หลังจากมีข่าว Grab ปิดสำนักงานในไทยและสิงคโปร์ ล่าสุดทาง Grab ประเทศไทยได้ส่งแถลงถึงเหตุการณ์นี้แล้ว โดยระบุว่าพนักงานคนนี้เดินทางมาติดต่องานในประเทศไทยในระหว่างวันที่ 5–6 มีนาคม ที่สำนักงานชั้น 19 ของอาคารสมัชชาวาณิช 2 (หรืออาคาร UBC 2) โดยไม่มีอาการป่วยและเดินทางกลับไปยังสิงคโปร์ในวันที่ 6 มีนาคม หลังจากนั้นจึงเข้าตรวจในโรงพยาบาลในสิงคโปร์เมื่อวันที่ 7 มีนาคมและพบผลเป็นบวก
อย่างไรก็ดีศูนย์บริการพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บ (Grab Driver Center) ตั้งอยู่อาคารธนภูมิไม่ได้รับผลกระทบและยังเปิดดำเนินการตามปกติ รวมถึงการให้บริการทั้งหมดของ Grab ในไทย
ที่มา - จดหมายข่าว Grab
Comments
สมัชชาวาณิช 2 ได้เสียวละ งานนี้
อันดับแรกเลยลิฟท์ อันดับสองก็ห้องน้ำ แล้วก็ลูกบิดประตู หรือที่จับประตู ฯลฯ ที่ต้องทำความสะอาดโดยด่วน เดี๋ยวนี้ไปไหนมาไหน ผมแทบจะไม่สัมผัสสิ่งของภายนอก ที่ใช้ร่วมกันเลย ถ้าจำเป็นต้องสัมผัสก็จะหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า หรือเนื้อเยื่ออ่อนนุ่ม แล้วรีบไปต้องล้างมือ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ก่อนจะไปหยิบจับอย่างอื่นต่อ จากประสบการณ์ที่เจอคือ ส่วนใหญ่จะติดต่อกันผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งที่ตกค้างอยู่ตามอุปกรณ์เหล่านี้ แล้วไปจับหรือสัมผัสเนื้อเยื่ออ่อนนุ่มต่อ หลังจากระวังเรื่องพวกนี้ผมลดเรื่องเป็นหวัดได้เกือบ 80-90%
รมต บอกหน้ากากอนามัยมีพอ ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้หากันแทบไม่ได้
แล้วฉันจะเชื่อใจรัฐบาลได้กี่ % ว่าการระบาดตอนนี้อยู่ระยะ 2
เรื่องพวกนี้มันปิดไม่ได้หลอกเพราะถ้าป่วยต้องมีคนตายจำนวนมากแบบต่างประเทศซึ่งตอนนี้บ้านเรายังไม่เป็นแบบนั้น
ส่วนหน้ากากมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะพอ ผลิตวันละล้าน ทางการแพทย์ใช้วันละ 7แสน เอาแค่ความต้องการ 2%ของ60ล้านก็ยังไงก็ไม่พอ หน้ากากอนามัยจริงๆแล้วควรใส่เฉพาะคนป่วยแต่ตอนนี้ทุกคนใส่กันหมดเพราะระวังตัว
ถ้าจะแก้ปัญหาต้องขายเฉพาะคนป่วย ส่วนคนไม่ป่วยก็ใส่หน้ากากผ้าใช้แล้วซัก เพราะคนที่ไม่ออกอาการเชื้อโรคจะถ่ายทอดได้จากทางน้ำลายเวลาพูดกัน ให้ขายเฉพาะคนป่วยเราอาจไม่รู้ว่าเป็นไข้ธรรมดาหรือเปล่าแต่อย่างน้อยจะได้รู้ว่าคนที่อยู่ไกล้เราป่วยหรือเปล่าโดยการดูที่หน้ากากจะได้ระวังตัวได้ถูก
แล้วการที่หน้ากากเป็นสินค้าควบคุม โรงงานต้องขายให้กรมการค้าภายในเพื่อนำไปกระจายต่อ ทำไมถึงยังไม่พออีกล่ะครับ ทั้งๆที่ถ้าจัด stock สำหรับทางการแพทย์และส่งให้ก่อน priority แรกก็จบนี่ครับ? แล้วที่มีคนกักตุนหน้ากากในข่าว (ที่ปฏิเสธไปดื้อๆว่าไม่มีของ) กับที่คนไปเจอวางขายอยู่ในต่างประเทศนี่คือยังไงนะครับ
ตอนนี้อย่าพูดถึงขายเฉพาะคนป่วยเลยครับ ในห้างหรือร้านขายยา ผมไม่เห็นมีของวางขายนานแล้วนะครับ
อ่านดีแล้วรึเปล่า ผลิตได้ 1.2 ล้าน ส่งให้ รบ 7แสน เหลือ 5แสน แถมในความเป็นจริงก็ขายเป็นแพคละ3-5ชิ้น ส่งขายให้ประชาชน60ล้าน คำนวนยังไงถึงพอ ถึงแม้ทุกคนจะเป็นคนดีไม่หากินกับความเดือดร้อนของคนอื่น
แต่ในความเป็นจริง เพราะความต้องการมากกว่าการผลิตสูงมากๆ สินค้าน้อย ก็มีพวกหาผลประโยชน์อย่างที่เห็น เหมือนข่าวปัจจุบัน หรืออาจเอาญาตมาเวียนซื้อรอคิวเพื่อจะได้เอาไปขายในเวปทางการขาย 2.5 ในเวปขาย 15บาท
รู้ได้ยังไงว่าร้านจะไม่เก็บไว้เองแล้วไม่เอาไปขายออนไลราคาสูง
ถ้าส่งหน้ากากไปทุกๆหมู่บ้านในประเทศ จะตกโคตาหมู่บ้านละ 7ชิ้น ถ้า 1แพกมี 3-5ชิ้นก็จะตกแต่ 2แพก มีสองคนมาซื้อก็หมด ด้วยราคาที่แพงก็จะเอาไปโพศขายให้คนมีเงินซื้ออีกที จะแก้ปัญหาได้ก็ต้องลดความต้องการโดยใช้หน้ากากผ้าสำหรับคนไม่ป่วย
ต้นเดือน ก.พ. จุรินทร์ไปถ่ายรูปที่โรงงานหน้ากาก
เช็คสต๊อกรวมการันตีมีถึง 200 ล้านชิ้น พอใช้งาน 5-6 เดือน ลองไปค้นข่าวดูครับ
https://workpointnews.com/2020/02/02/sanitary-mask-factory/
..ถ้าบริหารให้หักส่งโรงพยาบาลชัวร์ ๆ อย่างน้อย ๆ ที่มีในตลาดอาจแพงขึ้น แต่ก็ไม่แย่ถึงขนาดหมอพยาบาลไม่มีใช้หรอกครับ
เห็นข่าววันสองวันนี้ ออกมายอมรับว่ากระจายหน้ากากไปตามร้านค้าทั่วไปได้แค่วันละ 25000 ชิ้น ...ที่เหลือไปไหนหมด?
แล้วคำนวนใหมบวกไปอีก 200 ล้านชิ้นมันพอใหม ยังไงถ้าผลิตไม่ได้เกินความต้องการยังไงมันก็ไม่พอ 200ล้านชิ้นกับ 60ล้านคนจะใช้ได้กี่วัน ถึงแม้จะไม่มีจะพวกหาผลประโยชน์จากความเดือดร้อนคนอื่น ความต้องการในตลาดในประเทศสูงนอกประเทศสูงยังไงก็ควบคุมราคายาก
ส่วนใช้อะไรบ้างคุณก็ตามข่าวก็ไปหาอ่านดูเอง ซึงถ้าทุกคนจะใช้แค่หน้ากากอนมัยอยู่แบบนี้ยังไงก็ไม่พอ ด้วยกลไกลตลาดราคาก็จะดีดไปจนกว่าคนที่สามารถซื้อได้จะน้อยกว่าปริมาณผลิตดูตามเวปได้เลย ขนาดราคาจากเวป aliexpress ก็สูงไม่ต่างกัน
แต่ถ้าทุกคนที่ไม่ป่วยใช้หน้ากากผ้ากันทุกคนความต้องการในตลาดน้อยของล้นตลาดราคาก็จะปรับตัวมาเป้นปรกติเหมือนสมัยไม่มีโควิทเอง
อ่านดีแล้วครับ แต่ไม่ได้ตั้งคำถามตรงกำลังการผลิต ตั้งคำถามกับมาตรการที่ออกมา ที่ให้หน้ากากเป็นสินค้าควบคุม ขายให้กรมการค้าภายในเอาให้รัฐบาลไปจัดการต่อ ซึ่ง "ถ้า" เขาทำไปด้วยต้องการควบคุมจำนวนให้มีเพียงพอสำหรับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จริงๆ ทำไมถึงทำไม่ได้? จะอ้างว่างผลิตไม่พอทั้งๆที่รัฐบอกว่าเราได้กั๊กของส่วนนึงไว้ให้แล้ว ยังไงมันก็ไม่ make sense นี่ครับ ทั้งๆที่เป็นสินค้าควบคุม แต่ควบคุมไม่ได้ จะให้ประชาชนคิดว่ามีนอกมีในมันก็ไม่แปลกครับ
เพิ่มเติมว่า แฟนผมเป็นพยาบาลครับ ถ้าจะมาเถียงว่าหมอขาดแคลนหน้ากากเป็นเรื่องไม่จริง ผมไม่เถียงต่อนะครับ ขนาดเป็นโรงพยาบาลค่อนข้างใหญ่ยังต้องควบคุมการใช้และคิดว่าจะหมดจนถึงขั้นต้องใช้ซ้ำในอีกไม่น่าจะถึงเดือนนะครับ
คำพูดของ รบ. ยังไม่น่าเชื่อถือเลยตอนนี้ไม่มีหลักการจัดการที่ดีเลย ดูตัวอย่างค่ายกักกันผีน้อยสิ มาตรการอะไร ( https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_3723648 ) แล้วจะให้เชื่อทฤษฏีของคุณได้ยังไง แน่ใจหรอว่าปิดข่าวไม่ได้
รัฐไทยรู้ข่าวยัง ถ้าจริงตามข่าวอาคารนั่นต้องปิดชั้น 19 ทำการคลีนทั้งชั้น หรืออาจจะทั้งอาคาร ทันที!!
ก่อนวันที่ 5 มีนา ไปไหนมาบ้างรึเปล่า ถ้าติดที่ไทยระยะเวลาฟักเชื้อสั้นไปนะ ส่วนใหญ๋ 5-14 วัน
ไม่เห็นด้วยครับ ยังไงก็ติดจากไทยแน่นอน ไม่ต้องมีเหตุผล
ไม่ต้องมีเหตุผล?
ตรรกะอะไรเนี่ย 555
สายมโนก็มา
ไม่ต้องมีคำบรรยายใด ๆ สักคำ ให้ลึกซึ้ง