เฟซบุ๊กประกาศว่าได้แบนเพจจำนวน 10 เพจ และบัญชีผู้ใช้รวม 12 บัญชีในประเทศไทย ในฐานะที่บัญชีเหล่านี้มีพฤติกรรมร่วมกันในการสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวตน (coordinated inauthentic behavior - CIB) โดยวิจารณ์นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในไทย และ
รายงานของเฟซบุ๊กระบุว่าเพจและบัญชีเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกับวารสาร New Eastern Outlook ที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาลรัสเซีย พร้อมกับระบุว่ามีผู้ติดตามบัญชีทั้งหมดรวมกันประมาณ 38,000 คน และใช้เงินน้อยกว่า 18,000 ดอลลาร์ หรือ 540,000 บาทเพื่อโฆษณา
รายงานของเฟซบุ๊กไม่ได้ระบุว่ามีเพจใดถูกแบนในกรณีนี้บ้าง แต่รายงานจาก Matthew Tostevin นักข่าวสำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่าหนึ่งในบัญชีที่ถูกแบนคือ Tony Cartalucci ที่เขียนลง New Eastern Outlook ผมตรวจสอบดูพบว่าบัญชีทวิตเตอร์ของเขาก็ถูกแบนเช่นกัน โดยรายงานของ Cartalucci ถูกอ้างอิงในสื่อไทยกลุ่มหนึ่งอยู่หลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ที่มา - จดหมายข่าวเฟซบุ๊ก
ภาพโดย Simon
Comments
"เราจึงลบเพจ กลุ่ม และบัญชีผู้ใช้เหล่านี้โดยตัดสินจาก 'พฤติกรรม' ของพวกเขา ไม่ใช่ 'เนื้อหา' ที่พวกเขาโพสต์บนแพลตฟอร์ม"
...
"นอกจากนี้ พวกเขายังแชร์เรื่องราวและความคิดเห็นที่สร้างความแตกแยกเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ เช่น การเมืองไทย ปัญหาด้านภูมิศาสตร์การเมือง เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและจีน การประท้วงในฮ่องกง และการวิพากษ์วิจารณ์นักต่อสู้ด้านประชาธิปไตยในประเทศไทย เป็นต้น"
ยังไงก็ได้แต่ช่วยเหลืออีกสองเพจให้ผมตามข่าวในประเทศจากนอกประเทศหน่อยละกัน
บางเพจมุดไปอ่าน สบายใจกว่าครับ
โธ่ Tony Cartalucci นักวิชาการ (?) คนเดียวที่สลิ่มนับถือเลยนะน่ะ
แล้วโฆษณาเสริมสร้างทางเพศที่เอารูปแรงชัดจัดเต็มมาตัดต่อล่ะครับ
อ้าว Tony Cartalucci ไทยโพสต์เพิ่งอ้างอิงไป 5555
https://www.thaipost.net/main/detail/33728
ตั้งแต่ปี 2558
"เปิดโปง โทนี่ กัวตาลาซี่ ที่สื่อสลิ่มชอบอ้าง เป็นตัวปลอมใช้ประวัติปลอม"
https://pantip.com/topic/34199263
และ ?
เริ่มเห็นวาทกรรม “สลิ่ม” โผล่เข้ามาในเว็บข่าวคุณภาพอย่าง blognone
ถ้าไม่มีการตักเตือนกัน สงสัยเด๋วสักพักต้องมี xxxxแดง ส้มxxx ปลิ่วว่อนแน่เลย
จริงครับ ควรใช้คำว่ากลุ่มผู้มีแนวคิดสนับสนุนเผด็จการแทนคำว่าสลิ่ม
ห๊ะ!
สื่อทุกวันนี้มีเบื้องหลังมีจุดประสงค์แอบแฝงกันมากมาย คนโซเชียลก็หลงไปกับการปั่นกระแสกันหมดโดยไม่รู้ตัวกัน บางทีรู้ว่ามีองค์กรทุนต่างชาติหนุนหลังอยู่ยังเห็นดีเห็นงามด้วยเลย สุดท้ายก็อยู่ที่จิตสำนึกของแต่ละคนกันล่ะครับว่ามีกันมากน้อยแค่ไหน