Reed Hastings ซีอีโอ Netflix ให้สัมภาษณ์ถึงสงครามสตรีมมิ่งที่กำลังจะเริ่มอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ที่ Disney+ จะเปิดให้บริการในวันที่ 12 พฤศจิกายน โดยเขาบอกว่า มันเป็นการเริ่มต้นของสิ่งใหม่, โลกใหม่ที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน มันจะเป็นการแข่งขันที่ยากลำบาก แต่ผู้บริโภคก็จะมีทางเลือกมากขึ้น
นอกจาก Disney+ แล้ว ปี 2020 ก็จะมีสตรีมมิ่งจากบริษัทรายใหญ่เปิดตัวอีกคือ Peacock ของ NBCUniversal, HBO Max, Apple TV+ เป็นต้น
Hastings ยังบอกด้วยว่า Netflix จะเดินหน้ายุทธศาสตร์ทำผลิตภัณฑ์ที่เป็นธุรกิจหลักต่อไปซึ่งก็คือการนำเสนอคอนเทนต์ให้ผู้ชมดูได้อย่างไม่หยุดหย่อน เท่ากับว่า Netflix จะยังไม่เบนเข็มไปยังคอนเทนต์กีฬาสดๆ เหมือนอย่างที่ Amazon Prime Video ทำ
Hastings ยอมรับและเชิงเตือนคู่แข่งว่า ในเมื่อการแข่งขันสูง ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้นทุนการผลิตคอนเทนต์จะสูงขึ้นไปด้วย
Reed Hastings ซีอีโอ Netflix
ภาพจาก Netflix Media Gallery
ที่มา - Variety
Comments
"จะเดินหน้ายุทธศาสตร์ทำฟลิตภัณฑ์" แก้ไขเป็น "จะเดินหน้ายุทธศาสตร์ทำผลิตภัณฑ์"
"Hastings ยอมรับและเชิงเตือนคูาแข่งว่า" แก้ไขเป็น "Hastings ยอมรับและเชิงเตือนคู่แข่งว่า"
ขอบคุณค่ะ
เราสามารถจัดการพวกที่แปล Netflix แย่ๆ ได้ทางไหนบ้างครับ
ใจเยนอีกนิดดดดนะครับ Netflix SG office กำลังหา localization project manager ของ APAC อยู่
เดี๋ยวคงมีคนมารับคำด่าแล้วแหละ 555
แปลแย่สามซีซั่นติดโคตรหงุดหงิด 555
การแข่งขันสูง
ต้นทุนสูง
ค่าสมาชิก...
คือไม่ได้อยากได้หลายเจ้า แต่อยากได้เจ้าเดียวแต่มีอะไรเยอะๆ ไง
The Dream hacker..
มีหลายเจ้าแหละดีครับ แข่งกันทำรายการดีๆ แข่งกันลดค่าบริการรายเดือน. ดีไม่ดีต่อไปอาจจะมีแบบ with ads ก็ได้ ดูฟรีแต่มีโฆษณาตัววิ่งข้างล่างจอตลอดเวลา เปิดจอทิ้งไว้นานๆ ตัดเข้า screen saver ที่เป็นโฆษณา
มีเจ้าเดียว บริการแย่แค่ไหนก็ต้องจำทนนะครับ