สำนักงข่าวรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวไม่ระบุตัวตน 6 คน ระบุว่าแอปเปิลยกเลิกแผนที่จะให้บริการสำรองข้อมูลบน iCloud โดยเข้ารหัสแบบ end-to-end ที่จะทำให้แอปเปิลเองไม่สามารถอ่านข้อมูลใดๆ ได้ หลังจากที่ FBI แสดงความไม่เห็นด้วยเนื่องจาก FBI จะขอข้อมูลไม่ได้เช่นกัน
โครงการนี้แบ่งเป็นสองโครงการคือ Plesio และ KeyDrop มีผู้เชี่ยวชาญทำงานรวมกันประมาณสิบคน แหล่งข่าวระบุว่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดหยุดพัฒนาโครงการนี้ไปแล้ว
ก่อนหน้านี้ FBI เคยร้องขอให้แอปเปิลปลดล็อกโทรศัพท์มาแล้วหลายครั้ง เพื่ออ่านข้อมูลในไอโฟนโดยตรง โดยที่ผ่านมาแอปเปิลต่อสู้กับ FBI อย่างหนัก ตัวทิม คุกเองแถลงโดยตรงว่าการสร้างรอมเพื่อให้ FBI เข้าถึงข้อมูลได้เช่นนี้เป็นอันตราย และจะกระทบต่อผู้ใช้ในวงกว้าง
แม้แอปเปิลจะต่อสู้ไม่ยอมทำรอมพิเศษเพื่อปลดล็อกไอโฟน แต่ข้อมูลบน iCloud ที่แอปเปิลอ่านได้โดยตรงนั้นก็ส่งให้หน่วยงานรัฐในคดีต่างๆ เมื่อได้รับการร้องขอ การที่แอปเปิลไม่ยอมเปิดตัวฟีเจอร์เข้ารหัสเพิ่มเติมเช่นนี้กลายเป็นว่าแอปเปิลปล่อยให้มีช่องทางเข้าถึงข้อมูลได้
แหล่งข่าวระบุว่าแผนของแอปเปิลวางแผนจะเข้ารหัสข้อมูลบน iCloud แบบ end-to-end จนกระทั่งแอปเปิลเองไม่สามารถอ่านข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ตัวเองออกมาได้ และทาง FBI แสดงความไม่เห็นด้วยอย่างหนักจนแอปเปิลยกเลิกแผนการไป แหล่งข่าวหนึ่งระบุว่าแอปเปิลเองก็เห็นด้วยที่จะเปิดช่องทางให้หน่วยงานรัฐเข้าถึงข้อมูลได้
ที่มา - Reuters
Comments
บางทีก็พูดยากนะ
ฝั่งนึงก็เรื่องคดี อีกฝั่งก็privacy
นั้นสิ เป็นผมอาจจะทำเป็นปิดตาข้างหนึ่งก็ได้ ข้อมูลลับนั้นอาจจะช่วยหยุดเหตุร้ายก่อนมันจะเกิดขึ้น
privacy or security
ดักฟังจนเคยตัว
เหรียญสองด้าน ตัวอย่างถ้ายังดักไม่ได้ต่อไป แล้วมีการวางแผนฆ่าทำลายล้างยกจังหวัด ไม่ก็ระเบิดแบบหายทั้งจังหวัดเลยซึ่งมีบ้านคุณ ลูก เมีย พ่อ แม่ ของคุณอยู่ในจังหวัดนั้น คุณอยากให้เขาดักข้อมูลได้ก่อน เพื่อไประงับก่อนมีการปฎิบัติการ หรือรอให้เกิดเหตุก่อนค่อยตามเก็บซากผู้เสียชีวิตครับ ปัฐหาตอนนี้ที่ apple ยอมอาจเพราะการก่อการน้ายมันรุนแรงขึ้น
ส่วนอีกด้านการดักฟังไอ้คนดักก็อาจเอาข้อมูลไปใช้ประโยชน์เพื่อตัวเองได้เช่นกัน ตัวเทคโนโลยีไม่ผิดหรอก แต่ดันมีโจรใช้การเข้ารหัสในการก่อการไง การเข้าระหัสแบบนี้เลยจะโดนระงับ ต้องโทษคนพวกนั้นครับ เพราคเทคโนโลยีนี้ใครๆก็เข้าถึงได้ เป็นสิทธิพื้นฐาน ถ้ามีเงิน
ขึ้นกับความเสี่ยงด้วยครับ อย่างการก่อการร้ายนอกพื้นที่เสี่ยงโอกาศเกิดน้อย ยิ่งโอกาศที่คนร้ายจะใช้เทคโนโลยีที่เปิดโอกาศให้ดักฟังก่อนก่อเหตุได้ยิ่งน้อยลงไปอีก ที่น่าตลกคืออย่างเหตุกราดยิงหลายครั้งคนร้ายโพสเตือนเป็นสาธาราณะลงเว็บอย่าง 8chan หรือ Facebook ด้วยซ้ำ
ส่วนแอปเปิ้ล แหล่งข่าวต้นฉบับเขียนว่าพนักงานเก่าแอปเปิ้ลบอกแอปเปิ้ลไม่อยากถูกฟ้องจากหน่วยงานรัฐเพราะช่วยปกป้องคนร้ายหรือเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดกฏหมายจำกัดการเข้ารหัส ก็ดูเหมือนว่าแอปเปิ้ลคงอยากทำหลังมุมมองของประชาชนต่อการเข้ารหัสเปลี่ยนไปก่อน
การเก็บข้อมูลดังฟังสเกลใหญ่มีโอกาศผิดได้อีก อย่างข่าวเร็วๆนี้มีคนฟ้องตำรวจที่จับเขาผิดจากข้อมูลโลเคชั่นที่ได้มาจากกูเกิ้ล
ขอเสนอความเห็นในมุมต่างครับ
มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยครับ ตามความเห็นของผมเรื่องการก่อการร้ายในสเกลใหญ่ๆ มันน่าจะมีช่องทางในการเข้ารหัสที่คนทั่วไปสังเกตได้ยาก ดีไม่ดีข้อความหรือรหัสพวกนั้นก็สื่อสารกันโต้งๆ ตาม social media นี่แหละ ด้วยคำทั่วๆ ไป เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต ส่วนการจะดูข้อมูลในเครื่องอะไรพวกนี้ผมว่ามันสะดวกสำหรับคดีทั่วๆ ไปมากกว่า
ซึ่งถ้าตามความเห็นของผมก็ยังอยากให้มีการเข้ารหัสอยู่เช่นเดิม