สมาคมอุตสาหกรรมเพลงของอเมริกาหรือ RIAA ออกรายงานเกี่ยวกับการเติบโตและรายได้ของอุตสาหกรรมประจำปี 2019 โดยในรายงานเผยว่ารายได้ของอุตสาหกรรมเพลงทั้งปี 2019 อยู่ที่ 11.1 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าราว 13% ซึ่งสัดส่วนรายได้ของอุตสาหกรรม 79% มาจากสตรีมมิ่ง เพิ่มขึ้นจาก 75% ในปีก่อนหน้า
หากแบ่งย่อยรายได้จากการสตรีมมิ่ง จะพบว่ารายได้ของบริการสตรีมมิ่งเฉพาะบริการเสียเงินอย่าง Apple Music หรือ Spotify คิดเป็น 61% ของรายได้ทั้งอุตสาหกรรม หรือคิดเป็นตัวเงิน 6.8 พันล้านดอลลาร์ และมีจำนวนสมาชิกจ่ายเงินถึง 60.4 ล้านคน เพิ่มจาก 46.9 ล้านคนในปีก่อนหน้านี้
ในขณะที่รายได้ส่วนอื่นของอุตสาหกรรมเพลงอย่างการขายเพลงแบบ physical มีส่วนแบ่งเหลือเพียง 10% จาก 12% ในปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากยอดขายซีดีที่ลดลงมาก ในขณะที่แผ่นเสียงไวนิลเพิ่มขึ้นแต่ก็มีสัดส่วนที่น้อยกว่า ส่วนยอดการดาวน์โหลดลดลงเหลือเพียง 8% จาก 11% ในปีก่อนหน้า
RIAA ได้เผยสัดส่วนรายได้ของอุตสาหกรรมเพลงในช่วงปี 2009 เทียบกับปี 2019 ด้วย (ภาพใต้ข่าว)
ภาพจาก Shutterstock โดย Antonio Guillem
Comments
แบบสตีม นี้ คนฟัง ไม่ได้ เป้นเจ้าของเพลง ใช่ไหมครับ มันดีกว่า แบบ ซื่อมาเลย ยังไง นะครับ
ถ้าเป็นคนฟังเพลงเยอะ ชอบหาเพลงใหม่ๆฟังไปเรื่อย จะให้ซื้อเพลงทั้งหมดมาฟังมันก็ไม่สะดวกน่ะครับ บางทีก็ไม่ได้อยากเป็นเจ้าของเพลงครับ แค่อยากฟังเฉยๆ การจ่ายเงินให้ได้ฟังแบบถูกกฎหมายแถมมีฟังก์ชั่นแนะนำเพลง จัดเพลย์ลิสต์ เปิดโลกได้เยอะครับ
อัลบั้มไหนชอบมากๆค่อยไปหาซื้อครับ
ถ้าไม่ได้เป็นคนที่ติดตามเพลงมากนัก แค่อยากจะฟังเพลง ใช้สตรีมมิ่งดีกว่าซื้อเพลงครับ เพราะฟังได้สารพัดเพลง ไม่ต้องไล่ซื้อทั้งหมด ... ก็น่าจะเหมือนๆ กับคนที่เปิดวิทยุเพื่อฟังเพลงน่ะครับ แค่อยากจะฟังจริงๆ
ดีสำหรับพวกฟังไปเรื่อยครับ แต่พอจ่ายไปสัก 1-2 ปี 2400 บาท เอาไปซื้อเพลงได้เยอะเลยนะ แล้วอยู่กับเราตลอดไป
แบบสตีม ยกเลิกปุ๊บ เพลงหายหมด
ปล.มีประสบการณ์กับ apple music มา 3 ปี ตอนนี้ซื้อแต่เพลงที่ชอบอย่างเดียวแล้ว