Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล ให้สัมภาษณ์พิเศษกับรายการ Good Morning America โดยเนื้อหาหลักพูดถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอปเปิลที่เพิ่งเปิดตัวทั้ง iPhone XS, iPhone XS Max, Apple Watch Series 4 ตลอดจนประเด็นสงครามการค้า มีประเด็นน่าสนใจหลายอย่าง
ประเด็นแรกคือเรื่อง iPhone XS ที่มีราคาแพงมาก ก่อนหน้านี้ Tim Cook บอกว่าแม้จะแพงก็มีคนยินดีจ่าย แต่คราวนี้เขาขยายความเพิ่มเติมว่า ถึงอย่างนั้นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือก็มักมีแพ็คเกจส่วนลด แลกกับติดสัญญารายเดือนอยู่แล้ว ทำให้ราคา iPhone ไม่ได้สูงมากเกินไป (ตัวเลขที่ Tim Cook ยกขึ้นมาคือจ่ายรายเดือน 30 ดอลลาร์ ทำให้ตกวันละ 1 ดอลลาร์เท่านั้น)
เขายังบอกว่าโทรศัพท์เดี๋ยวนี้สามารถทดแทนอุปกรณ์ได้หลายอย่าง อาทิ กล้องดิจิทัล, กล้องวิดีโอ, อุปกรณ์ฟังเพลง และอื่น ๆ โทรศัพท์ในมุมมองของหลายคนจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญมาก และหลายคนก็ต้องการสินค้าที่มีนวัตกรรมมากที่สุด ซึ่งต้องยอมรับว่าของแบบนี้ไม่สามารถขายราคาถูกได้
นอกจากนี้ Cook ยังพูดถึงสงครามการค้าระหว่างอเมริกากับจีน เขาบอกว่าแม้ iPhone จะประกอบในจีน แต่ชิ้นส่วนข้างในก็มาจากหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งอเมริกาด้วย เช่นกระจกหน้าจอก็ผลิตในอเมริกา, ชิปบางส่วนก็ทำในอเมริกา และที่สำคัญคือการพัฒนาวิจัยก็ทำในอเมริกาทั้งหมด
ที่มา: MacRumors
Comments
คือยังไงลูกค้าก็ต้องหามาครองจนได้สินะ
แล้วทำไมต้องไปหาด้วย - -*
สีข้างถลอกหมดแล้วทิมคุก รอบก่อนออกตัวแรงบอกมีคนยอมจ่าย กลายเป็นให้หาโปรลดราคาแทน บอกของมีนวัตกรรมขายถูกไม่ได้ แล้ว Android คืออะไร ถ้าพูดกันด้านนวัตกรรมตอนนี้แพ้คู่แข่งเกลี้ยง
แต่ต้องยอมรับเรื่อง Royalty ของลูกค้า Apple นะครับ แข็งแกร่งมากๆ
Loyalty ครับ คำว่า Royalty หมายถึงเกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์
ขอบคุณมากครับ ฮ่าๆๆ
เห็นด้วยมากๆ ว่าทิมกำลังแถ บอกขายถูกไม่ได้แต่ดันให้ลูกค้าหาโปรลดราคา แล้วเรื่องนวัตกรรมระยะยาวรับรองออกรุ่นใหม่ IPhone คงได้แต่โชว์แต่ Performance
Apple ในยุคของพี่ทิมพอมองมาหลายปีต้องยอมรับจริงๆ ว่าแกเก่งเอาเรื่องนะในด้านการตลาด แม้ผลิตภัณฑ์จะดูไร้นวัตกรรมขนาดไหนแต่ก็ยังทำออกมาแล้วขายได้ มีช่องทางขาย และขายได้แพงด้วย มองห่วงโซ่ของสินค้าที่ไปสู่ลูกค้าออก
ที่ดูๆ ปีนี้ apple watch ดูมีนวัตกรรมกว่ามาก ไอ้การวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจเนี่ยคิดว่ามัน change
สมาร์ทโฟนมันตันแล้วครับ อย่าง faceid นี่ก็ถือว่าเป็นการนำเทคโนโลยีที่มีมาปรับให้ดีขึ้นเฉยๆ
จะนำไปเทียบกับ สตีฟ ที่เป็นยุคบุกเบิกของสมารทโฟนไม่ได้หรอกครับ
ผมไม่แนใจวว่าสมันโนเกียมีคนบ่นเรื่องแบบนี้มั้ย ทั้งที่โทรศัพสมัยนั้น แทบจะทำอะไรไม่ได้ ราคายังสูงลิบ
โน็ต อุดมเคยเอามาบ่นในเดี่ยวไมโครโฟนอันแรกๆ แต่เขาบ่นประมาณว่าโทรศัพท์มือถือ เมืองนอกขายแค่ประมาณหมื่นต้นๆ แต่พี่ไทยขายปาไป3-4หมืนน่ะครับ
นวัตกรรมใหม่ของ iPhone รุ่นนี้คือ ต้องวิ่งหาส่วนลดจากผู้ให้บริการโทรศัพท์
ช่างคิดนะ
ก็พอรู้อยู่ ไงสาวก และคนเขียนแอพขายในแอพสโตร์ไงก็ต้องเชียร์ เข้าใจ แต่ไม่คิดเข้าข้างแน่
รวมกับข่าวก่อนหน้าก็ประมาณว่า
ราคานี้แหล่ะ จบนะ ยังไงก็มีคนซื้อ ส่วนจะซื้อยังไงเชิญไปหาวิธีเอาข้างหน้าเอง
ลดเถอะ $999 $899 ก็ยังดี
ราคาเริ่มต้นก็ $999 อยู่แล้วนี่ครับ
เป็น iPhone XS $899 Max $999 ครับ ตอนแรกลือว่าจะลดลงมาประมาณนี้
ประเด็นน่าจะอยู่ที่ว่า อุปกรณ์ต่างๆที่ iPhone Xs ทดแทนได้ iPhone SE ก็ทดแทนได้เหมือนๆกัน ไม่ใช่เหรอครับ
ท่านทิม น่าจะเดินหน้าโปรเจ็คSEต่อไปนะครับ
หวังว่าจะ ขายดีมาก
จนต้องสั่งลดกำลังผลิตอีกหลายระรอก
เหมื่อนปีที่แล้วนะครับ
ผมฟังๆแกมากๆ ก็มึนเหมือนกันครับ
ไม่มีนวัตกรรมด้านราคาจาก Apple 555
ผมเชื่อว่า XS Max น่าจะขายดีอยู่แล้ว เอาจริงๆจะขึ้นราคาอีกสัก $100-200 ก็ยังขายได้นะผมว่า
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ยิ่งแพง ยิ่งขายดี
สาวกชอบมากครับ
ผมว่าราคาแพงนี่ละครับ นวัตกรรมด้านราคาเลย แพงแล้วคนก็ซื้อ กำไรเน้นๆ ฮ่าๆ
ในแง่ธุรกิจ ผมว่าราคาที่ "ดี" ที่สุดสำหรับผู้ประกอบการคือราคาที่คนบ่นครับ แต่บ่นแล้วซื้อ
ซึ่งมันยากมากสำหรับทุกแบรนด์ หลายแบรนด์เล่นท่าปลอดภัย ตั้งถูกไว้ก่อน ลูกค้าไม่บ่นและซื้อ หลายแบรนด์พลาดคือ (คนที่น่าจะเป็นลูกค้า) บ่น แล้วไม่ซื้อไปเลย (เจ๊ง)
สำหรับลูกค้าแน่นอน ราคาที่ถูกที่สุดดีเสมอ
lewcpe.com, @wasonliw
ที่ขายได้เพราะลูกค้ากลุ่มที่ว่าของถูกไม่ดีหรือเปล่า
ข่าวจาก macthai
"แพงแค่ไหนก็ยอม !! เผยยอดจอง iPhone Xs Max ล็อตแรกขายหมดเกลี้ยงทุกความจุ ภายในไม่กี่นาที สีทองขายดีสุด"
ถ้าขายหมดทุกความจุแต่สีทองขายดีสุดแสดงว่าสีทองมีของเยอะสุดหรือเปล่าครับ?
น่าจะตามนั้นครับ apple น่าจะรู้อยู่แล้ว เป็นสีใหม่ด้วย
-
ข่าวต่อไปทิมบอกว่า ซื้อไปเถอะเดี๋ยวปีต่อๆไปผมจะขายแพงกว่านี้แล้วคุณจะเห็นว่าราคาตอนนี้มันถูกเอง
เมื่อมี Xr ออกมาเป็นทางเลือกในราคาที่ผมคิดว่าเหมาะสม ตัวท็อปจะพุ่งไปถึงไหนก็เอาเถอะ
ขอส่องดูอยู่นอกสโตร์ก็แล้วกันครับ ใช้แอนดรอยด์ก็มีความสุขมากแล้วเงินก็เหลือ
คนซื้อไม่บ่น คนบ่นไม่ได้ซื้อ
ส่วนผมไม่ซื้อ ไม่บ่น
ไม่ใช่ตรรกะที่ถูกต้องครับ แค่ 25%เอง
คนซื้อบ่น คนไม่ซื้อบ่น
คนซื้อบ่น คนไม่ซื้อไม่บ่น
คนซื้อไม่บ่น คนไม่ซื้อบ่น
คนซื้อไม่บ่น คนไม่ซื้อไม่บ่น
.
ส่วนตัว......
ถ้าตัดแค่คำว่าซื้อไม่ซื้อก็เรื่องนึงครับ แต่จริงๆ มีกลุ่มอื่นอีกนะครับ
อยากซื้อ ไม่อยากซื้อ อยากใช้ ไม่อยากใช้
อยากซื้อ อยากบ่น
ไม่มีเงิน จบ...
ยังมีกลุ่ม ไม่อยากซื้อ แต่ต้องซื้อ แล้วบ่นอีกนะครับ
(คุณภรรยาบอก อยากได้ แต่ส่วนตัวเป็นติ่งหุ่นเขียว ฮ่าๆๆ)
มันแสดงถึงพลังทาง Brand ของ Apple ผลักภาระส่วนลดให้ผู้ให้บริการไป ตัวเองรับเต็มไม่ต้องเล่นสงครามราคา แต่วันใดมนต์ที่ Job ร่ายไว้เสื่อมลงก็น่าห่วงนะ กับดักความสำเร็จน่ากลัวกว่า การตะกายขึ้นเบอร์ 1 อีก
ปีนี้ 2018 ยังมีคนมีความคิดแบบนี้อีกหรอเนี่ย lol
แล้วคุณคิดว่าอะไรทำให้ Apple ขายได้ล่ะครับ ช่วยบอกหน่อย อยากได้เป็นความรู้ครับ เอาลึกๆ ในใจนะ ไม่เอาแบบ Spec เทพ นวัตกรรมเยี่ยมนะ เพราะเรารู้กันอยู่ว่า Apple นิ่งเรื่องพวกนี้มานานแล้ว คนทุกคนมีเหตุผลในการซื้อสินค้า อย่างผมใช้สินค้า Apple อยู่ 5-6 ตัว ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ผมซื้อเพราะความเป็น Premium ของมัน เวลาไปเสนองานผู้บริหารมันทำให้ภาพลักษณ์ดี แล้วโดยส่วนตัวผมนับถือ Steve Job ด้วย เพราะเขาเป็นแรงบัลดาลใจให้ผมในการสร้างนวัตกรรมให้ลูกค้า
แล้วตั้งแต่ Job เสียชีวิต คุณคิดว่ามีอะไรใหม่จากเดิมบ้างที่มันขายได้จนตลาดร้อง Wow กัน ผมก็เห็นมันก็วนอยู่แค่ iPhone ,iPad แล้วก็แนวคิด App Store สิ่งเหล่านี้ Tim หรือ Ive เป็นเจ้าของแนวคิด ?
ทำไมถึงต้องตัด "spec เทพ" ออกไปล่ะ??
อย่างผมซื้อ iPad Pro ก็เพราะวัสดุและหน้าจอ (และส่วนนึงคือในแง่ tablet iOS มันดี) และ CPU ดีกว่าพวก snapdragon เห็นๆ
สาวกรอบๆตัวผมก็ไม่ได้พูดถึง Job มานานมากแล้ว พูดตามตรงเมนท์นี้เป็นครั้งแรกในรอบปีที่ผมเห็นชื่อ Job
เวลาเค้าซื้อกันเค้าก็คุยกันเรื่องว่ามันเร็วขึ้น กล้องดีขึ้น ซึ่งก็ตรงกับเมนท์บนว่า 2018 แล้วยังมีคนคิดแบบนี้อีกหรือว่าซื้อเพราะ Job หรือ "iPhone มาจากแนวคิดของ Job"
คนซื้อเพราะมันเป็น Apple, เพราะเค้าอยู่ใน ecosystem ของ Apple อยู่แล้ว, ซื้อเพราะเกลียด Android :P
ผมซื้อใช้มันทั้งสองฝั่ง เรื่องที่ไม่ชอบไม่ใช่เรื่องที่ว่าเพราะมันเป็น Android แต่เป็นพฤติกรรมของสาวกบางคนของทั้งสองฝั่ง แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นหลักที่จะเอามาตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อ (อ่อมียกเว้นอยู่กรณีนึงตอนหาข้อมูลเพื่อซื้อมือถือ Asus อันนั้นตัดสินใจไม่ซื้อเพราะสาวกโดยตรง)
ซ้ำ
ตามนั้นครับ ยังมีคนซื้อเพราะคำว่า Job อยู่อีกเหรอตอนนี้
อ่อ "แอปเปิลนิ่งเรื่องพวกนี้มานานแล้ว" ผมถามหน่อยครับว่าในรุ่นเรือธงด้วยกันเนี่ยในปีเดียวกันสเป็คของแอปเปืล
ส่วนไหนเหรอครับที่ด้อยกว่ายี่ห้ออื่นจนเรียกว่านิ่งได้เนี่ย ?
ประสบการณ์ส่วนตัวของผม ผมใช้ iPhone 6 Plus ตั้งแต่ปีแรกที่ออก (ปี 2014)
4 ปีที่ผ่านมา ผมตามอัพ iOS ตลอด แอปเปิลไม่เคยทอดทิ้ง ไม่ว่าจะแพทช์อะไร โหว่ตรงไหน ก็ตามอุด ปะ แก้ไข มีปัญหาเรื่องการจำกัด Battery Capacity โดนลูกค้าบ่นก็ยังพยายามออกมาแก้ในเฟิร์มแวร์รุ่นถัดๆ มาให้
จนปีนี้ เข้าอายุปีที่ 5 ของเครื่องผม ยังได้อัพ iOS 12 ซึ่งเร็วยังกับซื้อเครื่องใหม่ จังหวะนี้ผมตัดสินใจละ ว่ามือถือที่ตอนนั้นราคาแพงที่สุดในตลาด ใช้มาจนถึง 4 ปีได้ iPhone XS ก็น่าจะทำนองเดียวกัน
ทั้งนี้ มีบางอย่างที่อาจจะทำให้ผมมีความคิดลำเอียง เช่น ผมไม่ได้ใช้แอนดรอยด์มานาน จริงๆ แล้ว Samsung Galaxy S6 ก็อาจจะยังได้รับการอัดเดตอย่างสม่ำเสมอ และตัวเครื่องเองก็ไม่ได้ช้าลงแต่อย่างใด
แต่เท่าที่ผมเห็นคือ คนรอบตัวเปลี่ยนมือถือแอนดรอยด์ อย่างน้อยสองปีครั้งครับ
นอกจาก 4s ไม่เคยซื้อเพราะคำว่าสตีฟจ๊อบ ไม่เคยมองโทรศัพท์แอนดรอยครับ ไม่ชอบดีไชน์
เราเป็นตลาดล่างสำหรับ Apple
แต่ให้ขายดีขายเยอะๆนะครับพี่ทิม .. รอปันผลอยู่
ผมว่ายิ่งแพงยิ่งมัดตัวเองนะครับ
ยิ่งราคาแพง ความคาดหวังจากลูกค้าจะยิ่งสูง
ถ้ามีปัญหาเชื่อสิว่าจะไม่ให้ซ่อมจะเปลี่ยน
(ผมหนึงในนั้นจ่ายของ Hi-Tier เสียในประกันซ่อมโคตรเคือง)
ผมยกตัวอย่างประสบการณ์ตรงที่ประสบขณะนี้
ผมซื้อหูฟังยี่ห้อนึงแบบ True Wireless
ราคาแพงกว่าของค่ายผลไม้อีก ราคาจ่ายหมื่นมีทอนค่ารถแท็กซี่
แต่ตอนนั้นได้โค้ดลดลูกค้าใหม่กับเว็บๆนึง
เลยลดลงมา 15% (ก็ยังถือว่าราคาสูง)ซึ่งตอนนั้น
กำลังลังเลว่าจะเอาหูฟังที่มหาจักรขายดีไหม
แต่ได้ข่าวว่าเสียงแล็คเลยกัดฟันเอาตัวนี้ซึ่งราคาสูงเป็นที่ 2
ในตลาด ณ. ขณะนั้น
(ตอนนี้ก็ยังสูงเป็น ที่ 2 ในตลาดอยู่รองจากหูฟังของมหาจักร)
ตอนนี้กำลังจะเคลมรอบที่ 3 หลังจาก
ซื้อเมื่อปลายเดือน มี.ค. 61 ล่าสุดบอก
ขอให้ลูกค้าส่งกลับมาหน่อยจะเปลี่ยนให้ 2 ข้างเลย
ผมก็หัวเราะบอก "บริษัทคุณมันไม่ยุติธรรม คุณหักหลังความไว้วางใจในการซื้อสินค้าของลูกค้า แต่คุณยังหน้าด้านขอให้ผมเชื่อใจคุณอีกครั้งในการส่งของกลับไปเคลมรอบที่ 3"
สินค้าไม่ได้ใช้ยังต้องเสียตังค่าหีบห่อส่งคืนอีก.....555+
บ่นกลายๆแต่ลองคิดดู
Bragi?
ผมว่ามันเป็นวิธีการเดียวกันกับที่แอปเปิลทำกับสินค้าไลน์ของ MacBook Pro คือ ไหน ๆ คนก็จะซื้ออยู่แล้ว ก็อัปราคาสักนิดสักหน่อย แล้วยัดฟีเจอร์ที่คนรู้สึกว๊าวเข้าไป ซึ่งในแง่ของการตลาดถือว่าฉลาดมาก เพราะว่าเป็นการย้าย market position แบบเนียน ๆ ได้ง่าย ๆ แล้วก็ยังคงมีคนซื้ออยู่ดี
Coder | Designer | Thinker | Blogger
หลายๆ อย่างของแอพเปิลทำให้ คนใช้เปลี่ยนพฤติกรรมจริงๆ ครับ ทัชบาร์ก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมติดมาก
เขาคงจะขยับเรื่องการวาง Position สินค้าของเขาแล้วหล่ะครับ
จะเป็นสมาร์ทโฟน มาตรฐานที่ใครๆก็ต้องมี มันไม่ใช่อีกแล้ว
ยอดขายรวมน้อยลงหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่กำไรต่อชิ้นหน่ะ แน่นอนเพิ่มขึ้น
โนเกียยุคก่อนก็ทำแบบนี้แหละครับ ตอน3310 ก็ขายดีเท่น้ำเทท่าเป็นพลาสติก
เขาก็ทำของหรูหราเป็นอลูมีเนียมแวววาว มาขายตลาดบนเหมือนกัน
ว่าแต่ค่ายอื่นก็น่าจะช่องว่างให้ขยับราคา ได้เหมือนกัน
"Innovation isn't cheap but that's what our customers want, argues Apple CEO Tim Cook."
จริงหรือ? สินค้าทุกอย่างย่อมมีสินค้าที่ทดแทนกันได้เสมอ Innovation ก็เช่นกัน ถามว่าจริงๆ แล้ว คนตัดสินใจซื้อ Innovation ด้วยราคาเท่าไร? ราคาส่วนเกินที่ผู้บริโภคต้องจ่ายเกินกว่า Innovation ที่ได้รับจริงๆ นั้นมันคือ รสนิยม, ความมีหน้ามีตา, ความพอใจส่วนตัว มันไม่ใช่ Innovation! และไม่เป็นจริงกับผู้บริโภคทุกคน
iPhone XS นี้เป็นนวัตกรรมใหม่เลยนะครับ
นวัตกรรมด้านกำไรสำหรับผู้ถือหุ้นนะ
ในไทยไม่สามารถทำสัญญาทาส จ่ายค่ามือถือถูกมากหรือฟรี แล้วผูกโปรกับผู้ให้บริการมือถือได้นะสิ
ในสัญญาจะเขียนยังไงก็สามารถยกเลิกสัญญาได้ทันที คืนมือถือแล้วก็จบกัน ผู้ให้บริการก็ขาดทุนกันไป ทำให้ผู้ให้บริการทำโปรลดราคาได้น้อย เนื่องจากมีความเสี่ยง กฏหมายในไทยก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ
ผมว่ายกเลิกสัญญาต้องจ่ายคืนเป็นเงินส่วนต่างนะครับไม่ใช่คืนมือถือแล้วจบ อีกอย่างผมว่าผมเคยเห็นสัญญามากกว่าปีแล้วนะ ไม่แน่ใจว่าโปรผ่อนหรือสัญญาจากค่ายมือถือ
ผมเอาข้อมูลมาจากระดับผู้บริหารค่ายมือถือค่ายหนึ่งครับ
ข้อมูลไม่น่าผิดนะครับ เพราะเขาดูแลเรื่องนี้โดยตรงครับ
แต่ในชีวิตจริงก็อีกเรื่องหนึ่ง เพราะคนไม่รู้กฎหมายกันว่าไม่ต้องจ่าย ถึงจ่ายแล้วก็ต้องคืนเงิน
ค่ายมือถือถึงให้จ่ายล่วงหน้าก่อนบางส่วน เพราะตามกฎหมายสามารถยกเลิกสัญญาได้ทันที
แพงกว่านี้2เท่า ลูกค้าก็ซื้อ
ผมเกลียด iPhone เพราะมันทำให้ adroid ผม แพงขึ้นไปอีก ฮือ ฮือ
(>.<)
Pocophone สิครับ :P
ไม่ต้องกลัวเขาดันราคา android ไปได้ไม่ไกลหรอก เพราะ cpu ก็ snapdragon เหมือนกันต่างกันแค่รุ่น ส่วน OS หลักๆก็เหมือนกันปรับแต่งแค่หน้าตากับออฟชั่นนิดหน่อย เอาจริงๆ อุปกรณ์ Hardware แทบทั้งหมดจะโดนจีนก็อบยันเงาเลยนะ จุดขาย apple จริงๆเลยอยู่ที่ OS และ software เพราะมันก็อบไม่ได้ง่ายๆ apple เลยยังผูกขาดอยู่และกำหนดราคาเท่าไหร่ก็ได้ เพราะตัวเปรียบเทียบเอาจริงๆคือไม่มี ถ้าคนติด GUI แล้วก็คือติดเหมือนคนติด GUI ของ windows แล้วจะย้ายไป OS อื่นยังลำบากเลย(ไม่รวมคนในเว็บนี้หรอกนะ)
คิดง่ายๆลองเอาตัวเครื่องเป็น iPhone นี่หล่ะ แต่ cpu เป็น snapdragon แล้ว ใช้ android ส่วนผู้ขายก็ apple ตัวจริงเองนี่หล่ะที่ขาย แล้วตั้งราคาแบบนี้สิจะเกิดอะไรขึ้น
นั่นหล่ะคือความแตกต่างมันไม่ได้อยู่ที่แบรนอย่างเดียว มันอยู่ที่ software ภายในด้วย เอาจริงๆเจ้าที่ขายแบรนจริงๆอยู่รอดได้เพราะความน่าเชื่อถือของแบรนคือ แซมซังนะ เพราะอย่างอื่นแทบจะเหมือนมือถือจีนหมดเลย ทำอะไรที่เป็นนวัตกรรมทางฮาร์ดแวร์มาแปปเดียวโดนทำตาม ตอนนี้ถึงกลายเป็นว่า มือถือจะถูกแบรนจีนกลืนกินหมด ถ้ายังสร้างความแตกต่างจริงๆไม่ได้ หลักๆเลยก็ OS กับนวัตกรรมอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ hardware
การตั้งราคาสูง แล้วให้เครือข่ายมือถือทำโปรออกมาลด (จริง ๆ ก็ไม่ได้ลดอะไรมากหรอก แต่อารมณ์ แบกรับ การผ่อนออกไป)
Apple ก็น่าจะได้ค่าเครื่องเต็ม ๆ เครือข่ายมือถือก็ได้ลูกค้ายาว ๆ Win - Win ทั้งสองฝ่าย
ถ้าขายถูก ทำโปรไปอย่างดีก็ต่างกันไม่กี่ร้อย ไม่ได้ดึงดูดให้ทำสัญญาทาสเลย แบบนี้เครือข่ายก็ไม่ได้อยากดันอะไรเท่าไหร่
ตอนนี้แม้แต่โฆษณา Apple ก็ไม่ต้องลงทุนทั้งหมดด้วยซ้ำ เครือข่ายมือถืออยากจะโฆษณาให้คนใช้ซะอีก
ตรงนี้ผมว่า มันเป็นจุดเด่นของ Apple เลย
ที่มันเป็นวัตกรรมสุด ๆ คือ ถ้าคนอื่นทำ น่าจะเจ๊งครับ แต่ Apple ทำแล้วกำไร มันจึงน่าจะมีอะไรมากกว่าที่เรามองกันก็ได้นะครับ
ถ้าเป็นแค่สาวกแล้วต้องซื้อ Nokia คงยังอยู่ได้อ่ะครับ มันต้องมีเหตุผลว่าทำไมสาวกยังคงใช้งานอยู่
จริง แต่ก่อนใครๆก็ใช้ Nokia ถ้าอะไรๆก็สาวก Nokia จะไม่มีคำว่าเจ๊งเลย
บรรทัดสุดท้ายตอบทุกอย่างจริงๆ
ผมว่าเท่าที่ดูๆ สาวกแอนดรอยด์ มันก็เยอะพอตัวอยู่เหมือนกันนะครับ
แต่ผมเองเป็นสาวก โซนี่ Xperia ทรงเหลี่ยม รอให้โอกาสจนมันเปลี่ยนเป็นทรงโค้งแล้ว ยังไม่มีโอกาสได้ซื้อเลยครับ T_T ทั้งบ้านนี่ TV หูฟัง อารยธรรมหมด
ผมล่ะอยากเป็นสาวก sony บ้าง แต่ตั้งแต่ Arc S แล้ว ยังไม่รู้สึกว่ามีตัวไหนสวยเลย - -''
+1 บรรทัดสุดท้ายครับ
เพื่อนผมที่ตามออก Nokia ตั้งแต่สมัย iPhone 4-5
ตอนนั้นผมนับถือเลยเพราะจ่ายเงินใกล้กันแต่เค้าเลือก Nokia
เพราะมั่นใจในแบรนด์
มาปัจจุบันใช้ iPhone แบบว่าไม่หันมองค่ายอื่นเลย
ใช้กันทั้งบ้าน
บางทีการไปเหมาเอาเองว่าสาวกซื้อไม่ลืมหูลืมตา
มันเป็นอะไรที่ตื้นเขินมาก...
บรรทัดสุดท้าย ตอบทุกอย่าง
ผมเห็นทุกวันนีก็ยังมี คนโหยหา BB อยุ่นะ แต่ซื้อหรือป่าวนั่นอีกเรื่อง
ผมสรุปให้ ที่คอมเมนต์กันมาทั้งหมด อยากได้กันทั้งนั้นแหละ แต่ตังไม่มีก็ทำเป็นเมนต์กระแสะถากถางไปงั้นแหละ
"สะกิดใจไปมั้ยครับ"
ไม่ขนาดนั้นมั้งครับ
ขนาดนั้นแหล่ะครับ ปกติถ้าเป็นสิ่งที่คนไม่สนใจเขาจะไม่ตามแซะตลอดใน 5 ปี 7 ปีนี้หรอก หรอกครับ ที่บ่นเรื่องราคาคือจะเอานั่นแหล่ะ เหมือนประมาณความคิดไปทางแต่การกระทำไปอีกทาง
เอาจริงๆ ถ้าไม่สนใจก็ต้องคือฉันไม่สนใจแล้วขายยังไงมีอะไรใหม่ก็เรื่องของเอ็ง ฉันอยู่กับแอนดรอยมีความสุขดี แล้วก็จะไปวัดกับแอนดรอยอย่างเดียว
ตัวอย่างก็ Microsoft Surface RT ไงไม่มีใครสนแบบเท่าขนาดของ apple ไม่ค่อยมีใครเอา ไม่มีใครแซะ เพราะไม่สนใจ ไม่อยากได้กันจริงๆปล่อยผ่านปล่อยเงียบ ไม่ว่าราคาจะถูกหรือแพง แล้วตัวสินค้ามันก็ตายไปจริงๆ
ส่วนสำหรับผมอยากได้แต่ไม่มีเงินเพราะมันราคาสูงโครต รอตกรุ่นสักปีสองปีดีกว่า แค่นั้นเลย แต่ถ้าราคาไม่ลดมากก็ไม่ซื้อ จะซื้อเฉพาะของที่จะใช้งานจริงๆก็พอ ตอนนี้ยังใช้ windows phone 640 LTE อยู่เลย android ถ้าผมจะใช่ผมเชื่อใจของ google เท่านั้นเพราะในความคิดผม google คือผู้พัฒนา OS ในเบื้องหลังตัวจริง มองในมุมมองผมกับความเชื่อใจหน่ะนะ ว่าง่ายผมชอบซื้อของจากผู้ผลิตโดยตรงมากกว่านั่นหล่ะ(ในเรื่องนี้พูดถึงมุมมอง software นะ เพราะ hardware เขาจ้างคนอื่นผลิตให้)
ผมว่านั่นก็คงเป็นส่วนหนึ่ง แต่ก็คงไม่ใช่ทั้งหมด เพราะบางคนก็เป็นประเภทที่ไม่ชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้วไม่ว่าเครื่องจะถูกกว่านี้ก็คงไม่ซื้อด้วยเหตุผลแตกต่างกันไป อย่างคนที่เป็น anti เรื่องราคามันก็เป็นเรื่องหลักๆ ที่เอามาแซะได้อยู่เสมอ
เหมาหมดแบบนี้ไม่ดีนะครับ บอกตามตรงผมไม่เคยแลตามองของ Apple เลยครับสักชิ้น ต่อให้ถูกกว่าแอนดรอยด์สองเท่าก็ตาม
เฮ้ย ไม่เคยมอง iPhone ไม่ว่านะ
แต่ถ้าคุณไม่เคยใช้ iPad นี่ คุณพลาดจริงๆ
โคตรจะคุ้มค่าเลย iPad เนี่ย :)
ผมไม่เคยชายตามองไอโฟนเลย แต่ผมรอไอแพดมินิ spec เท่าไอแพดมาตลอดเลยนะ
ต้องยอมรับว่าแทบเลท ไอแพดดีกว่าจริงๆ
คิดไปเองมั้งครับ
สมองคุณเป็นหุ่นยนต์ก่อนยุค AI เกิดมาเหรอครับ ถึงคิดเป็นได้แค่ 1 กับ 0 คุณเป็นคนไม่ใช่เหรอ?
อยากได้
มีตังค์ด้วย
และส่วนตังคิดว่ามันแพงไปกับการใช้งานของตัวเอง
เลยไม่ซื้ิอ และมาเม้นเพื่อบอกว่ามันแพง
ไม่ได้สะกิดใจอะไร
จริงครับ ถามว่า ถ้าลดราคาลงมาถูกจะซื้อไหม ? อยากได้ไหม ? คำตอบอยู่ในใจไม่ต้องพิม
คิดไปเองครับ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
แพงก็ไม่ต้องซื้อ เอาจริง ๆ มือถืออื่นมีเยอะแยะ ถูก ๆ ก็มี มันไม่ใช่ของจำเป็นอ่ะ
ตอนนี้ราคาในไทยเข้ามาละ แพงหูดับเลย ถามว่าซื้อมั้ย ไม่ซื้อ แต่ก็ไม่บ่น ส่วนตัว ย้ายจาก SE ไป Pocophone ละ คงไม่กลับมา iOS อีกนานเพราะไม่มีเงิน :P
+1
ขายของดี
ไม่ได้ขายของถูก
ในหัวไม่เคยคิดที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ของ Apple เลย