สนามบิน Gatwick ในลอนดอนเปลี่ยนไปใช้หน้าจอแสดงข้อมูลการบิน (Flight Information Display System - FIDS) ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยหน้าจอแสดงข้อมูลการบินทั่วสนามบิน 1,200 หน้าจอ จะดึงข้อมูลจากคลาวด์ทั้งหมด
ระบบ FIDS เปิดให้หน้าจอกลายเป็นเพียงเว็บเบราว์เซอร์ แล้วดึงข้อมูลการบินจากเซิร์ฟเวอร์บนคลาวด์ โดยรวมแล้วมันต้องการอินเทอร์เน็ต 3Mbps ทั้งระบบเท่านั้น แต่ปรากฎว่าวันนี้สายไฟเบอร์ของ Vodafone ที่ทางสนามบินใช้งานกลับเสียหายโดยทาง Vodafone ไม่ได้แจ้งสาเหตุ แต่ผลกระทบกลับเป็นความโกลาหลในสนามบินเพราะทางสนามบินต้องเขียนกระดานแจ้งเที่ยวบินและช่องทางออกบนกระดานไวท์บอร์ดกระดานเดียวกลางสนามบิน
FIDS เป็นโครงการเพื่อลดภาระในการบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐาน และได้รางวัลโครงการคลาวด์แห่งปี จาก Real IT แต่บทเรียนครั้งนี้คงทำให้ทางสนามบินได้เรียนรู้ว่าการตัดต้นทุนโดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงที่ตามมา จะสร้างความเสียหายได้มากมาย
ที่มา - The Register
ภาพโดย StockSnap
This tiny whiteboard is the only departures information in Gatwick Airport right now; every screen is offline. Utter chaos. This is a signature flourish at the end of a short trip that’s been full of reminders of how badly the UK’s infrastructure is crumbling. pic.twitter.com/6r7CDVheLf
— Rob Fahey (@robfahey) August 20, 2018
Comments
มันควรทำเป็นแบบ dual aggregate ไม่ใช่เหรอ? -_-“
โครงการทำเพื่อลดต้นทุนครับ
สงสัยมันมือไปหน่อย ลดได้เยอะจัด :|
lewcpe.com, @wasonliw
ลดจากจอไปใช้กระดาน ประหยัดไปอีก
เอ๊ะ ยังไม่คริสมาสเลย มีกลุ่มกองกำลังมาแท๊บสายไฟเบอร์ในโรงนา เพื่อควบคุมสนามบิน ชิงตัวประกันที่เป็นนายพลรัสเซีย จนต้องให้นายตำรวจจากสหรัฐทีบังเอิญอยู่ในเหตุการณ์ คลานไปตามท่อระบายอากาศด้วยความอึดมหาวินาศไล่ล่าโจร ไปรอบสนามบินตั้งกะสิงหาเลยเหลอครับ ? จะใจร้อยเกินไปหรือเปล่า
ตำรวจจากสหรัฐ ใช่จอนไหม 555
Die Hard 2 ชัวร์
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ลดต้นทุนจนเหลือแค่เส้นเดียวก็… แต่น่าถามว่าขาดได้ยังไงจะดีกว่า เพราะเท่าที่เคยอ่านๆมา คือสาย fiber นี่ก็เหนียวอยู่นะครับ แถมถ้าเป็นสายที่ลากเข้าสนามบินหรือองกรณ์อะไรซักอย่าง ขนาดเส้นน่าจะใหญ่เอาเรื่องอยู่ ==
ผมเคยเจอเคส Fiber 16 Core ขาดไป 8 Core
ไม่รู้ขาดได้ยังไงเหมือนกัน เป็น Fiber ลากระหว่างตึก
(อยู่ภายในฉนวนสีดำใหญ่ๆ อีกที แบบเดียวกับที่เห็นตามเสาไฟฟ้า)
ทิ้งวันหยุดพักผ่อนไปเลยครับ มานั่งคุมซับ Spike สายทั้งวัน
ทำไปได้
ไม่มี Link Redundant -_-
อารมณ์เหมือนแฮกไปเถอะเรามีแบ็คอัพเลย...
ลดต้นทุนโดยไม่ได้คำนึงถึงความสำคัญของระบบเลยเหรอ และระบบแบบนี้ต้องมีระบบสำรองอยู่เสมอนะครับ สนามบินนะพี่ ไม่ใช่สนามเปตอง
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เน็ทสำรองไม่มีเลยหรอ พี่เป็นสนามบินนะไม่ใช่โฮมออฟฟิต
ผมก็ว่างั้นใช้แค่ 3Mbps ต่อ 4G Router คนละค่ายรอไว้เดินระบบขนานยังได้เลย
Home Office บางที่ยังใช้ 3G/4G router สำรองเลยครับ
หืม นึกว่าเป็นอินเตอร์เน็ตบ้านซะอีก
ลบดีกว่า
อาจจะคำนวณค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายสำหรับเส้น redundant กับความถี่เหตุการณ์ที่ล่ม x ค่าความเสียหายต่อครั้ง แล้วอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้มั้งครับ (ถูกกว่าอะไรแบบนี้) 555
กลับสู่อดีตกันครับ
4g router สำรองสักตัว ปีนึงคงไม่ถึงพันเหรียญ ทำระบบคู่ขนานกันไป แสดงว่าคนออกแบบระบบไม่เคยคิดถึง worse case scenario เลยสินะ
สงสัย Core Network ไม่มีระบบสำรองครับ
คุ้นๆ คล้ายๆ หน่วยงานบางแห่ง
หน่วยงานไหนครับ
ที่พาอนาคตของชาติตกที่นั่งกันเกลื่อนกลาดใช่ไหมครับ
อุ๊บ!!
สมแล้วที่ได้รางวัลแห่งการลดต้นทุนยอดเยี่ยมจริง ๆ ลดแม้กระทั่งระบบสำรอง
ไวท์บอร์ด = ระบบสำรอง
GG
"มันต้องการอินเทอร์เน็ต 3Mbps ทั้งระบบเท่านั้น"
Wifi ก็ยังได้เลย
ทั้งสนามบินมี network ขาออกแค่ 3Mbps เส้นเดียวเองหรอเนี่ย ฮ่าๆ
เครือข่ายบ้านเค้าคงเสถียรมากจนคนวางระบบลืมคิด 5555
จะมีคนโดนไล่บี้มั๊ยเนี่ย