ซัมซุงเปิดตัว Exynos 880 หน่วยประมวลผลสำหรับมือถือระดับกลางปี 2020 ที่มีจุดเด่นคือผนวกชิปโมเด็ม 5G มาให้ในตัว
- ซีพียู Cortex-A77 2.0GHz 2 คอร์ + Cortex-A55 1.8GHz 6 คอร์
- จีพียู Mali-G76 MP5
- ชิปโมเด็ม LTE Cat.16/Cat.18 + 5G NR Sub-6GHz
- มีชิปประมวลผล AI NPU มาให้ในตัว
- รองรับกล้องความละเอียดสูงสุด 64MP หรือกล้องคู่ 20MP+20MP
- รองรับแรม LPDDR4X, สตอเรจ UFS 2.1 และ eMMC 5.1
- Wi-Fi 802.11ac, BLuetooth 5.0
- ผลิตที่ 8nm FinFET
ตอนนี้ลูกค้า Exynos 880 ที่เปิดตัวแล้วคือ Vivo Y70s และอีกสักพักเราน่าจะได้เห็นสมาร์ทโฟนของซัมซุงออกตามมา
ที่มา - Samsung, SamMobile
Comments
ตัวกลาง เร่ิมมี ห้าจี แล้ว
5g มันดีกว่า 4g พวก LTE/WCDMA มากมั้ยครับ คือกำลังพยายามทำความเข้าใจว่าทำไมทิศทางมือถือถึงไปทาง 5g
ไม่รู้ว่าสร้างมูลค่า หรือมันดีจริงๆ เพราะมันทำให้มือถือแพงขึ้นพอตัวเลย
ขึ้นอยู่กับตอนไหนครับ ช่วงเริ่มต้นเครื่องแพงแบตหมดไวเพราะเสาที่รองรับน้อย พอคนใช้เยอะเสาเยอะมันก็จะดีกว่าเร็วกว่า4Gแน่นอนครับ
แต่แบตหมดไวเหมือนเดิม
ตอนนี้ในไทยค่ายไหนที่ใช้ได้จริงจังในทางปฏิบัติแล้วบ้างครับ
เคยประชุมกับพวกผู้ใหญ่และผู้บริหารบริษัทผมเหมือนกัน หาเรื่องจะทำเกี่ยวกับ 5G
สรุป พี่ๆ เค้าก็วิเคราะห์กันมาแล้วว่า 5G ไม่ได้เพิ่ม value กับตลาดขนาดนั้น ไม่เหมือนสมัยจาก 3G > 4G
5G มันเหมือน 4.5G มากกว่า
การเพิ่มความเร็วกับลด latency มันก็แค่ nice to have เท่านั้น ยกเว้นตลาดเฉพาะเจาะจงจริงๆ ที่ต้องการสเปคขนาดนี้ เช่น การถ่ายทอดสด 8K ซึ่งผู้ผลิต content จำนวนน้อยรายที่มีกล้อง 8K (ซึ่งแพงมหาศาล) ส่วนทางผู้ชม จะมีสักกี่ครัวเรือนที่มีทีวีจอ 8K เป็นต้น... ซึ่งแม้แต่ขนาดจอ 4K กว่าจะทำตลาดได้ ผ่านมาก็ตั้งหลายปีเลยทีเดียว
แต่อย่างว่า การพัฒนามันไม่หยุดนิ่งอยู่แล้ว ยังไง 5G ก็ต้องมา
ขอบคุณครับ เพราะเท่าที่ผมฟังมาแบบผ่านๆ มันก็ประมาณนั้น คือไม่ได้เปลี่ยนอะไรหวือหวา ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้คิดว่าไม่ควรมี หรือไม่ต้องมี (อันนี้ต้องพูดเพราะพวกแซะเล็กแซะน้อยเยอะ ชอบเอาคำพูดไปตีความเพื่อมาโจมตี)
ที่หนักใจเพราะมือถือมันแพงแค่นั้นแหละครับ เรือธงของแบรนด์ที่ไม่ใช่แบรนด์หลักก็แพงหมดเลย อันนั้นเพราะ Qualcomm ด้วยส่วนนึงที่บังคับใช้ชิปของตัวเองคู่กัน
ให้อารมณ์นี้จริงๆ เหมือนเน็ตบ้าน พอเริ่มเกิน 100 Mbps แล้วก็งั้นๆอะ
โอกาสใช้เต็ม b/w ไม่ค่อยมี นอกจากโหลดไฟล์
ซึ่งบางที่ก็ไม่ได้จะ full speed แม้ premium เลย
ทิศทางอินเตอร์เน็ตอยากให้ไปทางสเถียรมากกว่า เน้นแข่ง SLA uptime/ หรือ min speed จะดีกว่า
ผมเห็นชูเรื่อง low latency กันมาก มากแบบ มากกกก ไม่รู้เพราะมันลดไปเยอะมากหรือมันไม่มีอย่างอื่นจะมาชูแล้ว
อยากทราบนิดนึงครับว่า latency เป็นยังไง 4G latency เท่าไหร่ 5G latency เท่าไหร่ และมันลดแค่ระหว่างเสาสัญญาณกับโทรศัพท์ใช่ไหมครับ จากเสาสัญญาณไปปลายทางก็ยังเท่าเดิม?
มันลดส่วนจากอุปกรณ์ไปเสาสัญญาณครับ ส่วนจากเสาสัญญาณไปปลายทาง ยังต้องดูเรื่องระบบขนส่งส่วนอื่น ๆ อีกครับ ถ้าหาก backbone เป็นสายไฟเบอร์ ก็ถือว่าต่ำระดับหนึ่งครับ แต่นอกนั้นก็ไม่ต่างกันมาก
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ถ้าให้ยกตัวอย่าง ทดสอบจากการเล่นเกม LOL
Fiber Optic (สาย) - Ping 10 ms
Fiber Optic (ไร้สาย) - Ping 20-60 ms
LTE-A (สาย) - Ping 40 ms
LTE-A (ไร้สาย) - Ping 60-100 ms
เน็ต True online AC1200 และ Truemove-H iPad Pro 10.5
ถ้า 5G มา
จากเดิม LTE-A ราวๆ 40 ms เป็น 5G ก็น่าจะเหลือ 12 ms ใกล้เคียงกับ Fiber
ก็โอเคนะครับ
ก็คาดหวังให้ได้ตามนี้ล่ะครับ
ของจริงถ้าได้แค่ 20-30ms (จากเดิม 40ms) นี่ก็ไม่น่าคุ้ม
แต่เอาจริงๆ มือถือเราจำเป็นต้อง Latency ต่ำขนาดนั้นเลยหรือ
เอาน่าครับ ทั้งเกมทั้ง remote working ?
+แค่ 1-2ms ตามโฆษณา+hype นี่ต้อง mmWave(บน perfect condition ด้วย)ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ไอ้ perfect condition นี่ต้องเป็นที่โล่งด้วยหรือเปล่า เพราะจำได้ว่า mmWave นี่แค่โดนกระจกบัง สัญญาณก็หายไปเยอะแล้วครับ
ใช่ครับ เรียกว่าระดับ Line of sight เลยก็ว่าได้
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ฮ่าๆๆๆ ตะโกนเอาเถอะ
ตรงใจมากๆ
+1024
เรื่อง latency ก็น่าจะดีขึ้นไม่มาก (เดาว่าไม่เกิน 10 ms)
ผมเองก็ไม่เชื่อเหมือนกันว่ามี 5G แล้วจะมีอะไรใหม่สักเท่าไหร่
ยังนึกไม่ออกเลยว่ามีอะไรที่เราต้องการทำในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าที่ 5G ทำได้ แต่ 4G ทำไม่ได้
นึกถึง WiFi AX/AC ด้วย แต่ยังไม่ได้ลองเต็มๆเลยบอกไม่ได้
VR Stream 4K60P file game เดียวนี้ระดับ 100 GB อยาก load ใช้เวลาเป็นวัน 4G อย่างมากก็ 5 MB/s อาจจะมีได้ถึง 8-10 MB/s ถ้าไม่มีคนใช้ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังนาน อยู่ดี พวก IoT อีกครับ เยอะมากๆ ยิ่ง device เยอะยิงช้า 5G มาตอบเรื่องจำนวน Device ต่อ 1 พื้นที่ครับ ทุกคนอยากใช้ไวๆ
เร็วขึ้น แต่เล็กน้อย (sub-mm) ส่วนที่เร็วมาก ๆ ก็มีปัญหาเรื่องระยะการส่งสัญญาณที่สั้นเกินไป (mmWave) ส่วนเรื่อง low-latency มันมีประโยชน์แค่คนไม่กี่กลุ่ม
สรุป มันดีขึ้นก็จริง แต่ไม่มาก ส่วนที่ดีมาก ๆ ก็หาประโยชน์ได้จำกัด พวกหน่วยงานที่ทำเน็ตเวิร์กก็พยายามหา use-case ที่ใช้งาน 5G ได้ แต่จนถึงตอนนี้มันยังไม่ค่อย practical มาก
ส่วนตัวคิดว่า 5G มัน over hype ไปหน่อย มันไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น และคิดว่าอีกสักพักใหญ่กว่าจะ transition ไป 5G เพราะมันไม่ได้ต่างอะไรกับ 4G มาก (โดยเฉพาะในกลุ่ม sub-mm)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
มือถือมันรีบนี่สิครับ ใส่ support 5g มาเพราะกลัวตก hype train กัน ทำให้ราคาแพงอีกต่างหาก รุ่นเรือธงทั้งแบรนด์หลักแบรนด์รองก็สนับสนุน 5g กันหมดเลย
นั่นแหละครับ แต่ผู้ผลิตมือถือกับชิปเซ็ตไม่ได้ผิดอะไรมากนักเพราะว่าเขาต้องทำอุปกรณ์ให้รองรับเทคโนโลยีใหม่อยู่แล้ว
แต่ไอ้คนที่ผิดคือ คนที่มัดมือชกให้ใส่ 5G ในมือถือที่ใช้ชิป (เช่น Qualcomm) ซึ่งไม่โอเค
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ร่างกายต้องการปะทะ!
low-latency พวกที่ได้ประโยชน์จริงๆ คงจะพวก IoT ที่ต้องส่งข้อมูลโต้ตอบกันแบบ realtime ที่สุด และมีจำนวนมากๆ อีกด้วย
นอกจาก auto-drive vehicle ยังนึกอย่างอื่นไม่ออก