นอกจากอัพเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด iOS 16.3 และ macOS Ventura 13.2 แอปเปิลยังออกอัพเดตความปลอดภัยให้กับ iOS และ macOS เวอร์ชันเก่า สำหรับอุปกรณ์ที่ไม่สามารถอัพเดตมาเป็นเวอร์ชันล่าสุดได้ด้วย มีรายละเอียดดังนี้
แอปเปิลออกอัพเดต iOS 12.5.6 สำหรับ iPhone, iPad และ iPod touch รุ่นเก่า ที่ไม่สามารถอัพเดตเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด iOS 15 ได้แก่ iPhone 5s, iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPad Air, iPad mini 2, iPad mini 3 และ iPod touch (6th Gen)
ในอัพเดต iOS 12.5.6 นี้ แอปเปิลระบุว่าแก้ไขช่องโหว่สำคัญของ WebKit ซึ่งมีรายงานการโจมตีแล้ว ผู้ที่ใช้อุปกรณ์กลุ่มดังกล่าวจึงควรอัพเดตระบบปฏิบัติการให้เป็นเวอร์ชันนี้ ทั้งนี้ช่องโหว่ดังกล่าวแอปเปิลได้แก้ไขไปแล้วใน iOS 15.6.1, iPadOS 15.6.1 และ macOS Monterey 12.5.1
ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตผ่าน OTA ได้ โดยไปที่ Settings เลือก General และ Software Update
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 12.5.5 สำหรับ iPhone และ iPad รุ่นเก่า ที่ไม่สามารถอัพเดตเป็น iOS เวอร์ชันล่าสุด iOS 15 ได้
ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตแบบ OTA ได้ที่ Settings > General > Software Update
แอปเปิลระบุว่าอัพเดตนี้เป็นการแก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัย ทั้ง CoreGraphics, WebKit และ XNU ซึ่งมีรายงานการโจมตีแล้ว จึงแนะนำให้ผู้ใช้งานอัพเดตทันที
อุปกรณ์รุ่นเก่าที่สามารถอัพเดต iOS 12.5.5 นี้ได้ ได้แก่ iPhone 5s, iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPad Air, iPad mini 2, iPad mini 3 และ iPod touch (6th Gen)
แอปเปิลยังออกอัพเดตความปลอดภัยเดียวกันนี้ 2021-006 สำหรับ macOS Catalina ด้วย
แอปเปิลออกอัพเดต iOS 12.5.4 สำหรับ iPhone, iPad และ iPod รุ่นเก่าที่อัพเดตเป็น iOS 14 ไม่ได้ โดยผู้ใช้งานสามารถอัพเดตแบบ OTA ได้ที่ Settings > General > Software Update
ในอัพเดตนี้แอปเปิลระบุว่าเป็นการแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัย และแนะนำให้ผู้ใช้งานทุกคนอัพเดต ซึ่งเกี่ยวกับช่องโหว่ทั้งหมด 3 รายการ โดยมี 2 รายการเกี่ยวกับ WebKit
อุปกรณ์รุ่นเก่าที่สามารถอัพเดต iOS 12.5.4 ได้แก่ iPhone 5s, iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPad Air, iPad mini 2, iPad mini 3, และ iPod touch (6th Gen)
ที่มา: MacRumors
แอปเปิลออกอัพเดตย่อย iOS 12.5.1 มีผลกับอุปกรณ์ iPhone, iPad และ iPod touch รุ่นเก่า ที่ไม่สามารถอัพเดตเป็น iOS 14 ได้ โดยสามารถอัพเดตได้ที่ Settings > General > Software Update
ในอัพเดตนี้แอปเปิลระบุว่าเป็นการแก้ไขบั๊ก Exposure Notification ที่แสดงข้อมูลล็อกไม่ตรงตามภาษาที่ตั้งค่าไว้
อัพเดตมีผลกับอุปกรณ์รุ่นเก่าได้แก่ iPhone 5s, iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPad Air, iPad mini 2, iPad mini 3, และ iPod touch (6th Gen)
ที่มา: MacRumors
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการใหญ่ iOS 14.2 และ iPadOS 14.2 ในวันนี้ ซึ่งสามารถอัพเดตแบบ OTA ได้โดยไปที่ Settings > General > Software Update
ของใหม่ที่เพิ่มมาในอัพเดตนี้ได้แก่
แอปเปิลออกอัพเดตซอฟต์แวร์ iOS 13.3.1 และ iPadOS 13.3.1 มีรายการปรับปรุงสำคัญคือการแก้ไขบั๊ก Communication Limits ที่มีรายงานออกมาก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังเพิ่มตัวเลือกปิดการทำงานของชิประบุพิกัด U1 ใน iPhone 11
รายการปรับปรุงอื่น ได้แก่ แก้ปัญหาแอปอีเมลโหลดรูปจากภายนอกแม้ตั้งค่าปิดไว้ และแก้ปัญหาการเตือนแบบพุชเมื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi
นอกจากนี้ยังมีรายการอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์อื่นดังนี้
แอปเปิลออกอัพเดตใหญ่ iOS 13.3 และ iPadOS 13.3 ต่อจากอัพเดตก่อนหน้านี้ iOS 13.2.3 ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตผ่าน OTA ได้โดยไปที่แอป Settings > General > Software Update
ในอัพเดตนี้เป็นการเพิ่มฟีเจอร์ที่สำคัญหลายรายการ ที่แอปเปิลเคยประกาศไปก่อนหน้านี้ รวมทั้งปรับปรุงด้านความปลอดภัย อาทิ
แอปเปิลออกอัพเดตย่อย iOS 12.4.2 สำหรับอุปกรณ์รุ่นเก่าที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 12 แต่ไม่สามารถอัพเดตไป iOS 13 ได้ ได้แก่ iPad Air, iPad mini 2, iPad mini 3, iPhone 5s, iPhone 6, iPhone 6 Plus และ iPod touch 6th Gen โดยสามารถอัพเดตได้ผ่าน OTA ที่ Setttings > General > Software Update
แอปเปิลไม่ได้บอกรายละเอียดของอัพเดตรอบนี้ชัดเจน โดยใช้คำกว้าง ๆ ว่า ปรับปรุงการใช้งานและความปลอดภัย
นอกจากนี้แอปเปิลยังออกอัพเดต watchOS 5.3.2 สำหรับผู้ใช้ Apple Watch Series 1 และ Series 2 ซึ่งเป็นการปรับปรุงด้านความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม Apple Watch ทั้งสองรุ่นนี้ แอปเปิลระบุว่าจะได้รับอัพเดต watchOS 6 ด้วย แต่ยังไม่มีออกมาในตอนนี้
แอปเปิลออกอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการในเครือทั้งหมด มีรายละเอียดดังนี้
แอปเปิลอัพเดตตัวเลขส่วนแบ่งผู้ใช้งาน iOS แยกตามเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการในหน้าของนักพัฒนา โดย iOS 12 มีส่วนแบ่งผู้ใช้รวมทั้งบน iPhone, iPad และ iPod Touch 88% ของผู้ใช้ทั้งหมดแล้ว ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2019 ซึ่งสูงกว่า iOS 11 ที่เทียบกับช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ทำได้ 85% ในเดือนกันยายน
iOS 11 เวอร์ชันก่อนหน้ามีส่วนแบ่ง 7% และเวอร์ชันเก่ากว่านั้นมีอยู่ 5%
นอกจากนี้หากดูเฉพาะอุปกรณ์ที่มีอายุไม่เกิน 4 ปี ส่วนแบ่งของ iOS 12 ก็อยู่ที่ 90% เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้คาดว่า iOS 13 รุ่นใหม่ จะเริ่มออกอัพเดตสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปช่วงปลายเดือนกันยายนนี้
ในวันนี้แอปเปิลได้ออกอัพเดตซอฟต์แวร์ชุดใหญ่ ของระบบปฏิบัติการในเครือทั้งหมด โดยมีรายละเอียดดังนี้
แอปเปิลออกอัพเดตย่อย iOS 12.3.2 ในวันนี้ ถือเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์จากอัพเดตเวอร์ชันก่อนหน้านี้ 12.3.1
ข่าวดีคือผู้ใช้อุปกรณ์ iOS ทั้ง iPhone และ iPad ส่วนใหญ่ไม่ต้องอัพเดต iOS 12.3.2 นี้ เพราะ iOS 12.3.2 ออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะบน iPhone 8 Plus เท่านั้น ซึ่งแอปเปิลบอกว่าเป็นปัญหากล้องในโหมด Portrait ที่ไม่สร้างเอฟเฟกต์แนวลึกของภาพ
ผู้ใช้ iPhone 8 Plus สามารถอัพเดตได้ที่ Settings > General > Software Update
ที่มา: MacRumors
แอปเปิลออกอัพเดตย่อยของระบบปฏิบัติการ iOS 12.3.1 หลังจากที่ออกอัพเดต iOS 12.3 ไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน
ในอัพเดตนี้เป็นการแก้ไขบั๊กการโทรแบบ VoLTE และบั๊กการแสดงข้อความใน iMessage จากผู้ส่งที่เราไม่รู้จัก ซึ่งทั้ง 2 บั๊ก มีรายงานออกมาก่อนหน้านี้
ผู้ใช้ iOS สามารถอัพเดตแบบ OTA ได้ โดยไปที่ Settings > General > Software Update
ที่มา: Phone Arena
วันนี้แอปเปิลได้ออกอัพเดตซอฟต์แวร์ชุดใหญ่ของระบบปฏิบัติการในเครือทั้งหมด มีรายละเอียดดังนี้
The New York Times รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาดแอป Sensor Tower พบว่าแอปเปิลได้ลบแอปออกจาก App Store หรือจำกัดการเข้าถึงของแอปจากนักพัฒนาภายนอก อย่างน้อย 11 จาก 17 แอป ที่มีฟังก์ชันการทำงานประเภทตรวจวัดเวลาการใช้งานบนหน้าจอ (Screen Time) และระบบควบคุมการใช้งานของผู้ปกครอง (Parental Control)
รายงานได้สัมภาษณ์นักพัฒนาแอปบางราย บอกว่าแอปเปิลพยายามจะให้ผู้ใช้งานไปใช้ฟีเจอร์ Screen Time ที่มีอยู่เป็นพื้นฐานบน iOS ซึ่งเริ่มมีตั้งแต่ iOS 12 แทน
ต่อเนื่องจากงานเปิดตัวบริการใหม่ ๆ หลายอย่างเมื่อคืนนี้ แอปเปิลก็ได้ออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 12.2 ซึ่งถือเป็นเวอร์ชันปรับปรุงใหญ่ของ iOS 12
นอกจากการแก้ไขบั๊กต่าง ๆ ก็มีของใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน iOS 12.2 อาทิ
ผู้ใช้ iOS สามารถอัพเดตแบบ OTA ได้ โดยไปที่ Settings > General > Software Update
ที่มา: MacRumors
หลังมีรายงานบั๊ก FaceTime เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วันนี้แอปเปิลก็ได้ออกอัพเดต iOS 12.1.4 สำหรับ iPhone, iPad และ iPod Touch เรียบร้อยแล้ว
แอปเปิลกล่าวว่าซอฟต์แวร์อัพเดตนี้ได้แก้ไขปัญหาบั๊กเวลา FaceTime แบบกลุ่ม และแอปเปิลต้องขอโทษลูกค้าทุกคนอีกครั้ง รวมทั้งขอบคุณที่อดทนรอ โดยนอกจากแก้ไขบั๊ก FaceTime ยังมีการแก้ไขบั๊กอีกหลายรายการด้วยเช่นกัน รวมทั้งบั๊ก Live Photo บน FaceTime ทั้งนี้ผู้ใช้งานที่ไม่ได้อัพเดตระบบปฏิบัติการเป็นเวอร์ชันล่าสุด จะไม่สามารถใช้ Live Photo บน FaceTime ได้
แอปเปิลได้ทำจดหมายถึงสื่อ ชี้แจงประเด็นบั๊ก FaceTime แบบกลุ่ม ที่ทำให้คนโทรเข้าฟังเสียงได้เลย แม้ปลายทางยังไม่ได้รับสาย ซึ่งแอปเปิลได้ปิดให้บริการ FaceTime แบบกลุ่มชั่วคราวระหว่างเตรียมออกอัพเดตแก้ไข
แอปเปิลได้ออกอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ทั้งหมดในเครือ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
แอปเปิลรายงานตัวเลขส่วนแบ่งผู้ใช้ iOS ล่าสุด ณ วันที่ 1 มกราคม 2019 โดย iOS 12 เวอร์ชันล่าสุดมีผู้ใช้งานแล้วถึง 75% ของอุปกรณ์ iOS ทั้งหมด และหากนับเฉพาะอุปกรณ์ที่เปิดตัวในช่วงไม่เกิน 4 ปี จะมีส่วนแบ่งถึง 78%
ตัวเลขภาพรวมสำหรับเวอร์ชันก่อนหน้านี้ iOS 11 มี 17% และเก่ากว่านั้น 8%
แอปเปิลออกอัพเดต iOS 12.1.2 ตัวใหม่ ซึ่งเลขบิลด์ (build number) เปลี่ยนจาก 16C101 ซึ่งเป็นตัวที่ออกมาเมื่อวันอังคาร เป็น 16C104 สำหรับอัพเดตนี้
เนื่องจากเลขเวอร์ชันไม่มีการเปลี่ยนแปลง จึงอาจเป็นการแก้ไขรายละเอียดเล็กน้อยมาก ผู้ที่อัพเดตเป็น iOS 12.1.2 ไปก่อนหน้านี้แล้วจึงไม่ต้องอัพเดตตัวใหม่ แต่หากใครที่เพิ่งมาอัพเดตก็จะได้เลขบิลด์ 16C104 นี้ไป
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการย่อย iOS 12.1.2 มีผลเฉพาะกับ iPhone มีรายละเอียดดังนี้
ผู้ใช้ iPhone สามารถอัพเดตได้ผ่าน iTunes หรือผ่าน OTA ใน Settings
ที่มา: Apple Insider
จากเหตุการณ์ Qualcomm ชนะคดี Apple จากการละเมิดสิทธิบัตรในซอฟต์แวร์ ซึ่งศาลสั่งให้แอปเปิลหยุดจำหน่ายตั้งแต่ iPhone X และรุ่นก่อน แต่แอปเปิลบอกว่าปัญหานี้แก้ไขได้เพราะ iOS 12 ไม่ได้มีการละเมิด
ล่าสุดตัวแทนของแอปเปิลในจีนได้ออกมายืนยันว่า แอปเปิลได้กลับมาขายสมาร์ทโฟนทุกรุ่นที่อยู่ในประเด็นดังกล่าวแล้วตั้งแต่วันศุกร์ นอกจากนี้แอปเปิลจะบังคับอัพเดต iOS 12 สำหรับ iPhone รุ่นเก่าทั้งหมดที่มีการใช้งานอยู่ในจีน มีผลต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งจะทำให้ iOS ไม่อยู่ในข่าวที่ Qualcomm ฟ้องร้อง
ที่มา: Reuters
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการชุดใหญ่ทั้ง iOS, macOS, tvOS แต่ยังไม่มี watchOS ในวันนี้ มีรายการเปลี่ยนที่สำคัญหลายอย่าง
โดย iOS 12.1.1 มีคุณสมบัติใหม่ได้แก่ การเตือนด้วย Haptic Touch สำหรับ iPhone XR, รองรับ eSIM เพิ่มเติมสำหรับผู้ให้บริการเครือข่ายบางราย (ไม่เกี่ยวกับไทย), แตะหนึ่งครั้งเพื่อสลับกล้องหน้า-หลัง ขณะ FaceTime, การถ่าย Live Photo ขณะ FaceTime ฯลฯ และแก้ไขบั๊กหลายรายการ
ส่วน macOS Mojave ออกอัพเดต 10.14.2 แก้ปัญหาการต่อออกจอสำหรับ MacBook Pro 2018 และเพิ่มคุณสมบัติอีกหลายรายการ ส่วน tvOS 12.1.1 แอปเปิลไม่ได้ระบุรายการสำคัญ แต่บอกเพียงปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานทั่วไป