เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าการเปิดบริการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (Two-factor Authentication) ช่วยให้การใช้งานบริการออนไลน์มีความปลอดภัยขึ้น แต่ถ้ามันมาพร้อมความยุ่งยาก ก็ดูเหมือนผู้ใช้งานบางคนอาจจะไม่ใช่แค่อารมณ์เสีย แต่ต้องฟ้องร้องเลยทีเดียว
เรื่องมีอยู่ว่านาย Jay Brodsky ได้ยื่นฟ้องต่อศาลแคลิฟอร์เนีย บอกว่าแอปเปิลไม่ได้ขออนุญาตผู้ใช้ก่อนเลือกเปิดการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน และเมื่อเปิดใช้แล้วก็ยุ่งยากมาก เพราะต้องจำทั้งรหัสผ่านล็อกอิน แล้วต้องล็อกอินเข้าอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้อีก
อ่านถึงตรงนี้อาจจะเกาศีรษะว่าแล้วปัญหาคืออะไร Brodsky บอกว่าเหตุที่ต้องฟ้องเพราะกระบวนการดังกล่าวที่แอปเปิลใช้ ก่อให้เกิดผลเสียหายมาก เช่นเวลาอันมีค่าที่ต้องเสียไปกับการล็อกอินซ้ำซ้อนหลายขั้นตอนนี้ โดยเขาอธิบายขั้นตอนล็อกอินว่า (1) ใส่รหัสผ่านเพื่อล็อกอินในอุปกรณ์ใหม่ (2) ใส่รหัสผ่านในอุปกรณ์เชื่อถือได้เพื่อเข้าไปยืนยันสองขั้นตอน (3) กดเลือกว่าเชื่อถือหรือไม่เชื่อถือในอุปกรณ์นั้น (4) กลับไปอุปกรณ์แรกเพื่อกรอกรหัสเลข 6 ตัว ที่ได้มา ซึ่งรวมแล้วแต่ละขั้นตอนเขาใช้เวลาราว 2-5 นาที
เรื่องนี้อาจต้องพิจารณากันดู ว่าผู้อ่านที่ใช้อุปกรณ์แอปเปิลรู้สึกหรือไม่ว่าการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน ช้ามากแบบที่นาย Brodsky ฟ้องร้องหรือไม่ครับ
ที่มา: Apple Insider
Comments
ยุ่งยากนิดๆ แต่ก็ไม่เคยใช้เวลาเกิน 2 นาทีเลยนะ แล้วก็ยอมรับเพราะความปลอดภัยด้วย
all your base are belong to us
Apple บังคับเปิดเกินไปครับ
บางครั้งลูกค้าเปิดโดยไม่รุ้ตัว เสียไอดี ไปเลยก็มีครับ
บางคนเปิดเวลาไปใช้เบอร์ชั่วคราว ตปท ก็มี
อย่าบอกนะครับว่าคนที่กดไม่อ่านเอง
ลองดูครับ มันเหมือนบังครับกลายๆ ให้เปิด คนที่อ่านดีก็เผลอเปิดได้ครับ
โดยส่วนตัวเปฺ็นผมเองผมเปิดนะ
แต่เห็นคนที่ไม่พอใจเยอะเลยที่เปิดโดยไม่รู้ตัวหรือโดนบังครับเปิด
ผมโดนบังคับให้เปิดครับ
จะไปจองเวลาเข้าใช้ support ที่ iconsiam
ระบบจองบังคับให้เปิด ไม่งั้นไม่ให้จอง
ซึ่งเปิดแล้วปิดไม่ได้....
ล่าสุดแฟนลืมว่าจะปิดเบอร์เก่าแล้วลืมเปลี่ยนเบอร์ใหม่ในระบบบัญชีเท่านั้นแหละทำใจแล้วก็สร้างบัญชีใหม่เลย
แถมเปิดใช้แล้วไม่ยอมให้ปิดด้วยนี่สิ จริงๆ ควรขึ้นอยู่กับผู้ใช้นะว่าจะเปิดหรือปิด
+1
ควรจะเปิดตัวเลือกให้ใช้ช่องทางอื่นๆได้
เปิดแล้วมันย้อนกลับมาใช้ 1 factor ได้ไหมล่ะ ถ้าไม่ได้ก็ควรฟ้อง
ปิดได้ครับ
หลัง ๆ คือปิดไม่ได้แล้วครับ อย่างบัญชีผมเองเมื่อก่อนก็เคยปิดได้ ตอนนี้ก็ไม่ได้ครับ
ไม่ได้ ปิดได้แต่ตอนที่ Apple เปิดให้ใช้ใหม่ๆ ตอนนี้ไม่ได้แล้ว
เดือนก่อนปิดยังปิดได้อยู่เลยครับ
แล้วตอนนี้ล่ะครับ ?
หลับจากเปิดมีเวลาปิด 2 สัปดาห์
ฉันจะปิดการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยหลังจากที่เปิดได้หรือไม่
หากคุณใช้การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยอยู่แล้ว คุณจะไม่สามารถปิดได้อีก คุณสมบัติบางอย่างใน iOS และ macOS เวอร์ชั่นล่าสุดจำเป็นต้องใช้ระดับการรักษาความปลอดภัยพิเศษนี้ ซึ่งออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลของคุณ หากคุณเพิ่งอัพเดทบัญชีของคุณ คุณสามารถยกเลิกการลงทะเบียนได้เป็นเวลาสองสัปดาห์ เพียงเปิดอีเมลยืนยันการลงทะเบียนของคุณ และคลิกลิงก์เพื่อย้อนกลับไปเป็นการตั้งค่าความปลอดภัยเดิมของคุณ โปรดทราบว่าการดำเนินการนี้จะทำให้บัญชีของคุณปลอดภัยน้อยลง ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่สามารถใช้คุณสมบัติที่ต้องใช้ความปลอดภัยในระดับที่สูงขึ้นได้
ผมว่ามันพยายามจะอัตโนมัติเกินไป ครั้งแรกที่เจอบอกว่าส่งรหัสให้แล้วงงอยู่พักนึงว่าส่งไปไหนอะ มันไม่ได้ใช้วิธีให้ setup เป็น app เอง พอตอนที่โค้ดมันไม่มาเลยไม่รู้เลยว่าตกลงต้องแก้ยังไง
ผมเองก็รู้สึกรำคาญทุกครั้งที่ต้องล็อคอิน 2FA อยากให้มี solution ที่ดีกว่านี้เกิดขึ้นมาทดแทนเสียที
เห็นด้วยอย่างยิ่ง ฟ้องมันเลย หาวิธีปิดก็ไม่ได้ เสียเวลาชีวิตที่สุด 2Fac เฮงซวย
จริง
ไม่ได้ใช้เหมือนกันครับ ยุ่งยากมาก
ผมใช้ ของ จีเมล เมลร้อน เฟส มัน จะเด้งขึ้นมาบนมือถือ แล้วก็กด ก้เข้าได้เลย แต่ของ เอเปิลนี้ มันจะส่งรหัส มาทางเมล หรือ ทาง sms แล้วก็ไปกรอก ตรงช่องของมันอีกที หนึ่ง เป็นการ ใส่รหัสไปสองรอบ ยุ่งยากจริงๆ
ผมไม่มี Trusted device ก็ใช้วิธีให้ส่ง SMS มาที่เครื่องได้นะ
(1) ใส่รหัสผ่านเพื่อล็อกอินในอุปกรณ์ใหม่
(2) กดให้ส่ง SMS แทน Trused device
(3) กรอก Code
รำคาญมาก แทนที่จะเพิ่มทางเลือกให้ใช้แอพ TOTP มาตรฐานอย่างพวก Google Auth ได้ ดันทำเป็นระบบปิด แถมบางทีไม่ได้พกอีกเครื่องไว้ข้างๆกลายเป็นใช้ไม่ได้อีก
+1
+1
รำคาญเหมือนกันถึงจะรู้ว่าเค้าหวังดีแต่ก็อยากให้ฟ้องชนะ
พอมีแล้วปิดไม่ได้ และรำคาญมากเพราะทำหลายขั้นตอนเกิน ทั้งเชื่อถือได้และใส่รหัสที่ได้มาอีกรอบ ซึ่งไม่รู้ว่าส่งไปทางไหน และมันยุ่งยากเกินไป ใช้แค่อย่างใดอย่างหนึ่งก็ไม่ได้ หรือไม่งั้นก็ทำเหมือน Google, FB, MS ไปเลยก็ได้ ใช้แอพยืนยันตัวตนเอา
ฟ้องให้ชนะนะ เอาใจช่วย
นึกถึงระบบจ่ายเงินผ่าน QR Code ที่ผมเคยลิสต์คร่าวๆ ว่าใช้มากกว่า 10 ขั้นตอน (ใช้สองทีเลิกครับ 55)
ตอนแรกก็คิดคล้ายๆเขานะจนวันนึงโดน Hack Apple ID ไปซื้อ iPhone เนี้ยแหละจึงเห็นประโยชน์ของระบบนี้เลย
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ 2-Factor Authen ไม่ดีครับ ปัญหาอยู่ที่ "Apple ทำระบบ 2-Factor Authen ยุ่งยาก"
ตามนั้น ระบบมันดี แล้ว แต่การใช้ มัน ยุ่ง ยาก
เห็นแฟนแอปเปิลุมยำแอปเปิลแล้วนึกถึงชาวอารยธรรมโซนี่ครับ ใช้ไปยำไป
ทำไมผมชิน ทำงานกับ outlook, หลายๆ tool ของออฟฟิศ
บังครับ ยืนยันตัวตน หลายๆๆๆๆ ขั้นมาก RSA บลาๆๆ
ทำแทบทุกครั้งเวลาเปลี่ยน connection
ชินไม่ได้แปลว่าสะดวก และไม่เสียเวลานี่ครับ
ที่ใช้อยู่ก็อารมณ์นี้ครับ เรียกว่าอยู่ในภาวะจำยอมมากกว่า ระบบ 2FA มันไม่สะดวกอยู่แล้ว ได้แต่ทำใจให้ชินเพราะเข้าใจถึงความสำคัญของมัน
ผมว่ามันเป็น trade off อ่ะแหละครับ แลกกันระหว่างความสบายและความปลอดภัย
เป็นประเด็นเพราะปิดไม่ได้นี่แหละ ทางแอปเปิลคงพยายาม enforce เพื่อให้เกิดความปลอดภัย จะได้ไม่มีปัญหามาฟ้องร้องว่าเก็บรักษาข้อมูลไม่ดีพอในภายหลัง ตอนนี้โดนฟ้องว่าไม่สะดวกสบาย และไม่ให้ทางเลือกซะงั้น
ต่อไปผมเชื่อว่า ถ้ากรณีนี้ฟ้องชนะ แอปเปิลคงมีให้ยืนยัน consent ว่าปิดแล้วความปลอดภัยลดลง และจะไม่ฟ้องแอปเปิลถ้ามีข้อมูลหลุด
เดี๋ยวก็คงมีช่องให้ฟ้องอยู่ดี
วิธีที่ทำให้สะดวกกว่านี้ ไม่น่ายากสำหรับ Apple นะครัช
ถ้าคิด UX แบบนี้มา ผมว่าคงมีแนวคิดอะไรเบื้องหลังมั้ง เดาล้วนๆ ฮะ
เหมือนเรื่องแบตใช่มั๊ยครับ
UX ที่มีเบื้องหลัง :P
แบบนั้นเลยครับ ใช้คำว่าวาระซ่อนเร้นน่าจะเหมาะ
ผมว่า 2FA ของ Apple นี่มันลำบากกว่าอันอื่นเยอะนะ
ถ้ามีหลาย devices นี่ง่ายมากเลยครับ ผมใช้เวลาไม่เกิน 10 วินาทีในการเข้าระบบ เพราะเวลาจะใช้ใน iPhone มันก็ขึ้นถามใน iPad ไม่ก็ MacBook ตรงหน้าทันที แต่หากมีตัวเดียว ความลำบากจะมาเยือนจริง ๆ ผมว่าตรงนี้แหละที่ทาง Apple อาจจะพลาดไป (หรือตั้งใจ?) ถ้าถามผม ผมชอบมาก รู้สึกปลอดภัยดี นี่ถ้ามีให้เลือก Trust device เป็น Apple Watch ได้นะ จะยิ่งดีกว่านี้
+1
มันเป็นระบบที่เอื้อต่อการมีหลาย apple devices
ซึ่งถ้ามันทำให้เกิดความลำบากก็ควรจะเลือกเปิดปิดได้
แต่เหมือนจะพยายามทางขายของเพิ่มมากกว่า
ตอนผมทำอยู่ AppleCare (เป็น บริษัทoutsoruce)
ลูกค้าบ่นกันเยอะ ตรงหน้างานเราก็ต้องพยายามบอกว่าเพื่อความปลอดภัย
แค่สงสารลูกค้าที่เปิดไม่รู้ตัว มีเครื่องเดียว เบอร์ปิด ไปแล้วอะไรแบบนี้ แก้ไขอะไรไม่ได้เลย เสียไอดี อย่างเดียว
ยิ่งถ้าติด iClound นี่ระดับเสียเครื่องกันเลย