หัวเว่ยแสดงความจริงจังกับ Hongmeng OS มาแล้วระยะหนึ่งด้วยการจดเครื่องหมายการค้าไว้ตั้งแต่ปี 2018 ตอนนี้ Richard Yu ซีอีโอฝั่งโทรศัพท์มือถือก็เริ่มกำหนดระยะเวลาทำตลาดว่าจะเริ่มขายโทรศัพท์ที่ใช้ Hongmeng OS ในจีนภายในปีนี้ ก่อนจะเริ่มทำตลาดนอกจีนปีหน้า
Alaa Elshimy ผู้อำนวยการหัวเว่ยภูมิภาคตะวันออกกลางยังยืนยันว่าบริษัทเตรียมพร้อมต่อเหตุการณ์เช่นนี้ไว้แล้ว โดยยืนยันว่าแอปทุกตัวบนแอนดรอยด์จะสามารถทำงานบน Hongmeng OS ได้ เพียงแค่เปลี่ยนหน้าร้านเป็น Huawei AppGallery เท่านั้น นอกจากนี้
ไม่แน่ชัดว่าหัวเว่ยจะทำให้แอปเท่ากันสมบูรณ์ได้อย่างไร โดยทุกวันนี้กูเกิลควบคุมส่วนของ Google Play Services ที่มี API สำคัญหลายตัวที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแอนดรอยด์เอง แม้จะสามารถใช้ระบบปฎิบัติการพื้นฐานได้แต่หากต้องการให้แอปทำงานได้ทั้งหมดก็ต้องสร้าง API เหล่านี้ขึ้นมาใหม่
Elshimy ยังระบุว่าหัวเว่ยเตรียมพร้อมไว้ทุกด้าน เช่น สินค้ากลุ่มสตอเรจที่ทุกบริษัทใช้ชิป Qualcomm มีเพียงหัวเว่ยเท่านั้นที่ใช้ชิปของตัวเอง และหลังจากนี้บริษัทจะออกชิป ARM มาแทนชิปอินเทลที่หยุดขายให้บริษัท และพัฒนาซอฟต์แวร์ฐานข้อมูลมาแทนออราเคิล
ที่มา - TechRadar
ภาพจาก Huawei
Comments
เยี่ยม ยืนปรบมือให้เลย
เป็นกำลังใจให้ครับ
เริ่มต้นการเดินทางใหม่ในเส้นทางที่มีผู้นำก็แค่ทำให้เหมือนเนียนๆ
เริ่มต้นจาก “ในประเทศจีน” นี่น่าสนใจ
เพราะภายในจีน ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับ google service อยู่แล้ว
OS เบื้องหลังจะเป็นอะไรก็ช่าง ถ้า UI เหมือนเดิม ฟีเจอร์เท่าเดิม ผู้ใช้ในจีนจะแทบไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง ถ้าไปถึงจุดนั้นได้จริง Android ก็หมดความหมาย “ในจีน” ไปเลย
ถ้ายึดจีนได้ ต่อไปก็จะลามออกมาข้างนอก อาจจะเป็นการสะดุด ล้ม เดินช้าลง อาจจะยากจนดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่ในอนาคต ก็จะมาเป็นคู่แข่งรายใหม่แน่ๆ ถ้ายังปล่อยให้เป็นอย่างนี้
นึกไปนึกมา ผมว่าการแซงชั่น มันไม่ได้มีแต่ข้อดี เพราะถ้าบีบจนอีกฝ่ายพังไปเลยก็แล้วไป แต่ถ้ากลายเป็นบีบจนอีกฝ่ายพึ่งตัวเองได้ การแซงชั่นก็หมดความหมาย สู้เลี้ยงไข้ไปเรื่อยๆ เหยียบปล่อย เหยียบปล่อย ไม่ให้ Hongmeng เกิด อาจจะดีกว่า
"ถ้ายึดจีนได้ ต่อไปก็จะลามออกมาข้างนอก" อันนี้ต้องดูยาวๆแต่คิดว่ายากส์
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
ตลาดนอกจีน ยากครับ เปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่น ง่ายกว่า
ตลาดนอกจีน ถามว่าทุกวันนี้เราใช้ service จีนอะไรข้าวนอกจากเกม ยังไม่เข็ดกับ Baidu อีกเหรอครับ
ตลาดในจีนมันไม่มี Google Service หรือบริการวั่งตะวันตกมาเป็นสิบปีแล้ว
I need healing.
ถ้าใส่บริการให้ครบเช่น
youku แทน youtube
Baidu search แทน Google search
(ตรงนี้อาจเกิด Baidu assistant ก็ได้ใครจะรู้)
Map รู้สึกจะมี Map ของ Baidu อยู่แล้ว
แต่ข้อมูลนอกประเทศจีนน่าจะง่อย
ฯลฯ
แต่ถ้าจำลอง google service เพื่อให้แอปอื่นทำงานได้
เวลาขายนอกประเทศจีนน่าจะโดน US/Google ตามราวีเรื่องลิขสิทธิ google service
สรุปคือ ระยะสั้น US ทำหมันให้หัวเหว่ยอยู่แต่ในบ้านสำเร็จ!!
แทนที่จะใช้คำว่าลามออกมาข้างนอก ผมใช้คำว่าข้างนอกลามเข้าไปดีกว่าครับ
ถ้ามันครองตลาดจีนได้ ยังไงบริษัทที่ต้องการเข้าไปตีตลาดจีน (ซึ่งเป็นตลาดใหญ่และน่าเข้าไปมาก) ก็ต้องซัพพอร์ทครับ เมื่อถึงเวลานั้นจากเดิมที่โปรแกรมต่างๆรองรับแค่ Windows Anroid iOS macOS Linux มันก็จะมี OS ของจีนเพิ่มขึ้นอีกอันกลายเป็นอีกหนึ่ง OS คู่แข่งครับ (และเมื่อถึงตอนนั้น จะดันออกไปก็ไม่ยากมากครับ)
ถ้าให้เปรียบกรณีคล้ายๆกันก็คงจะเป็น AliPay ที่หลายๆที่เริ่มซัพพอร์ตเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีนกันนั่นแหละครับ
ถ้าพูดถึงด้านตลาด Software cมีคนพยายามเข้าไปอยู่ตลอดแหละครับ เป็นสิบๆ ปีแล้วแต่ก็เป็นแบบล้มลุกคลุกคลานอย่างที่เห็น ส่วนเรื่อง alipay อันนั้นผมว่ามันคือ product แค่ product หนึ่ง ซึ่งลักษณะต่างจาก OS หรือ Platform ซึ่งระดับความยากมันเป็นคนละเรื่อง
แต่ถ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่า สามารถใช้งานแอพแอนดรอยด์ได้ง่ายโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้สึกถึงความแตกต่างจากเดิมได้ เช่นการใช้งานแอพพื้นฐานโดยเฉพาะแอพธนาคาร สามารถให้ประสบการณ์ตั้งแต่ติดตั้งไปจนถึงใช้งานได้ไม่ต่างจากเดิม ผมว่านี่แหละถึงจะสามารถบอกได้ว่า OS ใหม่พอจะดูมีความหวังขึ้นมาบ้างแล้ว แต่เท่าที่นึกออกอุปสรรคน่าจะค่อนข้างมาก เอาแค่เรื่องสแกนนิ้วตอนนี้ก็ยังลำบากเลย
รูปการณ์ที่ผมเห็นคือ
คนทำ app ถ้าทำขายทั้งโลก ยังไงก็ต้องทำ app แบบ google base ก่อน
พอเจาะตลาดจีน ถึงค่อยทำ app แบบ hongmeng base.
แล้วจีนแบน app ไว้เยอะ จะทำให้ไม่มี app ที่นิยมมากๆในต่างประเทศแต่จีนแบน บน hongmeng base
ก็กลายเป็นเวลาเอา os hongmeng ไปขายต่างประเทศก็จะขายไม่ออก
ถึงไม่มีแอป YouTube Google Gmail มันก็ยังใช้งานผ่านเบราว์เซอร์ได้ป่าวว้าาาหรืออาจจะใช้ผ่านแอปพวก Third-party แค่ประสบการณ์การใช้งานไม่ดีเท่าของ original ไม่ใช่ว่าถูกปิดการเข้าถึง Google ทุกช่องทาง
จากที่ใช้มา ประสบการณ์ถือว่า "แย่"
ไม่ใกล้เคียงคำว่า "พอใช้"
ถ้าเคยใช้ OGYoutube คุณจะอยากลบ Youtube ออกจากเครื่องไปเลย
เสียดายมันลบไม่ได้ Gmail ก็เช่นกัน หาอะไรไม่เคยจะเจอ
การพึ่งพาตัวเองได้ ดีที่สุดแล้ว เป็นกำลังใจให้ครับ
WE ARE THE 99%
ต่อไป ทั่วโลกจะลดการใช้งานเทคโนโลยีจาก USA สิ่งที่ ทรัมทำคือดีมากๆ
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
เอาจริงๆก็คือ OS เดิมแค่เปลี่ยนชื่อหรือเปล่า
คนไทยแค่เปลี่ยนยี่ห้อ android มีอีกเพียบ ของจีนก็มี
สหรัฐกะจีนตีกัน ทำไมคนไทยต้องไปเลือกข้าง แค่กีฬาสีทะเลาะกันในบ้านก็น่าเบื่อพออยู่แล้ว
การที่ "สหรัฐกะจีนตีกัน ทำไมคนไทยต้องไปเลือกข้าง" ไม่ยากครับ
คนเรามีสิทธิ์เลือกคนที่เราชอบ และตามสถานการณ์ทั่วโลกครับ
จริงๆ ถ้าไม่แคบมาก และมองให้กว้างไปอีกนิด ผลกระทบมันก็ตีกลับมาหาเราอยู่ดี
ทำได้แน่นอน ผมสังเกตุตั้งแต่ ทีวี กล่องรับดาวเทียม เครื่องปรับอากาศ เป็นผู้นำเกือบทั้งหมดของโลก ส่วน application นี่คิดว่าหายห่วงเพราะในจีนไม่ต้องการ google servics อยู่แล้ว ออกนอกประเทศใช้ราตาเป็นตัวตั้งยังไงคนก็ชอบอยู่แล้ว ตลาดโลกไม่ได้มีแค่อเมริกาหรือยุโรปยังมีรัสเซีย อินเดีย ปากีสถาน ส่วน arm นี่ไม่น่ายากเพราะพิมพ์เขียวก็มีแล้ว ปรับปรุงอีกนิดหน่อย ซื้อตัวทีมงานมาอาจจะแพงหน่อยแต่คุ้มแน่นอน เพราะไม่ต้องเสียเวลาเริ่มใหม่ รอบนี้หัวเหว่ยทำการบ้านมาดี ไม่เกินสามปีคงเห็นอะไรเปลี่ยนแปลงมากมายแน่นอน อยากให้ฝั่งเอเซียเป็นผู้นำบ้าง ในอดีตเทคโนโลยีไปอยู้ฝั่งอเมริกากับยุโรป
ไม่รู้เราโดนฟตั้งแต่เมื่อไหร่
ก็หวังว่าจะไม่ใช่เอามาเปลี่ยนชื่อเฉยๆ นะครับ เอาสัก Nokia X ก็ยังดี
I need healing.
จะทำ os มาแข่งกะ windows ด้วยเปล่า
ยากครับ ถ้าเป็นระดับ Open Source ธรรมดาอย่าง Linux ทั่วไปยังพอไหว แต่จะเอาให้ถึงกับระดับ Windows หรือ Mac เนี่ย ยิ่งกว่าฝันอีกครับ ประสบการณ์ พื้นฐาน การวิจัยต่าง ๆ มันห่างกันเยอะจนเทียบยาก เหมือนเด็กพึ่งหัดเดินจะกระโดดไปทะเลาะกับศาสตราจารย์ยังไงยังงั้นเลย
+1
Windows เปิดตัวปี 2528 (wiki) แสดงว่าพัฒนาถึงตอนนี้ 34 ปี ผมว่าต่อให้ทุ่มคนมาทำแข่งก็ไม่ต่ำกว่า 10 ปี เดาเอา
ไม่น่าทำจาก 0 นะครับ Linux มีหลายตัว น่าจะเอามาต่อยอดได้อยู่นะครับ
แบบนั้นพอได้อยู่ครับ
Chromium OS ...
Chromebooks ที่ opensource
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
โดนรุมบีบกันขนาดนี้ การไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลยก็แทบจะตายทันที ถ้ามีเตรียมพร้อมบ้างอย่างน้อยมันจะก็ช่วยยื้อชีวิตไปได้ ถ้ามันไปได้ดีก็เปรียบเสมือนได้ชีวิตใหม่
สรุปก็คือ base จาก Android แอปฯแอนดรอยสามารลงได้ ไม่ว่าจะเป็นแบบ apk หรือ store ของหัวเว่ย แบบนี้ก็ไปต่อได้อยู่นะ
Going to "Post knowledge base" Era ต่อไปชาติเล็กๆก็จะรวมตัวกันแชร์ความรู้ความสามารถเพื่อทำระบบเช่นเดียวกันครับ ดูจากพลวัตร Eu น่าจะเกิดในเร็ววัน และ น่าจะไม่รังเกียจให้ทวีปอื่นร่วมด้วย และเป็น ขนาด ระดับเกินเลยกว่า เอกชนข้ามชาติ เข้าสู่ยุคแบ่งปันเพื่อได้เพิ่ม แทนที่แบ่งปันเพื่อเข้าถึง *** ฝันกลางวันเล็กๆ รุ่นลูกอาจได้เห็นอยู่
ใครงงลองนึงถึง mod บางตัวที่ dev ร่วมกันมั่วและเยอะมาก
ไม่เอาไม่พูดถึง nexus mod นะ
คนตะวันออกกลางนั้น เรียนเยอรมันด้านโปรแกรมเมอร์มีจำนวนมากพอควร ดังนั้น หากจีนและแถบนี้ร่วมมือกัน ก็ง่ายมากๆ
พูดง่ายแต่ทำยาก นอกจากลอกกันตรงๆ อย่าง Oracle นี่ถ้าใครเคยใช้แล้วจะไม่มองเจ้าอื่นนอกจากงบจำกัด มีคนพยายามทำตัวมาทดแทนหลายเจ้า แต่ performance ห่างชั้นจริงๆ
cpu อีก บอกจะออก ARM มาแทน intel !?!!?!
ในจีนไม่น่ามีปัญหา รอดูตอนขายทั่วโลกจะเป็นไง
ถ้า Huawei คิดเองทำเองใช้เองคนเดียว ผมว่า Hongmeng OS ไม่รอดครับ แต่ถ้ารัฐบาลจีนออกกฏแนวๆว่าในจีนต้องใช้ Hongmeng OS กันทุกยี่ห้อ แล้วบีบ OS อื่นให้ทำตลาดยากยิ่งขึ้นล่ะก็ อันนี้รอดแน่ๆ แต่ตลาดนอกประเทศจะเชื่อใจ Hongmeng OS กันหรือเปล่าน่ะสิ
รอดู รอทดสอบ
Hongmeng OS นี่ใส้ในเป็น Android เปล่าเนี่ย ฮ่าๆ แต่ถ้าขายคนนอกประเทศด้วยเนี่ย จะไม่มองว่าสอดแนมยิ่งกว่าเดิมหรอ OS ของตัวเองเน้นๆ เลย ไม่ใช่ Android จากกูเกิล
ส่วนทำ ARM แทน Intel อยากเห็นตัวเป็นๆ ตลาด Server ไปไหวจริงหรอเนี่ย
กล้าพนันเลยว่าใช้ AOSP ต่อยอดแน่
ผมสงสัยว่าเดี๋ยวนี้ใช้ AOSP แล้วมาลง GApp นี่มันใช้งานไม่โอเครรึ เหมือนพวก CynogenOS (LinageOS) ก่อนหน้านี้(ผมเคยใช้นานแหละ)มันก็ทำงานได้ปกตินี่นา
ปล.Google Map สำคัญกับผมมากเลย
สำหรับลูกค้าทั่วไป เปิดเครื่องมา ใช้ YouTube, Google Maps, Google Mail ไม่ได้
ต้องหา GApp installer มาติดตั้งเอง (ยังไม่นับว่าแหล่งที่ได้ น่าเชื่อถือรึเปล่า ปลอดภัยจากของแถมหรือไม่) ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าประทับเท่าไรครับ
ถ้าเป็นคนที่ลง custom ROM บ่อยคงไม่มีปัญหาอะไรมากหรอกครับ เพียงแต่ผู้ใช้ทั่วไป การที่ต้องมาลง GApps เพิ่ม มันเป็นอะไรที่ยุ่งยาก เมื่อเทียบกับเครื่องที่ pre-load มาให้เลยครับ
ระดับ Global ไม่น่ารอด
คำถามใหญ่ที่สำคัญที่สุดคือ "ทำไมเราถึงควรย้ายจาก iOS หรือ Android?" หรือก็คือเรื่องของ Migration
ซึ่งในคำถามนั้นน่าจะเต็มไปด้วยคำถามย่อยๆ เช่น:
End-user Migration:
- ใช้ mobile banking app ได้มั้ย
- จะดูงานบน google drive หรือ dropbox จะทำยังไง?
- เล่น facebook, line, twitter ยังไง หรือต้องทิ้งทั้งหมดแล้วไปเล่น wechat แทน?
- จะฟังเพลงบน spotify ทำยังไง?
- ดูหนัง netflix ได้มั้ย?
- จะใช้ google maps นำทางยังไง? หรือต้องใช้ baidu map?
- รองรับภาษาสมบูรณ์หรือเปล่า?
- เก็บ user activity หรือเปล่า? ถ้าเก็บเราสามารถควบคุมข้อมูลทั้งหมดได้มั้ย (ดูว่าเก็บอะไรบ้าง และเลือกลบได้ทั้งหมด อารมณ์ประมาณ https://myactivity.google.com/myactivity )
Developer Migration:
- ใช้ภาษา kotlin/java พัฒนาได้มั้ย?
- ทำแอพลง store ยังไง?
- มี tool สำหรับ port แอพจาก android มาเลยได้มั้ย?
- ถ้าใช้ google play service จะ migrate ยังไง มี guide แนะนำ service/library ที่ครอบคลุมได้ทุก use-cases หรือไม่?
Business Migration:
- จะเชื่อได้ยังไงว่าเอามาขายแล้วจะมีคนซื้อ?
- จะขายราคา rate ไหน? เพราะไม่น่าจะขาย rate เดียวกับตอนก่อนโดนยกเลิกสัญญาได้
+65536
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
ครบถ้วนครับ เป็นประเด็นที่ต้องคำนึงถึงมากๆ นอกจากแค่ความสะใจส่วนตัว
+1
+1 แต่กับตลาดในจีน น่าจะจัดการได้ไม่ยาก
..: เรื่อยไป
ถ้า Huawei ทำมือถือให้ Hardware มีสเปคแบบเรือธง + ลง ROM Android ได้ง่ายๆน่าจะดีนะ. คือใครใคร่ใช้ OS อะไร...ก็ใช้ไป
ตอนนี้ถ้าลง ROM เอง จะใช้ Google Services ไม่ได้แล้ว
ไม่เห็นจะต้องไปเดือดร้อนเลือกข้างเลย (ผมเข้าใจแค่คนใช้ Huawei) เพราะยังไงถ้ายังติดอยู๋กับ google service สำหรับคนใช้ก็หงายแล้ว (ถ้าบอกให้ใช้ผ่าน browsers WP, Win 10 mobile ถ้ายอมใช้กันคงไม่ตาย) ที่บอกยืนยันว่าแอปได้ทุกตัวไม่น่าเชื่อสักนิด เราอยู่นอกจีนมีตัวเลือกเสรี (ความคิดเห็นส่วนตัวถ้าเป็นติ่ง Huawei ยังไงก็ย้ายแบรนด์ไม่มีความจำเป็นต้องทำให้ตัวเองลำบากเลย) ขนาดแฟน ms ยังต้องถ่อยกับ WP ได้รุ่นเดียวฮ่า ๆๆๆ
+1
ผมไม่กังวลในจีนเท่าไหร่หรอกครับ แต่ระดับโลกน่าจะยากมาก เพราะถึงจีนเป็นประเทศใหญ่ก็จริง แต่มันก็แค่ Profit ชิ้นใหญ่ในแถบนั้น พุดง่ายๆคือลงทุนเกี่ยวกับจีนทีเดียวสามารถเข้าถึงคนได้เยอะมาก
แต่ถ้าให้เทียบกับระดับโลก Android ได้รับความนิยมกว่าอยู่แล้ว ส่วน iOS ก็มีฐานลูกค้าอยู่แล้ว ยากถ้าจะขึ้นมาเป็นอันดับสามที่กินส่วนแบ่งใกล้กับสองอันแรกได้
อีกอย่างพอออกมาก็มีสิทธิ์ที่จะตรวจสอบว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย ถ้าอะไรไม่ถูกกฏหมายก็โดนปัดห้ามขายได้ง่ายๆ
แถมการที่จีนมีการละเมิดสิทธิ์หลายๆอย่างชัดเจนสุดๆ คือมันสุดระดับว่าเห็นได้โจ่งแจ้ง บอกโต้งๆเลยว่าไม่แคร์สายตามันก็กระทบกับความน่าเชื่อถือทันทีแหละครับ
อีกอย่าง สงสัยว่าทำไม Mi ไม่โดน สงสัยเพราะ Mi ไม่ได้ทำอะไรมากรวมถึงไม่มีใครในบริษัทเอี่ยวรัฐบาลจีนหรือเปล่า
หัวเหว่ยแทบจะยึดตลาดอุปกรณ์โทรคมนาคมโลกไปแล้วครับ เอาแค่สามโอเปอเรเตอร์ในไทยนี่มีหัวเหว่ยใช้กันทุกเจ้า
ยิ่ง 5G มาหัวเหว่ยยิ่งขายได้มากขึ้น โอเปอเรเตอร์ทั่วโลกแม้แต่ในอเมริกาก็เตรียมจะใช้แล้ว ถ้าหัวเหว่ย(หรือรัฐบาลจีน) สอดไส้ระบบจารกรรมข้อมูลไว้นี่คือได้ข้อมูลเกือบทั้งโลก
ซึ่งนี่จะเป็นข้อเท้จจริงหรือแค่ข้ออ้างที่สมเหตุสมผลในการทำสงครามการค้า ต้องรอดูว่าอเมริกาจะแบนบริษัทจีนอื่นๆเพื่มอีกรึเปล่าครับ
ถ้า Huawei ทำให้ Hongmeng เป็นแพลตฟอร์มมาตรฐานได้ และรัฐบาลจีนผลักดัน Hongmeng (ซึ่งไม่ยากเพราะฮั้วกันอยู่แล้ว) ก็เกิดในจีนได้ไม่ยาก แต่ระดับ global นี่จะว่าไง dev เขาไม่ได้อยากได้งานเพิ่มหรอกนะ เพราะต่อให้ทำลง Hongmeng หลายแอปเอาไปขายในจีนไม่ได้เพราะรัฐบาลจีนบล็อกไว้ (โดยเฉพาะแอปยอดฮิตจากโลกเสรีทั้งหลาย) ไม่คุ้มค่าทำโคตร ๆ สู้เชิญชวนให้ไปใช้แบรนด์อื่น ๆ ยังจะง่ายกว่า
บ ที่จ้าง dev อยาก access China market share ไหมละครับ
ผมไม่ได้พูดถึงการทำแอปเข้าตลาดจีนเลยนะ พูดถึงแอปที่จะทำลง Hongmeng แต่ขายระดับ global ล้วน ๆ
หัวเว่ยควรใช้โอกาสนี้ ชวนเพื่อนๆ ที่ผลิตมือถือในจีนทั้งหมดมาใช้ OS เดียวกันไปเลย โดยทำ OS เป็น Public เป็นตัวเลือกใหม่ที่ไม่ต้องพึ่งพา US อีกต่อไป
นึกถึง ตอนโนเกีย เอาดรอย มาทำ os เลย ตอนนั้น มีสโตส์ของตัวเอง ไม่พึ่งกูเกิลเลย
และก็ซี้แหงแก๋ไปตามระเบียบ
แต่ Huawei อาจจะแตกต่างก็ได้ ไม่กล้าพนัน เพราะเป็นบริษัทที่มีอิทธิพลระดับโลก
สุดยอดครับ มังกรคู่สู้ 10 ทิศเลย อินเทลช่วงนี้ก็เริ่มตันๆละแต่ก็ยังรวยมาก โอราเคิลนี่ก็รวยแปลกๆ
ถ้าหาทางโค่นได้นะรวยไม่รู้เรื่อง