สงครามสตรีมมิ่งที่กำลังจะคุกรุ่นในปีนี้ เพราะคู่แข่งใหม่ของ Netflix กำลังจะเกิดขึ้นนั่นก็คือ Warner และ Disney แต่ Netflix มองว่าคู่แข่งตัวจริงคือเวลาที่จำกัดของผู้ใช้งาน และคู่แข่งตัวจริงที่ดูดเวลาของผู้ชมได้ไม่แพ้ซีรีส์สนุกคือ เกม โดยเฉพาะ Fortnite
ในรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2018 Netflix บอกว่ามีส่วนแบ่งการใช้เวลาบนหน้าจอโทรทัศน์ (TV Screen Time) ในอเมริกาตอนนี้อยู่ราว 10% และน้อยกว่าเวลาบนหน้าจอมือถือ
ในต่างประเทศยังพบว่าเวลาหน้าจอของ Netflix น้อยกว่าในสหรัฐฯ ซึ่ง Netflix มองว่าไม่ใช่เพราะเขาใช้เวลาไปกับสตรีมมิ่งอื่น แต่เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นและเกม โดยเฉพาะเกมดังอย่าง Fortnite ที่ประสบความสำเร็จมหาศาล
ในรายงานระบุว่า "เราแข่งขันกับ (และแพ้) Fortnite มากกว่า HBO"
ภาพจาก Shutterstock
Netflix บอกว่าในปีนี้จะลงทุนอีกมากเพื่อสร้างคอนเทนต์ และยังมีการกลับมาของซีรีส์เรือธง Stranger Things และซีรีส์ interactive แนวใหม่อย่าง Black Mirror: Bandersnatch
ที่มา - Polygon
Comments
ไปห้องพี่ ตี Fortnite?
ชอบ Bandersnatch มาก ตอนแรกๆ ดูงงๆ วนไปวนมา นึกว่าหนังดาดๆ เรื่องนึงที่ทำตัวจะเป็น interactive แต่พอดูๆ ไป เห้ย เจ๋งว่ะ แล้วมีฉากนึงที่ทำให้คนดูนี่อึ้งไปเลย บทส่งกับความเป็น interactive จริงๆ เป็นประสบการณ์ใหม่เลยครับ ถึงขนาดไปหาแผนผังมาแล้วไล่ดูตอนจบครบทุกแบบเลย
เอาจริงๆ หนังแบบ interactive นี่ถ้าทำให้มันปังๆ นี่ ถือว่าเอาชนะทั้งหนังโรงและโหลดบิตไปด้วย เพราะมันดูที่ไหนไม่ได้นอกจากแพลตฟอร์มตัวเองเท่านั้น
หนังของ Netflix ผมก็เจออารมณ์ประมาณนี้ส่วนใหญ่ หนังออกใหม่หลังๆไม่ใช่หนังที่ทำมาขายปริมาณอย่างเดียวเลยครับ
Disney น่าจะสู้ได้นะ คอนเท้นน่าสนใจดี
เล่น Fortnite ผ่าน YouTube ก็สนุกดีนะครับ เล่นไปกินขนมไปได้ด้วย
ชอบ viu มากกว่า
ชอบทั้งคู่ครับ แต่เกลียดระบบ fast-forward, fast-backward ของ viu มาก เข้าใจว่าอยากทำให้คล้าย MX Player แต่ของ MX Player smooth กว่ามาก บน viu เลื่อนนิดเดียวไปซะไกล
ในขณะที่ Netflix ใช้ระบบ 10s แบบ YouTube ใช้งานง่ายกว่ากันเยอะมาก
อีกอย่าง viu ไม่มี App บน Android TV ด้วย
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
แล้ว PUBG ล่ะ
เกมมันเสียเงิน ผมว่า ระยะยาว Fortnite ไปไกลกว่า
เมื่อก่อนใครๆก็ชอบ PUBG ครับ แต่พอ Fortnite เข้ามา ทางยุโรปเมกาก็กลายเป็นว่าฮิต Fortnite กัน ส่วนทางเอเชียเรายังฮิต PUBG กันอยู่
Netflix™
Battleroyalesเค้าคงมองว่าคนที่ดูหนัง อย่างน้อยที่สุดก็ยังมีเงินมาลงที่ streaming ไม่ว่าจะลงที่ค่ายไหน
และคงมีที่ลงสลับปรับเปลียนค่ายบ้าง มันก็ยังเป็น streaming อยู่ดี
แต่ถ้าไปลงที่เกมส์แล้วละก็ Warner/Disney/Netflix/HBO ก็จบหมด
ในมุมมองที่ว่า คนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่าเดิม ถ้าเค้าเลือก ดูหนัง หรือ เล่นเกม สินะ แย่งส่วนแบ่งการใช้เวลากับหน้าจอ
และสำหรับ life style ของหลายคนนี่ จะมี gym, วิ่ง เป็นคู่แข่งของ Netflix ?
บางคนอาจจะออกกำลังกายไปดูหนังไป แต่ส่วนใหญ่น่าจะเลือกฟังเพลงมากกว่ามั้ง ?
~ HudchewMan's Station & @HudchewMan~
ถ้าปั่นจักรยานนี่หมดที่จะดูซีรี่ส์มากๆ แต่ทำอย่างอื่นฟังเพลงจะเหมาะกว่า
ส่วนตัวคิดว่า series netflix เหมือนเอาของเหลือมารวสมกัน ไปกว้านเอาเรื่องที่คนดูน้อย production ไม่ได้ดีอะไรมารวมๆกัน ในขณะที่หนัง original content ก็เป้นหนังที่ลงทุนน้อย เพราะขายได้แค่ platform เดียว แต่หนังโซนอื่น อเมริกา ยุโรป ยังพอมีบ้างแต่เป็นหนังอินดี้ ที่คนปกติไม่ดู ในขณะที่เจ้าอื่นอย่าง HBO ซีรีย์ลงทุนสูง produntion ใหญ่
โต เพราะขายลิขสิทะิ์ไปทั่วโลก ลงทุนไปโอกาสขาดทุนน้อยกว่า หนังฮอลีวูดไม่ยอมลง netflix เพราะขายเป้นเรื่องๆต่อเรื่องได้กำไรมากกว่า ถึงไปลงพวก google itunes movie บริษัทมันคานๆกันอยู่ทั้งหมดคือเรื่องของเงินทั้งนั้น HBO จะเอาของตัวเองมาให้ netflix ทำไมในเมื่อ netflix ได้ประโยชนืมากกว่าฝ่ายเดียว
เอิ่ม ... อย่านั่งเทียนครับ
เอิ่มผมว่า Series Netflix production ดีๆก็มีนะ อย่าง Stranger Things, The Crown, The Last Kingdom, The Alienist, Altered Carbon
ส่วนหนังกว่าจะลง ไม่ว่า streaming เจ้าไหนๆ แต่ละเจ้าก็ต้องรอหนังออกโรงลงแผ่น Blu Ray ซักพักคอยได้สิทธิ์ไปฉายไม่ใช่เหรอ
มันก็คือของเหลืออยู่แล้วนิ
หนังเน็ตฟลิกซ์สนุกกว่าหนังโรงในบางเรื่องครับ เนืองจากเงินหนา ทำให้เขียนบทได้ดีกว่า และการทุ่มทุนใน Production ดีกว่า
คุณมาจากจักรวาลคู่ขนานหรือเปล่า