Walter Huang วิศวกรของ Apple เสียชีวิตบนรถ Tesla X ขณะที่รถทำงานด้วยโหมด "Autopilot" (ข่าว, รายงานเบื้องต้นของ NTSB) ยื่นฟ้อง Tesla โดยระบุว่าบริษัทประมาทที่ทดสอบซอฟต์แวร์ที่มีความน่าเชื่อถือระดับ "เบต้า" บนรถที่มีผู้โดยสารจริง และโฆษณาเกินจริงทำให้คนเข้าใจว่าระบบของ Tesla ปลอดภัยกว่าคนขับ ทำให้ครอบครัวควรได้เงินชดเชย
Mark Fong ทนายของครอบครัว Huang ระบุว่า "ระบบ [ของ Tesla] ไม่ปลอดภัย, ไม่ควรใช้งานบนถนนสาธารณะ, และไม่ควรถูกโฆษณาว่าเป็น Autopilot" ในคำฟ้องยังระบุว่าแม้จะมีระบบอัตโนมัติ แต่ Tesla X กลับไม่มีระบบชะลอความเร็วเมื่อเข้าใกล้วัตถุด้านหน้า ขณะที่รถหลายรุ่นในท้องตลาดมี
Tesla เพิ่งประกาศเปิดตัวระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ (full self-driving - FSD) พร้อมกับประกาศวิสัยทัศน์ว่าจะเปิดบริการแท็กซี่ไร้คนขับภายในปีหน้า
ที่มา - South China Morning Post
ภาพที่เกิดเหตุเมื่อรถ Tesla X ของ Huang ชน จากรายงานของ NTSB
Comments
ระบบมันพึ่งใหม่เป็นไปได้ยากที่จะไม่มีปัญหา พอรถชนหลักฐานที่เป็นฮากแวก็ถูกเผาหรือแรงกระแทกจนไม่สามารถพิสูจได้ ส่วนโปรแกรมที่ติดต่อกับฮาดแวยากมากที่ขะพิสูจปัญหานอกจากจะเป็นเหตการเกิดขึ้นบ่อย
เหมือนเคยจำได้ว่ามีข่าวคนรีวิวรถ ขับอัตโนมัตโดยไม่มองทางไปชนรถบันทุกขนาดใหญ่ผลน่าจะไม่ต่างกัน
ข่าวนี้ใน Gizmodo ละเอียดกว่านี้ครับตัว hardware ยังอยู่แล้วก่อนเกิดอุบัติเหตุตัวรถได้เตือนคนขับด้วยเสียงและขึ้นเตือนที่หน้าจอหลายครั้งแล้วก็ตัวรถไม่พบว่ามีมืออยู่ที่พวงมาลัยเป็นเวลา 6 วินาทีก่อนเกิดเหตุ
https://gizmodo.com/tesla-autopilot-malfunction-caused-crash-that-killed-ap-1834453661
อาจะอนุมานได้ว่า คนขับหลับ หรือ ตั้งใจปล่อยรถ
ถึงเตือนแต่การที่วิ่งชนทางกั้นมันไม่ปรกติของระบบออโต และฮาดแวร์จะอยู่แต่มันไม่มีทางเอามาประกอบแล้วให้กลับมาทำงานได้เหมือนเดิมถึงมันจะคล้ายเหมือนเดิมแต่แรงกระแทกที่เกิดผู้ผลิตก็อ้างได้ว่าฮาดแวร์ที่เหลืออยู่แล้วทำงานผิดพลาดเกิดหลังการชนหรือก่อน
ข่าวก่อนหน้านี้มีการเอาเข้าศูนแต่ตรวจไม่พบสิ่งปรกติดังนั้นขนาดวิธิทดสอบที่เทศล่ามีอยู่ยังไม่เจอมันก็ยากไปอีกที่จะพิสูจน์ด้วยตัวครอบครัวผู้เสียหาย
ระบบที่ซับซ้อนมากเป็นเรื่องยากที่จะไม่มีปัญหา เหมือนแพชเกมส์หรือโปรแกรมที่มีการอัพเดทเรื่อยๆ ในความคิดส่วนตัวผมก็มองว่ามันก็ไม่ต่างกันแถมยากกว่าที่ปัญหาอาจเกิดขึ้นไม่เพียงโปรแกรมแต่ตัวเซ็นเซอและอุปกรณ์ต่างๆด้วย
ไม่แปลกที่คุณจะไม่ทราบว่า autopilot ในทางเทคนิคนั้นมีหลายระดับ และเป็นสิ่งที่คนใช้รถแบบนี้ต้องรู้
ในคู่มือก็จะมีคำเตือน คำอธิบายว่ามันอัตโนมัติในระดับใด ต้องมีคนตับพวงมาลัยตลอดหรือไม่ หรือต้องใช้คนช่วยตัดสินใจระดับไหน
แต่วิศวกรของ Apple ไม่รู้นี่ผมว่าเป็นไปได้ยากครับ
ถ้าอ่านท้ายข่าว คุณจะเห็นว่า Tesla เพิ่งมีระบบ full-self driving ซึ่งใช้คนละคำกับคำว่า autopilot
ถ้า full-self driving คือขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มระบบ แสดงว่า autopilot ก่อนหน้าก็ไม่ใช่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ เมื่อรถมีสัญญาณเตือนนาน 6 วินาที คนก็ต้องเข้าควบคุม
ของมันมีข้อบ่งใช้อยู่ครับ
ต้องตับพวงมาลัยด้วยเหรอครับ... ดูไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ?
ไม่เคย in car เหรอครับ .... แถ
ไม่เคยเลยครับ ใสๆ .... กระจกน่ะครับ
ถ้าอยากอ่าน timeline ในรายงานของ NTSB มีบอกทุกวินาทีเลยครับ (ข่าวเก่ามีลิงก์ไว้ในข่าวด้านบน)
3 วินาทีสุดท้ายก่อนชน รถเร่งความเร็วขึ้นเรื่องๆ เองจนถึง 70.8 ไมล์ต่อชั่วโมง
lewcpe.com, @wasonliw
ผมคิดว่า ผู้ใช้ถ้าอ่านรายละเอียดของระบบดีๆแล้วจะรู้ว่าระบบไม่ได้สมบูรณแบบคำที่ใช้ มันใช้คำผิด ใช้คำที่ชวนให้เข้าใจผิด และนี่ก็อาจเป็นช่องให้ฟ้องกลับได้
+1
คิดว่าระบบที่ชื่อว่า "Autopilot" นั้น ทางเทสล่าน่าจะผิด เพราะมันไม่ถึงระดับ 5 เป็นแต่ระบบช่วยขับ ระดับ 2-3 เอง
แต่เรื่องฟีเจอร์เตือนการใช้งาน เตือนการจับพวงมาลัยก็เห็นได้ชัดว่า มันไม่ได้ตั้งใจให้เป็นระบบ hand-free
ก็ต้องลุ้นกันว่าจะฟ้องกันออกมาระดับไหน
เครื่องบินก็เรียก Autopilot มันก็ลงจอดเองไม่ได้นะคับ
ขนาดผมยังรู้เลยว่า Autopilot ของ tesla มันขับเองไม่ได้จริง แต่คนเป็น วิศวกรของ Apple ไม่รู้
เว็บบล็อกนันเรามีคุยเรื่องระดับของความอัตโนมัติ แต่สมาชิกหลายคนที่อยู่มานานระดับ 3 - 4 ปีที่ไม่รู้เรื่องนี้ก็ยังมีครับ
สมาชิกหลายคนยังคงดึงดันว่า autopilot = รถขับเองได้สมบูรณ์แบบ
ในทางกฎหมายข้อนึงยังมีระบุด้วยว่า ในรถยนต์อัตโนมัติต้องมีคนพร้อมจะบังคับรถในทุกช่วงเวลา
สมาชิกเว็บไม่รู้ไม่น่าจะเป็นไรคับ
แต่คนที่ซื้อเป็นถึงวิศวกร บ.ดัง แล้วยังไม่รู้(แล้วซื้อมาใช้) ผมว่ามันค่อนข้างแปลกมากคับ
คนในบล็อกนันก็เป็นระดับวิศวกรกันหลายคนครับ หมอก็มีดอกเตอร์ก็มี พวกนี้เป็นความรู้ที่ต้องอ่านถึงจะรู้ ไม่ใช่ความรู้ที่เจอในชีวิตประจำวันหรอกครับ
ถ้าไม่รู้นี่ผมว่าไม่แปลกไม่ว่าจะเป็นคนระดับไหนก็ตาม
แต่มีจุดนึงที่ผมมองว่าแก้ปัญหานี้ได้ คืออ่านคู่มือครับ ไม่ใช่แค่รถหรอก ทุกอย่างเลย
คนในนี้ไม่รู้ไม่แปลก แต่คนขับต้องรู้เพราะก่อนใช้งานระบบนี้จะมีคำเตือนแล้วก็ข้อตกลงในการใช้งานให้กดยอมรับก่อนถึงใช้ได้
ผมว่าทุกๆคนรู้นั่นล่ะครับ และผมคิดว่าผู้เคราะห์ร้ายท่านนี้ก็รู้แน่ๆ แต่เมื่อใช้งานบ่อยๆจะเกิดการปล่อยปะละเลยจนทำให้เกิดเหตุสลดแบบนี้ได้ และในแง่ของกฏหมายก็ว่าไปตามช่องทางของมันครับ
ก็เหมือนบุหรี่รู้ว่าอันตราย ตายเพราะมันแต่ฟ้องได้ แปลกหรือเปล่าละ?