สหภาพยุโรปหรือ EU เริ่มพิจารณากฎด้านลิขสิทธิ์ใหม่ โดยรอบนี้คืออนุญาตให้สำนักข่าวสามารถเก็บเงินจากเสิร์ชเอนจินได้หากต้องการนำบทความจากเว็บไซต์ไปแสดง และให้เว็บไซต์ที่เก็บวิดีโออย่างเช่น YouTube ต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ในการแสดงคอนเทนต์ด้วย
ในเนื้อความของกฎใหม่นี้คือมีใจความอนุญาตให้สำนักข่าวมีสิทธิเรียกให้เสิร์ชเอนจินจ่ายเงินเพื่อการแสดงบทความได้นานสุดถึง 1 ปีหลังจากที่เผยแพร่บทความนั้นออกไปแล้ว โดยกฎหมายฉบับนี้เกิดขึ้นเนื่องจากช่วงหลังนี้สำนักข่าวมองว่าเสิร์ชเอนจินทำให้รายได้ตกและมีผู้อ่านน้อยลง ซึ่งตอนนี้เสิร์ชเอนจินอย่าง Google ก็กำลังเริ่มโครงการ Google News Initiative ที่จะทำให้สำนักข่าวที่น่าเชื่อถือเสนอข่าวได้มากขึ้น พร้อมมีโอกาสสร้างรายได้ที่มากกว่า
ฝั่งบริษัทเทคโนโลยีโดย EDiMA (โดย Google, Microsoft, Twitter ฯลฯ) แสดงความเห็นว่าข้อตกลงนี้อาจส่งผลร้ายต่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ตและวงการดิจิทัล และเห็นว่าค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไม่ได้เป็นการเพิ่มรายได้ให้ฝั่งสื่อมากนัก เนื่องจากฝั่งเสิร์ชเอนจินก็มีนำการคลิกนับล้านครั้งมาส่งเว็บไซต์ข่าวและทำให้มีรายได้จากโฆษณาอยู่แล้ว และกังวลว่ากฎใหม่นี้อาจถูกตีความขยายไปจนถึงข้อความเพียงเล็กน้อยได้
ส่วนฝั่งสำนักข่าว (โดย News Media Europe (NME), the European Newspaper Publishers’ Association, the European Publishers Council และ the European Magazine Media Association ซึ่ง Reuters ที่รายงานข่าวนี้เป็นสมาชิกของ European Publishers Council) ก็แสดงความมั่นใจว่าผู้รักษากฎจะช่วยสนับสนุนในการข่าวยุโรปที่ฟรีและเป็นประชาธิปไตย
ทั้งนี้กฎฉบับดังกล่าวเพิ่งจะผ่านการรับรองจากผู้แทนยุโรป แต่ยังต้องผ่านสภายุโรปอีก ดังนั้นเนื้อหายังไม่เป็นที่สิ้นสุดและอาจเปลี่ยนแปลงก่อนบังคับใช้จริงได้ได้
ที่มา - Reuters
ภาพจาก Capri23auto/Pixabay (CC0 Creative Commons)
Comments
สำนักข่าวมองว่าเสิร์ชเอนจิน"ทำ"ให้รายได้ตกและมีผู้อ่านน้อยลง
ผมยังงๆคือจ่ายให้เหมือนเวลาโฆษณา
แล้วสื่อก็ได้รายได้จากโฆษณาในเว็บอีกทีหรอ???
คือมันยังไงๆอยู่นะ ถ้างั้นโฆษณาในเว็บไปสื่อโฆษณากับ search Engine เองไม่ถูกกว่าหรอ?
จริงๆรายได้ตกนี่เป็นเพราะ adblock+หน้าใหม่ผุดมาเต็มไปหมดมากกว่ามั้ง
รอบนี้ก็น่าสนใจนะว่าถ้ากฎหมายนี้ผ่าน ฝั่ง SE จะเลือกจ่ายเงินหรือเลือกไม่ดึงข่าวไปใช้
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ลองดูไหม เว็บสำนักข่าวหายไปจาก search engine ยอดคนเข้าก็อาจจะลด โฆษณาในเว็บก็ขายไม่ออก แล้วสำนักข่าวต้องไปจ่ายเงินให้ search engine เอาเว็บตัวเองมาแสดง
ถ้า SE เลือกจะไม่ index ก็จะร้องอีก
ปกติผมเห็นแต่เราจ่ายเงินเพื่อให้เซิชเจอ นี่ต้องให้เขาจ่ายเงินให้ถึงจะเซิชเจอ
ให้เว็บไซต์ที่เก็บวิดีโออย่างเช่น YouTube ต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ในการแสดงคอนเทนต์ด้วย
มองดูของไทย เล่นดูดจากตัวแทนไปลงช่องตัวเอง จนค่ายเลิกทำต่อ
ไม่ใช่สำนกขาวเองหรอกเหรอที่เป็นคนทำตัวเองให้เสิร์ชเจอ... กลายเป็นว่า กูเกิลหาข่าวจากสำนักข่าวในยุโรปไม่เจออีกเลย อย่ามาโวยวายนะ ถถถ
The Dream hacker..
EU พักหลังนี่รู้สึกหิวเงินจัด
ในฐานะคนทำเว็บ พักหลังเหมือนกูเกิล จะดึงข้อมูลมาแสดงหมดเลย
แทบไม่ต้องกดเข้าเว็บ สะดวกกับคนใช้งาน แต่ทำให้เว็บไม่มีทราฟฟิคสำหรับขายโฆษณาด้วยซ้ำ
เช่น เว็บตรวจหวย แค่พิมพ์ตรวจหวยในกูเกิล ก็กรอกเลขตรวจได้ทันที
แทนที่จะต้องเข้าไปที่เว็บกองสลาก ทราฟฟิคลดแน่นอน
เว็บสุขภาพ คนทำคอนเท้นต์หาข้อมูลบทความ ลงประเภทอาหาร/กี่แคลอรี่ไว้
กูเกิลแกดึงมาแสดงในผลการค้นหาหมดเลย ไม่ต้องกดเข้าเว็บ แล้วจะหาโฆษณายังไง
ถ้า EU ออกกฎไม่ให้แสดงผลเต็มๆแบบนี้มันน่าจะตรงจุดกว่านะ
+1
กฎหมายนี้ น่าจะหมายถึงเคสนี้นะ
ตอนแรก Google ทำระบบนี้เพื่อช่วย Wikipedia ลด traffic ลดค่าใช้จ่ายให้ wiki
แล้วดันเอามาใช้กะเวปอื่นๆที่เขาไม่ได้ต้องการลด traffic เพราะได้ค่าโฆษณา
ก็มีร้องสิ
ถ้ากฎนี้บ้าจี้ผ่านขึ้นมา ทุกอย่างคงสนุกยิ่งกว่า GDPR เป็น 10 เท่า
คลาสสิกเคส ครับ เหมือนสถานีวิทยุกับค่ายเพลง สมัยที่ค่ายเพลงขายได้เกินล้านตลับและไม่มี internet เหมือนยุคนี้ การที่จทำให้ผู้ฟังทราบว่า ศิลปินจะมีผลงานใหม่ขายคือ การเอาไปให้ดีเจเปิดเพลง เป็นการพึงพาอาศัย
ถ้ากลับกัน ถ้ามีการเก็บค่าสิทธิ์ในข่าว ถามว่า ใครมันจะคลิกเข้ามาครับ ยุคนี้ search engine เป็นตัวกลางในการยิงเข้าข่าว ถ้าเก็บกันจริงก็บันเทิงครับ และผมไม่ได้คิดว่า EU เขาคิดถูกในหลายๆเรื่อง บางอย่าง ยูโธเปียมาก แต่ทำไม่ได้ในทางปฎิบัติ
ลองดูต่อไปครับ
จริงๆ จนทุกวันนี้ YouTube กับค่ายเพลงนี่ผมว่าก้ำกึ่งมากว่าใครได้ประโยชน์ บางคนก็อาจจะบอกว่า YouTube ให้ประโยชน์มาก (ถ้าคุณเป็น PSY จากเกาหลีที่กลายเป็นคนดังทั่วโลก) แต่นักร้องบางคนอา่จจะบอกว่ายังไงก็ดังอยู่แล้ว ยอดฟัง/ดูMV บนแพลตฟอร์มที่ให้มูลค่าสูง (Apple Music / Spotify) ก็สูงอยู่ดี แบบนั้นก็อาจจะชี้กลับข้างว่า YouTube ได้ประโยชน์แทน
lewcpe.com, @wasonliw
ถ้าเอาจริงเดี๋ยวกูเกิ้ลก็คงหาทางออกมาแก้ได้เองแหละ
ดูจากเว็บไซต์แปลคำศัพท์สิ ผลการค้นหาไม่ได้ช่วยให้คนค้นกรองไดเลยว่าเว็บคุณแปลได้หรือไม่ได้ ต้องคลิกเข้าไปดูเท่านั้น ซึ่งหลายๆคำก็ดันไม่มีคำแปล มีแต่ทำคำศัพท์ขึ้นมาให้มันติดคีย์เวิร์ดเซิร์ชเอนจิน
ถ้าสมมติกฎหมายผ่าน
จะมีสำนักข่าวไหนกล้าก็บเงินหรือปล่าว
Google: ถ้าคุณไม่สบายใจเราเอาออกให้ก็ได้นะ
เอาเว็ปข่าว EU ออกจากเสิร์ชเอ็นจิ้นไปเลย ลองดูว่าจะขึ้นไหม
ข่าวต่อไป
กูเกิลเลิกแสดงข่าวจากสำนักข่าว พร้อมประกาศเปิดสำนักข่าวเอง ?
ก็ใส่ใน robots.txt ว่าไม่ต้องให้ Google ทำ index จิ กล้าป่ะ?
ได้ได้ ?
งงว่า เกี่ยวอะไรกับประชาธิปไตย นี่มันฉีดเข้าเส้นรึไงนะ
^___^
ก่อนหน้านี้(นานละ) จำได้ว่าเคยมีกรณีแบบนี้แล้วโวยกูเกิ้ลให้เลิกเอาข่าวไปลงนี่นา ตอนหลังก็ต้องกลับไปง้อกูเกิ้ลเหมือนเดิมเพราะ traffic หายไปเยอะ
ทำเหมือน หนังสืออ่านเล่นแกมชีนำและโทษสังคม รายสะดวกออก (ส่วนมากจะรายเดือย) ของบ้านเราสิครับ
ตั้ง web เอง นับคลิ๊กเอง เขียนบทความล่อเป้าแรง ๆ ดูดให้คนเข้าไปทะเลาะกันปั่นยอด view เยอะๆ
รวย