หนังสือพิมพ์ Washington Post รายงานถึงบริษัท Crypto AG ในสวิตเซอร์แลนด์ว่าที่จริงแล้วเป็นหน้าฉากของ CIA และ BND (หน่วยงานข่าวกรองเยอรมัน) ที่ใช้บริษัทขายเครื่องเข้ารหัสที่แท้จริงแล้วออกแบบโดย NSA และวางช่องโหว่เอาไว้ภายใน จากนั้นขายให้รัฐบาลต่างๆ ทั่วโลกให้ใช้ส่งข้อมูลลับที่ทั้ง CIA และ BND จะถอดรหัสได้โดยง่าย และบริษัทเพิ่งเลิกกิจการไปเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมานี้เอง
Crypto AG ก่อตั้งโดย Boris Hagelin ชาวรัสเซียที่ลี้ภัยไปอยู่ในนอร์เวย์และลี้ภัยสงครามไปอยู่ในสหรัฐฯ ภายหลังเขาสร้างเครื่องเข้ารหัส Hagelin's M-209 ที่สามารถพกพาไปได้ แม้การเข้ารหัสจะไม่แข็งแรงนักแต่ก็ปิดบังข้อความได้หลายชั่วโมงซึ่งเพียงพอต่อการใช้งาน กองทัพบกสหรัฐฯ สั่งซื้อ M-209 มูลค่าถึง 8.6 ล้านดอลลาร์ ภายหลัง Crypto ย้ายบริษัทไปอยู่สวิตเซอร์แลนด์ และรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ตกลงกับ Crypto AG ให้ขายเครื่องรุ่นล่าสุดให้สหรัฐฯ เท่านั้น ส่วนรัฐบาลอื่นจะซื้อได้เฉพาะรุ่นเก่ากว่า
แต่ภายหลัง Crypto AG เริ่มขายเครื่องเข้ารหัสอิเล็กทรอนิกส์ที่ภายในออกแบบโดย NSA โดยกระบวนการเข้าหัสออกแบบให้การเจาะรหัสทำได้ง่ายเป็นพิเศษ พร้อมกับยกเลิกข้อจำกัดการขายเครื่องรุ่นล่าสุดให้รัฐบาลต่างชาติ ทำให้เครื่องเข้ารหัสอิเล็กทรอนิกส์นี้ได้รับความนิยมอย่างสูงในรัฐบาลนานาชาติ และเมื่ออายุมากขึ้น Hagelin ทั้ง CIA และ BND ก็เข้าซื้อบริษัทมาดำเนินกิจการต่อเองผ่านการถือหุ้นปิดบังเจ้าของที่แท้จริง
Crypto AG ทำกำไรได้สูงและรายได้เติบโตต่อเนื่อง ภายในปี 1975 บริษัทก็มีพนักงานถึง 250 คน ขณะที่รายชื่อชาติที่ Crypto AG จะขายเครื่องเข้ารหัสรุ่นปลอดภัยให้นั้นลดลงเรื่อยๆ ทำให้ CIA สามารถดักฟังได้แม้จะเป็นชาติพันธมิตรกับนาโต้ เช่น กรีซ และตุรกี
รายชื่อชาติที่ซื้ออุปกรณ์จาก Crypto AG นั้นมีถึง 120 ชาติ รวมถึงสหประชาชาติ โดยแถบเอเชียมี ไทย, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, เวียดนาม เป็นต้น
Crypto AG ปิดบริษัทไปเมื่อปี 2018 โดยขายทรัพย์สินและแบรนด์ออกทั้งหมด คาดว่ามีมูลค่า 50-70 ล้านดอลลาร์ โดยผู้ซื้อทรัพย์สินส่วนมากเป็นสองบริษัท คือ CyOne Security และ Crypto International ทั้งสองบริษัทปฎิเสธว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานข่าวกรองใดๆ
ที่มา - Washington Post
เครื่องเข้ารหัส C-36 ของบริษัท Crypto AG
รายการสินค้าของบริษัทจนถึงปี 1990
ภาพจากวารสาร Crypto Magazine ฉบับปี 2009
Comments
CIA: ไม่ใช่เรา แต่ Huawei ทำ
และเมื่อ Hagelin ทั้ง CIA และ BND ก็เข้าซื้อบริษัท
ตรงนี้เหมือนขาดเนื้อหาไปส่วนนึงครับ ขายหุ้น/เลิกกิจการ?
อยากให้ดู fact ด้วย.... เพราะเราเป็นองค์กรที่ "ศักดิ์สิทธิ์"
อ่ะ อิงกระแสหน่อย
และเมื่อ Hagelin ?????
CyOne Security และ Crypto International
และเมื่อ Hagelin อายุมากขึ้น ?
โดยแถบเอเชียมี ไทย, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, เวียดนาม เป็นต้น > โดยแถบเอเชียมี ไทย, มาเลเซีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, เวียดนาม เป็นต้น
สวิสเซอร์แลนด์ => สวิตเซอร์แลนด์
มิน่าไล่บี้หัวเว่ยจัง ที่แท้ตัวเองก็ทำมาก่อน เรียกว่าไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่นี่เอง
เครื่องเข้ารหัสพวกนี้ต่างจากฟังก์ชัน encrypt ในภาษาโปรแกรมต่างๆ ยังไงครับ
ต่างกันตรงที่เครื่องเข้ารหัสไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการเข้ารหัสหรือถอดรหัสไงครับ
แล้วฟังก์ชั่นเข้ารหัสในภาษาโปรแกรมมิ่งต่างๆ แข็งแรงน้อยกว่าเจ้าเครื่องเข้ารหัสแบบนี้หรือเปล่าครับ
เป็นปกติของโลกใบนี้ รู้ก่อนได้เปรียบ
คนขายเครื่องเข้ารหัส ก็เหมือนคนขายเครื่องขุดเหมืองแร่ ได้กำไรและข้อมูลมากที่สุด
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
อะหือ ขายเครื่องได้กำไรเหนาะๆแล้วยังดักฟังได้ด้วย
กำไร 2 เด้ง
NSA ระดมคนเก่งๆ ทำงานการข่าวแบบนี้จากทุกสาขาอาชีพ ทั้งแกะข่าว ทั้งวางแผนล้วงข่าว
ที่รวยมหา้ศรษฐีตอนนี้ มีคนหนึ่ง ดร.นักคณิตศาสตร์จาก MIT และเป็นอาจารย์สอน MIT สอนที่ Harvard แล้วมาอยู่ NSA แต่ทนทำงานสกปรกแบบนี้ไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อไม่เห็นด้วยกับสงครามเวียดนาม ก็เลยต้องถูกออกจาก NSA ช่วงนั้นเพราะเปิดโปงให้กับ Washington Post ด้วยเหมือนกัน (ถ้ายุคปัจจุบัน ก็แบบ Snowden)
ปัจจุบัน เป็นเจ้าของบริษัทกองทุนใช้ Algorithm ที่ใหญ่ที่สุดของโลก
https://www.youtube.com/watch?v=U5kIdtMJGc8
เป็นไปได้ว่ารหัสทั้งหมดในอดีตอาจถูกอเมริกันดักฟังมาก่อน
เป็นมานานแล้ว ที่เปิดโปงกันนี่มุกเก่า ๆ ทั้งนั้น ไม่แน่ตอนนี้ CIA อาจได้มุกใหม่ที่ยังใช้อยู่ และไม่มีใครค้นพบอยู่ก็เป็นได้
โอ้ มาย สโนว์เดน
ซับซ้อน