ปัญหาคนซื้อตั๋วคอนเสิร์ตของนักแสดงที่ความนิยมสูงแล้วนำไปขายต่อเป็นปัญหารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในหลายประเทศทั่วโลก แต่ฮ่องกงดูจะหนักกว่าประเทศอื่นๆ สักหน่อย เพราะค่าตั๋วคอนเสิร์ตบางรายการนั้นสามารถนำไปขายต่อได้ถึง 25 เท่าตัว เมื่อเดือนสิงหาคมเกิดเหตุแทงกันระหว่างต่อคิวซื้อตั๋วคอนเสิร์ต Andy Lau ตอนนี้ภาครัฐก็ออกมาให้ข่าวว่ากำลังหาแนวทางแก้ปัญหากันอยู่
Yang Wei-hsiung เลขาธิการฝ่ายนวัตกรรมและเทคโนโลยีของรัฐบาลระบุว่า ช่วงหลังต้องเข้าไปช่วยกระทรวงวัฒนธรรมฮ่องกง เพื่อจัดการปัญหาพ่อค้าตั๋วเขียนบ็อตมาซื้อตั๋วอัตโนมัติ ทำให้ตั๋วหมดในเวลาอันรวดเร็ว โดยบ็อตเหล่านี้กรอกข้อมูลทั้งหมดโดยอัตโนมัติ รวมถึงหมายเลขบัตรเครดิต ทำให้พ่อค้าบัตรเหล่านี้สามารถซื้อตั๋วจำนวนมากในเวลาอันสั้น
ตอนนี้เทคนิคการป้องกันบ็อตของรัฐบาลยังไม่ซับซ้อนนัก เช่น การบล็อคผู้ซื้อที่มาจากไอพีเดียวกัน หรือแจ้งที่อยู่ซ้ำกันแต่ซื้อหลายครั้ง ขณะที่พ่อค้าตั๋วเหล่านี้ปรับกระบวนการโดยบางครั้งก็จ้างคนมาช่วยกันซื้อตั๋วจำนวนมากอยู่ดี จึงมีการเสนอให้ระบุชื่อบนบัตรพร้อมตรวจชื่อผู้เข้าร่วมงานทุกครั้งเพื่อแก้ปัญหา
ตอนนี้โครงการ Smart Government Innovation Lab ของรัฐบาลฮ่องกงกำลังเปิดรับเทคนิคการปรับปรุงคุณภาพบริการรัฐ โดยจะเริ่มโครงการเดือนเมษายนนี้ และคาดว่าจะได้ผลลัพธ์ภายในหกเดือนหลังจากนั้น
ที่มา - South China Morning Post
Comments
ใครใส่ข้อมูลเร็วเกินมนุษย์สำเนาแปะก็เตะออกซิครับ
บ็อตที่ว่า หมายถึงบอทที่ผมรู้จักรึป่าว ?
ทำไมนึกถึงการแย่งชิงบัตร BNK48 ที่เปิดขายวันนี้ ถึงกับลงชื่อกันเลยทีเดียว
BNK48 นี่เคยไม่ระบุชื่อในบัตรมาแล้วรอบนึง ราคาบัตรเข้าชมราคาขาย 1,200 บาท โดยอัพราคาไป 5,000 - 8,000 บาทเลยทีเดียว หลังจากคอนนั้น ก็เลยให้ระบุชื่อลงในบัตรตลอดมา ก็ทำให้แก้ปัญหาตั๋วผีอัพราคาไปได้พอสมควร แต่ก็ยังมีเคสขายคิวระหว่างซื้อบัตรแทน แต่ก็เป็นส่วนน้อย
ผมลองนึกเล่นๆมว่าจะเป็นไปได้ไหม ถ้าจะทำระบบให้มีการยืนยันชื่อผู้ซื้อตั้งแต่ตอนซื้อออนไลน์ แล้วให้ไป activate ตั๋วอีกรอบด้วยการยืนยันตัวตน โดยไม่ต้องไปตรวจกันหน้างาน แต่ใช้วิธีให้ไปยืนยันที่ร้านสะดวกซื้อ หรือจุดบริการที่ไหนก็ได้ และทำไ้ตั้งแต่วันซื้อตั๋วไปจนถึงวันเปิดงานไปเลย หน้างานก็มีให้activate เหมือนกัน สำหรับคนที่ขี้ลืมหรือไม่รู้จริงๆ แต่ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงว่าถ้าแถวยาว คนเยอะ คุณเลทแน่ๆ ซึ่งก็แก้ง่ายมากโดยการรีบเดินทางไป activate ตั๋วกับจัดบริการอื่นๆที่ใกล้เคียง
วิธีนี้ จะแก้ปัญหาเรื่องปริมาณคนมาร่วมงานมีมากจนไม่สามารถตรวจชื่อหน้างานได้หมดเลย
ถ้าชื่อไม่ตรงกับตอนที่ซื้อ ก็ activate ไม่ได้ ตั๋วก็ใช้ไม่ได้
ยืนยันได้ตั้งแต่วันซื้อตั๋ว แบบนี้พอยืนยันเสร็จก็เอาตั๋วไปขายต่อได้อยู่ดีรึเปล่า
ใช้ตั๋วระบุชื่อ + ห้ามขายต่อ ได้ไหมครับ?
เคยเจอระบบแบบนี้ตอนซื้อตั๋วคอนเสิร์ตที่แคนาดา
มันก็ได้นะครับ เฉพาะในกรณีที่ตั๋วราคาไม่แพง แต่ถ้าในกรณีที่ตั๋วแพง แล้วเรามั่นใจเราไปคนเดียว หรือโอกาสที่เพื่อนไปด้วยจะเท = 0 ก็รอดตัวไป แต่ถ้าไม่มั่นใจ หรือมีโอกาสเพื่อนจะเทสูง นี่ผมว่าก็ต้องเตรียมระบบรับมือกับลูกค้าแบบนี้ด้วยนะครับ ไม่งั้นจะกลายเป็นว่า "ลำเอียง" ผมว่าทางออกที่ Win-Win เลยคือ อัพราคาตั๋วสูงขึ้น เมื่อราคาสูงในระดับนึงที่นักเก็งกำไรคิดว่า ระยะห่างของกำไรไม่คุ้มค่ากับการทรัพยากรที่ลงทุน และอีกประเด็นคือ ความต้องการเพียงพอหรือไม่? เขาก็จะหันไปเล่นตัวอื่นแทน อันนั้น exp ตรงจากงาน Cat Expo ที่ผ่านครับ
ผมว่าเรื่องนี้ ถ้าหาปัญหาดีๆ อาจแก้ได้โดยไม่ต้องใช้ IT เลย
ทำแบบตั๋วเครื่องบินเลยครับ
ชื่อไม่ตรง เลขบัตรไม่ตรง อดเข้างาน
ความเป็นส่วนตัวล่ะครับ เกิดเซิร์ฟเวอร์ผู้จัดงานโดนเจาะขึ้นมา งานงอกบานเลยนะครับ
ระบบที่มีการซื้อขายและเก็บข้อมูลใดๆ ถ้าหลุดก็งานงอกหมดล่ะครับ
ผมมองว่าที่ไม่ให้ใส่ข้อมูลยุ่บยั่บ เพราะต้องการให้เกิดการจ่ายเงินเร็วที่สุดมากกว่าครับ
ใช้ตั๋วระบุชื่อ ผมว่าจบ
แก้ปัญหาแรกก่อน
ส่วนกลัวแฮกเซอเวอ ผมว่ายังหาทางป้องกันได้ไว้เป็นปัญหาของบริษัทขายตั๋วเค้า
Hongkong ใช้ Google Re-Captcha ได้มั้ย
Ooh
ไม่ช่วยครับ
ตามข่าวถึงระดับจ้างคนมากดซื้อเลย
แบบนี้ต้องแก้ปัญหาแบบไม่ it เช่นระบุชื่อในตั๋ว
แบบที่ญี่ปุ่นใช้ (แต่ก็ยังไม่ถึงกับแก้ได้หมด 100% อยู่ดี)
- ตรวจชื่อหน้าบัตรกับ ID
- บังคับให้ทุกคนที่มีตั๋วส่งรูปหน้าตรงก่อนวันงาน แล้วตรวจ หน้า+บัตร+รูป
- ตั๋วไม่ระบุที่นั่ง (ทำให้ขายต่อยาก) ไปได้เลขที่นั่งใกล้ๆวันงานหรือหน้างาน
- จอห์นนี่ขายแต่ FC, มีคนที่คอยไล่เช็คตั๋วที่โดนเอามาขายตาม sns แล้วแบนตั๋ว + แบนสมาชิกที่เอาตั๋วมาขาย
- QR ผูกกับแอพมือถือ
เหมือนแค่บางกรุ๊ปป่ะครับ เพราะคอนเสิร์ตประเภทไอดอลที่ญี่ปุ่นนี่เยอะมาก Yahoo! Auction นี่เอามาประมูลกันเป็นแถว
แต่ถ้าจะกันจริง ๆ วิธีแบบ Johnny นี่เวิร์คมากครับ (เห็นเพื่อนสมัครสมาชิกกันหลาย account เลยทีเดียว 55)
น่าจะแบ่งเป็นตั๋วระบุชื่อราคาปกติ แต่ถ้าไม่ระบุชื่อเพิ่มราคาไปอีกระดับหนึ่ง
เห็นของ ญี่ปุ่น ก็ มีระบบ ประมุล ตั่ว กันอยุ่นะ ราคา แพง และถุก กันเลย ของญี่ปุ่น จะเป็นราคาเท่ากันหมด ใช้ระบบ สุ่มที่นั่งเอา
ลองทำเหมือนที่ Australia สิครับ
https://www.fairtrading.nsw.gov.au/trades-and-businesses/business-essentials/information-for-specific-industries/ticket-reselling
คนจัดคอนอาจจะชอบ ยังไงก็ได้เงิน -..-'
my blog
ผมใช้บล็อกเชน
ผมเคยไปงานนึงที่ไทย นานมาแล้ว ตอนซื้อบัตรมีให้ใส่ชื่อ-นามสกุล พอไปถึงหน้างานเค้ามีตรวจจากบัตรประชาชนด้วยว่าตรงกันไหม
เพื่อนที่ไปด้วยกันซื้อบัตรต่อมาจากคนในเน็ต (ถูกกว่าปกตินะ ไม่ใช่บัตรโก่งราคา) ก็ใช้วิธีให้คนขายส่งรูปบัตรประชาชนมา แล้วก็ไปยืนยันหน้างานเค้าก็ให้ผ่านเหมือนกัน
แต่เหมือนจะเคยเจอแค่ครั้งเดียวนะครับ หลังจากนั้นก็ยกเลิกระบบนี้ไป คงเพราะเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ งานก็เล็กๆไม่มีใครมาโก่งค่าบัตรด้วย
ระดับ Andy Lau น่าจะมีคนรุ่นป้าๆอยากดูกันเยอะ หลายคนก็จะโลเทคหน่อย อาจจะซื้อไม่ทันพ่อค้านะ
น่าจะใช้งานควบคู่กับบัตรประชาชนไปเลย น่าจะดีกว่า ซื้อตั๋วแล้วเอาบัตรประชาชนเสียบหน้าทางเข้างานยืนยันตัวตนคู่กับบัตร หรือใช้เป็นพวกหมายเลขสุ่มส่งผ่าน SMS คู่กับบัตรเข้างานแล้วยืนยันหน้างานก็เป็นวิธีที่ดีนะ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว