Aaron Sorkin ผู้เขียนบทหนังเรื่อง The Social Network ตีแผ่การกำเนิดของเฟซบุ๊กที่ฉายเมื่อปี 2010 เขียนจดหมายถึงมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ลงในหนังสือพิมพ์ The New York Times วิจารณ์ว่าสิ่งที่เฟซบุ๊กทำอยู่ในตอนนี้ ไม่ใช่การรักษาเสรีภาพในการแสดงความเห็น แต่เป็นการพยายามบ่อนทำลายความจริง
อย่างที่ทราบกันว่า เฟซบุ๊กมีนโยบายชัดเจน ไม่แบนโฆษณาจากนักการเมือง แม้มันจะเป็นข้อมูลผิดหรือบิดเบือน เพราะเฟซบุ๊กมองว่าเป็นสิทธิ์ของประชาชนที่จะรู้
Sorkin อ้างถึงโฆษณาการเมืองของ โดนัลด์ ทรัมป์ บนเฟซบุ๊กที่แพร่ข้อมูลเท็จโจมตี Joe Biden อดีตรองประธานาธิบดีในยุคโอบามา และหนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต
โฆษณาชิ้นนี้เป็นวิดีโอสั้น 30 วินาทีของทรัมป์ พูดว่า Biden จะให้เงินกับอัยการของประเทศยูเครนถึงหนึ่งพันล้านดอลลาร์ หากอัยการหยุดการสอบสวนธุรกิจของลูกชาย Biden ในยูเครน ซึ่งเนื้อหาในคลิปยังไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยัน แต่เฟซบุ๊กก็ไม่ยอมลบออก แม้ Biden จะเรียกร้องไปยังเฟซบุ๊กแล้วก็ตาม
Sorkin บอกว่า คลิปของทรัมป์ไม่มีส่วนไหนเป็นความจริง คลิปนี้ปรากฎอยู่ใต้โลโก้เฟซบุ๊ก การที่เฟซบุ๊กยอมให้คลิปนี้เผยแพร่ต่อไป ไม่ใช่การปกป้องเสรีภาพในการแสดงความเห็น แต่เป็นการบ่อนทำลายความจริง (assaulting truth)
Sorkin ยังเล่าถึงช่วงที่สร้างหนังเรื่อง The Social Network ว่ามาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ไม่ชอบหนังเรื่องนี้ และเบื้องหลังคือสตูดิโอ Sony Pictures มีทีมนักกฎหมายที่ทำงานตรวจสอบบทหนังอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ถูกมาร์กฟ้อง แถมทางสตูดิโอยังส่งบทหนังไปให้ทีมกฎหมายของเฟซบุ๊กตรวจก่อน และเมื่อตัดต่อหนังเสร็จในเบื้องต้นแล้ว ก็ฉายให้ Sheryl Sandberg ซีโอโอของเฟซบุ๊กดูก่อนด้วย
ล่าสุด มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก แซะ Sorkin กลับ ผ่านโพสต์เฟซบุ๊ก ยกคำพูดมาจากหนังเรื่อง The American President ที่ Sorkin เป็นผู้เขียนบท คำพูดที่ยกมาเป็นของนักแสดง Michael Douglas ในช่วงท้ายของหนัง ว่าด้วยการปกป้องเสรีภาพในการแสดงความเห็น
คำพูดมีเนื้อหาว่า "คุณต้องการบอกว่าดินแดนนี้ (อเมริกา) เป็นดินแดนแห่งเสรีภาพหรือไม่ ถ้าใช่ สัญลักษณ์ของประเทศก็ไม่ใช่ธงชาติ แต่เป็นสิทธิ์ที่จะเผาธงชาติเพื่อประท้วง พิสูจน์ให้ฉันเห็นก่อนสิ แล้วค่อยบอกว่าดินแดนนี้มีเสรีภาพ"
ซักเคอร์เบิร์ก ทิ้งท้ายข้อความนี้โดยระบุเครดิตคนพูดเป็น Aaron Sorkin
ที่มา - The New York Times, มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก, Business Insider
Comments
Aaron Sorkin เขียนบทเก่งจริง (ผมชอบเขาจากเรื่อง Moneyball) แต่บทหนัง based on true story ที่เขาเขียนก็ไม่ใช่ความจริง 100% เช่นกัน แต่ก็อาจจะอ้างได้ว่าทำเพื่อความบันเทิง เป็นบริบทกับโฆษณาการเมือง
ก็หนังอะครับ ไม่ใช่สารคดี
ความจริงก็คือ คนเรามักชอบโกหก
ไอ้บิดเบือนความจริงนี้มันมีมานานแล้ว หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ แต่ไม่มีที่ให้วิจารณ์ แสดงความเห็น คนเลยไม่ค่อยรู้กันว่ามันโดนบิดเบือน
พอเป็น Social Network มันก็มีการบิดเบือนเหมือนเดิม แต่มันสามารถวิจารณ์ได้อย่างอิสระมากขึ้น ทำให้เรารู้กันมากขึ้นว่ามันโดนบิดเบือน
การยอมเผยแพร่ข้อมูลที่พิสูจน์ไม่ได้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเท็จก็ถือว่าสนับสนุนให้คนเข้าใจไปตามนั้น ถ้าเป็นข้อมูลลักษณะกล่าวหาคนอื่นนี่มันควรต้องฟ้องกลับทั้งคนทำโฆษณาและสื่อไปพร้อมกัน
ปัญหามันอยู่ที่ความจริงของใคร อันนี้ผมยังเห็นด้วยกับมาร์คมากกว่านะ
เรื่องของเรื่องก็คือยิ่งนักการเมืองลงโฆษณาโกหกเยอะ Facebook ยิ่งรับตังค์ ซัดกันไปซัดกันมายิ่งดีรับตังค์เน้นๆ
ขืนไปนั่งตั้งทีมตรวจสอบโฆษณาหรือแบนโฆษณาการเมืองไปเลย มาร์กก็มีแต่เสียรายได้จะทำไปทำไม?