AMD Threadripper รุ่นที่สาม 3970X และ 3960X วางขายแล้ววันนี้ (ตามเวลาสหรัฐ) และเริ่มมีเว็บไซต์หลายแห่งเผยแพร่ผลรีวิวแล้ว
AnandTech นำ Threadripper ทั้งสองตัวคือ 3970X (32 คอร์, 1999 ดอลลาร์) และ 3960X (24 คอร์, 1399 ดอลลาร์) มารันเบนช์มาร์คเทียบกับ Intel Core i9-10980XE (18 คอร์, 979 ดอลลาร์) ซึ่งถือเป็นซีพียูเดสก์ท็อปที่แรงที่สุดของอินเทลในปัจจุบัน และ Xeon W-3175X (28 คอร์, 2999 ดอลลาร์) ซึ่งมีจำนวนคอร์ใกล้เคียงกับ Threadripper มากที่สุด (จะเห็นว่าอินเทลไม่มีซีพียูที่เป็นคู่แข่งตรงๆ ของ Threadripper จะมีแต่ตัวที่ถูกกว่าไปเลย กับตัวที่แพงกว่าไปเลย)
ผลการทดสอบคือ Threadripper รุ่นที่สาม เอาชนะซีพียูฝั่งอินเทลได้ในเบนช์มาร์คแทบทุกตัว มีบ้างที่อินเทลชนะ แต่ก็เป็นการทดสอบที่ต้องใช้ชุดคำสั่ง AVX512 ที่มีเฉพาะฝั่งอินเทล ความน่าสนใจคือในผลการทดสอบบางตัวที่เป็น single-thread ซีพียูฝั่งอินเทลที่ชนะกลับเป็น Core i9-9900KS (8 คอร์) ด้วยซ้ำ ตรงนี้ผลคงแปรผันตามพฤติกรรมของแอปพลิเคชันแต่ละตัวด้วย (รายละเอียดมีเยอะมาก ตามไปอ่านกันเองในต้นฉบับนะครับ)
ในแง่การใช้พลังงาน Threadripper รุ่นที่สาม (ค่า TDP 280 วัตต์) กินไฟมากกว่า Threadripper รุ่นที่สอง (TDP 250 วัตต์) และ Intel Core i9 (165 วัตต์) แต่ยังน้อยกว่า Xeon W-3175X (ค่า TDP 255 วัตต์แต่กินไฟจริงถึง 380 วัตต์)
AnandTech สรุปผลการรีวิว Threadripper ว่า "bloodbath" (เลือดอาบ) เพราะฝั่ง AMD ชนะขาดในแทบทุกการทดสอบ แถมถ้าเป็นเบนช์มาร์คที่ใช้หลายเธร็ด ความห่างยิ่งมากเข้าไปอีก ข้อสรุปคือ Threadripper รุ่นที่สามมีจำนวนคอร์เยอะกว่า ประมวลผลคำสั่งต่อคล็อค (IPC) ได้เยอะกว่า ความถี่สัญญาณนาฬิกาสูงกว่า และหน่วยความจำทำงานได้เร็วกว่า
ข้อจำกัดของ Threadripper รุ่นที่สามคงเป็นเรื่องการใช้พลังงานที่ค่อนข้างเยอะ และราคาที่ยังถือว่าค่อนข้างแพง ราคาไทยของ Threadripper 3960X คือ 49,990 บาท และ 3970X คือ 69,990 บาท
AMD ยังมีอาวุธหนักอีกตัวคือ Threadipper 3990X จำนวน 64 คอร์ ที่จะเปิดตัวช่วงคืนวันนี้
ที่มา - AnandTech, AnandTech (3990X)
Comments
Intel นี้มีตัวเย็น
ผมรอ 10th gen i5 10500 (ชื่อรุ่นไม่ใช่เผลอพิมพ์รหัสไปรษณีนะครับ) ตัว รองบ๊วย 35w อยู่ครับ ตัวเย็นนนนเจี๊ยบ จะได้ซื้อ หรือ CPU desktop intel จะเจ๊งก่อนยังรอลุ้นอยู่
390X > 3960X
แถมอินเทลยังเล่นมุข Nvidia ปล่อยของตัดหน้ากันอีกต่างหาก
ปล่อยตัดหน้า แต่ของด้อยกว่าเยอะ ก็ไร้ผลครับ แถมพวก YouTuber สาย tech แซะยับ
ของ intel ต้องนับจำนวนรวมคอร์กับช่องโหว่ ถึงจะเท่าจำนวนคอร์ของ amd
พิมพ์ผิด? เท่ากับคอร์ของ Atom รึเปล่าครับ?
จริงๆจะพิมพ์ว่าเท่ากับคอร์ของดาราจักร Andromeda หรือเปล่าครับ
เห็นคำว่า AMD กับ ร้อน
นี้คำว่า Thunder bird ลอยมาในหัว
นกย่างนี่ล้อยันลูกบวช
แต่ยุคนั้นถึงร้อน แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ
เสถียรแบบร้อนๆ
Thunderbird ถ้าเทียบกับซีพียูสมัยนี้ เทียบกันที่ฟูลโหลด ผมว่าก็ไม่ได้ร้อนมากกว่าหรือน้อยกว่านะ
แต่ปัญหาคือมันไหม้ (ฮา) อารมณ์เหมือนรันบูสต์คล็อกตลอดเวลาน่ะครับ
Cascade Lake-X ตกรุ่นในทันที
ผมว่าตอนนี้มีแค่เรื่องการกินไฟกับความร้อนที่ AMD ต้องทำการบ้านแล้วทำให้ดีกว่า Intel เพราะ Intel และแม้แต่ Nvidia ได้จุดเด่นข้อนี้ เลยทำให้ของขายได้และได้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับการกินไฟและความร้อนนะ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ผมว่า นับคอร์ต่อคอร์ อินเทลร้อนกว่าเยอะนะครับ อย่าลืมว่าแค่เซ็นรุ่นแรกก็เย็นกว่าแล้ว ตอนนี้กลายเป็น 7 nm vs 14 nm
ก็ไม่ร้อนนะ เซ็น เย็นกว่าอินเทลไปใกล ด้วยซ้ำ
ถ้าหมายถึงการ์ดจอAMDยังสู้Nvidiaไม่ได้จริงๆเรื่องการกินไฟ แต่ถ้าหมายถึงCPUไม่น่าใช่มั้งครับ ดูจำนวนคอร์ที่เท่ากันclockที่เท่ากัน Ryzen3000กินไฟน้อยกว่าIntelนะครับแต่บอร์ด570กินไฟเยอะขึ้นกว่า470/450เพราะมีPCI4.0มาด้วย แล้วเรื่องความร้อนก็ร้อนน้อยกว่าIntelแล้วนะครับ
ตอนนี้มีแค่GPUเท่านั้นที่ยังกินไฟ+ร้อน แต่ฝั่งCPUเย็นกว่าintelไปแล้ว แค่ซิ้งค์ลมก็กินขาดละ อินเทลยังแถมพัดลมสหกรณ์ให้อยู่เลย
ถ้าเรื่องกินไฟกับความรเอนดีกว่าจริง แล้วทำไมในตลาด laptop intel ยังครองอยู่ละครับ
ตลาด laptop AMD ยังทำได้ไม่ดีครับ cpu ตัว top ยังแค่ 4c/8t อยู่เลย ยังไม่ได้ใช้ zen2(zen+ 12nm) แต่อินเทลใช้ ice lake(10nm) ไปแล้วด้วย
แต่ตลาด desktop กินไฟน้อยกว่าและเย็นกว่าครับ ใช้พัดลมแถมด้วยซ้ำ ดูรีวิวได้เต็มที่เลยครับ
ผู้ผลิตlaptopมีสัญญาอะไรบางอย่างกับintelบ้างละตามประสาคนทำธุรกิจ
เช่น
เซ็นกันว่าจะคุณได้ชิฟในราคาที่ถูกลง เครมชิฟเสียแบบง่ายๆโดยไม่ต้องผ่านการตรวจเยอะ ได้รับการซัพพอทด้านซอฟเเวร์โดยตรง
ต้องยอมรับนะครับว่าสมัยก่อนamdสู้intelไม่ได้ เพิ่งจะมาฟื้นกับzenได้ไม่ถึง3ปีเลย หลายๆค่ายคงติดสัญญาเก่ากับinteอยู่
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความร้อนครับ
คืออินเทลมันมีแบรนด์อยู่ ถ้ามองในฐานะคนที่ไม่รู้จักคอมพิวเตอร์ดีพอก็จะคิดว่า อินเทลมันย่อมดีกว่า ดังนั้นเค้าก็จะไม่เอาชิพเอเอ็มดีมาใส่แลปท็อปเพราะมันขายไม่ออก (หรือใส่ก็เป็นรุ่นต่ำที่ราคาถูก)
เรื่องนี้อินเทลได้เปรียบมาตลอด แม้กระทั่งช่วงที่เอเอ็มดีแซงได้เมื่อสักยี่สิบปีก่อน อินเทลก็ใช้วิธีสกปรก (เช่นการจ่ายใต้โต๊ะ หรือการใช้สัญญาผูกขาด) ให้ไม่ให้ผู้ผลิตใช้ชิพเอเอ็มดีอยู่ดี คนก็เลยยังเห็นภาพว่าอินเทลดีกว่ามาตลอดครับ ยกเว้นแต่คนที่ติดตามจริงจัง
ท่านโดนการตลาดสกปรกของ intel เล่นงานเข้าให้แล้ว
เย็นกว่าจริงเหรอครับ คือผมพึ่งเปลี่ยนจาก i5 เป็น 3700x ทุกวันนี้มัน idle ที่ 50-60 องศา แถมมีเร่งรอบพัดลมเป็นระยะ ๆ อีก ต่างกับตอน i5 ที่ idle ที่ 40 กว่า พีคถึงแค่ 65 อันนี้เรียกว่าปกติมั้ยครับ
ต้องเทียบที่ gen เดียวกันครับ
gen 4 ผมก็ idle แค่นั้น แต่เหมือน gen หลัง ๆ มันร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ครับ
i7-8700 6 คอร์ แกว่งอยู่แถวๆ 30 ปลายถึง 40 กลางครับ
แต่ถ้าใช้งานเต็มจะพุ่งไป 80-90 ได้อย่างรวดเร็ว ?
โอ๊ยสะใจมาก อยากเห็นแบบนี้มานานแล้ว
สอบถามผู้รู้ว่าถ้าเอามาใช้งานอย่างพวก render video หรือพัฒนาแอพอย่าง android studio เทียบกันกับฝั่ง intel เป็นยังไงบ้างครับ อย่างพวกพัฒนาแอพเห็นฝั่ง intel จะมีฟีเจอร์เร่งสปีด (haxm) ด้วย
video rendering ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็น virtualization (amd-v, svm) ต้องใช้ linux เท่านั้น หรือไม่ก็เลี่ยงไปใช้ lle จำลอง arm ตรงๆ ไปเลย (ช้ากว่ามาก)
AMD กำลังจะกลับมาผงาดอีกครั้ง ^_^