By: lew 
on 21 August 2018 - 02:18
Tags:
Topics:
NVIDIA เปิดชิปกราฟิกตระกูล GeForce RTX พร้อมกัน 3 รายการ ได้แก่ GeForce RTX 2080 Ti, GeForce RTX 2080, และ GeForce RTX 2070 ทั้งใช้คอร์ Turing แบบเดียวกับ Quadro RTX ที่เปิดตัวไปสัปดาห์ที่แล้ว
ความเปลี่ยนแปลงของชิป RTX ได้แก่
- RT Cores สำหรับการเรนเดอร์แบบ ray tracing
- Turing Tensor Cores เร่งความเร็วการประมวลผลปัญญาประดิษฐ์
- รองรับเฟรมเวิร์ค NGX สำหรับการใช้ปัญญาประดิษฐ์มาเพิ่มคุณภาพกราฟิก
- รองรับแรม GDDR6
- รองรับการต่อจอภาพและแว่น VR ด้วยพอร์ต USB-C
การ์ดรุ่น GeForce RTX 2080 Ti Founders Edition พร้อมแรม 11GB เริ่มรับคำสั่งซื้อล่วงหน้าแล้ว ราคาอยู่ที่ 1,199 ดอลลาร์ (สมัย GTX 1080 Ti ราคาอยู่ที่ 699 ดอลลาร์) สำหรับการ์ดจากผู้ผลิตอื่นเริ่มที่ 999 ดอลลาร์
ส่วนรุ่น GeForce RTX 2080 รองรับแรม 8GB รุ่น Founder อยู่ที่ 799 ดอลลาร์ ผู้ผลิตอื่นเริ่มที่ 699 ดอลลาร์ เริ่มวางขาย 20 กันยายนนี้
และรุ่น GeForce RTX 2070 รองรับแรม 8GB รุ่น Founder อยู่ที่ 599 ดอลลาร์ ผู้ผลิตอื่นเริ่มที่ 499 ดอลลาร์ เริ่มวางขายเดือนตุลาคม
ที่มา - NVIDIA
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
รองรับการต่อขอภาพและแว่น VR ด้วยพอร์ต USB-C -> รองรับการต่อจอภาพ
เห็นตัวอย่างภาพ RTX ON แล้วมันกลายเป็นคนละสีคนละรูปกันเลย แล้วคงเปลี่ยนเกมส์ Dark souls เป็นเกมส์ fantasy หลากสีแน่เลย
Turing Tensor Cores ขอไม่เอาแล้วช่วยลดราคาได้ใหม แพงจริงๆ แล้วมันเร็วกว่าเดิมแค่ใหนมีใครรู้บ้างครับ
เข้าใจว่าพวกนั้นก็ซื้อ GTX ธรรมดา
ตกลงต้องรอ GTX อีกหรอเนี่ยมี 2 ซีรี่ย์หรอ ? หรือยังไงงงไปหมดแล้ว
ถ้าตามที่ลือๆ กัน รุ่นถูกกว่าก็เป็น GTX เฉยๆ นะครับ เหมือนสมัยก่อนที่แบ่ง GT , GTX
ขอเดา GTX 2060Ti ลงไปหรือเปล่าครับ
ไม่มีคู่แข่งแล้วราคาฟันเต็มที่
ราคาห่างไกลกับชีวิตจริงมากขึ้น เหมือน iPhone ขึ้นทุกวัน
ราคานี้ไม่ไหวอะ
ทำไมเจ้าคนคิดเหมืองต้องมาใช้การ์ดจอด้วยนะ ทำไมเอ็งไม่ใช้ floopy drive วู้
มันมีคนขุดเหมืองด้วย Harddrive นะครับ
รอ gen หน้าดีกว่าเผื่อราคาจะลงอีกหน่อย ฮ่าๆ
ครั้งนี้แปลกคือการ์ด Founders Edition จะถูก oc มาเลย
ดูต่อไปว่างานนี้ AMD จะม้วนเสื่อขายธุรกิจ GPU หรือไม่
คู่แข่งขายแพง ขายถูกในประสิทธิภาพต่อพลังงานที่ดีกว่าผมว่าก็ยังขายนะครับ
ย้อมแมวการ์ด RX-680 แล้วกัน ใช้ chip เดียวกับสมัย RX-480/580 ปรับปรุงนิดๆหน่อยๆไป ขายราคาเดิมด้วย :P
เซ็งตรงเจ้านี้ขาย GPU ทีลากยาวไป 3-4ปี ชนิดว่าหมดประกันแล้วยังไม่ตกรุ่น ถ้าซื้อใหม่ จ่ายเท่าเดิมก็ได้แรงพอๆกับของเดิม -_-"
Cycle GPU เขาอยู่ที่ 3 ปีครับ
cycle 3 ปีถ้าทยอยลดราคาลงเรื่อยๆเพราะมีรุ่นใหม่ทดแทนอันนี้ไม่เป้นไร แต่ที่เจอคือเปลี่ยนชื่อรุ่นแต่ chip เดิม แล้วขายราคาเดิมหรือแพงกว่านิดหน่อย (เช่นเคส RX-480 ->RX-580 ขายแพงขึ้นเพราะ clock สูงกว่าแรงกว่านิดหน่อย)
ในขณะที่อีกค่าย เขาลดราคา GTX1060,1070 ลงมา 1 level แล้วมีตัวใหม่แที่แรงกว่าขายในราคาเดิมแทน (ตอนนั้นคือ 1060 11Gbps,1070Ti)
polaris > vega แล้วนิ ปลายๆปีหรือต้นปีหน้าก็เข้าสู้ vega 20 / polaris พึ่งใช้ไป 2 ครั้งเอง ตัวล่าสุด vega64/56 ก็เป็น เทคใหม่ ย้อมแมวตรงไหนเนี้ย
Vega 10 = Fiji@GloFo14nm+HBM2
RX 580 = overclocked RX 480 (same fab@14nm, same die@GCN4-232mm2)
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
สองปีก่อนผมซื้อ RX-480 ราคา9พันบาท ตอนนั้นซื้อสองใบมา CF กันด้วย (แล้วก็ขายออกไปใบนึงหลังจากนั้นไม่นานเพราะบางเกมแบบ GTA Vมันทำ FPSได้แย่กว่า 1070ใบเดียว แถม crash ง่ายมากเพราะร้อนจัด)
ตอนนี้ RX-580 ที่แรงพอๆกัน(แรงกว่านิดเดียวเพราะ clockสูงกว่า) แต่ก็ราคา 9พันกว่าบาทเหมือนเดิม ผมตัดช่วงที่ราคาปั่นป่วนเพราะเหมืองcrypto ไปแล้วนะ
ส่วน Vega56/64 มัน overprice ไปสำหรับผม แม้จะบอกว่าไปขุดเหมืองแรงมาก แต่เล่นเกมส่วนใหญ่ก็ยังแพ้ 1070Ti ในขณะที่ตัวหลังมันถูกกว่าตั้งหลายพัน
ยังไม่นับเคสในตำนานแบบ HD7970->R9-280x->R9-380 นี่เรียกว่าเกินสามปีเลยทีเดียว แถมแทบจะขายราคาเดิม(ผมใช้เกือบครบทุกตัวที่ว่าเลยยกเว้นตัวหลังสุด เพราะตอนนั้นใช้ R9-290CF)
ผมแฟนค่ายแดง แต่เบื่อเรื่อง cycle ที่มันยืดยาวและตัวเลือกน้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งครับ ตอนนี้เห็น 1080Ti มือสองราคาจากเหมืองแท้ๆ15-16k นี่หวันไหวใจมากๆ รอดูราคา 2070 เมืองไทยอีกทีก่อน
โดยส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยนะ
ประการแรก ตอนที่ 480 มาใหม่ๆ crypto มันเริ่มมาแล้วครับ แล้วตอนที่ 580 มาเนี่ยมาแป็บเดียวเหมืองถีบราคาขึ้น
สำหรับ Vega มันถูกปั่นราคาด้วยเหมืองนั่นแหละ ถือเสียว่ามันไม่ใช่ราคาปกติตั้งแต่ต้นครับ
ที่ราคา 480 580 ที่มันไม่ลดลงเลยส่วนหนึ่งก็เหมืองนั่นแหละที่มีส่วนเต็มๆ
ส่วน 2070 ราคาเปิดตัว 500$ ครับเข้าไทยก็ราวๆ 17000+
ดูจากข้อมูลที่หลุดๆมาเนี่ยผมว่าที่ตั้งราคากันว่าแพงก็เพราะอยากให้ของเก่าระบายออกด้วยมั้งเลยจัดราคาของใหม่ให้แพงกว่าเยอะหน่อย
ผมซื้อ RX-480ครึ่งหลังของปี2016(หลังเปิดตัวสัก2-3เดือนนี่แหละ) ก่อนเหมืองฮิตสุดๆ ตอนกลางปี 2017 ครับ(ผมขายไปตอนนั้นได้ 12k) การ์ดแพงสุดๆอยู่สองสามเดือน แล้วมีช่วงนึงราคาการ์ดลงมาปกติ ช่วงเดือนแปดเดือนเก้านี่แหละ RX-580 ก็มาช่วงนั้น ราคาก็เริ่มต้นที่ 9พันปลายๆถึงหมื่นนิดๆ(แพงขึ้นพันนึง) ก่อนราคาจะทะยานไปไกลอีกทียาวจนทุกวันนี้ถึงจะลงมา 9พันเท่าตอนเปิดตัว
Vega56,64 เคยราคาลงมา 18k,23k อยู่ช่วงนึงครับ คือตั้งราคาชนกับ 1070/1080 แต่ประสิทธิภาพด้านเล่นเกมด้อยกว่านิดหน่อย พอ 1070Ti ออกมา ก็กลายเป็นไม่น่าจะคุ้มสู้ได้ ตัว Vega นี่ไม่ต่างจาก Rx-Nano ที่ไม่มีความคุ้มค่าในการเล่นเกมสักเทาไร
RTX 2070 เห็นเขาโม้ว่าแรงกว่า 1080Ti ก็รอดูนั่นแหละ ถ้าไม่จริง สอย1080Ti ราคาหน้าเหมืองก็น่าจะคุ้มอยู่
ผมก็ยังใช้ 480 สบายๆไม่ได้เดือดร้อนกับการอัพเกรดครับ GTA V ก็ยังเล่นอยู่
แต่พวก Vega เนี่ยปัญหามาจากโรงงานไม่เข้าใจ 14nm FinFET คอยแต่จะอัด overclock โดยใช้วิธีเดิมๆ
จนการ์ดบางตัวมีปัญหา แต่สำหรับคนที่ปรับแต่ง undervolt เป็นเนี่ยบอกเลยครับว่าสนุก ลองๆเล่นมาแล้วถึงจะไม่ใช่ของตนเองก็เถอะ แต่ถ้าเทียบกับตัว Nano ผมบอกเลยว่าคนล่ะเรื่อง
ปัญหาของ Vega คือดัน overvoltage มาจากโรงงานนี่แหละ งี่เง่าสุดๆ สถาปัตยกรรม vega ยิ่ง undervolt เป็น clock ทะลุ 1800MHz ได้เลย
ตอนนี้ผมรอตัว 7nm อยู่ Polaris clock ตันไวครับ
ส่วนเรื่องที่ว่า RTX 2070 แรงกว่า 1080Ti ไม่น่าจะจริงครับ ตัวที่แรงกว่าคือ 2080
แถม 2070 หั่น CUDA ลงมาเหลือ 2304 แค่นั้นต่อให้อัด IPC มามากก็ไม่น่าจะชนะ 1080Ti ได้ครับ
เพราะที่มีข้อมูลคือมันแรงกว่า 1080 17% แต่ 2080 เห็นบอกว่าแรงกว่า 1080Ti 8% มันเลยมีราคาพอๆกับ 1080Ti
480 ใบเดียวมันเล่นเกมกับจอความละเอียด 2k ได้แบบหนืดๆครับ ตอนนี้เล่น FF15 FPS สวิงแถว 40-50 กินแรงกว่า GTA V เยอะโดยเฉพาะฉากกลางคืน (ตัวGTA V เองกว่า480 จะเล่นได้ลื่นๆก็รอ driver กันหลายเดือนอยู่) ยังไม่เคยลอง RX-580 แต่ก็คิดว่าไม่น่ารอดเหมือนกัน จอ 2k เลยกลายเป็นว่าตัวเลือก 1070-1070Ti น่าสนกว่า(มือสองก็ราคาลดมาเยอะ) แถมหลายๆเกมแรงกว่า RX-480CF ซะด้วย ส่วนVega ราคามันโดดเกินไป
แต่ไปๆมาๆ ตอนนี้ผมกลับชอบใจการ์ดค่าย Nvidia มากกว่า เพราะใช้ดูหนัง ดู Blu-ray ครับ มันรองรับการถอดรหัส video มากกว่าจริงๆ (HTPCเครื่องนึงใช้ตัว GT1030 ถูกๆซื้อมาไม่ถึงสองพันนี่แหละ ถอดได้หมดยัน 8k ) ของค่ายแดงที่เคยชูโรงเรื่องถอดรหัสvideo กลายเป็นล้าหลังไปหมด (ไม่นับตัว topนะครับจะซื้อ Vega มาดูหนังคงไม่ไหว)
40-50 นี่ผมรับไม่ได้แล้วครับ จริงๆ พอตกมา 90-100 นี่ก็รู้สึกแย่แล้ว
เป็นบาปอย่างมาก ?
60++ หรือปริ่มๆผมก็รับได้แล้ว จอผม UP2716D มัน 60Hz FPS สูงไปภาพฉีก ลำบากต้องเปิด v-sync อีก -_-"
ตอนนี้กลับไปดูเกมแบบ 60FPS (พวกคลิปที่เซฟมา) นี่ทรมานเลยครับ มันเป็นความบาปที่ไม่ควรมายุ่งจริงๆ ?
ดีนะที่จอ IPS 2k ที่HZ สูงๆมันยังแพงมากพอๆกับจอ 4k 60Hz เลยยังไม่ได้ลอง
ผมเองมาใช้จอ 2k 10bit นี่ก็กลับไปเล่นจอ full HD ไม่ได้เลยอีกเช่นกัน
ผมเลยเลี่ยงที่จะแตะจอ >full HD ไปเรื่อยๆ ครับ ?
เนื่องจากมันเลือกพร้อมกันไม่ได้ ถ้าต้องเลือกความละเอียด, สี, ความเร็ว ผมเลือกความเร็วก่อนครับ ถัดไปคงเป็นสี ส่วนความละเอียดคงไว้หลังสุดเพราะมันฉุดการ์ดจอ
ถ้าราคาต่อประสิทธิภาพมันดีกว่าคนก็จะซื้ออยู่ครับ
เจอราคานี้เบรกหัวทิ้ม ยิ่งตัว GTX1080 ขายใน Amazon $469 ซื้อมาเสียบอีกตัวยังคุ้มเงินกว่าอีกมั้งเนี่ย
ราคาเกินเอื้อม
https://www.jib.co.th/web/product/readProduct/31045/1648/VGA--การ์ดแสดงผล--GALAX-RTX2080TI-OC-DUAL-BLACK-11GB-DDR6
ค่ายแดงตามไม่ทัน ค่ายเขียวก็โขกราคาสบายๆ
ไม่เชิงว่าจะไม่ทันนะครับ แต่กว่าตัวการ์ดมันจะใช้งานได้เต็ม 100% นี่รอdriver ไปเป็น ปี หรือ 2 ปีัเลยทีเดียวนะครับ
ผมว่า AMD ก็รอปล่อยของครับ ค่ายนี้ชอบปล่อยทีหลัง