงแต่อยากให้คุณเข้าใจครับ
That is the way things are.
ก็ดีนะ เห็นด้วย ยังไงทุกวันนี้เขาก็รู้อยู่แล้วหมดทุกอย่างจากการจ่ายด้วย True wallet และการเติมเงิน Online
แถมกล้องวงจรปิดก็มีหน้า 7-11 ทุกสาขา
สำหรับสมาชิกมันมีการยินยอมอยู่แล้ว แต่บุคคลทั่วไป จะไม่ให้เขายินยอมหน่อยหรือ เช่น ถ้าคนไหนจะเอา Promotion ก็มาแลกไป บางคนเขาก็ไม่ได้อยากได้ Promotion อะไร แค่มาซื้อของกิน ก็ไม่ควรจะเก็บ เก็บแต่โครงสร้างการเคลื่อนไหว แล้วก็พฤติกรรมยังพอทน เก็บโครงใบหน้าด้วยเนี่ยไม่ไหว ต่อไปคงมีหน้ากากซิลิโคนแปลงโครงสร้างใบหน้าขาย
แล้วที่ FBI ไปค้นขยะบ้านทุกหลังนี้ละเมิดไหมครับ
ระบบจะแยกได้หรือเปล่าระหว่างคนแต่งหน้ากับไม่แต่งหน้าไปซื้อของ