ประเด็นเรื่องการขายเกมแบบเอ็กซ์คลูซีฟของ Epic Games Store ยังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด Tim Sweeney ซีอีโอของ Epic Games ก็ออกมาพูดเรื่องนี้ด้วยตนเองแล้ว
Sweeney ตอบคำถามแฟนเกมผ่านทวิตเตอร์ อธิบายว่าทำไม Epic Games ถึงเลือกตัวเลข 12% เป็นส่วนแบ่งรายได้เข้าบริษัท เขาประเมินว่าเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว Epic จะได้กำไรประมาณ 5% จากราคาเกม และตัวเลขนี้อาจเพิ่มเป็น 6-7% ได้หากมียอดขายจำนวนมากๆ (economy of scale)
เขายังเปรียบเทียบตัวเลขส่วนแบ่ง 30% ของ Steam ว่ามากเกินไปจนบริษัทเกมอย่าง EA, Ubisoft, Activision รับไม่ไหว จึงต้องไปสร้างร้านขายเกมของตัวเอง และตัวเลขส่วนแบ่งการขายบัตร Steam หรือ iTunes ตามร้านค้าปลีกต่างๆ ร้านก็ได้กำไรเพียง 10-15% เท่านั้น
เขาบอกว่าตัวเลข 30% อาจเหมาะสมในยุคแรกเริ่มของร้านขายเกมออนไลน์ แต่ปัจจุบันธุรกิจนี้มีขนาดใหญ่โตมาก มียอดขายระดับ 1 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี ก็ไม่จำเป็นต้องหักส่วนแบ่งเยอะขนาดนั้นอีกแล้ว และถ้าหาก Steam ยอมลดตัวเลขลงมาเหลือ 12% เท่ากัน Epic ก็ไม่จำเป็นต้องขายเกมแบบเอ็กซ์คลูซีฟ และอาจนำเกมของตัวเองลงไปขายบน Steam ด้วยซ้ำ
Why 12%? We chose this number to provide a super-competitive deal for partners while building an enduring and profitable store business for Epic.From that 12%, we net around 5% after direct costs and that could grow to 6-7% with greater economies of scale.
— Tim Sweeney (@TimSweeneyEpic) April 22, 2019
If Steam committed to a permanent 88% revenue share for all developers and publishers without major strings attached, Epic would hastily organize a retreat from exclusives (while honoring our partner commitments) and consider putting our own games on Steam.
— Tim Sweeney (@TimSweeneyEpic) April 25, 2019
ที่มา - PC Gamer
Comments
มีอำนาจอะไรไปต่อรองเค้าเหรอ? จะดื้อดึงขายให้คนด่าต่อไปก็ได้ยิ่งเป็นผลดีกับsteam
ตามจริงผมก็ว่ามีผลกระทบต่อผู้ผลิตพอสมควร แต่ด้วยความจำเป็นเพราะการผูกขาดมานาน จึงต้องทนไม่มีปากไม่มีเสียง
ถ้าของแพงแต่ยังมีคนซื้อแสดงว่ามันมีกู๊ดวิลอยู่ครับ กลับกันถ้าของถูกแต่คนไม่สนใจก็แสดงว่ามูลค่าจริงๆมันต่ำกว่านั้นอีก แล้วการที่เอาผู้บริโภคมาเป็นตัวประกันไม่ได้ทำให้ตัวเองดูดีซักนิด
แต่การขายเกมแบบเอ็กซ์คลูซีฟมันไม่ช่วยให้ดึงผู้ใช้งานอยากเข้ามาใช้เลยครับ ออกแนวน่ารำคาญด้วยซ้ำ
30 ก็เยอะเกิน แต่ 12 ก็น้อยเกินไปเหมือนกัน EPIC ลืมไปรึเปล่าว่าระบบร้านค้าของตัวเองมันโล่งมาก ยังไม่ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายอะไรนอกจากการขายเกม จะให้สตีมลดมา 12 เท่าตัวเองที่ไม่มีภาระค่าใช้จ่ายเหมือนสตีม มันแปลก ๆ นะ
เอ็กซ์คลูซีฟผมไม่กังวลนะถึงไม่มี Epic ค่ายเกมก็ใช้วิธีอื่นอยู่แล้ว มันไม่ได้มีอะไรใหม่เลย
ขออย่าให้กลับไปยุคราคาแพงหรือระบบมันยุ่งยาก จนคนเลือกจะเล่นเถื่อนเลย ...
เดี๋ยวพอมี cloud save แล้วค่อยกลับมาพูดใหม่นะดีไม่ดีไอ้กำไร 5% อาจะลดเหลือ 4% และหลังจากมี achievements ก็มาพูดใหม่นะ เห็นด้วยนะที่ให้ dev ได้เยอะขึ้นแต่ต้องมีเงื่อนไข เช่น เกมนี้ไม่ใช้ cloud save ก็เพิ่มส่วนแบ่งให้เขาไป(ส่วนคนเล่นจะด่าไม่มี cloud save ก็ให้ด่า dev เอาฮ่า ๆ) แต่ถ้าบอกทุกเกมส์ใช้ทุกอย่างแต่อยากได้ส่วนแบ่งเยอะอันนี้เห็นแก้ตัว
เข้าใจว่า Epic คงอยากลดเสียงด่าให้คนส่วนนึงไปด่าสตีมแทนซึ่งในกรณีนี้ Steam ไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย Epic สร้าง Store ใหม่เอง คงไม่มาเอง ทำตลาด Exclusive เอง โดนด่าเอง นี่จะลาก Steam มาโดนด่าด้วย สุดจริง การตลาดแบบนี้
ออกข่าวนี้มาผมเห็นแต่มีคนรุมด่ามากขึ้นนะครับ ก่อนหน้านี้ผมเฉยๆนะแต่พอเจอข่าวนี้แล้วแบบเกี่ยวไรฟะ ค่าบริหารต้นทุนแต่ละเจ้ามันก็ไม่เท่ากันอยู่แล้วจะมาบังคับให้เท่ากันหมดได้ยังไง
อ้อออออออ ที่แท้พยายามทำตัวเป็นพ่อพระ แต่ว่าพ่อพระไม่ใช้วิธีมารหรอกนะ
epic store ทำตัวเป็นพ่อพระต่อนักพัฒนา และเป็นมารต่อผู้บริโภค
กระจอกจัง
เหตุผลดูฟังขึ้นในมุมมอง ที่ epic มองนะครับ... (ในจุดที่มองไปทางไหนก็เจอแต่ Steam เลยดูเหมือนเป็นการผูกขาดไปโดยอัตโนมัติ ทั้งๆที่ Steam เองก็ไม่ได้เป็นคนบอกให้เอาเกมมาลง store ตัวเองด้วยซ้ำ)
แต่การ Take action ของ Epic ดูเหมือนจะขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ โดยแทนที่จะแข่งเรื่องค่าส่วนแบ่งเฉยๆ กลับดันเป็นคนทำการผูกขาดซะเอง ผ่าน Exclusive game แถมมีเรื่องอื้อฉาวออกมาเรื่อยๆ จน user เริ่มไม่มั่นใจแล้ว
รอดูยอดขายตอนครบ1ปี
Epicยังไม่น่าจะเจ๊ง เพราะทุนยังหนา
ถ้ายอด1ปีแล้วทำยอดขายได้เยอะ ผมว่ามีหลายค่ายย้ายตามแน่ๆ
แต่ถ้ายอด1ปีเน่า ดีแค่เปิดตัว ผมว่าไม่มีค่ายไหนอยากย้ายไปหรอกมั้ง ยกเว้น.ถ้าได้ดีลเงินอุดหนุน2ล้านยูโรแบบborderland3
เดียวสตีมบ้าจี้ลดตาม ดูสิจะไปท่าไหนต่อ ไปๆมาจะยิงสู้สตีมไม่ได้นะ เพราะตอนนี้มีแค่ไพ่เด็ด exclu อยู่ในมือใบเดียวเท่านั้นเอง
ถ้าทำแสดงว่าสตีมอ่อน เข้าทางมันเต็มๆ
คิดว่า 30 เยอะจริง แต่ถ้า ผู้ผลิตเกมยังเลือกใช้ร้านเค้า ก็เรื่องของเค้า จะเก็บค่าเช่าแผงเท่าไหร่
ร้านนายเปิดใหม่ เราไม่ค่อยได้ตามอ่านหมดนะ แต่เห็นอ้างนู่นนี่หลายข่าวจัง ถ้าเงียบๆแก้ปัญหาฝั่งตัวเองจะหล่อกว่าเยอะ
ความคิดผม คนไม่ได้ติดแบรนด์ อะไรมากหรอก ปลอดภัย มีฟังชั่นที่ตัวเองอยากได้ ราคาเหมาะสม มีเกมทั่ตัวเองอยากเล่น จบ (ตัวผมเองก้เล่นเกมตั้งหลายแบรนด์)
แต่จะมาสนใจแบรนด์ก้ตรง อ่านข่าว ตอบคำถามนี่แหละ อ่านบ่อยๆ ชักไม่อยากใช้ แบรนด์นายอะ
อย่าลืมนะว่ามันมี hidden cost อะไรบางอย่างของคนถือแพลตฟอร์มอยู่นะครับ ไม่ใช่แค่เรื่องกำไรหรือไม่กำไรจากการเปิดร้าน แม้ว่าส่วนตัวจะคิดว่า 30% ถือว่าเยอะไปก็ตาม
ที่ Epic ทำแบบนี้ได้ ส่วนตัวคิดว่า เพราะรายได้จาก Fortnite และ Unreal Engine มันสามารถโปะยอดที่ loss ไปจากตัวร้านค้าได้ ถ้าหากในอนาคต เกมมันไม่ได้ดังแบบตอนนี้ แล้วมี Engine ตัวอื่นที่ตอบสนองมากกว่า Epic ก็อาจจะต้องปรับ share เหมือนกัน (แต่คิดว่าน่าจะยาก โดยเฉพาะตัว Unreal Engine ที่ยังคงเป็นเป้าหมายหลักของนักพัฒนาเกม)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ยังไม่นับว่ามี Tencent ช่วยหนุนเรื่องการเงินอีกนะ แล้ว steam ส่วนแบ่งก็ไม่ได้มีแค่เรตเดียวด้วยยิ่งขายเยอะ % ส่วนแบ่งยิ่งลด
ใช่ครับ แต่เรื่องส่วนแบ่งที่ลดลงเมื่อปริมาณดาวน์โหลดที่เพิ่มขึ้นนี่ บางทีก็แอบเยอะ (ในส่วนของปริมาณดาวน์โหลด) ไปหน่อยนะครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
อันนี้ไม่รู้เข้าใจตรงกันหรือเปล่าผมอาจจะพิมพ์งงไปหน่อย คือ steam จะหัก % น้อยลงตามยอดขาย เช่น ปกติหัก 30% ขายได้เกิน $10m ส่วนที่หักไปจะเหลือ 25% แล้วถ้าขายได้เกิน $50m ส่วนที่หักจะเหลือ 20%
Steam ปรับเงื่อนไขส่วนแบ่งกับนักพัฒนาเกมใหม่ ถ้าเกมทำเงิน จะหักส่วนแบ่งน้อยลง
เข้าใจถูกต้องครับ ผมเข้าใจแบบนั้นครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ลดเหลือ 12% แล้วปิด epic store เลยครับ
เพราะกำไรเท่ากัน ไม่จำเป็นต้องมี epic store แล้ว ตามนี้ผมว่า mi lord GebeN น่าจะ ok นะครับ win-win กันทุกคน
คือ Epic Store ต้องเข้าใจก่อนว่าที่ตัวเองโดนด่ามาจากสองส่วน
1. ขโมยเกมที่มี Backer ไปหน้าด้านๆแล้วไปลง Exclusive ตัวเอง 1 ปีเพื่อดึงให้คน "จำใจ" ต้องมาใช้ Platform ตัวเองลงเกม ซึ่งถ้าเป็นเกมพัฒนาเองขาย Exclusive ก็ไม่มีใครว่า
2. การไปยุ่มย่ามกับ Local File ของ Steam โดยใจวิธีการจากข้อ 1 มาเป็นเครื่องมือ
คือ Epic จะดีมากถ้าไม่มีข้อหนึ่ง ส่วนข้อสองนี่คือน่าเกียจมาก ไม่ควรจะทำอย่างแรง ยิ่งยุคนี้เขารณรงค์เรื่อง Privacy กันแทบเป็นแทบตายอยู่แล้ว ยิ่งออกมาพูดแบบนี้ยิ่งหน้าเกียจเข้าไปใหญ่
ตอนแรกกะจะไปสอย World War Z มาเล่นนะแต่แบบนี้คงไม่อุดหนุนไปจนกว่าจะนิสัยดีกว่านี้
+1
ซึ่งแปลว่า ณ ตอนนี้ Epic ก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร ก็เลยยังคงออกมาให้สัมภาษณ์ตามข่าวนี้
"เขาประเมินว่าเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว Epic จะได้กำไรประมาณ 5% จากราคาเกม"
แล้วค่าใช้จ่ายเค้าเท่าเอ็งหรอ?
ทางนั้นมีภาระ cloud save เอย ฟีเจอร์อื่นๆ เอย เป็นค่าใช้จ่ายที่ epic ไม่มีนะ
นี่ CEO? ทำไมคำพูดคำจาประหนึ่งเด็กขี้แพ้แบบนี้ละครับเนี่ย!?
ก็ถ้าไม่ใช่ ceo คนนี้ epic คงไม่เป็นแบบนี้ 555
ผมงง Steam เก็บเท่าเดิม Epic ขายถูกกว่าทำไมคนไม่เข้าร้าน Epic ?
แล้วการที่จะให้ Steam ลดราคาลงมาเท่ากับ Epic(เก็บกำไรน้อยลง)มันส่งผลดีกับ Epic ตรงไหนหว่า?
แล้วมันเป็นผลดีกับคนผลิตเกมขายตรงไหนหว่า??
ที่งงกว่านั้นคือ Steam มันผูกขาดตรงไหนในเมื่อไม่ได้มีดีลแบบเดียวกับที่ค่ายผลไม้ทำคือห้ามขายที่อื่นถูกกว่า? และไม่ได้ห้ามเจ้าอื่นขายแข่ง?
ผมรู้สึกเหมือนรวมหัวกับค่ายเกมบีบสตีมให้ยอม
แต่เขาไม่เล่นด้วย เลยงอแง