ตั้งแต่สงครามการค้าที่ลามไปจนถึงการถูกสั่งห้ามบริษัทอเมริกันทำธุรกิจกับ Huawei จนส่งผลให้ Huawei หมดสิทธิใช้ชิป ARM จนเป็นประเด็นว่า Huawei และจีนอาจต้องพัฒนาสถาปัตยกรรมด้านนี้เองและลดการพึ่งพาตะวันตก
Zhou Zhiping ศาสตราจารย์ด้านวงจรไฟฟ้าขนาดเล็กจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งให้สัมภาษณ์ South China Morning Post ระบุว่าจีนต้องใช้เวลาอีกราว 5-10 ปีเพื่อตามสหรัฐให้ทันในด้านการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ ไม่ใช่แค่ในแง่เทคโนโลยีแต่ในแง่ทั้งอีโคซิสเต็มและซัพพลายเชน ตัวอย่างง่าย ๆ ที่ Zhou ยกมาคือจีนเพิ่งผลิตได้ 14 นาโนเมตร ขณะที่สหรัฐหรือไต้หวันทำได้ถึง 7 และ 5 นาโนเมตรไปแล้ว
Zhou เล่าให้ฟังด้วยว่าในช่วงทศวรรษ 70 การพัฒนาด้านนี้ของจีนยังตามหลังตะวันตกไม่มากนัก ขณะที่ช่องว่างเริ่มห่างกันในช่วงทศรรษ 90 ซึ่ง Zhou บอกว่าระหว่างที่เขาทำงานอยู่ที่ Georgia Institute of Technology ในสหรัฐระหว่างปี 1993-2005 และในปี 1996 เขามีโอกาสได้กลับไปที่สถาบันด้านวงจรไฟฟ้าขนาดเล็กของจีน ซึ่งเขาบอกว่าแทบไม่แตกต่างจากในช่วงทศวรรษ 70 มากนัก ขณะที่ในบางมหาลัยกลับแย่กว่าเสียอีก
ที่มา - SCMP
Comments
สาย copy and develop อย่างจีน อย่างเก่งก็แค่ไล่ให้ทัน
ส่วนตัวแล้วผมกลัวกำลังทุนจีน ก็อยากมองอย่างนั้นอยู่นะ แม้จะน่ากังวลแต่ดูสาย AI มีโอกาศจะล้ำหน้ากว่าได้ไม่ยากเย็น สายอื่นๆ ก็คงพอเป็นไปได้
AI พี่แก ใช้ trainกับคนจีนพันล้านคน โดยไม่ต้องขอ consent อะไรเลยไง ประเทศอื่นเลียนแบบยากจริงๆ
ผมว่า A.I. จีนน่ากลัวมากตรงนี้แหล่ะ. ทดลองจริงได้เลย Consentก็ไม่เคยมี
projectไหนทำเพื่อ(หน้าตาของ)ประเทศชาติรัฐก็หนุนหลังเต็มที่
ถ้าคิดว่าจะตาม ยังไงก็ต้องตามไปเรื่อย แต่ถ้าคิดใหม่ ทำใหม่ ในยุคแบบนี้ ก็มีโอกาส จุดแข็งของจีน คือ ข้อมูลจำนวนมากที่ช่วยสอน AI ก็ทำ CPU ที่เน้นประมวลผล AI ซึ่งยังไปได้อีกไกล การแปลงข้อมูลภาพ เป็น Knowledge ยังต้องการการพัฒนาอีกมาก ซึ่งผมว่าทางซอฟต์แวร์จีนก็ทำได้ดีอยู่แล้ว ก็พัฒนา CPU ที่เน้นประมวลผลเรื่องพวกนี้ ดีกว่า
เขาเรียกว่า reverse engineering เพื่อให้ไล่ตามได้ทัน
พอทันแล้วจะต่อยอดก็ค่อยว่ากัน
reverse engineering เนี่ย ไอ้ที่ reverse มานี่ติด patent ก็จบนะครับ
แม้ขายได้ในประเทศตัวเอง แต่ออก ตปท ก็ไม่ได้ก็จบ แล้วถ้าอยากให้ประเทศตัวเองเป็นที่ยอมรับกับคนทั่วโลก ยังไงก็ต้องทำให้ระบบ patent และกระบวนการยุติธรรมด้านกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญานั้นเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทข้ามชาติด้วย
แต่ intel ก็ยังแช่ 14nm อยู่เลยนะ
...
งานวิจัยมีตุนไว้อีกเยอะ
ผลิตได้มา5ปีแล้วนะ
14 nm ของ Intel ดีเทียบเท่า ยี่ห้ออื่นๆ ที่ขนาดเล็กว่า งี้นะครับ ฮ่าๆ
ซื้อมา 100 อุดช่องโหว่เหลือ 60
ดี๊ดี
ฮ่าๆๆ ขำแบบเจ็บๆ
อินเทลก็ 14nm ห้าปีแล้วเช่นกัน :x
5-10 ปี..ไม่ได้ไกลเกิน ดังนั้น อีก10ปี จีนก็นำแล้วสินะ
10 ปีในทางด้านเทคโนโลยีนี่ถือว่าเยอะครับ อย่างไอโฟนตัวแรกก็เพิ่งเปิดตัวเมื่อ 12 ปีที่แล้วนี่เอง และความเป็นจริงก็คือในขณะที่จีนพยายามไล่ตาม บริษัทอื่นๆ เขาก็มุ่งไปข้างหน้าเหมือนกัน ไม่ได้หยุดรอที่เดิม เรื่องนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเร่งสปีดได้มากแค่ไหน
ตามทันแต่เรื่องสิทธิบัตร นี่สิ
หันไปใช้ RISC-V แทนก็ได้ แต่อย่าทำ RISC-V PRC version ออกมาก็พอครับ
อยากเร็วก็ขอไต้หวันสิ ฮา
ตอนนี้เงินเยอะแล้ว ซื้อบริษัทในไต้หวันได้เยอะ
บริษัทในไต้หวันใช้เทคโนโลยีของฝั่งอเมริกา หรือพันกับของอเมริกาอยู่ดีครับ ซื้อมาเค้าก็ห้ามผลิตด้วยเทคโนโลยีนั้น
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
รัฐบาลไต้หวัน ไม่อนุญาติให้ TSMC ขายครับ ถ้าไม่โจรกรรม หรือ เอาทหารมาขู่ ยากครับ
ถ้าซื้อ ซื้อ Samsung Electronics หรือ สิทธิบัตร น่าจะง่ายกว่ามาก
Samsung ก็บริษัทระดับชาติของเกาหลี คิดว่ารัฐบาลเกาหลีเค้าจะยอมไหมหล่ะครับ ><
ซัมซุงก็ไม่ต่างจาก TSMC หรอกครับ
ระดับท๊อปของแชโบล รัฐบาลเกาหลีไม่ยอมให้ขายเช่นกัน
รัสเซียละครับ ใครมีข้อมูลบ้าง
ขอให้มีประสิทธิการทำงานจริงๆ สูงกว่า ในปัจจุบัน ที่เค้าทำมาแล้วก็ พอ ก้าวต่อไปก็ ดูดีขึ้นเสมอ แต่ก็นะ เรื่องนี้ มันไม่ง่าย มันติดเรื่องความร้อน
ในไทยนี่ ถ้าใกล้ต้นน้ำสุดนี่ระดับไหน ?