ธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจองค์กรและการพาณิชย์ จาก ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย จะมาเปิดเผยเรื่องราวต่างๆ ในงาน Blognone Tomorrow ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในธุรกิจ ซึ่งปัจจุบัน เทคโนโลยีเดินทางมาไกลมาก ซึ่งไมโครซอฟท์พยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้เทคโนโลยีเข้าถึงทุกคน นอกจากนั้นไมโครซอฟท์พยายามให้เทคโนโลยีเข้าถึงธุรกิจได้มากขึ้น เพราะว่าธุรกิจต่างๆ เหล่านี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้ภาคส่วนอื่นๆ เข้าถึงเทคโนโลยีได้

มีผลการสำรวจพบว่าภายใน 2021 ดิจิทัลมีบทบาทในองค์กร ผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ที่ขับเคลื่อนโดยโลกดิจิทัลสูงถึง 40% ของ GDP ไทย ดังนั้นถ้าบริษัทไม่นำเทคโนโลยีมาใช้อาจกลายเป็นว่าบริษัทอาจถึงขั้นหายสาบสูญไปเลย เนื่องจากเทคโนโลยีช่วยสร้างสรรนวัตกรรมใหม่ๆ

AI ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่มีมาแล้วตั้งแต่ 1960 แต่ไม่มีช่วงไหนที่ AI จะเข้าถึงมนุษย์ได้มากเท่ากับช่วงนี้ ปัจจุบัน AI เข้าถึงได้ทุกอุตสาหกรรม และอยู่รอบตัวเราทุกคนสามารถนำมาใช้และพัฒนาต่อยอดได้

ยกตัวอย่างการใช้ AI

ตัวอย่างการใช้งานจริงเช่นการนำ AI มาตรวจสอบสภาพสะพานในประเทศเดนมาร์ก ซึ่งโดยปกติการสำรวจสะพานถ้าใช้คนตรวจหาปัญหาต่างๆ อาจใช้เวลาเป็นปี แต่ถ้าหากนำ AI มาใช้โดยนำภาพกว่า 5,000 ภาพมาให้ AI ได้เรียนรู้โดยใช้ Machine Learning ว่านี่คือภาพของสนิม ภาพของรอยแตกของเสา ภาพของตะไคร่น้ำ หลังจากนั้นก็นำโดรนบินขึ้นสำรวจสะพานอีกรอบ เพื่อจะได้ตรวจสอบว่าจุดไหนที่มีปัญหา ซึ่งจะเห็นได้ว่าการนำ AI มาใช้ ทำให้ประสิทธิภาพของงานดีขึ้น ความรวดเร็วของการตรวจสอบสะพานนั้นจะสั้นลงมาก

กรณีศึกษาในประเทศไทย

ธนพงษ์ ยังเปิดเผยอีกว่าหน่วยงานในประเทศไทยอย่าง การบินไทย ได้นำ AI มาใช้ในการตอบคำถามของลูกค้าผ่านแชตบอต ชื่อว่า น้องฟ้า ที่ช่วยตอบคำถามไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นของการบินไทยเอง หรือแม้แต่การจองรถ ซึ่งตอนแรกการบินไทยไม่รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ต้องทดลองไปเรื่อยๆ

หรือแม้แต่ กรมสรรพากร ก็ได้นำ AI มาใช้ในการตอบคำถามเช่นกัน โดยใช้ชื่อว่า น้องอารี โดยการนำระบบ AI มาใช้ตอบคำถามให้กับลูกค้าหรือแม้แต่ประชาชน สามารถทำงานได้ 24 ชั่วโมง 7 วัน ซึ่งอำนวยความสะดวก และลดภาระของพนักงานในการตอบคำถามซ้ำๆ ลง ทั้งหมดนี้เมื่อเป็น AI จึงสามารถช่วยขยายขอบเขตการเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น

จริยธรรม

ในช่วงที่ผ่านมามีการพูดถึงความน่ากลัวของ AI ซึ่งอาจนำไปใช้ในเรื่องที่ไม่เหมาะสม เช่น การนำเทคโนโลยีจดจำใบหน้าไปใช้ในการทหาร ซึ่งไมโครซอฟท์ มองว่าเรื่องจริยธรรมเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้ AI ไม่ให้ไปรุกล้ำชีวิตของคนอื่นๆ นอกจากนั้นคือ AI ควรจะโปร่งใส ตรวจสอบได้ด้วย ซึ่งทุกอย่างในโลกนี้คือดาบสองคม ในปัจจุบันไมโครซอฟท์ มองว่าเทคโนโลยีควรจะทำอะไรได้บ้าง และอะไรที่ไม่ควรจะทำ

แต่บางคนก็อาจกลัวเรื่องของ AI แต่ไมโครซอฟท์นั้นนำ AI มาช่วยให้คนทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นอย่ามอง AI เป็นเรื่องอันตราย แต่ AI จะช่วยเหลือมนุษย์เข้าถึงเป้าหมายที่ต้องการได้มากขึ้น โดยอยู่บนพื้นฐานของจริยธรรม

การนำมาใช้ในประเทศไทย

เรื่องของการนำ AI มาใช้ในประเทศไทยคือในแต่ละองค์กรย่อมมีเม็ดเงินในการนำเทคโนโลยีมาใช้ไม่เท่ากัน ยิ่ง Data Scientist ซึ่งเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับ AI ในไทยมีค่าตัวที่แพงมากๆ แต่เทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ สามารถทำให้บริษัทสามารถใช้เทคโนโลยีเบื้องต้นได้เลย ซึ่ง Machine Learning ของ Microsoft Azure สามารถให้เด็กจบใหม่สามารถเขียนโปรแกรมสอนได้เลย ไม่ยากมาก และเทคโนโลยีเดี๋ยวนี้ไม่ได้มีราคาแพงเหมือนกับอดีต โดยไมโครซอฟท์ มีเครื่องมือที่ชื่อว่า AI Platform ซึ่งเป็นบริการของ Azure

นอกจากนั้นผู้ประกอบการไทยยังต้องกล้าที่จะลองผิดลองถูกอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการควรที่จะลงมือทำและเรียนรู้ไปกับมันเหมือนกรณีของการบินไทยที่นำระบบแชตบอตมาใช้ ซึ่งในตอนแรกการบินไทยเองก็ไม่แน่ใจว่าการนำมาใช้จะดีหรือไม่ แต่หลังจากการลองผิดลองถูกก็ทำให้การบินไทยพบว่าลูกค้าต้องการอะไร ซึ่งถ้าหากเราต้องการพัฒนาระบบที่ครอบคลุมเพื่อให้รู้ความต้องการของลูกค้า อาจจะต้องใช้เวลานานถึง 5 ปี แต่การนำมาปรับใช้กับการบินไทยในครั้งนี้ เราใช้เวลาเพียงหลักเดือน และหลังจากนั้นก็ลองถูกลองผิดและเรียนรู้ไปกับมัน