ทีมแพทย์กู้ภัยที่ให้ความช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่า ที่ติดในถ้ำหลวงปีที่แล้ว ได้เขียนบทความรายงานสรุปการช่วยเหลือ ในชื่อบทความ "Prehospital Care of the 13 Hypothermic, Anesthetized Patients in the Thailand Cave Rescue" ลงในวารสาร New England Journal of Medicine
บทความระบุถึงการตัดสินใจใช้ ยาสลบ (anesthesia) ในกลุ่มเคตามีน (ketamine-based) ให้กับกลุ่มทีมฟุตบอลแล้วใส่หน้ากากออกซิเจนเต็มหน้าก่อนนำออกมา โดยระหว่างเส้นทางการนำตัวผู้ประสบภัยออกมา ทีมกู้ภัยต้องให้เคตามีนระหว่างทางเป็นระยะ ทำให้ตัวผู้ประสบภัยรู้สึกตัวไม่เท่ากันในแต่ละช่วง
รายงานยังระบุว่าผู้ประสบภัยคนที่สองเกิดอาการ hypothermia หรือร่างกายเสียความร้อนจนอุณหภูมิภายในต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียส โดยระบุว่าเกิดจาก "การประสานงานกันไม่เพียงพอ" หลังจากนั้นทีมกู้ภัยก็ให้วิสัญญีแพทย์ตรวจอุณหภูมิของผู้ประสบภัยที่ออกมาจากถ้ำ
เคตามีนที่ปริมาณที่เหมาะสมจะกดไม่ให้ผู้ได้ยาตื่นเต้น แต่ยังพอรับรู้ได้อยู่ สามารถรับคำสั่งบางอย่าง และไม่กดการหายใจ
บทความเขียนโดย พ.ต.นพ.ชาญฤทธิ์ ล้อทวีสวัสดิ์, นายแพทย์ Richard Harris ชาวออสเตรเลีย, พล.ต.วุฒิไชย อิศระ, และผศ.นพ. กฤษณ์ พงศ์พิรุฬห์ ตีพิมพ์ลงในวารสารฉบับเดือนเมษายนนี้
ที่มา - LA Times, Strait Times, NEJM
ภาพปากถ้ำหลวงขณะกู้ภัยจาก NBT
Comments
K นี่จ่ายโดยแพทย์ได้อย่างถูกกฎหมายใช่มั้ยครับ
ยาเค เป็นยาสลบ ออกฤทธิ์สั้น ตามกฏหมายเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และ จัดเป็นยาควบคุมพิเศษ ต้องจ่ายโดยแพทย์ และต้องใช้ในแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านวิสัญญีจะดีที่สุด เพราะยานี้ค่อนข้างอันตราย
ถูกกฏหมายสิครับ ยานี้เขาทำมาสำหรับใช้ทางการแพทย์ใช้งานครับ
ต้องใช้อย่างเหมาะสมภายใต้การดูแลของแพทย์ ถ้าใช้เกินทำให้เสียชีวิตได้
และไม่ได้ทำมาเพื่อใช้เสพติด
Ketamine กลายเป็นปัญหาที่บางกลุ่มเอามาทำเป็นยาเค แนวเดียวกับยาเสพติด แต่เฉพาะประโยชน์ของตัวยาเอง มันจึงต้องถูกควบคุมและให้ใช้ได้เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้นหละครับ และใช้เฉพาะกรณีที่จำเป็นด้วย
ปัญหาเดียวกับ Opioid ในสหรัฐฯ ที่มีฤทธิ์พอๆ กับ Heroin แต่หาได้ง่ายกว่าจากโรงพยาบาลและราคาถูกกว่า บางคนยอมทำให้เจ็บตัวเพื่อให้ได้ยาตัวนี้มาเสพ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
พอดีผมไม่รู้ รู้แค่จากข่าวหนังสือพิมพ์ว่าพวกนักเที่ยวชอบใช้ยาเคกัน แต่เห็นจ่ายแบบนี้เลยคิดว่าน่าจะจ่ายโดยแพทย์ได้ เลยลองถามเพื่อความแน่ใจดู
ขอบคุณทุกท่านครับ
เคตามีน หรือ Ketalar (ชื่อทางการค้า) ถูกใช้แพร่หลายในกลุ่มแพทย์วิสัญญี (หมอดมยา) ครับ เป็นยากลุ่ม Sedative ที่ให้ผลข้างเคียงน้อย และสามารถใช้ในเด็ก (ที่อายุมากกว่า 12 เดือน) ได้ ในกรณีถ้ำหลวง ยาถูกให้โดยแพทย์วิสัญญีชาวออสเตรเลีย ที่ชื่อ ริชาร์ต แฮรร์ริส (ทางกฏหมายให้ได้ เพราะสามารถใช้ใบประกอบโรคศิลป์ของหมอภาคย์ ที่ได้รับจากแพทยสภา เป็นคนกำกับการประกอบโรคศิลป์)
ที่เคยฟังจากหมอที่เข้าไปในภารกิจถ้ำหลวง เขากังวลเรื่องการปล่อยให้เด็กถืออุปกรณ์ SCBA แล้วเกิดกลัวกลางทางครับ (ทางมืด และเย็นมาก)
การให้ยา Sedative ในปริมาณพอเหมาะ (คำนวนจากน้ำหนัก) ก็จะช่วยให้เด็กคลายความกังวลได้ครับ และลดภาวะแทรกซ้อนจากความหนาวเย็นได้อีกด้วย
ขอบคุณครับ ผมไม่ได้ต่อต้านหรือจับผิดแต่อย่างใดครับ เข้าใจสถานการณ์ดีเพราะง่ายต่อการจัดการมากกว่า
คุ้นๆว่ามีการประกาศม.44 ยกเว้นข้อกฎหมายยาเสพติดกับกรณีถ้ำหลวงในช่วงนั้นนะครับ เข้าใจว่าคงสุ่มเสี่ยงอยู่
จริงๆ ก็ควรละเว้นนะครับ กรณีแบบนี้ถ้าดำเนินคดีผมมองว่าไม่ตรงเจตนารมภ์ของกฎหมาย ยกเว้นจะตีความตามอักษรอันนั้นก็น่าหดหู่เกิน
แต่ผมก็ยังสนใจอยู่ดีว่ามันมีขั้นตอนทางกฎหมาย หรือยกเว้นอะไรยังไงบ้าง เกี่ยวกับ ม.44 จริงมั้ย บลาๆๆๆ
ค้นข่าวม.44 ไม่เจอผมน่าจะจำผิดเอง แต่เป็นเรื่อง กต.ให้เอกสิทธิ์ทางการทูตฯ ซึ่งตอนนั้นมีดราม่า ว่ามีการใช้ยาสลบหรือไม่ ลุงตู่ก็บอกว่าไม่มีแน่ๆ แถมด่านักข่าวอย่ามโน แต่พอมีข่าวให้เอกสิทธิ์ทางการทูตฯ ก็มีคนวิเคราะห์ว่าน่าจะมีการใช้ยากลุ่มที่สุ่มเสี่ยงต่อกฎหมายไทย เลยต้องขอไว้ก่อน แถมขอเฉพาะคนด้วย สุดท้ายเจ้าตัวก็ยืนยันเองว่าใช้ยากลุ่มเคตามีน ซึ่งก็ถือว่าเป็นกลุ่มยาสลบอย่างหนึ่ง
ผมเองไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับการยกเว้น หรือการใช้ยา แต่แปลกใจที่มีการบิดเบือนข่าวสารโดยภาครัฐเองในทีแรกมากกว่า ว่าทำไปเพื่ออะไร?
ไม่มีวางยาสลบขณะพาทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวง นายกฯ ลุงตู่การันตี
https://www.thairath.co.th/content/1331737
2นักดำน้ำออสซี่ได้เอกสิทธิ์การทูต เผยเสี่ยงสุดๆ ไม่คิด13ชีวิตจะรอดหมด
https://www.thairath.co.th/content/1335419
กต.ยืนยันให้เอกสิทธิ์คุ้มครอง 2 นักดำน้ำออสซี่
https://www.one31.net/news/detail/3069
ป.ล.ตอนนั้นพันทิป ด่าคนที่สงสัยว่าใช้ยาสลบว่าชังชาติ ดราม่ากันมันเลย
https://pantip.com/topic/37870065
ก็มันไม่สลบจะเป็นยาสลบได้ยังไง
ผมว่าต้องออกมาแบบนั้นผมเชื่อว่า ณ เวลานั้นถ้าบอกว่าใช้เคฯ จะมีคนโจมตีเยอะมากแน่ๆ เพราะมันกำลังเป็นกระแส และมีคนจ้องโจมตีเยอะ
แต่ผมมองว่าการพูดความจริง และการชี้แจงที่มาที่ไปตั้งแต่วันนั้นน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า ไม่ใช่โกหกแบบนี้ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องเข้าใจได้
ส่วนลูกหาบลุงตู่ที่ออกมาช่วยลุงตู่โกหกนี่ผมคงไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ผมพอจะข้ามๆ ไปได้อยู่ครับ ซึ่งก็เช่นเดียวกับพวกที่โจมตีอย่างเดียวเหมือนกัน
แต่ผมว่ายังดีนะ ยังมีเอกสารฉบับนี้ออกมาให้ได้เข้าใจการทำงานบ้าง ขอบคุณอีกครั้งครับ
แต่ผมมองว่าการพูดความจริง และการชี้แจงที่มาที่ไปตั้งแต่วันนั้นน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า ไม่ใช่โกหกแบบนี้ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องเข้าใจได้
บวกหนึ่ง
คนอื่นผมไม่แน่ใจ แต่โดยส่วนตัวผมไม่ชอบการโกหก/พูดไม่ตรงความจริงแม้จะเป็น white lie ครับ
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าข้อเท็จจริงคืออะไร อันไหนคือ white lie,black lie ถ้าเราไม่มีโอกาสได้รู้ข้อเท็จจริงล่ะครับ?
เคสนี้ง่ายเพราะเจ้าตัวฝรั่งที่ไปช่วย เขาให้ข่าวกับสื่อนอกเอง ไม่ได้ปิดบังอะไร กลับกันถ้าเป็นฝั่งเราทำ ก็คงปกปิดไปตลอดกาล?
นั่นสิ เพราะตรวจสอบไม่ได้ไง
เม้นของสมาชิกท่านนึงในอีกข่าวนึงบอก รบ.ไหนก็เหมือนกันหมด
มะเหงกสิ
อุณภูมิ => อุณหภูมิ
ตัวเต็มเขียนสั้นครับ เน้นไปที่บริบทของระหว่างทาง (รับมาจากปากถ้ำและส่งต่อไปยังโรงพยาบาล) มากกว่า
ส่วนของแผนเขียนไว้แค่นี้ "The plan involved the use of ketamine-based anesthesia and a positive-pressure full-face mask (supplying 80% oxygen); the boys were swum out of the cave wearing poorly fitting wet suits in cold water."
อ่านข่าวแล้วนึกถึง... Dr. K
อืมมม ให้คุณหมอคนไทยเป็น first author เลย