นอกจากโดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ จะชี้ว่าเกมเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดความรุนแรงกราดยิงแล้ว เขายังบอกด้วยว่าโซเชียลมีเดีย ควรจะตรวจจับเบาะแสได้ล่วงหน้าก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง ด้าน บารัก โอบามา อดีต ปธน. บอกว่า ควรมีกฎหมายปืนที่เข้มงวดกว่านี้ และโซเชียลมีเดียควรลดการแพร่กระจายของเนื้อหานิยมความรุนแรง
ทรัมป์บอกว่า โซเชียลมีเดีย ควรพัฒนาเครื่องมือ หรือโซลูชั่นที่จะตรวจจับได้ล่วงหน้าก่อนเกิดเหตุ เขายังบอกด้วยว่าอินเทอร์เน็ตเป็นถนนหนทางที่อันตราย นำไปสู่ความรุนแรงในจิตใจ ทรัมป์ยังบอกด้วยว่าถ้าเอฟบีไอต้องการหลักฐานอะไรเพื่อการสืบสวนเหตุการณ์รุนแรงในครั้งนี้ รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตใจก็ควรได้รับการปรับปรุง
ด้าน โอบามา โพสต์ทวิตเตอร์ บอกว่า การบังคับใช้กฎหมายและอินเทอร์เน็ตจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ดีกว่านี้ เพื่อลดอิทธิพลของความเกลียดชัง และการมีกฎหมายอาวุธปืนที่เคร่งครัดกว่านี้ยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะมันช่วยหยุดการฆ่าได้
— Barack Obama (@BarackObama) August 5, 2019
ด้านผู้ก่อเหตุวัย 21 ปี ได้โพสต์ประกาศจุดยืนของตัวเองบนเว็บบอร์ด 8Chan ก่อนก่อเหตุกราดยิงที่เท็กซัส
ที่มา - CNET
Comments
People suffer from mental illness in every other country on earth; people social media in virtually every other country on earth.
The difference is the guns.
Hillary Clinton does not say.
มันก็จะดูแปลกๆ หน่อย เพราะในโซเชียลมีเดียมีทั้งการต่อต้านความรุนแรง และนิยมความรุนแรง
บางอย่างมันไม่ได้รุนแรงแบบยุยงให้เกิดความรุนแรง แต่มันเป็นตัว build up ที่ทำให้เกิดการสั่งสมไปได้เยอะ
การต่อต้านความรุนแรงหลายๆ ครั้งยังมาในรูปแบบความรุนแรงเลย ซึ่งความรุนแรงไม่ได้มีแค่ด้านร่างกายเท่านั้น การพูด การไม่พูด การแสดงออก และการไม่แสดงออกก็เป็นความรุนแรงได้ และมันนำไปสู่ความรุนแรงทางร่างกายต่อๆ ไป
สิ่งที่ควรแก้คือสภาพสังคมของฝั่งอเมริกามากกว่า เพราะโซเชียลเน็ตเวิร์คมันเป็นตัวเลือกให้คนเสพหรือไม่เสพก็ได้ แล้วคนมันก็เลือกเสพเฉพาะแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการอยู่ดี ถ้าไม่แก้ที่สภาพสังคมตั้งแต่ระบบ ระบอบก็คงแก้ได้ยาก
สถาบันครอบครัวจะดี สภาพสังคมก็ต้องเอื้ออำนวยด้วย สภาพสังคมจะดี ก็ต้องประกอบด้วยระบบ ระบอบ และสถาบันครอบครัวที่ดีหลายๆ ครอบครัวมารวมกัน
เรื่อง social media ควบคุมยาก
เรื่องปืน/อาวุธ ควบคุมง่ายกว่า
สงสัยครับอย่างไทยเนี่ย ถือว่าหาปืนยากมั้ย
ผมลองเซิร์ชดู ขั้นตอนการขอก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ที่ยากคือใบอนุญาตพกพา ซึ่งคนที่มันจะทำผิดมันก็ไม่ได้สนอยู่แล้วว่าห้ามพก (ตัวอย่างเช่น 'งานบุญ' ตามต่างจังหวัด)
โอเค ไทยอาจจะได้อย่างมากคือปืนสั้น ไม่ใช่ไรเฟิลแบบมะกัน แต่ก็ไม่ได้ยากอะไรที่จะหามาครอบครองซักกระบอก?
คือผมมักจะเห็นเราบอกให้มะกันควบคุมปืน แต่ของเราก็ไม่ได้เข้มรึเปล่า
ในไทยนี่ยากกว่าครับ เพราะถ้าจะซื้อปืนในไทยอย่างถูกกฎหมาย คุณต้องมีใบ ป. 4 ก่อน แต่ในรัฐที่เสรีปืนมากๆ ในสหรัฐฯ แทบจะเดินเข้าไปซื้อได้เลย แถมราคาปืนในไทยนี่ราคาสูงมาก ประมาณว่า x4 กับราคาขายในสหรัฐฯ เลยครับ
คือที่ผมเข้าใจ ความยาก (หรือยุ่งยาก) ของการซื้อในไทย มันอยู่ที่ จำนวนขั้นตอนมันเยอะกว่า (ตรวจประวัติ ขอใบ ป.3 ขอใบ ป.4) แต่ความยากในการขอมันไม่ได้สูง (หมายถึงถ้าคุณไปทำเรื่องขอ คุณก็จะได้มา ถ้าไม่ได้มีประวัติ)
สิ่งที่คิดคือ ถ้าคนเหล่านี้ (ที่ก่อเหตุ) มาทำการขอในไทย ก็จะได้ปืนมาครอบครอง (เพราะไม่ได้มีประวัติอาชญากรรม) เหมือนกันรึเปล่า
ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ หรือพวกข้อมูลตามกระทู้มันทำให้ดูง่ายกว่าความเป็นจริง 555
ที่ผมว่ายากกว่าเพราะถ้าทำตามขั้นตอนมันช้า แถมมีโอกาสที่จะไม่ได้เพราะคนออกใบฯ มองว่าไม่มีเหตุผลมากพอที่ต้องมีปืนครับ (แต่ปกติจะได้อยู่แล้วถ้าไม่มีประวัติอาชญากรรม)
ในไทยมันติดตรงราคานะ ตามความรู้สึก
แล้วก็ คนไทยไม่น่าจะมีความรู้สึกว่าปืนเป็นสิ่งจำเป็น
มันน่าจะออกไปทาง ของน่ากลัว + ดูแลยาก ?
ขอยากมากครับ คนทั่วไปส่วนมากต้องฟ้องกันถึงจะได้ ในหลายอำเภอมีการเรียกรับสินบน ถ้าจ่ายก็ง่ายมาก
ถ้าไม่จ่ายต้องฟ้องมท.1 ครับ แล้วพอเข้ากระบวนการ มท.1 ก็จะส่งหนังสือมาหานายอำเภอเขตนั้นๆ ว่าผู้ขอฯ มีคุณสมบัติครบถ้วน มีเหตุอะไรที่ปฏิเสธการออกใบขอซื้อ
ยากครับ กินเวลามากหลายเดือน แต่ถ้าทีวีไปถ่ายทำใช้เวลาทุกกระบวนการแค่ 30 นาที
ถ้าเป็นท่านๆ ก็จะมีเจ้าหน้าที่ไปทำให้ถึงบ้านครับ
ผมสิงในบอร์ดปืนมาหลายปี รวมถึงเคยไปขอด้วยตัวเอง และถูกเรียกรับสินบนสี่พันบาท ผมขอเพื่อไปซื้อไรเฟิล .22 เองครับ พิกัดเล็กสุดเลย และผมประวัติขาวสะอาด มีทรัพย์สินพอควรด้วย (ทางการจะประเมินทรัพย์สินด้วยครับ)
สรุปผ่านมาเกือบสิบปี ผมก็ยังต้องไปเช่าปืนสนามยิงอยู่เลยครับ
อ่านแล้วผมเลยมีอีกคำถามครับ ผมคิดว่าประเทศไทยคนปกติ เจตนาดี จะไม่พกปืน คนที่พกออกที่สาธารณะโดยที่ไม่มีใบอนุญาต เจตนามันส่อ (ยิงกันในงานบุญ, ยิงกันหน้าผับ, ตำรวจไล่ยิง civilian เพราะทะเลาะกัน, ปล้น)
เลยสงสัย ถ้าการซื้อปืนในไทยมันง่ายขึ้น (ไม่ต้องถึงกับเดินเข้าโลตัสแล้วมีขาย) มันจะดีขึ้นหรือแย่ลง
มุมมองผมคือแย่ลงครับ คนไทยไม่ค่อยมีสติ แถมอีโก้สูง
จริงๆผมว่าแค่ ไรเฟิลกับปืนสั้น พลังทำลายล้างก็ต่างนะครับ
จำนวนคนตายมันอาจจะมากกว่า
บ้านเราเด็กช่างยิงกันถี่ๆ ยังตายอย่างมากก็เคสละคน
ว่าแต่เด็กช่างบ้านเราใช้ปืนอะไรยิงกันนะครับ? ปืนพก?
ปืนปากกาไทยประดิษฐ์ครับ
ผมแค่จะบอกว่า ปืนต่างชนิดกัน พลังทำลาย ความเสียหายมันต่างกัน
บ้านเราจะซื้อไรเฟิลสักอันน่าจะยาก
ของอเมริกานี่ กราดยิงกันระดับไรเฟิลขึ้นไปทั้งนั้น
ขนาดบ้านเรายิงกันบ่อยๆ จำนวนผู้เสียหาย แต่ละคดียังไม่เท่าเค้าเลยครับ
usa มีปัญหา AR-15 + Bump Stock ครับ
ดู ... https://www.youtube.com/watch?v=K2IOZ-5Nk5k
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ปัญหาจริงๆ ไม่ได้อยู่ที่อุปกรณ์เสริม แต่มันอยู่ที่การครอบครองปืนโดยไม่มีการประเมินว่าคนๆ นั้นควรครอบครองหรือเปล่า เพราะเค้าใช้แนวคิด "เกลือจิ้มเกลือ" โดยให้คนดีครอบครองปืนเพื่อต่อกรกับคนไม่ดีที่ครอบครองปืนครับ
... ปล่าวครับ
ปัญหาจริงๆคือ สมาคมปืนไรเฟิล (nra) รับเงินจากผู้ผลิตปืน แล้ว จ่ายเงินสนับสนุนพรรคการเมือง กันกตหมายที่เกี่ยวกับการตรวจสอบคุณสมบัตรคนที่จะซื้อปืน ผลคือการซื้อปืนในบางรัฐไม่มีการตรวจสอบใดๆเลย
ส่วนแนวคิด "เกลือจิ้มเกลือ" นั้นก็ออกมาโดย nra บิดเบือนเรื่อง/ขายของ ... ปัญหาคือ คนร้ายก็คือคน คนดีก็คือคน ถ้ายิงกันยังไงก็มีคน เจ็บ ตาย ยิ่งเป็นปืนที่อันตราย (อุปกรณ์เสริม) ก็ยิ่งมีคนตายมาก อย่างปืนปากกาบ้านเรา ตายอย่างมาก 2-3 คน เหตุเกิด 2 ครั้งติดๆกันใน usa ตรงนี้ ตาย 29 คน นะครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
หาปืนมาไว้ในครอบครอง แบบถูกกฏหมาย
คน กทม จะขอได้ง่ายกว่าต่างจังหวัด และขึ้นกับกำลังทรัพย์ด้วย
หาปืนมาไว้ในครอบครอง แบบไม่สนกฏหมาย
หาง่ายมาก ค้น google แป๊บเดียวก้เจอแล้ว
มีทั้งปืนจริงๆ ราคาต่ำกว่าท้องตลาดกว่าครึ่ง ไม่รู้ขายได้ไง
มีทั้งปืนดัดแปลงจาก BB Gun ส่วนใหญ่จะเป็นลูกโม่ มีวิธีทำใน YouTube ด้วย
มีทั้งปืนลูกซองเดี่ยวบรรจุเดี่ยว แบบไทยประดิษฐ์
(ล่าสุด ที่เด็กช่างยิงกันแถวถนนจรัญฯ ผมอยู่ใกล้ๆ เหตุการณ์เลย นั่งรถกะป๊อจะไปทำงาน มันยิงกันที่เลนฝั่งตรงข้าม โคตรเสียว)
Social media นี่แหละเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ความเกลียดชังชั้นดี โดยเฉพาะ Facebook ถ้าใช้งานแบบไม่มีวิจารณญาณแบบปารีณานี่เรียบร้อยเลย
ท่านพูดแบบนี้ ทัมก็ถูกดิครับ โทษแบบนี้มันคล้ายเคสเกมเลยนะครับ ถ้าใช้แบบมีวิจารณญาณไม่ดี
ถ้าโลกนี้ไม่มีเฟสบุค ก็อาจจะมีห้องแชทลับคุยกัน
ถ้าโลกนี้ไม่มีห้องแชทลับคุยกัน ก็อาจจะมีเว็บบอร์ดใต้ดิน
ถ้าโลกนี้ไม่มีเว็บบอร์ดใต้ดิน ไม่มีเน็ตเลย มันก็ยังเคยมีสมาคมลับที่ชุมนุมเรื่องความรุนแรงตามสถานที่ต่างๆ เช่น KKK
ของแบบนี้มันมีทุกยุคทุกสมัย
เราพึ่งพา โซเชียลมีเดียเกินไป เราจึงคาดหวังกับมันจนเกินไป ว่ามันจะต้องช่วยลดปัญหาต่างๆให้เราได้ แต่กลับไม่มองกลับมาที่ปัญหาพื้นฐานสังคมที่ทำให้มันเกิดปัญหา
Toxic ต่างๆในโซเชียลมีเดีย ไม่ได้เกิดขึ้นเองได้แบบเห็ด แต่มันมีคนใส่ไว้และมีคนที่ต้องการเข้าไปเสพมัน มันแค่เป็นหนึ่งในช่องทางเท่านั้น
ไม่ใช่จะบอกว่าปล่อยๆมันไปไม่ต้องทำอะไรเลย ใช่โซเชียลมีเดียเป็นหนทางหนึ่งในการเป็นที่เผยแพร่ Toxic และเป็นหนทางหนึ่งในการเสพจากคนที่ต้องการ ซึ่งเราสามารถคัดกรองเพื่อป้องกันได้ระดับหนึ่ง แต่อย่ากล่าวโทษทุกอย่างไปที่มัน ต้องมองในแง่มุมอื่นๆด้วย
สงครามกลางเมืองของอเมริกานี่เค้าใช้แอพอะไรอ่ะครับ