หลังจากที่ได้มีการปรับปรุงกระบวนการอัพเดต Windows 10 ในกรณีที่เป็นการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับระบบปฏิบัติการ (feature update) มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ล่าสุดไมโครซอฟท์ได้เผยผลลัพธ์จากการปรับปรุงดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยและผลที่ได้ก็ดูน่าพอใจมากเลยทีเดียว
ไมโครซอฟท์กล่าวว่าจากการปรับปรุงกระบวนการอัพเดตโดยใช้วิธีโยกงานบางส่วนที่เคยรันระหว่างพีซีออฟไลน์ (ใช้งานเครื่องไม่ได้) มารันขณะพีซีกำลังออนไลน์ (ช่วงก่อนเครื่องรีสตาร์ต) ได้ช่วยลดช่วงเวลาออฟไลน์ขณะติดตั้ง Fall Creators Update อัพเดตที่ปล่อยมาเมื่อเดือนตุลาคมปี 2017 ลงเหลือเฉลี่ยเพียง 51 นาที ดีขึ้นถึง 38% เมื่อเทียบกับ Creators Update ที่ใช้เวลาออฟไลน์โดยเฉลี่ย 82 นาที
ภาพตัวอย่างการอัพเดตช่วงออนไลน์
และสำหรับ feature update ตัวถัดไปที่ใกล้จะออกเต็มทีอย่าง Spring Creators Update (v1803) ไมโครซอฟท์ยังได้โยกงาน migration บางส่วนมารันในช่วงออนไลน์เพิ่ม ทำให้สามารถลดช่วงเวลาออฟไลน์ให้น้อยลงไปอีก โดยจากผลการทดสอบกับผู้ใช้กลุ่ม Insider ชึ่งได้รับอัพเดตก่อนใคร พบว่าใช้เวลาออฟไลน์ขณะติดตั้งโดยเฉลี่ยเพียง 30 นาที ดีขึ้นถึง 63% เมื่อเทียบกับ Creators Update
อย่างไรก็ตาม เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าการติดตั้ง feature update จะใช้เวลาขณะพีซีกำลังออนไลน์นานขึ้นและอาจทำให้อายุการใช้แบตเตอรี่รวมถึงประสิทธิภาพของระบบลดลงเล็กน้อย แต่ทางไมโครซอฟท์ก็ได้ยืนยันว่าสำหรับผู้ใช้งาน Windows โดยส่วนใหญ่ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดครับ
ที่มา - Windows Insider Blog via Windows Central
Comments
สามสิบนาทีนี่คือเร็วแล้ว orz
บางทีก็อยากขอให้มันทำแบบ Android ที่แยกพาร์ทิชันให้จบๆ ไป แค่รีสตาร์ทก็พร้อมใช้เลยอะไรแบบนี้ พื้นที่ในเครื่องผมยอมให้ได้ครับ
แต่ถ้าใคร Bootdrive ใช้เป็น m.2 ความจุน้อยๆนี่วิธีนี้ไม่น่าเวิร์คนะ
มันควรจะเป็นตัวเลือกน่ะครับ ให้เปิดปิดได้จากใน settings
ผมยอมไม่ด้ายยยย
SDD 256 G M2 เกือบเต็มแล้ว
ทำแบบนี้คือพินาศเลย
Laugh in 128 gb
เห็นใจ SSD 120GB (ที่ Over Provisioning ไปอีก 10%) ของผมด้วย
เครื่องผมก็ขนาดเท่านั้นครับ ?
โคตรน่าเบื่อเลยครับ เอะอะก็อัพเดต อัพเดตมันแทบจะทุกครั้งที่ปิดเครื่องเลย
ผมว่ามันก็ลดลงเยอะแล้วนะครับ เมื่อก่อนต้องรีสตาร์ททุกครั้งที่อัพเดต เดี๋ยวนี้แค่ประมาณครึ่งนึงมั้ง ถึงจะน่ารำคาญอยู่ แต่ก็ัอยลงอะครับ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ปิดเครื่องเดือนละครั้ง?
ASUS เครื่องนี้ปิดทุกวันครับ สตอเรจเป็น SSD
แต่มันมีอัพเดตแค่เดือนละครั้งนะครับ
เพียง 30 นาที ต้องบอกว่าตั้ง 30 นาทีสิ
ใช้ Linux ไม่เกินสองนาที
ไม่มี dependency package เลยเหรอครับ?
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
Linux Restart ไม่นานนะครับ ถึงแม้จะ update
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
+1
เวลารีบูตของ linux ตอนมี update กับไม่มีนี้แทบไม่ต่างกันเลยครับ
นอกจาก kernel มันก็ไม่มีอะไรที่ต้อง restart เครื่องเพื่อ apply update แล้วครับ
kernel พอ restart มันก็แค่โหลดอีกตัวแทนตัวเดิม ไม่ต้องมีขั้นตอนอะไรซับซ้อน
อ๋า ไอซี ขอบคุณครับ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
เดี๋ยวนี้อะไรๆก็ "เพียง" ครับ
พิเศษมือถือรุ่นล่าสุดราคาเพียง 70k เท่านั้น
เข้ามาแซวว
อย่างว่าล่ะ ถ้าเป็นเกณฑ์ของ Windows เองก็คงต้องบอกว่าเร็ว แต่ถ้าเทียบกับชาวบ้านก็ต้องบอกว่าช้าอยู่ดีนั่นแหละ ปิดคอมใช้เวลา 30 นาทีทั้งที่เป็นคอมพิวเตอร์สมัยนี้เนี่ยนะ....
ดีขึ้น น่าจะได้เร็วขึ้นอีก
มันคือการ upgrade OS เป็นรุ่นใหม่ ไม่ใช่อัพเดทย่อย
โทรศัพท์ Android เวลาเปลี่ยนรุ่น OS ก็นาน อาจไม่ถึง 30 นาทีแต่ก็นาน
ใช่ครับ หลายคนยังไม่เข้าใจ
อัพเดทย่อย ถ้าเป็น SSD ไม่ถึง 30 วินาที ด้วยซ้ำ
+128 เห็นบางคนชอบปิดเซอร์วิสอัพเดต... จร้าาา เอาที่สบายใจ ก็อยู่กับความเสี่ยงกันไป
ສະບາຍດີ :)
ผมว่าก็ไวมากแล้วนะ
ถ้า favor speed มากกว่านี้โดยโหลดมาแล้วชี้ pointer เลย มันก็จะดูเพิ่ม security risk + storage needed ไปซะเปล่าๆ
ความเร็ว HDD ปกติรึป่าวไม่ใช่ SSD เพราะเป็น Insider ตอนนี้อัปเดทแปปเดี่ยว็เสร็จ
ทำไมอ่านข่าวการอัพเดตมีแต่คนบ่นตลอด
ขนาดโน้ตบุ้คผมกากๆยังไม่เดือดร้อนเลย
เวลามีอัพเดตผมนี่ตั้งตารอดูของใหม่อย่างเดียว
อัพเดต เดือนล่ะครั้ง อัพเกรดปีล่ะ 2 ครั้ง
อัพเดตมันก็ไม่ได้บังคับให้รีสตาร์ทนิ แค่จำรำคาญตอนมันกำลังทำงานเบื้องหลังแล้วทำให้คอมอืดๆ หน่อยก็เถอะ แต่ตอนปิดเครื่องมันก็ไม่ได้รอนานอะไร
ส่วนการอัพเกรดนี่ถึงจะแจ้งเตือนว่ากำลังจะอัพเกรดอันนี้เลือกได้ว่าจะอัพเลยหรือรอก่อน ซึ่งอันนี้ใช้เวลานานอยู่ แต่มันคือการอัพเกรด ต้องให้เวลามันน่อย
The Dream hacker..
เวลารีบๆ ทีไร เจออัพเดททุกที :-P
ปกป้อง | เฟสบุ๊ก | ทวิตเตอร์
ผมปิดทุกอย่าง
services.msc
Task Scheduler
ดูดิจะอัพยังไง
ไอ้ 30 นาทีนี่ คือ อัพเดตข้ามรีลีสครับ ถ้าเทียบกับ Ubuntu แล้วมันเหมือนอัพจาก 17.04 ไปเป็น 17.10 น่ะครับ การติดตั้งมันก็เลยยาว
เฉลี่ยแล้วมันก็อัพไม่ค่อยเกินสามนาที (รวม POST) หรอก
ปัญหาคือ MS มันดันเรียกว่าเป็นการอัพเดต ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ มันเหมือนเป็นการอัพเกรดมากกว่า
+1
+1 Android IOS ก็อัพเกรดรุ่นนานเหมือนกัน Android ครึ่งชั่วโมงกว่า
ผมเพิ่งอัปเดต Nougat -> Oreo ให้หลานเมื่อวาน ไม่ถึงนะครับ น่าจะสักสิบนาทีได้
ของผมกับหลาน ตรึ่งชั่วโมงเลยนะครับเครื่องร้อนอย่างกับไฟเลยนะครับ แต่ของหลานจะไวกว่าไม่มาก สเปคระดับกลางๆนะครับ
ช้า เร็ว น่าจะขึ้นอยู่กับ cpu & storage ด้วยครับ
มันน่าจะต้องดูว่าตอนอัปมัน Download เป็นแบบ full หรือ ota เพราะแบบ full บางทีมันก็อบไฟล์เขียนทับไปเลย แต่ถ้า ota มันต้องไล่ patch ไปทีละไฟล์... ซึ่งใครเครื่องกากก็รอวนไป
อย่างน้อยของ OnePlus ก็เป็นแบบนี้ (ถึงแม้เราไม่เคยอัปข้ามรุ่นเพราะมันมีให้แค่ 5.1 -> 6.0 แล้วเรา clear flash)
ขอข้อมูลหน่อยครับว่าแบบไหนหมายถึงอะไร - -" ผมรู้จักแต่ OTA Over-The-Air ที่หมายถึงอัปเดตที่เราไม่ต่อสายทั้งหมดน่ะครับเลยไม่แน่ใจเดี๋ยวนี้เค้าใช้คำกันแบบไหน
แบบ full มันสามารถลงกับเครื่องที่ไม่ได้อัพเดตแบบต่อเนื่อง เนื่องจากมันลงทับไปเลย เก็บไว้แค่ settings ต่างๆ ที่เอาไปใช้ได้เท่านั้น ส่วน OTA ที่ว่าน่าจะหมายถึงแบบที่เป็น patch ที่ต้องค่อยๆ อัพเดตตามลำดับ เพราะมันไปแก้ไขส่วนต่างของ OS ครับ
ขอบคุณครับ
ตอนนั้นผมอัพเดตจาก KitKat มา Lollipop อัพเดตไม่นานครับ 20 นาทีได้ แต่พอรีสตาร์ตมาเครื่องค้างอยู่ที่ Samsung กระพริบอยู่วันนึงเต็ม ๆ จนแบตหมดพอเสียบชาร์จก็กลับมาใช้งานได้ต่อเสียอย่างงั้น
ข้าม Release ไม่ว่า จะนานขนาดไหนก็เป็นหน้าที่ของ IT ที่ต้องโดน User ด่า แต่นี่พี่แกเล่นเปลี่ยน Profile สีที่ตั้งไว้ พัง พัง พัง!!!
Upgrade != Update
จริงครับ ถ้าไมโครซอฟท์ใช้คำว่า 'อัพเกรด' น่าจะสื่อสารได้ตรงไปตรงมากว่า จูงใจกว่า (ได้ของเล่นใหม่)
กรกฎคม => กรกฎาคม
แก้แล้ว ขอบคุณครับ
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
สรุปพวกโพสแรกๆจะได้กลับมาอ่านหรือเปล่าว่ามันคือการ Upgrade ไม่ใช่ Update
แต่ว่านะ ใครดูแลคอมเยอะๆนี่ผมว่า Upgrade นอกเวลาเป็น โอฟรีดีกว่ามั้งนี่กลับบ้านดึก
ว่าแต่มันมีให้กำหนดตั้งค่า user policy ให้โหลด ใช้ Font ที่เราตั้งไว้ทุกครั้งบ้างหรือเปล่าหว่า font จะได้เป็นเวอร์ชั่นเดิมตลอด ไม่อย่างงั้น font กระโดดแน่นอน