By: arjin 
on 1 November 2018 - 20:11
Tags:
Business Insider ออกรายงานพิเศษโดยอ้างแหล่งข่าวภายใน เกี่ยวกับการเจรจาระหว่างแอปเปิล กับ Leap Motion บริษัทผู้พัฒนาด้าน VR, AR และอุปกรณ์สั่งงานคอมพิวเตอร์ด้วยการตรวจจับความเคลื่อนไหวของมือ โดยแอปเปิลต้องการซื้อกิจการทั้งหมด แต่ดีลนี้ก็ไม่เกิดขึ้นและกลายเป็นปัญหากับ Leap Motion เอง
โดยแอปเปิลได้เจรจาขอซื้อกิจการ Leap Motion ครั้งแรกในปี 2013 แต่การพูดคุยกันครั้งแรกนั้นไม่ค่อยสวยงามนัก เนื่องจาก David Holz หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Leap Motion ที่เวลานั้นอายุ 24 ปี เขาแสดงท่าทีไม่ยอมรับแอปเปิล โดยบอกกับตัวแทนที่มาเจรจาว่า แอปเปิลเป็นบริษัทที่ไม่มีนวัตกรรมแล้ว, เทคโนโลยีที่มีอยู่ก็แย่ จากนั้นก็ชื่นชม Android ว่าดีกว่า iOS อย่างไรบ้าง พร้อมปิดท้ายว่าแอปเปิลนั้นเป็นบริษัท devil
Leap Motion ในเวลานั้นถือเป็นสตาร์ทอัพดาวรุ่งมาแรง มูลค่ากิจการก็สูงกว่า 300 ล้านดอลลาร์ หรืออาจแตะถึง 1,000 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
ถึงแม้ท่าทีผู้ก่อตั้งจะปฏิเสธแอปเปิลชัดเจน แต่แอปเปิลก็ยังสนใจซื้อกิจการอยู่ดี โดยสิ่งที่แอปเปิลต้องการคือเทคโนโลยี AR และฮาร์ดแวร์ ซึ่งบริษัทให้ความสำคัญ แต่แม้ไม่มีความคืบหน้า แอปเปิลก็ได้ซื้อตัวพนักงานจาก Leap Motion มาทำโครงการ AR ให้อยู่หลายคน
เวลาผ่านไป 5 ปี ก็มีรายงานว่าแอปเปิลได้เจรจาขอซื้อกิจการ Leap Motion อีกครั้งเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ด้วยมูลค่ากิจการที่ลดลงไปมาก เหลือราว 30-50 ล้านดอลลาร์ ดีลเหมือนจะบรรลุ มีการเตรียมจัดการแถลงข่าว แต่ดีลนี้ก็ล้มในนาทีสุดท้าย เนื่องจากผู้ก่อตั้งรู้สึกว่าบริษัทมีมูลค่ามากกว่าที่แอปเปิลเสนอ
คนในอุตสาหกรรมให้ความเห็นว่า Leap Motion อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ผลิตภัณฑ์ไม่สามารถออกขายในจำนวนที่มากพอ แม้บริษัทจะมีสิทธิบัตร AR/VR อยู่มาก แต่บริษัทก็ประสบปัญหาการเงิน การเพิ่มทุนรอบล่าสุดก็ได้เงินน้อยกว่าที่ตกลง เนื่องจากไม่สามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ดีลแอปเปิลนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่เมื่อบริษัทเลือกปฏิเสธอีกครั้ง ทางออกของ Leap Motion ต่อจากนี้ก็อาจเหลือไม่มากนัก
ที่มา: Business Insider ผ่าน MacRumors
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
อุดมกาชัดเจน รอดูว่าจะแพ้เงินไหม 555
CEO ปากจัด บริษัทเจริญรุ่งเรือง
555 พูดซะขนาดนี้ CEO น่าจะเป็นแฟนพันธุ์กูเกิ้ล
น่าจะเสนอขายกิจการให้กูเกิ้ลนะ
นึกภาพถ้าจ๊อบส์ยังอยู่นี่คงยกเลิกทุกโปรเจคเอามาทำแข่งละกดให้เจ๊ง
พูดถูก พูดได้ดี
อ่าาา แอปเปิ้ลโดนด่าว่าเป็นบริษัทที่ไม่มีนวัตกรรม จากบริษัทที่พึ่งจะมีนวัตกรรมครึ่ง ๆ กลาง ๆ แค่อย่างเดียว
เล่นตัวขนาดนี้ ผู้ถือหุ้นจะว่ายังไงดี
ที่จริงถ้า google ซื้อไป มีโอกาศโดนปิดแผนก หรือไม่ก็ยุบทีมทิ้งมากกว่าอีกนะ
ผมว่าถ้า apple ซื้อไปได้ก็คงไม่ต่างกัน เพราะเค้าคงไม่ไปทำเป็นสินค้าแยกขาย
แนวเดียวกับsnapเลย มั่นใจในตัวเองมากไป บริษัทไอทีมีความไม่มั่นคงสูงมาก วันนี้เป็นทองพรุ่งนี้เป็นผง ตัวอย่างมีมาแล้วเยอะ
ถ้าปั้นมาจนมีบริษัทใหญ่มาขอซื้อก็ขายไปเถอะ
If you only knew the power of the dark side...
:-)
เล่นตัวเอง ฮ่าๆ ขายตอนยังมีมูลค่ายังดีซะกว่าขายตอนเจ๊ง โดนเขาไปถูกๆ ตอนแพงๆ ไม่ขาย พอถูกๆ บอกมันถูกไปอีก
อ่านแล้วเหมือนตอนนั้นกำลังเคลิ้มกับประโยคที่ว่า Don't be evil อยู่
ในบอร์ด ตปท หลายคนเห็นตรงกันว่า Apple เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว
และความทนงตนเกินไปคือจุดจบของหลาย Startup
ตอนนี้สงสารพนักงาน เพราะพึ่งมีข่าวเลย์เอาท์คนออก
และย้ายไปออฟฟิศเล็กกว่าเดืม
layoff ครับ
รู้อะไรก็ไม่สู้รู้งี้หรอกครับ เราตลกกับข่าวนี้เพราะเรื่องมันเกิดไปแล้วมากกว่า
ถ้าการตัดสินใจวันนั้นถูก วันนี้ก็จะเป็นอีกตำนานเอามาโม้ได้ ว่านี่ไง วิสัยทัศน์เราดี เราไม่ยอมขายให้แอปเปิ้ล เราอย่างนั้นอย่างนี้
ไม่ค่อยเข้าใจตรรกะนี้แฮะ ต้องการจะสื่ออะไรเหรอครับ
ก็คือ "ไม่มีใครทราบอนาคตครับ" การไม่ขายให้ apple วันนี้ อาจจะทำให้บริษัทมีกำไรมหาศาลในอนาคตก็เป็นได้ หรืออาจจะล้มละลายก็ได้ อาจจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่พูดในอนาคต ว่า "ดีนะที่วันนั้นไม่ขายให้"
เคสตัวอย่าง
Yahoo ไม่ยอมซื้อกิจการของ google ถ้าวันนั้นตัดสินใจซื้อ จะไม่มีชื่อ google จะไม่มี android ในโลกใบนี้
ก็คือ ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าครับ ที่เรามาคิดว่า เขาน่าจะอย่างงั้นอย่างงี้ เพราะเรายืนมองในจุดที่เหตุการณ์ได้เกิดผ่านมาแล้ว / เอ ทำไมผมว่ามันก็สื่อชัดเจนอยู่นะครับ หรือมีการแก้ข้อความแล้ว?
อาจจะรอ IBM หรือ Google มาควบรวมอยู่ก็เป็นได้
คือ ถ้าคนเขาไม่ชอบ ยังไงเขาก็ไม่ชอบ
ผมว่าแต่ก่อนอาจจะเอาความไม่ชอบนำแหละครับ แต่หลังๆ มานี่ไม่ใช่แล้ว แค่ดีลกันไม่ได้เฉยๆ มากกกว่า ซึ่งเท่าที่ดูถ้าจะมีเจ้าอื่นมาซื้อทีหลังราคาน่าจะตกไปยิ่งกว่าที่ Apple เสนอไปครั้งสุดท้ายด้วย
ดูจากที่ทำ SAO Project กับ IBM แลว่า เขาน่าจะสนใจอยากทำแบบนั้นมากกว่า เพราะ เคยอ่านเจอว่า พวก บ. ที่ทำ tech หลายๆเจ้า ที่โดนซื้อไป มักถูกดองโครงการหลัก แล้วไปทำโครงการที่ บ. แม่ ที่ซื้อมา อยากทำ เหมือน oculus ที่ หัวๆ พากันลาออกจาก facebook
คือจริงๆ มันก็ไม่มีอะไรมารับประกันนะครับว่าซื้อไปแล้วจะเป็นยังไงต่อ ส่วนหนึ่งก็อยู่ที่สัญญาจะระบุไว้ว่ายังไง แต่สุดท้ายแล้วนโยบายของบริษัทแม่ก็ต้องมาก่อน ไม่ว่าเงื่อนไขจะระบุไว้ยังไง เขาก็ต้องบีบจนทุกอย่างเข้ามาอยู่ในแผนหลัก
อุดมการณ์ดี แต่ ยังไม่เข้าแก่นแท้ของ Start Up นะครับ คือทำให้รุ่ง ขายทิ้ง แล้วไปปั้น บ. มาขายใหม่
ทำไมรู้สึกคล้าย ๆ เล่าปี่ไปเชิญตัวขงเบ้ง :v
/เหลืออีกครั้งนึงสินะ
ครั้งหน้าเค้าจะมากดราคาคุณอีก
ผมอยากให้ Apple ซื้อบริษัทนี้มากๆ เทคโนโลยีด้าน AR ของเขาสุดยอดอยู่นะครับ อยากให้ Apple ซื้อให้ได้เผื่อเอามาเสริมทัพกับแว่น AR ของ Apple อยากให้ Apple เพิ่มเงินให้เขาอีก
Apple อยากซื้อนะครับ แต่เขาไม่ขาย ฮ่าๆ
นิละครับ อยากให้ติดต่อไปเรื่อยๆไม่าอยากให้หาย เพราะแว่นของเขาดีจริง ตัว Demo อ่ะ
เดี๋ยว Google, Huawei, Samsung ซื้อแหง
leap motion support Mac นี่นา
ถ้า Apple ได้ไป คืออาจจะเกิดอะไรที่ดีงามขึ้นมาอีกเย๊อะ แต่น่าจะแพงระยับ
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
CEO พาซวยจริงๆ สงสารพนักงาน สงสารนวัตกรรม ที่น่าจะสร้างสรรค์ได้อีกเยอะ เปลี่ยนโลกได้เยอะ
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
เป็นผมขายไปตั้งแต่ครั้งแรกละ
แล้วเอาเงินที่ได้ไปซื้อบ้านพักริมทะเลนอนจิบเบียร์เย็นๆ สบายใจ