ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความถึงแอปเปิลอีกครั้ง โดยบอกว่าสินค้าของแอปเปิลย่อมมีราคาแพงขึ้น หลังรัฐบาลสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนครั้งใหญ่ และหากแอปเปิลต้องการแก้ปัญหาแบบง่ายๆ ก็เพียงแค่มาตั้งโรงงานผลิตสินค้าในสหรัฐแทนประเทศจีนสิ
ทรัมป์เคยเปิดประเด็นเรื่องแอปเปิลตั้งโรงงานในสหรัฐมาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2017 ส่วนแอปเปิลก็เคยประกาศในช่วงต้นปี 2018 ว่าจะจ่ายภาษีและลงทุนครั้งใหญ่ในสหรัฐอเมริกาเป็นเงินถึง 3.5 แสนล้านดอลลาร์
แต่หลังจากสหรัฐเปิดสงครามการค้ากับจีนอย่างจริงจังในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา แอปเปิลก็เคยออกมาเตือนว่าราคาสินค้าจะได้รับผลกระทบ จนกลายเป็นทวีตของทรัมป์อันนี้ในเวลาต่อมา
หมายเหตุ: อ่าน ข่าวสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ได้จาก Brand Inside
Apple prices may increase because of the massive Tariffs we may be imposing on China - but there is an easy solution where there would be ZERO tax, and indeed a tax incentive. Make your products in the United States instead of China. Start building new plants now. Exciting! #MAGA
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) September 8, 2018
ภาพโรงงานในสหรัฐที่ผลิตชิ้นส่วนให้ iPhone X - ภาพจาก Apple
Comments
แพงกว่าเดิมอีกนะสิทรัมป์ ( ; - ; )
ถึงต้นทุนจะลด ก็ไม่ได้ทำให้ราคาลดลงหรอกท่าน
The Dream hacker..
เครื่องแสน สาวกขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกครับขึ้นไปเลยครับ
ยังไงก็ร๊าก
แน่ใจเหรอครับ?
ผ่อน 48 เดือนกันไปเลย เอิก ๆๆ
ต้นทุนเท่าไหร่เราไม่สน แต่ที่เราจะไม่ลดคือกำไร
คนทางถนนฟากโน้นกล่าว
มันก็ไม่แปลก สินค้าราคาสูงขึ้น ก็ขายได้น้อยคง เฉพาะกลุ่มมากขึ้น คงเห็นขึ้นเบอร์ต้นๆ ลำบาก แต่กำไรคงไม่ลดลงเท่าไหร่ เพราะทดแทนด้วยการปรับราคาขึ้นได้ ส่วนตัวมองว่ากลุ่มผู้ใช้ Apple อาจดีใจก็ได้ เพราะสินค้ามันจะเฉพาะกลุ่มขึ้น กลุ่มที่สู้ราคาไม่ไหว ก็หันไปหาตัวอื่นแทน ส่วนตัวไม่ได้มองเรื่องราคาขาย กับยอดขายจะเป็นผลกับ Apple สักเท่าไหร่ แต่น่าห่วงเรื่อง Application ใน Store มากกว่า เพราะธุรกิจ App มันต้อง Mass ถึงจะช่วยดึงนักพัฒนา และคนเข้าระบบ ถ้า App เริ่มน่าสนใจน้อยลง คนก็ออกจากระบบมากขึ้น เหมือนกับที่ Microsoft ดัน WM ไม่ขึ้น ทั้งที่ HW ก็ไม่ได้แย่ ตรงนี้มากกว่าที่น่าห่วง
+1
ลูกค้าบางส่วนอาจจะชอบ เพราะ Made in USA
ในหลายสินค้าคนก็ยอมจ่ายเพิ่มเพื่อให้ได้ Made in USA นะครับ เช่น จักรยาน
การตีค่าลูกค้าที่ยอมจ่ายเพราะ Made in US
มันออกจะแรงไปหรือเปล่าครับ ที่ลูกค้ายอมจ่ายเพราะเชื่อมั่น
"ในกระบวนการ" QC QA และมาตรฐานรับรองหรือเปล่าครับ
ไช่ campaign ของ moto ที่พับเก็บไปอย่างรวดเร็วหรือปล่าว ?
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
+1
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
จัดไปเลยครับ ขายไตก็ซื้อได้แล้ว สำหรับสาวกเรื่องจิ๊บๆ
วลี 'ขายไต' นี่ใช้หากินได้ยันลูกบวช
มันเป็น fact ที่เกิดขึ้นแล้ว ก็คงตามนั้นละครับ
^^
ถ้าเทียบค่าแรงจะถูกลงจริงหรือเปล่า รวมถึงพวกวัตถุดิบก็ต้องเปลี่ยน Supply Chain กันใหม่อีก
ผลิตในสหรัฐ ก็จะถูกแค่สำหรับสหรัฐ
แต่ผลิตในจีน จะถูกสำหรับทั่วโลก
ทรัมป์ พูดแบบนี้ก็แค่จะโยนปัญหาเวลา apple เปิดตัว iphone รุ่นถัดไป แล้วราคาเพิ่มขึ้นเฉพาะรุ่นที่ขายใน usa เท่านั้นแหละ
เรื่องของเรื่องคือ เมื่อภาษีขึ้น ราคาสินค้าทั้งหมดก็ขึ้นตาม เพราะสินค้าที่ผลิตนอกประเทศต้องขึ้นราคา สินค้าในประเทศแข่งขันน้อยลงก็จะขึ้นราคาตามไปด้วยเพื่อเพิ่มกำไร - ใครจะลงทุนทำ production line เพิ่มเพื่อตอบสนองภาษีที่อาจจะอยู่เป็นการชั้วคราวแบบนี้ ทั้งที่ขึ้นราคาก็ใด้กำไรเพิ่มแล้วหละ -
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ทำไมวิสัยทัศน์ดูแย่มากๆทำตัวเอาแต่ใจไม่ได้ดังใจก็ใช้อำนาจแปลกๆมาข่มขู่
คุณต้องเข้าใจว่า
เมกา ขาดดุลการค้าต่างประเทศอยู่มาก การไม่ทำอะไรเลย เลือดมันก็จะไหลออกอยู่เรื่อยๆ แนวทางของทรัมป์คือไม่ยอมเจ็บตัวคนเดียว
และสินค้าของแอปเปิ้ล นั้นไม่ได้ทำให้รัฐได้ภาษีมากเท่าที่ควรจะได้ แม้จะเป็นสินค้าที่โฆษขายดี จนบริษัทติด บริษัทล้านล้านไปแล้ว ซึงแนวทางของ บริษัทใหญ่ จะต้องบริหารภาษี คือหนีกันสุดๆ และรัฐก็ต้องดึงไว้สุดๆ เหมือนกัน แอปเปิ้ลเอง ถึงขนาดตั้ง บริษัทที่ใช้เ็บเงินใน ประเทศที่ มีนโยบายภาษี ดีดี เลยครับ
https://www.blognone.com/node/76317
เมื่อภาษีแพง มันคือต้นทุน บริษัทพวกนี้ จึงต้อง ย้ายฐานการผลิต ย้ายสำนักงาน ทีนี้ พอ การลงทุนออกไปข้างนอก + กับขาดดุลทางการค้า ทรัมป์จึงต้อง ดึง บริษัท พวกนั้นให้กลับเข้ามา ถ้าไม่กลับก็ เจอภาษีนำเข้าแพงๆไป
มันเป็นวิธรการบริหารแบบ ทรั้มป์นะครับ คนในประเทศเขาโอเค แค่คนทั่วไปไม่โอเค หรอก
+1
ใช่ครับ และยิ่งจีนเกินดุลอเมริกามากเท่าไหร่ จีนจะยิ่งเจ็บตัวมากเท่านั้น เพราะจีนส่งออกไปอเมริกามาก ก็โดนภาษีนำเข้าที่อเมริกามาก แต่จีนนำเข้าสินค้าจากอเมริกาน้อยก็โดนภาษีนำเข้าจากรัฐบาลจีนน้อยเป็นเงาตามตัว ดังนั้นอเมริกาแทบจะไม่เจ็บตัวเลย เพราะขายออกได้น้อยอยู่แล้วครับ
อันนี้คือเข้ามายืนยัน หรือโต้แย้งครับเนี่ย ผมอ่านแล้วเหมือนไปคนละทาง
ปล. ผมคิดว่าเรื่องกำแพงภาษี อาจไม่เกี่ยวกับปัญหาในจีนทางตรงหรือเปล่า อย่างปัญหายึดครองพื้นที่ในทะเลจีนใต้, Censor ของรัฐบาลจีน, ปัญหาทิเบตกับอิสลามอุยกรู และปัญหาไต้หวันกับฮ่องกง เหมือนจะร้ายแรงกว่าเดิม
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เท่าที่อ่าน เป็นการยืนยันตามแนวทางของทรัมป์ครับ จีนเกินดุล usa มาก ดังนั้นการขึ้นภาษีนำเข้าเพื่อทำกำไร usa ใด้เปรียบ ...
แต่ความจริงคือ การขึ้นภาษีนำเข้าจะทำให้ราคาสินค้าในประเทศสูงขึ้นตามและอาจทำให้ทรัมป์หลุดจากการเลือกตั้ง midterms (6 พย. ที่จะถึงนี้) ผมคิดว่า ทรัมป์ ออกมาพูดกันเอาไว้ เพราะ iphone รุ่นถัดไป มีแนวโน้มราคาสูงขึ้นอีกก็เท่านั้น
อีกสองเรื่อง
- Trade War แล้วไง? ส่งออกจีนเดือนส.ค. ยังโต แถมเกินดุลสหรัฐ ฉีกทุกสถิติขาดลอย
https://brandinside.asia/trade-war-china-surplus-us/
- ข่าวดีของจีน! สงครามการค้าทำให้ปริมาณการใช้เงินหยวนเพิ่มขึ้นเกือบ 10%
https://brandinside.asia/trade-war-increase-using-yuan/
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ข้อความต้นทาง เหมือนจะสวนทางสิ่งที่ Trump ต้องการแฮะ แต่ก็จริงที่จีนจะเสียเปรียบตรงส่งออกไปสหรัฐที่จะต้องจ่ายภาษีแพงมาก
ปัญหาต่อมาคือสหรัฐฯ จะได้ผลตรงกันข้ามเสียมากกว่าในระยะยาว เพราะจีนอาจมองหาลู่ทางอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯเลย 100% และไม่แคร์ปัญหาในประเทศที่พูดไป เพราะจีนมีแต้มต่อรองสูงมากในตอนนี้ ทั้งวัตถุดิบ ค่าแรง นวัตกรรม การพัฒนา และการลงทุนที่มาก รวมกับสินค้าที่ขายถูกกว่าในคุณภาพพอๆ กัน
ส่วนสหรัฐฯ จะตกม้าตายตรงวัตถุดิบ และค่าแรงที่สูงมากอยู่แล้ว และหลุดจากประเทศอุตสาหกรรม เป็นประเทศเน้นให้บริการและเทคโนโลยี กำลังการผลิตก็น้อย ความคุ้มค่าก็หายไปเยอแล้วครับ
Apple ก็คงลงเอยที่ไปตั้งโรงงานหรือลงทุนในประเทศข้างเคียงที่ค่าแรงถูกกว่าหรือมีความใกล้เคียงกับจีนมากที่สุด ถึงจะแก้ปัญหาได้ ส่วนค่าสินค้าก็ตามกลไกตลาด และสภาพเศรษฐกิจ รวมถึงตัว Apple เองด้วย เงินก็ยังออกนอกสหรัฐฯ อยู่ดี เว้นแต่บริษัทจะเริ่มเสียภาษีให้ประเทศตัวเองอย่างตรงไปตรงมาเสียที และควรจะเสียภาษีตามพื้นที่ที่ให้บริการและทำธุรกิจด้วย
ปล. แต่มีครั้งหนึ่งที่ Trump ชนะ คือ การ Boycott สินค้าจีนในหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐฯ เกือบทำให้ ZTE ล้มละลาย แต่ยังดีที่ยอมไกล่เกลี่ย (สำหรับผม ไม่ค่อยไว้ใจอุปกรณ์จากจีนเท่าไหร่ ที่บางครั้งเคยส่งข้อมูลกลับจีน แถมเคยเก็บหมดทุกอย่างด้วย เช่น แอพฯ มือถือในช่วงหนึ่ง แต่คงดูเป็นรายอุปกรณ์ไป ไม่ใช่แบนทั้งหมด)
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
การขึ้นภาษีนำเข้าจะทำให้ราคาสินค้าในประเทศสูงขึ้นเป็นเฉพาะบางรายการครับ และเป็นเฉพาะประเทศจีน
ทรัมป์ไม่ได้ขึ้นกลุ่มสินค้าตั้งต้น แต่ไปขึ้นสินค้าสำเร็จรูป ดังนั้นคนที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ คือแอปเปิล ส่วน Dell มีโรงงานส่วนหนึ่งอยู่ในแทกซัส เลยไม่ได้รับผลกระทบ ก็ไม่เห็นขาออกมาโวยนะครับ
สินค้าแพงขึ้น ประชาชน ผู้บริโภคก็หันไปซื้อของที่ถูกกว่า เหมือนเคส เนย กับ มาการีน ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีประชาชนไม่มีเงิน เนยแพง คนก็หันไม่ซื้อมาการีนที่เป็นสินค้าทดแทนที่ถูกกว่า จบครับ ไม่เดือดร้อน
ข่าวนี้ผมเลยมองว่า เป็นข่าวแอปเปิลเสียผลประโยชน์ กำไรหดมากกว่า ท่านเลยออกมาโวย
สังเกตหรือไปไล่ดูอัตราสินค้าขาเข้าของอเมริกาได้ครับ เป็นเฉพาะสินค้าสำเร็จรูปเท่านั้น และเป็นเฉพาะประเทศครับ ไทยเราก็เกินดุล แต่ทำไมไม่ได้รับผลกระทบล่ะครับ? ทุก ๆ วันนี้ ผมก็ยังส่งออกจากประเทศไทยไปอเมริกาแบบเฉยๆ และถ้าอเมริกาตั้งกำแพงภาษี เราก็มีวิธีรับมือไว้แล้ว เพราะเคยได้รับผลกระทบจากตอน EU ยกเลิก GSP มาแล้ว ไทยเราได้รับผลกระทบตอนนี้ก็คือ สินค้าจีนทะลักมาไทยมากกว่า เพราะส่งไปอเมริกาไม่ได้แล้ว
ส่วนเลือกตั้งผมเฉยๆ นะ และรู้สึกว่าตั้งแต่มีกำแพงภาษีคนอเมริกันก็เริ่มแฮปปี้ขึ้น เพราะเริ่มมีการจ้างงานชั้นล่างมากขึ้น แต่กลุ่มคนที่ไม่พอใจมีเฉพาะกลุ่มจริงๆ
ส่วนจีนยอดส่งออกยังโตแถมเกินดุลอเมริกา อเมริกาเฉยๆ ครับ เผลอๆ จะได้ขึ้นอีกรอบเร็วๆ นี้ เพราะได้เงินเข้าคลังมากขึ้นกว่าเดิม
ส่วนใช้เงินหยวนมากขึ้นเกือบ 10% อเมริกาก็เฉยๆ ยิ่งใช้เงินหยวนมาก ความต้องการมีมากตาม เงินแข็งค่าขึ้น สินค้าก็แพงขึ้น ขายไม่ออก อเมริกามีแต่ได้กับได้
ต้องอย่าลืมว่า ทรัมป์เป็นพ่อค้า นักลงทุนมาก่อนนะครับ ทำไมเขาจะไม่รู้? ตอนนี้อะไรที่อเมริกาจะได้เงินเขาเก็บหมดครับ ส่วนใครจะทำธุรกิจกับอเมริกาคุณก็ต้องอยู่ให้เป็นครับ
แต่สิ่งที่จะเกิดคือ ... ระยะสั้น apple สร้างสายการผลิตใน usa ไม่ทันแน่ๆ ดังนั้น ขึ้นราคามือถือ น่าจะเป็นตัวเลือกเดียวที่ทำใด้
ระยะยาว apple น่าจะเลือกการ ไม่จ้างงานใน usa บริหารภาษีตามแนวทางเดิม และ ขึ้นราคามือถือ ใน usa ตามสมควรเพราะกระทบต้นทุนต่ำกว่า จ้างงานใน usa เจอภาษีเก็บเต็ม และถ้าจ้างนอก usa น้อยลง economy of scale ก็จะเสีย
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมว่าต่อให้มาตั้งโรงงานในสหรัฐฯ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมาหรอก มีแต่จะส่งผลเสียด้วย มีแค่ผลดีระยะสั้นที่ต้องแลกกับผลเสียในระยะยาว
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
สมัย Motorola ยังไม่โดนซื้อกิจการผลิตใน จีน หรือ อเมริกา นะ สมัยนั้นผมเล่น Nokia ซึ่งผลิตใน ฮังการี ขณะที่บางคนได้เครื่องผลิตจีน แม้แต่ใน Samsung ปัจจุบัน บางรุ่นบางล็อตก็ผลิตในเวียดนาม
supplier อยู่เมืองจีนทั้งนั้น
ผมมองว่าไม่แปลกนะที่จะชาติมหาอำนาจจะไม่ยอมเสียเปรียบอีกชาติมหาอำนาจหนึ่งอยู่แล้ว จีนก็ใช้วิธีนี้กับอเมริกาเหมือนกันแลกกันคนละหมัดก็ไม่ได้แย่นะ เพราะถ้าทุกอย่างอยู่จีนหมด วันดีคืนดีจีนบอกถ้าจะซื้อของอั๋ว ให้อั๋วเช่าที่ดิน 99 ปีในกรุงวอชิงตันดีซีข้างธรรมเนียบลือสิ ไม่งั้นประชาชนลืออดไอโฟน ซุปเปอร์เอ็กซ์ แล้วจะปรับตัวกันได้ยังไงของทุกอย่างอยู่จีนหมดแล้ว เศรษฐกิจพังพินาศพอดี
ปล.ดูจากคดีพิพาทเกาะทะเลจีนใต้แล้ว ถ้าเสียเปรียบจีนนิดนึง จีนจะทำอะไรก็ได้เลยทีเดียวไม่สนประเทศไหนอยู่แล้ว
จีนมีทรัพยากรพร้อมทุกอย่าง เห็นว่าเรื่องภาษีนำเข้าส่งออกก็โดนด้วย
iPhone นี่เด็กๆ ทุ๊มทั๊มจะเก็บภาษี ญี่ปุ่นคุงด้วยนะครับ
เพื่อนรักกัน ขึ้นภาษีชิ้นส่วนรถนำเข้าแม่มเลย สหรัญเอ๋ย เธอร์สนุกแน่ๆ
Apple มีความโดเด่นเรื่องการบริหาร Supply Chain ด้วย
การย้ายโรงงานย่อมส่งผลกระทบกับระบบ Supply Chain ที่วางไว้ไม่มากก็น้อย
เพราะคงจะย้ายแบบยกระบบตูมเดียวมาทุกอย่างยาก
เบื้องต้นคือ การย้ายโรงงาน การเปลี่ยนแรงงานและค่าแรง
ไกลกว่านั้นคือการปรับเปลี่ยน warehouse และ Logistic อีกมาก
มันจะเหมือนการต้องแก้ไขเงื่อนปมของเชือกที่ผูกไว้แล้วอย่างสลับซับซ้อนแล้วผูกใหม่
+2018
ใช่ๆ แค่ย้ายโรงงานผลิตอะ ผมว่าไม่ยากหรอก
ใน line การผลิตก็หุ่นยนต์ซะส่วนมาก แต่ที่กระทบจริงๆ
น่าจะเป็นพวกซัพพลายเออร์ต่างๆ มากกว่าที่กระจุกตัวอยู่ที่จีนแทบทุกสิ่งอย่าง
ปกติผมไม่ชอบขี้หน้าทรัมป์ แต่ผมว่าเรื่องนี้ทรัมป์ไม่ผิดนะ เพราะสิ่งที่เสนอมาก็เพื่อประโยชน์ของอเมริกา
ถ้ามันไม่เลวร้ายขนาดออกกฎหมายให้รัฐบาลยึด Apple, Google มาเป็นของรัฐ ผมว่ามันก็ยังรับได้แหละ
ถ้ามองแบบกลางๆ ก็เห็นไปในแนวทางเดียวกันครับ หลักๆ มันอาจจะเป็นวิธีการบริหารประเทศที่ทำกันอยู่ทั่วไป สิ่งที่ต่างคือการใช้คำพูดหรือการแสดงออกเท่านั้นเอง
มันจะถูกลงจริงหรอครับ ค่าใช้จ่ายตั้งโรงงานใหม่ ค่าขนส่ง ส่งไปต่างประเทศก็มีกำแพงภาษีเพิ่มอีก
Protect Self..แต่อำนาจกำลังเปลี่ยน ยังไงโลกก็ยังเดิมและยับเยินมากขึ้น
เขาไม่กลัวราคาที่แพงขึ้น เพราะลูกค้าเขารวย เขาขายกับคนรวย มาร์เก็ตเซคเมนเทชั่น ?
ก็ธรรมดานะผมว่า ไม่เห็นจะต่างจากภาษีนำเข้ารถยนต์ของบ้านเราเลย