ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าที่นำมาจำหน่ายในไทยล้วนผลิตจากต่างประเทศทั้งสิ้น (CBU) เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาค่อนข้างสูงเพราะถูกภาษีหลายตัว
อย่างกรณีของ Nissan LEAF รุ่นที่นำเข้ามาจำหน่ายในไทยก็ถูกผลิตที่ญี่ปุ่น ซึ่งไม่เพียงแต่ต้นทุนสูงกว่าหลายๆ รุ่นที่นำรถสันดาปมาใส่เครื่องยนต์ไฟฟ้า เพราะ LEAF ถูกพัฒนาและผลิตขึ้นมาใหม่หมดในฐานะรถยนต์ไฟฟ้า และเมื่อนำเข้ามาต้องผ่านภาษีไม่ว่าจะภาษีขาเข้า, ภาษีสรรพสามิต, ภาษีมหาดไทยและภาษีมูลค่าเพิ่ม มีเพียงสิทธิพิเศษตามกรอบความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระหว่างไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) เท่านั้นที่ช่วยให้ภาษีขาเข้าเหลือเพียง 20% จากที่ต้องเก็บ 80%
ด้วยกำแพงภาษีขนาดนี้ Nissan เลยชี้แจงเรื่องการเข้ามาตั้งโรงงานผลิตในไทยว่า ปัจจัยสำคัญคือดีมานด์หรือความต้องการของตลาดไทยต้องสูงและดึงดูดเพียงพอ จึงจะมีโอกาสที่บริษัทจะพิจารณาในการตั้งโรงงานผลิต
ปัจจุบัน Nissan LEAF ที่วางจำหน่ายในไทยเป็นรุ่น 2.0 ที่เปิดตัวเมื่อปี 2018 แบตเตอรี่ขนาด 40 kWh ราคา 1,990,000 บาท
Comments
สรุปว่าภาครัฐควรจะลดภาษีนำเข้าเพื่อให้รถราคาถูกลง จะได้มี demand มากคุ้มทุนที่จะตั้งโรงงาน
หรือ บ.ญี่ปุ่นควรจะคาดการณ์ demand ในอนาคตแล้วตั้งโรงงานเลย เพื่อจะได้เกิดความได้เปรียบเหนือยี่ห้อคู่แข่ง
ดีแล้วครับ
ผมหวังว่ารถไฟฟ้าไทยอย่างสปา หรือไมด์? จะมีเวลาพอที่จะพัฒนาต่อกรกับรถต่างชาติได้
ห่วงแต่รถจีนจะมายึดตลาดซะหมด
เข้าใจว่าคนไทยไม่เอาของไทย ... คิดว่ารอของจีนก็ดีนะ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ยังคอนเซปต์เดิม "อยากได้หรอ ไม่ขาย"
Coder | Designer | Thinker | Blogger
อารมณ์ Teana (Altima หรือ Maxima นะไม่แน่ใจ) ตัวใหม่สินะครับ เอาตัว minor change อันเก่ามาขายขำๆ
Teana =
SentraAltima ครับEdit: แก้ละครับ อ่านไม่ถี่ถ้วนเอง
Coder | Designer | Thinker | Blogger
Teana = Altima ครับ
Sylphy = Sentra
?
ดีมานด์อะมันมีอยู่แล้ว
เพราะยังไงสักวันมันก็ต้องเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่ยุครถไฟฟ้าอยู่ดี
แต่เอาจริงๆ ผมว่าไม่มาก็ดีเหมือนกัน ช่วงเปลี่ยนถ่ายนี่แหละที่รถยนต์ยี่ห้อไทยจะได้มีโอกาสลืมตาอ้าปากขึ้นมาได้
เรื่องรถไฟฟ้าในไทยนี่ก็น่าสนใจ ทำอย่างไรคนถึงจะนิยมจนดึงบริษัทต่างชาติเข้ามาผลิตในไทย มันเหมือนต่างฝ่ายต่างดูเชิงแล้วรอว่าใครจะเริ่มก่อน ระหว่างภาครัฐและเอกชน อย่างเช่นถ้ารัฐมีนโยบายสนับสนุนการใช้รถไฟฟ้าเต็มที่เช่น ลดภาษีนำเข้า, ผลักดันให้มีสถานีช๊าตไฟที่เพียงพอ เช่น ตามสถานที่ต่างๆ และที่สำคัญต้องมีการสร้างความน่าเชื่อถือว่ารถไฟฟ้าสามารถใช้ในชีวิตประจำวันของคนไทยได้จริง เพื่อให้เกิดกระแสอย่างเช่นรถอีโก้คาร์เมื่อหลายปีก่อน
“เห็นมั้ย รถรุ่นเก่าราคาสองล้านของเราไม่มีคนซื้อ ดีมานด์ไม่สูงจริงๆด้วย”
ผู้บริหารนิสสันคิดในใจพลางเอื้อมมือไปตบไหล่ตัวเองเบาๆ
Nissan ทำตัวเองทั้งนั้น ตอนนี้เจอทั้งจีนและเกาหลีใต้ตีตลาดรถไฟฟ้าจริงจังแล้วตอนนี้ ระวังจะไม่มีที่ยืนนะ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
Note e-Power ละครับ
จริงๆ ไม่มี Supply ก็ไม่มีดีมาน ด้วยนะ คนใช้งานเขาก็ไม่รู้จะต้องการอะไรในเมื่อสิ่งที่เขาต้องการมันไม่ หรือไปหาสิ่งอื่นแทน
ทำไม่ได้ครับ เพราะติด BOI ลดภาษีรถ Ecocar ครับ เว้นแต่ Nissan จะขอยกเลิกแล้วเปลี่ยนเป็นส่วนลดรถไฟฟ้าแทน
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เหมือนว่าจะไม่เกี่ยวกับภาษีอีโคคาร์อะไรนะครับ (ผ่าน BOI แล้วที่จะผลิต e-power)
ที่ติดปัญหาในตอนแรกคือ พยายามจะอ้างว่าตัวe-power คือรถไฟฟ้าประเภท BEV (battery ev) เพื่อจะได้ภาษีสรรพสามติเรทรถEV คือ 2% แต่ BOI บอกว่าเอ็งคือ ไฮบริดประเภทหนึ่ง สุดท้ายยอมรับเรทไฮบริด เสียสรรพสามิตที่ 8% ครับ
แต่ที่ไม่มา มีข่าวลงนสพ.ประมาณว่า เปลี่ยนผู้บริหารพอดี และเทรนด์SUV กำลังมา
เลยจะเปิดตัวE-power ในร่าง SUV แทน กับรุ่น Kick ครับ ไทม์ไลน์เลยเลื่อนไปหมด (ตามสไตล์ สวยเหรอ ไม่ขาย อิอิ)
ปอลิง เพิ่งมีข่าวนิสสันโกบอล ลดพนักงานทั่วโลก 10% เดี๋ยวสักพักคงมีข่าวในไทยครับ แต่ในไทย มิตซูนำร่องมาแล้วนะ มีมาตรการจูงใจให้ออกแล้ว (มิตซูตอนนี้นิสสันถือหุ้นใหญ่)
ขืนคิดแบบนี้มันจะไม่กลายเป็นวงจรอุบาทว์หรอกเรอะ
คนซื้อน้อย -> ไม่นำเข้า -> รถแพง -> คนซื้อน้อย...
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
อ่านในกลุ่มรถ เจอความเห็นแนวๆ ญี่ปุ่นร่วมมือกับอเมริกา กั๊กไม่ให้รถไฟฟ้าเข้าไทยเพราะกลัวคนไทยได้ใช้เทคโนโนโลยี เพราะต้องการเอาเปรียบคนไทยด้วยการขายน้ำมัน
ผมว่าหลายๆ คนก็น่าจะมุ่งไปทางเขียนนิยายขาย อ่านแล้วตับวาย ไตคะนอง สมองพัง
พวกเขาคงคิดว่าประเทศไทยมีพื้นที่ครึ่งหนึ่งของโลกมั้ยครับ 543
ถ้าเขียนพล็อตผู้ใหญ่บางคนไม่ยอมลดภาษีเพราะเด่วกำไรน้ำมันจะหาย น่าจะเป็นพล็อตเขียนนิยายที่สมจริงมากกว่า
บริษัทนี้ที่มีข่าวผลประกอบการไม่ดีกำลังปลดคนล็อตใหญ่นิ
ปล. ข่าวมีอ้างอิงไหมครับว่าใครชี้แจง ชี้แจงตอนไหน ที่ไหน
รอให้ MG เปิดตลาดไปก่อนมั้ง ;P
Nissan : เราจะไม่ผลิตในไทยจนกว่าจะมีดีมานด์
คนแห่ไปซื้อรถจีน
Nissan : :surprisepikachuface:
ผมว่ารัฐอัดเงินให้ปั๊มชาร์จมีทุกๆ 100 กม. น่าจะทำให้ความต้องการเยอะขึ้นนะ
ถามความพร้อมภาคการผลิตไฟฟ้าก่อนดีไหม ตั้งโรงไฟฟ้ายังประท้วงกันอยู่เลย
ใช่ครับ อันนี้สำคัญมาก แล้วก็พวกที่ประท้วงก็เป็นตัวถ่วงของประเทศอย่างใหญ่หลวงเลยจริงๆ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
อ่านแผน PDP หรือยังครับ? หรือว่าแค่คอมเม้นเอามันส์
ทุกวันนี้ กฟผ ผลิตไฟป้อนเข้าสายส่งแค่ 30-40% เอง เพราะลดกำลังการผลิตของตัวเองไปเยอะมาก จนผู้ตรวจการฯบอกว่าขัดรัฐธรรมนูญแล้ว
ถ้าแค่ตัวเองเพิ่มกำลังการผลิตกลับมาให้ได้ระดับเดิมก็ลดการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม (โดย demand เทียม) ไปได้เยอะแล้วครับ
เอ ถ้าผลิตได้แล้วทำไมถึงซื้อจากเอกชนเกือบ 70% ล่ะครับ มันมีเรื่อง economy of scale หรือ return of investment หรืออะไรยังไงครับ ทำไมถึงต้องซื้อ?
ในเมื่อผลิตกฟผ.ได้มากกว่านี้อีก 60%
ระบบส่งมี capacity เหลือ ไม่ได้แปลว่ากำลังผลิตจะเหลือตามนี่ครับ?
ส่วนเรื่องผู้ตรวจการบอกว่าขัดรัฐธรรมนูญนั้นไม่ใช่ผลิตที่ 30-40% ของ capacityนี่ครับ แต่เกี่ยวกับสัดส่วนการผลิตน้อยกว่า 51% ของการผลิตทั้งหมด คือผลิตน้อยกว่าเอกชน
ซึ่งในกรณีนี้ผู้ตรวจการบอกให้รื้อแผนให้มีสัดส่วนมากกว่า 51% ให้ได้ครับ แปลว่าต้องสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มนั่นแหละ
และถ้าตาม PDP กำลังผลิตไฟฟ้าใหม่(รวมกฝผ+เอกชน)ช่วงปี 2561-2568 อยู่ที่ 19,064 เมกะวัตต์ ส่วนกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่ช่วงปี 2561-2580 อยู่ที่ 56,431 เมกะวัตต์ แปลว่าประมาณ 20 ปีต่อไปนี้เราจะต้องสร้างโรงไฟฟ้าอีกเยอะครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
โหลดทางคมนาคมช้ากว่ากำหนด ถ้าเสร็จแล้วคงใช้เยอะพอสมควร แต่ก็สงสัยเรื่องที่บางครั้งบอกไม่เพียงพอ บางครั้งบอกพร้อมสำหรับ Power Grid
เท่าที่รู้หลายๆประเทศในเอเซียเอานโยบายลดภาษีนำเข้าชิ้นส่วนเมื่อมีการตั้งโรงงานรถไฟฟ้ากันหมด (ไม่รู้ว่ารวมสิงคโปร์ไหม)
ดังนั้นถ้าภาษีนำเข้าต่ำความจำเป็นในการตั้งโรงงานประกอบจะลดลง
จริงๆ ก็ไม่รอไม่นานนะครับ ปี 2022-23 ก็คงจะมีรถ EV จากเพื่อนบ้านในอาเซียนมาขายในบ้านเราอยู่แล้ว
ในระหว่างนี้ สถานีชาร์จ น่าจะตั้งครบภูมิภาคในประเทศอยู่แล้ว
ใครจะใช้รถEV ก็ดูแลกันเองในเรื่องที่ชาร์จ คนที่มีบ้านก็ได้เปรียบหน่อย คนที่อยู่คอนโดก็ต้องพึ่งสถานีชาร์จใกล้บ้านเอา อิอิ
https://paultan.org/2019/07/24/indonesia-plans-new-electric-car-production-due-2022/
อนาคตก็คงจะเป็นการแข่งกันระหว่าง EV จากจีน กับ EV จากอินโด