แอปเปิลเพิ่มวิดีโอในหน้าเว็บสำหรับนักพัฒนา เพื่อให้นักพัฒนารับรู้ประโยชน์ของการใช้โมเดลเก็บเงินค่าใช้งานแอปแบบ Subscription มากขึ้น
โดยเนื้อหาวิดีโอเป็นการสัมภาษณ์ทีมงานจากแอป Elevate, Dropbox, Calm และ Bumble ที่มีระบบเสียเงินเป็นรายงวดแบบ Subscription ซึ่งทำให้ผู้พัฒนามีรายได้ต่อเนื่อง นำไปปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานแอปให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ วนเวียนเป็นวัฏจักรเช่นนี้
แอปเปิลเคยเปิดเผยตัวเลขในงานสัมมนาปิดเมื่อปี 2017 ว่า ปัจจุบันนักพัฒนาแอปทำเงินจากโมเดลการขายขาดแอปครั้งเดียวคิดเป็น 15% และตัวเลขมีแนวโน้มลดลงตลอด ขณะที่รูปแบบ Subscription มีการเติบโตและทำเงินเพิ่มมากขึ้น
สำหรับแอปเปิลนั้น ย่อมพูดถึงการทำระบบ Subscription ผ่าน App Store ซึ่งทำให้แอปเปิลได้เงินค่าธรรมเนียม ขณะที่แอปใหญ่บางรายก็พยายามทำระบบที่ไม่ต้องผ่าน iTunes
ที่มา: MacRumors
Comments
อยากได้เงินเพิ่ม
ก็ดีนะ แต่ผมไม่ซื้อ Subscription เพราะรวม ๆ กันแล้วมันจะแพงมาก ถ้ามีทางเลือก จะซื้อขาด อย่าง Office จ่าย Subscription ใช้ได้ 5 เครื่อง จ่าย 2 ปี ซื้อชุดแบบจ่ายหนเดียวได้ 1 ชุด ก็ต้องชั่งน้ำหนักกันหน่อย
อย่าง office ซื้อขาด ในราคาจ่าย 365 2 ปี อันนี้จะได้ update แค่ patch ครับ จะไม่ได้ตัวใหม่
ส่วน 365 จะได้ตัว update ใหม่
และถ้าใช้ 5 เครื่อง (ซึ่งเดือนหน้าจะเพิ่มเป็น 6 เครื่อง) หาคนหุ้น ตกปีละ 300-400 กว่าบาท ถือว่าเช่าพื้นที่ OneDrive 1TB ด้วยราคาเท่านี้ ส่วน Office 365 ถือว่าเป็นของแถมก็ยังได้เลยครับ
software ต้องดีมากๆระดับหนึ่งครับ ใช้ไม่ได้สำหหรับแอพไก่กาอาราเร่ อย่าง 365 นี่คื subscription 2 ปีเลยแต่ได้โปรหารๆแล้วคุ้ม แต่ถ้าโปรแกรมประเภทนานๆใช้ครั้ง อย่างนี้ไม่เกิด
สับตะไคร้ผ่าน Store นะไม่มีบัญหาฉุกเฉินต้องการอะไรด่วนๆ ก็สะดวกดี แต่ถ้าบังคับว่าต้องทำเฉพาะ App Store Play Store หรือตัว APP บังคับแบบแปลกๆอย่างต้องจ่ายผ่าน e-Wallet บางตัว(ที่เราไม่อยากใช้)อันนี้น่าจะมีปัญหา
ไม่เอา...
ทุกวันนี้ย้ายจาก photoshop มา pixelmator pro ก็เพราะไม่อยากเจอ subscription เลยนะ..
[S]
ก่อนหน้านี้ก็ subscription หลายแอพนะ
พอรวมๆ แล้วต่อเดือนก็แบบ เฮ้ย เยอะอะ พวกนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายที่เยอะไม่รู้ตัว
ตอนนี้ก็ตัดไปหลายตัวละ พยายามใช้ตัวฟรีที่พอใช้ได้ตามความจำเป็นพอ หรือไม่ก็ซื้อขาดแบบตัวไม่แพง
passive income สบายแฮ
App ไหนจ่ายครั้งเดียวจบ ผมยอมจ่ายนะ
แต่พวก subscribe เนี่ย ยอมใช้ตัวอื่นเลย ต่อให้คุณดีแต่ไหนก็ตาม
App ไหนจ่ายครั้งเดียวจบ ผมยอมจ่ายนะ
แต่พวก subscribe เนี่ย ยอมใช้ตัวอื่นเลย ต่อให้คุณดีแต่ไหนก็ตาม
ในเรื่องนี้มันมีทั้งดีทั้งด้อยนะ ถ้าไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ เช่าใช้เป็นครั้งๆ ไป ผมว่าระบบ subscription นี่ตอบโจทย์ผมมากเลย แต่ว่าถ้าจะให้ทำผ่าน Apple ผมเองก็รู้สึกไม่โอเคเท่าไหร่ เพราะยังรู้สึกว่าค่อนข้างซับซ้อน ส่วนใหญ่ที่ใช้อยู่จะเป็นการสมัครโดยตรงกับผู้ให้บริการเลย
เกลียด อยากจ่ายทีเดียว แต่สมัยนี้มันคงผลักให้คนจ่าย Subscribtion/Freemium มากขึ้น ชอบสมัยก่อนที่ซื้อแอปแล้วจบมากกว่า แต่คนคงไม่ค่อยซื้อกัน เลยต้องทำแบบนี้
ถ้าแต่ก่อนมีใครทำแบบซื้อขาด ผ่อน 0% นานกี่เดือนก็ว่าไป เราอาจจะไม่ได้เห็น subscription ก็ได้ครับ
หลายแอป ผมรับไม่ได้กับการ จ่ายแบบรายเดือนนะครับ
ผมเกลียดเลยหล่ะ พยายามลด ละ เลี่ยงเลย บริการพวกนี้
อย่าง dropbox ผมก็ใช้เท่าที่มันให้ฟรี google drive ก็ใช้เท่าที่ใช้ได้
หลายๆอย่างรวมๆ แล้วมันแพงมากนะครับ แบบนี้
ผมว่ามันก็แค่ เปลี่ยนวิธีการขึ้นราคาแบบเนียนๆ
ถ้าขึ้นราคาตรงๆ ผู้ใช้มันเห็นชัด ก็เอาวิธีนี้มาใช้
แล้วพอผู้ใช้อยากได้ซื้อขาด
ราคาแบบซื้อขาดมันก็ปรับขึ้นไปอีกระดับ
พวกบริการที่มีการดูแลและอัปเดตตลอดเวลาอย่าง Dropbox นี่ผมไม่คิดว่าการจ่ายครั้งเดียวจบมันจะให้ผลดีกับใครนะครับ ฝั่งผู้ให้บริการต้องโขกสับค่าแรกเข้าครั้งแรกให้มากที่สุดแล้วพอเงินตรงนั้นหมดก็ทนขาดทุนแล้วก็เลิกให้บริการแบบนั้นเหรอครับ? สุดท้ายก็เสียทั้งคู่
แพงไม่แพงขึ้นอยู่กับว่า เราใช้มันทำอะไรครับ ถ้าไม่ได้ใช้ทำงานหรือทำเงินมันก็อาจจะดูแพง
หลายคนอาจไม่ชอบ แต่ผมรู้สึกสะดวกใจที่จะจ่ายนะ ในหลายๆ บริการที่ดี อย่างบางเจ้าต่อเดือนมันก็ไม่ได้แพงอะไรมาก บางทีไปกินข้าวมื้อหนึ่งยังแพงกว่าเลย