แอปเปิลเตรียมออกอัพเดตให้ iOS 12 ปิดการใช้งานพอร์ต data ของ iPhone หลังล็อคเครื่องไปแล้ว 1 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการแฮ็กข้อมูลในเครื่อง
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าว หน่วยงานภาครัฐอย่าง FBI ขอให้แอปเปิลปลดล็อค iPhone ที่เป็นของกลางในคดีอาชญากรรมอยู่หลายครั้ง ซึ่งแอปเปิลไม่ยอมเพราะชูเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ และพยายามเข้ารหัสให้หนาแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ ทางออกของหน่วยงานด้านสืบสวนสอบสวนจึงเป็นการซื้อเครื่องมือแฮ็กระบบ iPhone จากบริษัทอื่นมาใช้งาน
แอปเปิลจึงพยายามแก้เกมนี้ ด้วยการปิดการทำงานของพอร์ต data หากเครื่องไม่ถูกใช้งานเป็นเวลานาน (ตามข่าวบอกว่า 1 ชั่วโมง) การชาร์จไฟยังทำได้ปกติ แต่หากจะเชื่อมต่อ iPhone เพื่อดึงข้อมูลทางสาย จำเป็นต้องให้เจ้าของเครื่องปลดล็อคด้วยรหัสผ่านก่อน
ข่าวนี้สร้างความไม่พอใจให้บรรดาตำรวจในสหรัฐที่ทำงานได้ยากขึ้น ส่วนโฆษกของแอปเปิลตอบโต้ว่า อัพเดตระบบความปลอดภัยเพื่อป้องกันอาชญากรใช้งาน ไม่ได้จงใจทำให้ตำรวจทำงานยากขึ้นแต่อย่างใด
ใน iOS 11.4 Beta มีฟีเจอร์ให้ผู้ใช้เลือกปิดพอร์ต USB ได้เองแล้ว (USB Restricted Mode) แต่เงื่อนไขเวลาคือ 7 วัน ไม่ใช่ 1 ชั่วโมง
ที่มา - The New York Times, Fast Company
Comments
เห็นด้วยที่ควรจะทำแบบนี้ และควรจะ 30 นาที ด้วยซ้ำไป
ผมว่าอนาคตอาจจะตั้งเวลาเองได้ด้วยซ้ำเลยละม้างแต่ของเอามาลองก่อนว่าโอเคไม
ขอบพระคุณ Apple ที่กันให้ทุกอย่าง
เหมือนเค้าไม่กลัวเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจรัฐเลยนะครับ
เสรีภาพในแต่ละประเทศไม่เท่ากันครับเรื่องๆเขาให้ความสำคัญกะความเป็นส่วนตัวเจ้าของมากกว่าถึงเจ้าของคนๆนั้นจะเป็นผู้ก่การร้ายก็เถอะแต่ก็มีสิทธ์เหมือนกันนั้นแหละครับ
ปล.มองแบบกลางๆเลยนะ
ถ้า rule of law มันเข้มแข็งพอ "อำนาจรัฐ" มันก็มีจำกัดครับ ไม่ใช่แต่งเครื่องแบบแล้วจะทำอะไรก็ได้
lewcpe.com, @wasonliw
ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง ได้ความปลอดภัยผู้ใช้งานทั่วไปแต่ทำให้การสืบสวนยากขึ้นหากผู้ใช้เป็นคนก่อเหตุอาชญากรรม หลายอย่างก็ต้องแลกเปลี่ยนกันไป พอมีอะไรเปลี่ยน ย่อมมีกลุ่มที่ไม่พอใจและได้รับผลกระทบอยู่เสมอ
แต่ปกติทางตำรวจก็มี Outsource จากบริษัทอื่นทำเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้วนี่ครับ ทำไมถึงต้องเดือดร้อนอะไรขนาดนั้น
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เจอเข้มงวดขึ้นแบบนี้Outsourceมันก็เรียกเงินเพิ่มไงครับ
การทำ product ให้ถูกใจทุกกลุ่มนั้นไม่มี iphone ก็เช่นกัน
อันนี้ผมออกจะไม่เห็นด้วยถ้าเกิด ผู้ก่อการร้ายใช้แล้วเราต้องการข้อมูลแล้ว Apple ไม่ให้ความร่วมมือนี้จบเลยถ้าก็อย่างว่า Apple คำนึงความปลอดภัยของบริษัทใหญ่มากกว่าชีวิตประชาชน
ถ้าเราสามารถระบุตัวตนของผู้ก่อการร้ายได้ชัดเจนก็ไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ แต่มันมีกลุ่มสีเทา ที่ต้องใช้ข้อมูลในการสืบสวน ซึ่งอาจเป็นทั้งผู้ก่อการร้าย ผู้บริสุทธ์ ศัตรูทางการเมือง รวมถึงกลุ่มเฝ้าระวัง ซึ่งการร้องขอจากเจ้าหน้าที่ในกรณีทั่วไป คือ อยู่ในช่วงสอบสวน ซึ่ง Apple เลือกอยู่ข้างลูกค้า เพราะคงคิดว่าเจ้าหน้าที่มีวิธีการสืบสวนอีกมากมายที่ยังสามารถกระทำได้ เช่น การสืบจากวงจรปิด การสืบจากผู้ให้บริการโทรศัพท์ฺ การขอหมายศาลเพื่อเข้าถึงข้อมูล หรือการขอดักฟัง ฯลฯ
แต่ก่อนก็ยังไม่มีมือถือยังสืบได้เลยนะครับ ขอความร่วมมือ Apple ก็จบละครับให้เค้าช่วยให้แบบถูกต้อง
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ถ้ามองแบบสุดโต่งก็ค่งประมาณรถยนต์คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเราควรสั่งงดใช้รถยนต์ไปเลยหรือเปล่า ตรงนี้ก็ต้องชั่งน้ำหนักเอาครับว่าเราให้นำ้หนักกับอะไรมากกว่า การทำอะไรที่ไม่ได้ละเมิดศีลธรรมหรืออยู่นอกขอบเขตกฎหมาย ยังไงก็คงสามารถทำได้
ไม่ค่อยเข้าใจตรงที่บอกว่าคำนึงถึงความปลอดภัยของบริษัทใหญ่มากกว่าชีวิตประชาชน
อันนี้เขารักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ซึ่งก็คือประชาชนไม่ใช่เหรอครับ เกี่ยวข้องอะไรกับบริษัทใหญ่
That is the way things are.
อีกประเด็นหนึ่งคือ ถ้าให้หน่วยงานรัฐเจาะได้ คนอื่นก็หาทางเจาะได้
ปลื้มครับ ชอบบริษัทนี้ก็ตรงให้คำสำคัญกับข้อมูลของเรา จ่ายแพงกว่า ก็ขอที่มันปลอดภัยกว่าหน่อยเถอะ ?
ทำไมผมเห็นต่างแฮะเวลาเครื่องมีปัญหา การปิดพอร์ตอาจทำให้การซ่อมยุ่งยากขึ้นไปอีกสุดท้ายบางทีแค่การซ่อมเบื้องต้นง่ายๆก็อาจทำไม่ได้ต้องโร่ไปหา0 ให้ตังเขาแก้ให้อีก ผมคิดว่าซีเคียวริตี้ระดับปัจจุบันมันก็น่าจะเพียงพอละ ไม่เห็นมีข่าวคนขโมยข้อมูลอะไรได้ง่ายๆเลย
ซ่อมอะไรหว่าครับ
มีปัญหาร้ายแรงก็เสียบ itunes เต็มที่ซึ่งเราก็ปลดล็อคได้อยู่แล้วเพราะเราเป็นเจ้าของ พังมากกว่านี้ก็ต้องส่งศูนย์ซ่อมอยู่แล้วนะครับ
ระบบป้องกันปัจจุบันนี่เครื่องขโมยยังโดนยำไปขายมือสองต่อได้เลย
+1
+1 เจ็บใจตรงเหมือนจะป้องกันมาแน่นหนาขนาดนี้ ทำไมได้ยินข่าวว่ามีช่างยำให้เอาไปขายต่อมือสองได้ (ล้างเครื่องยังไงเนี่ย เก่งจัง)
เขาเปลี่ยนชิพเลยหน่ะครับ บนวงจรมัยมีซิฟที่เข้ารหัสไว้ เปลี่ยนตัวนั้นก็ผ่านเลย Mac ก็โดน ถ้ารู้ว่าชิพนั่นอยู่ตรงไหนก็เปลี่ยนใหม่ซะหน่ะครับ
พวกนี้ก็ร้านข้างนอกนั่นหล่ะจี้ความร้อนชิพออกเลย อยากให้ apple มีเชิพเข้ารหัสแบบซ้ำซ้อนกันมากกว่าหนึ่งตัวจริงๆเลยแบบจำค่ากันและกันถ้ามีการยกชิพตัวใดออก มันเช็คค่าsum แล้วไม่ใช่ค่าเดิมก็ทำให้เครื่องเปิดไม่ติดไปเลย
อยากให้มีตำรวจล่อซื้อบริการพวกนี้จริงๆ แบบปลอมเป็นลูกค้าที่ไม่มีอะไรยืนยันว่าตัวเองเป็นเจ้าของเครื่อง แล้วบอกลืมรหัสผ่าน แก้ให้หน่อย พอเขารับเงินแล้วทำให้เสร็จก็จับซะไปเลย
มี 2 ชิพก็เปลี่ยน 2 ชิพครับ
ถ้ามีร้านทำได้ เราจะไปจับเขาได้หรือเปล่า ในเมื่อเขาไม่ได้ไปแฮกสร้างความเสียหายให้กับใคร?
ทำไม่ได้หรอกครับ เคยเริ่มต้น แล้วก็โดนไปแล้ว
อ่อ เปลี่ยนที่ระดับ Hardware นี่เอง มิน่าล่ะ ?
Android มีฟังก์ชั่นนี้มั้ยครับ
ไม่มี แต่ทุกวันนี้ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ชีวิตง่ายดายกว่า Apple มาก
นี่มีทั้งสองระบบ ก็ยังชอบ Android มากกว่าอยู่ดี อย่างน้อยก็มีความ Universal
เหมือนผมก็เจออยู่นะครับ ถ้าเครื่องล็อกอยู่แล้วเสียบคอม จะไม่ขึ้นไดร์ฟให้เอาข้อมูลออกมา (หรือเห็นไดร์ฟแต่ข้อมูลว่างเปล่าผมก็จำไม่ได้ละ)ต้องปลดล็อกเครื่องก่อนข้อมูลถึงจะมา
บน Android จะมีอะไรคล้ายๆกันคือ เมื่อเสียบสายระบบจะชาตไฟอย่างเดียวไม่เห็น Storage จนกว่าจะปลดลอคและเปลี่ยนโหมดเป็นโอนไฟล
นอกจากนั้นถ้าจะทำอะไรเกี่ยวกับระบบ ต้องเปิด usb debugging ก่อน (ซึ่งจะเข้าถึง usb debugging ต้องปลดลอคก่อนเช่นกัน และซ่อนอยู่ในเมนูอีกชั้น)
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ถ้าปิดระดับ os ก็น่าจะมีคนเจาะได้นะ
อาจมีข่าวมีคนกลุ่มนึงซื้อ iphone 1 ล้านเครื่องให้ผู้ก่อการร้าย is เนื่องจากขายได้กำไรต่อเครื่อง 1000%